ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าทริปนี้เป็นทริปที่ประหยัดมากกกกก แต่ถือว่าคุ้มทีเดียว เพราะทีแรกเราตั้งเป้าไว้ว่าจะมีงบ 4000

ในการเที่ยวครั้งนี้แต่เอาเข้าจริงมันประหยัดกว่าที่คิดไว้เยอะ เพราะเราได้ทั้งที่พักที่เจ้าของใจดี ของกินที่อร่อย ที่เที่ยวก็สนุก

แต่ทริปนี้ค่อนข้างน่าเสียดายตรงที่ตอนนี้ภาคใต้กำลังมีปัญหาหมอกควันจากอินโด ทำให้พวกเราค่อนข้างจะผิดหวังเล็กน้อยกับทะเล

แต่พวกเราไม่ซี เพราะที่เราจะพุ่งเป้าคือ ของกินเท่านั้น ไม่ว่าเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ขอให้มีกินตลอด 24 ชม ก็พอใจแล้ว 555555555

ปล. สาย...

เดี๋ยวเราจะอธิบายแต่ละโซนแต่ละอย่างให้กระจ่างแจ้ง (เท่าที่ไปเที่ยวมาเน้ออ) รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งที่กินที่พักที่เที่ยว

ทริปต่างๆ จะแจกแจงละเอียดถี่ยิบ

การเดินทางครั้งนี้ จขกท รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย จึงไม่ได้นอนทั้งคืนเลย เลยตัดสินใจออกเดินทางตั้งแต่ตีห้าหัวรุ่ง ลืมบอก จขกท อยู่หาดใหญ่น่ะค่ะ การเดินทางเลยสะดวกมาก เราตัดสินใจจะไปตรังกับรถตู้ หาดใหญ่ - ตรัง

ซึ่งก็เสียค่าใช้จ่ายต่อคน คนละ 100 บาทเท่านั้น รถตู้ก็จะพาเราไปส่งยังจุดหมายที่เราอยากไปเลยค่ะ สุดทางแค่ บขส
หลังจากที่เราก้าวขาลงจากรถเพื่อที่จะซื้อตั๋วตั้งแต่ตีห้าด้วยความฟรุ้งฟริ้งและตื่นเต้นก็ได้พบว่า รถออกเที่ยวแรก

หกโมงเช้าาาาาาาาาา!!!
(แล้วจะตื่นมาเพื่ออออ)
แต่ก็เพื่อไม่ให้เป็นการเสียอารมณ์ตั้งแต่เริ่มต้น เราจึงไปซื้อน้ำเย็นๆมากินค่ะ ช่วยได้มาก

(อันที่จริงตื่นเต้นเองนี่หว่าจะโทษใคร555)


หลังจากนั้นเราก็ถึงขนส่งจังหวัดตรังในเวลา 8.15 น. ก่อนหน้านี้เราได้โทรจองห้องที่เกสต์เฮ้าส์แล้ว

เราหาผ่านอินเตอร์เน็ต และดูตามรีวิว ในทีแรกเราก็โทรหาอีกที่พักนึงซึ่งเป็นรีสอร์ทติดทะเลตัวห้องสวยมากกก (ตะลึงพรึงเพริด)

ก็ได้จัดแจงโทรหา แต่เราก็รู้สึกตกใจเมื่อได้ยินเสียงตอบกลับมา เป็นเสียงผู้ชายปนตะคอกหน่อยๆ เลยตัดสินใจไม่เอารีสอร์ทนี้

เพราะเราค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับการให้บริการน่ะ คือในบางครั้งเราก็ต้องการคำตอบดีๆไม่ใช่ตอบส่งๆ เอาเป็นรีสอร์ทนี้ไม่ผ่านค่ะ

เราก็ปรายตามองไปเรื่อยแล้วบังเอิญไปเจอกับโรงแรมนึง บรรยากาศโอเค เมื่อเทียบกับราคาห้องซึ่งถือว่าถูกก็คุ้ม ชื่อ วาสนา ศิษย์ธรรมเกสต์เฮาส์

ชื่อแปลกๆ เราก็โทรไปถามค่ะ ปรากฎว่าเจ้าของรีสอร์ทรับด้วยตัวเอง และพูดดีมากกกก (ต้องแบบนี้) แกชื่อป้าไก่

ป้าไก่บอกว่าจะมารับเราที่ตัวขนส่ง เราก็รู้สึกดีใจมาก เมื่อรถป้าไก่มาถึงเราก็นั่งบนรถอย่างเงียบๆ แต่มันไม่ได้เงียบเนื่องจากป้าไก่ แนะนำเรื่องของกินตลอดเวลา 555555

แกบอกว่าเมื่อก่อนแกชอบแอดเวนเจอร์ ส่วนอาหารร้านไหนไม่ดั้งเดิมแกไม่กิน เอาล่ะทีนี้ได้การ สวรรค์ส่งป้าไก่มา เราก็นั่งฟังป้าแกสักพัก

