27th July 2019



วามเดิมจากวันนั้น.. "เชียงคำ"
หลังจากที่วนย่ำ ๆ ไปสองวัด หนึ่งน้ำตก หนึ่งกว๊านแล้ว เราแวะร้านสะดวกซื้ออีกหลายร้านเพื่อเตรียมของไปทำหมูกะทะกินกันที่ที่พักที่จะค้างคืนนี้ "ภูลังกา" ซื้ออะไรเสร็จสรรพคนขับวิ่งออกจากเชียงคำแล้วมุ่งหน้าไปภูลังกาบนสายใต้ ซึ่งตอนนั้นสายไหน จขบ.ก็ไม่รู้หรอก เราก็นั่งไปหลับไป ชมวิวกันไปคือชอบอ่ะ เขียวตลอดทาง และเป็นทางที่เริ่มชันขั้นเรื่อย ๆ วิวปรับจากท้องทุ่งเป็นไร่ข้าวโพดบนเขาก็เขียวไปอีกแบบ ถนนดีตลอดสาย ยังแอบคิดในใจว่า "นี่ฉันก็ขับได้"











เช็คอิน

ทางที่พักแนะว่าเช็คอินได้หลังบ่ายสอง และดูเหมือนว่า..

เรามาให้หลังเวลาไปมาก เกือบสี่ ๆ โมงได้ที่ถึง

จขบ.ยื่นบัตรประชาชน ไม่ชำระเงินเพราะโอนเงินทั้งหมดมาแล้วในวันที่ติดต่อจองที่พัก เช็คอินและได้คูปองค่าอาหารอีกหัวละ 50 บาท จำนวน 8 หัว

เสร็จแล้วก็เลื่อนล้อ ตามคนถือกุญแจบ้านนำทางไปยังบ้านภู 10 ที่จองไว้ค่ะ






บ้านปรายฟ้า

3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีระเบียงและโต๊ะส่วนรวมให้ทำอาหารร่วมกัน
ส่วนตัวแล้ว จขบ.คิดว่าบ้านหลังนี้และ วิวดี และยื่นออกไปหาแลนด์มาร์คของภูลังกาแบบสุด ๆ ล่ะค่ะ
ปล.บ้านภูไม่มีห้องแอร์ค่ะ หรือพูดอีกอย่างว่า "ไม่ต้องพึ่งแอร์ค่ะ"


ห้องใหญ่




ห้องแรกจะห้องใหญ่ค่ะ พักได้ 4 คน ส่วนอีกสองห้อง
ประมาณรูปข้างล่างค่ะพักได้ 2 - 3 คน ห้องน้ำในตัว








ระเบียง


ของเราก็จะประมาณนี้ กับวิวที่ไม่อยาก "กระพริบตา"







แบบซูม ๆ กับตัวต้นเหตุของทริป
- เขาเดียวดาย -




























บ้านภู 10 หลังนี้อยู่ใกล้บ้านที่พักกันอ่ะเลยติดกล้องมา

และ

........



สายเขียวรวมทีม



...............




หมดเวลาเสพวิว เพราะหิวแล้วค่ะ
จะดีแค่ไหนห้องครัวที่บ้านวิวอย่างนี้ ปล.น้ำจากก๊อกเย็นมากกกก







เตรียมเตาให้นะ แต่งัดวิชาลูกเสือมาใช้กันเองเหอะคุณ










บางทีก็สงสารชายฉกรรจ์คนเดียวในทริป
5555+














จนมืดจนค่ำ บรรยากาศตอนกลางคืนก็จะเงียบหน่อยค่ะ
ครัวของทางรีสอร์ทเปิดถึง 4 ทุ่มนะถ้าจำไม่ผิด
เราก็ชิมบรรยากาศกันนิดหน่อยก่อนแยกย้ายกันเข้าที่นอน เพราะรอทะเลหมอกพรุ่งนี้เช้ากันอยู่




..........


