พาลูกขึ้นดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดแดนสยาม

ไปหน้าฝน ชมวิวทุ่งนาเขียวๆ อากาศเย็นสบาย แถมคนไม่เยอะด้วยนะ

ถ้ามาเที่ยว 2 วัน 1 คืนขอแนะนำเที่ยวตามนี้ค่ะ

แวะเที่ยวม่อนแจ่มช่วงเช้า เพราะช่วงบ่ายจะเริ่มร้อนค่ะ จากนั้นขึ้นยอดดอยอินทนนท์ เพื่อสักการะพระสถูปพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และปักหมุดจุดที่เรียกได้ว่า เป็น “สูงสุดแดนสยาม” ไปต่อด้วยการขับลงอีกนิดเดียว เพื่อสักการะพระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุคู่พระบารมีพร้อมกับชมวิวสุดลูกหูลูกตา บนยอดดอย ที่อากาศดีทั้งปี และถ้าหน้าฝน ขอชวนแวะแม่กลางหลวงด้วยค่ะ หากินแฟจิบไป ดูวิวทุ่งนาไปด้วย ช่วงเย็นรีบพักผ่อนเพื่อตื่นเช้ามืดมาดูทะเลหมอกบนดอยอินทนนท์ ลงมาทานอาหารเช้า แล้วออกไปน้ำตกแม่ยะ ช่วงบ่ายไปแวะแม่กำปอง แล้วบินกลับกรุงเทพ

เริ่มทริปช่วงเช้าด้วยการขึ้นดอยม่อนแจ่ม

วิวบนยอดดอยม่อนแจ่ม ช่วงนี้ดอกเวอร์บีนา กำลังบาน ออกดอกม่วงๆหวานๆ

จากนั้นช่วงบ่ายของวัน ขับมาขึ้นดอยอินทนนท์ เพราะที่นี่อากาศเย็นสบายทั้งปี ช่วงบ่ายก็ไม่ร้อนค่ะ

ภายในพระมหาธาตุ และวิวบนนั้น

แล้วขับลงมาต่อวิวเขียวๆที่แม่กลางหลวง ทางลงดอยอยู่แล้ว

พอตกเย็นก็เข้าที่พัก เพื่อพักผ่อนเราพักกันที่ ทัชสตาร์รีสอร์ท (Touch Star Resort) ซึ่งอยู่ทางก่อนขึ้นดอยอินทนนท์

Cr : ภาพแผนที่จากเวป ทัชสตาร์รีสอร์ท

พักที่ ทัชสตาร์รีสอร์ท (Touch Star Resort) ดียังไง

1. ตอนเช้ามืด อยากไปชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือทะเลหมอกสะดวกมาก ไม่ต้องทุลักทุเลตื่นเช้ามาก ตีห้าพอไหว ขับขึ้นไปครึ่งชม.ถึงละค่ะ (ที่ยอดดอย หรือกิ่วแม่ปาน)
2. เป็นรีสอร์ทที่มีน้ำแร่ธรรมชาติด้วยนะ ทั้งน้ำดื่ม น้ำอาบ สดชื่นมาก
3. รีสอร์ทกว้างขวาง ร่มรื่น

ที่ ทัชสตาร์รีสอร์ท (Touch Star Resort) หาไม่ยากด้วย พอเราขับเข้าเส้นขึ้นดอยอินทนนท์ จะมีป้ายรีสอร์ทอยู่ขวามือ เข้ามาอีกไม่ไกลค่ะ

เจ้าหน้าที่ต้อนรับพวกเราด้วยน้ำลิ้นจี่เย็นๆชื่นใจ

พอเข้าที่พักเห็นสนามหญ้าเขียวๆกว้างๆ ดูสบายตาภายในรีสอร์ทร่มรื่นมากค่ะ ต่างคนหามุมพักผ่อนลูกสาวนั่งชิงช้า ไกวไปมาส่วนลูกชายวื่งเล่นสนามหญ้า และรอบๆที่พัก

จริงๆมีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติด้วยนะคะ แต่วันที่ไปพักกำลังปรับปรุง แต่มีน้ำแร่ให้ดื่มและให้อาบด้วยนะชื่นใจอีกรอบ

