หากความหมายของการไปเที่ยว คือ การได้เห็นที่ใหม่ๆ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ แน่นอนว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายบนโลกนี้กำลังรอคุณอยู่

"แต่ถ้าคุณกำลังค้นหาความสุขในทุกๆวันของการใช้ชีวิต ชุมชนบ้านโคกเมืองคือสถานที่ๆคุณต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตนี้"


ชุมชนบ้านโคกเมืองมีสิ่งที่เรียกว่า ความเรียบง่าย ความสุข และ รอยยิ้ม

การท่องเที่ยวแบบชุมชนที่บ้านโคกเมืองทำให้เราได้สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวชุมชน อาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆด้วยวัตถุดิบในครัวเรือน และ ความเอาใจใส่ผู้ที่มาเยือนเป็นอย่างดีเช่นครอบครัว

"เหมือนได้กลับบ้านและกอดแม่แน่นๆอีกครั้ง"


ชุมชนเล็กๆจำนวน700ครัวเรือน เลี้ยงชีพด้วยอาชีพเกษตรกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ล้อมรอบด้วยทุ่งนาและธรรมชาติอันสมบูรณ์ บริเวณติดกันนั้นมีโบราณสถานขึ้นชื่ออย่าง ปราสาทหินเมืองต่ำ และ ปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปบนเขา นั่งรถไปเพียง20นาที


แม้ชุมชนบ้านโคกเมืองจะไม่มีเซเว่นอีเลเว่นหรือสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่นบริเวณตัวเมือง แต่ก็มีทั้งที่พักโฮมเตย์น่ารักๆของชาวชุมชนอยู่หลายแห่ง ร้านอาหาร ร้านขายของชำ เพิงขายกาแฟ ตลาดเช้า และตลาดเย็น อิ่มท้องทั้งวันเลยค่ะ

การได้พูดคุยกับและใช้ชีวิตอยู่กับชาวชุมชนบ้านโคกเมือง ทำให้การมาเที่ยวครั้งนี้เหมือนได้กลับบ้านมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่มากกว่า

เราหมดเวลาไปกับการนั่งคุยกับพ่อๆแม่ๆชาวชุมชนบ้านโคกเมือง แลกเปลี่ยนความคิด มากกว่าการเดินถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวสองสามรูปแล้วโพสลงโซเชียลมีเดียเหมือนที่เคยทำ

ขอบอกเลยว่า 4วัน4คืน ยังน้อยไปสำหรับการมาใช้ชีวิตสโลวไลฟ์ที่นี่ ฟินมากๆ


มาถึงคืนแรก ก็เข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตเลยค่ะ

ประทับใจมากกกก พ่อๆแม่ๆผูกสายสิญจน์ให้ที่ข้อมือด้วย

พ่อบอกว่า ถ้าผูกที่ข้อมือข้างขวาแปลว่าจะให้อำนาจบารมี ส่วนถ้าผูกข้างซ้ายแปลว่าจะให้มีแต่คนรัก


ระหว่างที่อยู่บ้านโคกเมือง เราได้ร่วมหลายๆกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน คือ การเรียนทำอาหาร การดำนาในช่วงเดือนกรกฏาคม (จะมีเกี่ยวข้าว ในช่วงเดือนพฤศจิกายน) การย้อมผ้าหมักโคลนบารายพันปี การทอผ้า และการทอเสื่อจากต้นกก

เรียนทำกุ้งจ่อม อาหารพื้นบ้านของที่นี่ กับพ่อเพ็ง เชฟใหญ่ใจดีของชุมชนบ้านโคกเมือง


ในส่วนของกิจกรรมการดำนา พ่อเพ็ง กับแม่เดือน สอนวิธีใช้มือถอนกล้าและดำนาที่ถูกต้อง

เพิ่งรู้เลยค่ะว่ากว่าจะได้ข้าวมาแต่ละเม็ด ชาวนาลำบากกันขนาดไหน ต่อไปนี้จะทานข้าวให้หมดทุกเม็ดเลยค่ะ


ส่วนเรื่องกิจกรรมเกี่ยวกับผ้า เรานี่ไม่เคยพลาด!

ได้ลองทำจริง น่าสนใจและสนุกมากๆๆ แถมได้ของกลับมาด้วยค่ะ

ใส่เสื้อย้อมสีหมักโคลน กับ ผ้าพันคอมัดย้อมหมักโคลน(ที่ทำเอง)ไปใส่ถ่ายรูปสวยๆด้วยค่ะ

ผ้าย้อมสีชมพู หมักโคลน

ผ้าพันคอสีเหลืองจากดาวเรือง และหมักโคลน


อีกหนึ่งอย่างที่ประทับใจมาก คือ การสัญจรไปรอบๆด้วยจักรยานของทางชุมชนค่ะ วิวสวยมากๆ

ชีวิตที่ไม่ต้องรีบเร่งนี่เป็นอะไรที่ดีจริงๆ


หลายคนคงเคยถามตัวเองว่า อะไรคือความสุขที่แท้จริงสำหรับตัวเอง

หลายคนค้นพบแล้ว หลายคนยังคงไม่เจอคำตอบ และยังคงค้นหาต่อไป

มันบังเอิญมากที่เราค้นพบความสุขที่ชุมชนเล็กๆแห่งหนึ่งในที่ๆเราไม่เคยแม้ได้ยินชื่อมาก่อน


เรารู้สึกหลงรักปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้านโคกเมือง อาหารเรียบง่ายแต่อร่อยมาก ชีวิตที่ไม่ต้องรีบเร่งจนเกินไป ธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์

รับรองว่าจะกลับไปอีกแน่นอนค่าา


วิธีการเดินทาง

หากใครอยากจะไปลองเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนบ้านโคกเมือง สามารถติดต่อทางชุมชนให้ไปรับที่สนามบินบุรีรัมย์หรือที่อื่นๆได้เลยค่ะ จากสนามบินใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า


ตูนขอขอบคุณชาวชุมชนบ้านโคกเมืองทุกท่านที่ต้อนรับและดูแลตูนเป็นอย่างดี และให้โอกาสตูนได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายเลยนะคะ และขอขอบคุณพี่ๆตากล้อง และ ถิงถิง ที่ช่วยทำให้ทริปนี้เป็นหนึ่งในทริปที่ดีที่สุดเลยค่ะ :)


Mhoo on Tour (หมูออนทัวร์)

 วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 20.14 น.

ความคิดเห็น