จำได้ว่าคืนนั้นไม่ได้นอนทั้งคืนค่ะ
เพราะหนุ่มบิ๊กไบค์นับสิบเสียงดังข้ามไปหลายบ้าน ตีสามยังลุกมาบนบานขอโทษขอโพยอะไรกันอยู่
คิดในทางที่ดี "เอ่อ.. ก็ดีเหมือนกัน ได้เห็นทะเลหมอกทุกชั่วโมง ดาวก็ชัดด้วย"
..........




28th July 2019



จะเรียกว่า "เช้านั้น" ได้ไหม เพราะเอาเข้าจริง ๆ จขบ.แทบจะไม่ได้นอนเลยคืนนั้นที่ภูลังกา
อย่างที่เคยเกริ่นในบล๊อกก่อนว่ากลุ่มหนุ่มบิ๊กไบค์เขาเสียงดังทั้งคืน
ข้อดีของการไม่นอนคือ

ได้เห็นทะเลหมอกใต้แสงดาวและแสงจันทร์ตอน ตี 1 2 3 และ 4

ซึ่งมันก็สวยและหนาวเย็นดี จนจวนเวลาอาทิตย์ขึ้นและเป็นตามคาดค่ะแสงเริ่มมา

ทะเลหมอกเริ่มชัดตอนตีห้ากว่านิด ๆ ^^

ตอนนั้นไม่มีคำว่าง่วงอยู่ในหัวแล้วจร๊า









ตีห้ากว่า ๆ
จขบ.เรียกโมเสสให้ตื่นมาดูทะเลหมอก แต่ก็ตามประสาเด็กมาดูแป๊บเดียวแล้วไปนอนต่อ ก็นะ.. อากาศมันเย็นใช้ได้






สายหมอกหนา ๆ กับแสงที่เริ่ม
" สาดส่อง "






ภูลังกา
ยอมที่จะแลกมาเพื่อวิวแบบนี้
การเดินทาง : รถส่วนตัว สามารถเดินทางได้ 2 ทาง คือมาจากน่านบนทางหลวง 1080 สู่อำเภอท่าวังผาบรรจบที่เส้นทาง 1148 ที่จะมายังอำเภอสองแควและเข้าสู่ภูลังการีสอร์ท ปล.เส้นทางนี้สั้น แต่โค้งและชัน
หรืออีกเส้นทาง จากจังหวัดพะเยาใช้ทางหลวงหมายเลข 1021 ผ่านอำเภอดอกคำใต้ และอำเภอจุน จนถึงอำเภอเชียงคำ จากนั้นเปลี่ยนใช้ทางหลวงหมายเลข 1148 ระยะทางจากจังหวัดพะเยาถึงวนอุทยานภูลังกาประมาณ 120 กม.ค่ะ





















และ
หกโมงเศษ ๆ เพื่อนขี้เมาของเราก็ตื่นมาดูทะเลหมอกด้วยกัน













เกือบ 7 โมงแล้ว
หิว
ป่ะ.. ล้างหน้า แต่งตัว ไปกินข้าวต้มภูเขากัน



.
.
.








หลังมื้อเช้า.. เราอยากได้กาแฟสักแก้วค่ะ
จากที่พัก.. เดินไปสักระยะก็ถืงร้านกาแฟวิวดีชื่อดังประจำที่นี่
Magic Mountain Cafe
..........
ซึ่งที่ร้านนี้ก็จะเห็นวิวอีกด้านนึงของเขาเดียวดายค่ะ แต่ ณ เวลานั้นเราเห็นแต่ทะเลหมอก















ภายในร้าน












Americano No sugar กับวิวตรงหน้า



ได้กาแฟแล้ว...
เวลาก็เกือบจะ 9 โมงแล้วย้ายที่ได้แล้ว





ตะวันสายโด่ง
แสงจ้าทุกองศา สายหมอกก็เริ่มลา จขบ.รีบไล่หมอกไปไกล ๆ ก็นะรอถ่ายรูปอยู่นะ "เขาเดียวดาย"
























จะลาแล้วนะ.. สัญญาว่าวันนึงจะกลับไป
ภูลังกา









Mariabamboo

 วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.17 น.

ความคิดเห็น