มาดูห้องพักกันดีกว่าอยู่ตามป่าตามเขา แต่ที่พักสะอาดดี ไม่เหม็นอับไม่มีแมลง มดมากวนใจห้องพักมีหลายแบบ และมีเยอะมาก ขนาดรองรับได้เป็นร้อยคนเลยทีเดียวอยากจะจัดสัมมนา เชิญมาที่นี่เลยค่ะ คือดีย์

โซนแบบบ้านพัก ดูน่ารักและอบอุ่น เป็นฉากถ่ายรูปได้หลากหลาย

อีกโซนสำหรับมาแบบกลุ่มหมู่คณะ ที่นี่รองรับได้เยอะค่ะ

ส่วนโซนด้านในเป็นบ้านหลังๆ Swiss cottage แบบฉบับบ้านพักตากอากาศของยุโรป

ห้องที่เราพัก มีภาพวาดสวยงามดูเหมือนสามมิติด้วยของจริงสวยมากค่ะ เสมือนมี Art museum เป็นของตัวเอง

อาหารเย็นมาแล้วจ้า ไม่อยากออกไปไหน สั่งที่นี่ได้เลย รสชาติดี ลูกๆทานกันเยอะเลย แล้วเข้าห้องพัก อาบน้ำแร่ นอนเอาแรงเพื่อตื่นแต่เช้าไปดูทะเลหมอกกัน

น้ำแร่ธรรมชาติดื่มแล้วชื่นใจจริงๆ

ในเช้าอีกวัน เราแนะนำขึ้นไปดูทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอยอินทนนท์ ถ่ายรูปกันสมใจ ก็กลับมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมกัน

**ช่วงหน้าฝนกิ่วแม่ปานปิดนะคะแต่เรายังสามารถขึ้นไปดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นได้ตลอดค่ะ

แต่ช่วงหน้าหนาว กิ่วแม่ปานเปิดให้เดินก็สามารถเดินสำรวจเส้นทาง แล้วยังลงมาทานอาหารเช้าทันค่ะ

วิวทะเลหมอก

อาหารเช้าสั่งเป็นชุดตามเลือกนะคะแต่รับรองว่าอิ่มและอร่อยกันทุกคนแน่นอน มีให้เลือกทั้งแบบ ABF ข้าวต้ม ข้าวผ้ด ส่วนน้ำส้ม กาแฟ น้ำแร่ชื่นใจ ไม่อั้นนะจ้ะ

จากนั้นก็พักผ่อนตามสบายก่อนได้เวลาเช็คเอาท์

ทริปวันที่ 2 ก่อนกลับกรุงเทพ ไปแวะเที่ยวน้ำตกกันก่อน ที่บนดอยมีหลายที่นะคะแต่เราขอพาลูกไปที่นี่ค่ะ น้ำตกแม่ยะ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือค่ะ จากที่พักไปอีกประมาณ 25 กิโล

การเดินทางก็ไม่ลำบาก พอไปถึงก็เดินจากที่จอดรถแค่แปปเดียว (ประมาณ 600 เมตร) ทางก็ดี และจะได้ชมภาพแบบนี้ สวยเนอะ น้ำตกลดหลั่นเป็นชั้น สวยจริงๆ

***ทุกสถานที่เที่ยวในรีวิวนี้ สามารถขับรถไปถึงที่เลยนะคะ สะดวกมากสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ให้เด็กๆได้เรียนรู้***

ถ้ายังพอมีเวลา จะไปแม่กำปอง หรือเข้าเมืองไปซื้อของฝากนิดหน่อย แล้วไปสนามบิน กลับกรุงเทพฯสบายใจ ลูกๆได้เรียนรู้ธรรมชาติ ใช้เวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้ไม่ยาก ไม่ต้องรอถึงวันหยุดยาว

สนใจที่พักใกล้ดอยอินทนนท์ ใกล้กิ่วแม่ปาน click ที่นี่เลยจ้า https://www.touchstarresort.com/th/home ที่พักราคาถูกใจ อาหารถูกปาก แถมโลเคชั่นก็ดี

#Girltravelstory