ระยะทางจากในเมืองมารีสอร์ทใช้เวลา 15 นาที ถือว่าไม่ไกลมาก

ในระหว่างที่เราคุยกันนั้น ป้าไก่ก็ได้เอ่ยขึ้นมาว่า

ป้าไก่ : เราจองตึกไหน

เรา : อ๋อ ตึก 400 ค่ะ

ป้าไก่ : วิวมันไม่ค่อยสวยเหมือนตึกบนน่ะ

เรา : อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ (ขอให้ได้ที่นอนแค่นั้นพอ)

ป้าไก่ : ปกติห้องข้างบนมัน 550-600 แต่ป้าให้เรา 500 เอาเปล่า

เรา: (หือออ จะพลาดได้ไง) เอาค่ะ

ป้าไก่ : โอเค แล้วรถที่จะเช่า เรางบน้อยรึเปล่า

เรา : ค่อนข้างค่ะ

ป้าไก่ : งั้นป้าให้รถเราเช่าวันละ 100 น่ะ

เรา : อื้อหืออออออ (อุ่นกายสบายตูด)

พอมาถึงที่พักเราก็จัดแจงจ่ายเงินค่ะ

ปล. ลืมบอกค่ะป้าแกเก็บเงินค่ามารับที่ขนส่งคนละ 50 ด้วยน่ะค่ะ


ห้องนอนสะอาดค่ะ สะอาดมากก ผนังเป็นสีขาว เรียบง่ายค่ะ

บริเวณข้างหน้าห้องค่ะ มองเห็นวิวสวยอยู่ถ้าควันอินโดไม่มาบังเราซะมิดเลยย

หลังจากที่เราได้รถมาเรียบร้อย ลืมถ่ายรถมาให้ดู คริคริ เอาเป็นว่าได้รถ ฟีโน่มาค่ะ สภาพโอเค แต่ป้าแกย้ำนักหนาว่า

ตอนกลับต้องเติมน้ำมันให้ด้วย เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ณ จุดนั้นเพราะมันคือมารยาทที่ดีค่ะ เค้าเติมให้เราเต็มก่อน
หลังจากที่เราเที่ยวแล้วก็ต้องเติมให้ป้าแกกลับ รู้สึกเป็นคนดีค่ะ



หลังจากที่เราวนๆในตัวมืองสักพัก เนื่องจากหลงทาง เราก็มาถึงร้านติ่มซำดั้งเดิมที่แม้กระทั่งคนในพันทิปก็รีวิวกันเยอะค่ะ นั่นคือร้าน เลตรัง ตอนที่เรามาถึงร้านคนเต็มร้านเลยค่ะ ต้องจองคิวกันบานตะไท แต่ก็รอค่ะ เพราะอยากกิน


เราก็รอสักพักค่ะกว่าเจ้าของร้านจะมาเรียกให้ไปนั่งก็ประมาณ 15 นาที สายตาแอบหันไปเห็นติ่มซำที่อยู่บนโต๊ะให้เลือกท้องก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ จะรออะไรเล่า เราจึดจัดแจงเลือกติ่มซำฉับพลัน


น้ำจิ้มที่นี่ข้นค่ะ ออกรถเปรี้ยวๆหวานๆค่ะ

จุดพีคอยู่ที่จ๊อปูค่ะเห็นในรีวิวบอกว่าปูเต็มปากเต็มคำ เราจะเชื่อก่อนไม่ได้ค่ะต้องพิสูจน์ ผลที่ได้ออกมาตามนี้ค่ะ

อร่อยยเว่อวังอลังการล้านแปด

ปล. ก้อนนึง 45 บาทน่ะค่ะ ก้อนใหญ่อยู่

สวยงามตามท้องเรื่อง ติ่มซำเข่งละ 20-25 บาทน่ะค่ะ ราคาประมาณเดียวกันเกือบทุกร้านค่ะ

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง



พร้อมจะลุยต่อแล้ววววว
จขกท ขอหลับแปป มาต่อพรุ่งนี้เง้อออออ

หลังจากที่เรากินกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางตามทริปที่ตั้งใจไว้นั่นคือ เราจะเที่ยวในตัวเมืองก่อน
แล้วหลังจากนั้นเราจะขับรถเข้าอำเภอกันตัง
อำเภอกันตังจัดได้ว่าเป็นเมืองท่าสำคัญในสมัยก่อน เพราะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ
รวมถึงเป็นสถานที่ที่ปลูกยางพาราต้นแรกของประเทศไทยอีกด้วยอีกด้วย




วงเวียนปลาพะยูน กลางวันก็ถ่ายรูปสวย กลางคืนยิ่งสวย




ตึกเก่าทรงชิโนโปรตุกีส สีสันสวยงาม เราสามารถเห็นตึกแบบนี้ได้ในเมืองตรัง




ย่านการค้าในตัวเมืองตรัง





รถที่ว่าชื่อรถตุ๊กๆหัวกบค่ะ มีทั้งที่อยุธยา และพิษณุโลกน่ะค่ะ



เราใช้เวลาในตัวเมืองไม่นานมาก เพราะเราต้องไปอำเภอกันตัง ในการเดินทางไปอำเภอกันตังเราใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง
แต่ก็คุ้มเพราะกันตังมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมาก เรามุ่งหน้าไปสู่พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีกันนนน

จากที่พักไปยังพิพิธภัณฑ์ระยะทางทั้งหมด 38 กิโลเมตร เราใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ประมาณชั่วโมงครึ่ง






และแล้วเราก็มาถึงพิพิธภัณฑ์แล้วววววววว



















ภายในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีของใช้ต่างๆที่เคยใช้จริงในสมัยก่อนของท่านคอซิมบี๊ อายุยาวนานกว่าร้อยปีเลยล่ะค่ะ (นานมาก)
พิพิธภัณฑ์สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นเลยค่ะ

ความรู้สึกที่เดินเข้าไปในบ้านของท่านคอซิมบี๊ รู้สึกได้กลิ่นไอแห่งความเก่าแก่ค่ะ คือเราสามารถรู้ได้เลยว่าทุกอย่างเก่าจริงๆ และมีอายุที่นานมาก

ต่อไปเราก็มุ่งหน้าไปหาดยาวค่ะ แต่ระหว่างทางที่เราจะไปหาดยาวก็มีบ่อน้ำพุร้อน ชื่อว่า บ่อน้ำพุร้อนควนแคง
เราเลยตัดสินใจเข้าไปนั่งแช่เท้าสักพักค่ะ บ่อน้ำพุร้อนที่นี่อุณหภูมิ 70 องศากันเลยทีเดียว ไม่เสียค่าเข้าน่ะค่ะ
ตอนเข้าไปจะมีมัคคุเทศน์ตัวน้อย เป็นนักเรียนประมาณชั้นประถมค่ะคอยให้คำแนะนำ น่ารักดีค่ะ




ให้ขาแว๊นขับรถค่ะ คล่องปรื๋อเชียว





เขียวเชียว





เราใช้เวลาอยู่ที่น้ำพุร้อนไม่นาน เราก็ออกจากรถเพื่อที่จะไปสถานที่ที่เราตั้งใจไว้ในทริปนี้มากที่สุดคือ หาดยาวค่ะ

และแล้วเราก็มาถึงหาดยาวค่ะ ใช้เวลาค่อนข้างนานเนื่องจากเราขับรถหลงทางไป 14 กิโลเมตรเลย
แต่ก็ไม่ท้อค่ะ ขับวนกลับไปใหม่ ตั้งใจจะไปถ่ายรูปและเอากล้องถ่ายใต้น้ำไปแล้วด้วย



เราเสิร์ชหาในเนตแล้ว หาดยาวเป็นหาดที่สวยมากกกกกกกกก



แต่อาจจะเป็นเพราะสถานการณ์หมอกควันทำให้ไม่มีแสงเลย ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยค่ะ
เพราะไม่มีแดดเลย เราสองคนเลยไม่ได้ลงไปเล่นน้ำ และได้ภาพมาน้อยมาก



หลังจากนั้นเราก็เคว้นหาร้านซีฟู้ดอยู่สักพัก ร้านที่ติดชายทะเลไม่ค่อยมีคนนั่งค่ะ
เราเลยถามคนแถวนั้นว่าพอจะมีซีฟูดแถวนี้อีกมั้ย เค้าเลยแนะนำไปที่ร้าน หาดยาวซีฟูดซึ่งอยู่ติดกับท่าเทียบเรือเลย
ก็เลยขับรถไปกินดู บรรยากาศร้านนน่านั่งค่ะติดริมทะเล แต่ก็ท่าเรือเนอะ ดินเลยเป็นโคลนมากกว่า แต่ก็ได้บรรยากาศดีค่ะ
เราตัดสินใจสั่งอาหารจานเดียว แต่ก็แอบมีหอยชักตีนค่ะ อิอิ อยากกิน ทริปนี้เราไม่ได้กินซีฟู้ดมาก
เนื่องจากร้านนี้มีราคาค่อนข้างสูงกว่าร้านอื่นอยู่นิดหน่อย แต่ก็อร่อยค่ะ
ราคาอาหารทะเลต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 150
อาหารจานเดียวต่ำสุดอยู่ที่ 60
ส่วน ปลา ปู ขึ้นอยู่กับน้ำหนักค่ะ


น้ำจิ้มซีฟูดอร่อยมากๆๆๆๆๆค่ะ




ข้าวเครื่องแกงปลาหมึก รสชาติไม่ค่อยจัดเท่าไหร่ เหมาะกับคนกินเผ็ดไม่ค่อยได้




ข้าวผัดปูอร่อยดีค่ะ ได้เนื้อปูเยอะอยู่



สรุปคือ ร้านนี้รสชาติผ่านค่ะ ถือว่าอร่อย บรรยากาศร้านเงียบสงบน่านั่งค่ะ แต่สำหรับคนที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเที่ยวแล้ว
แนะนำร้านอื่นค่ะ หรืออาจจะสั่งเป็นเมนูจานเดียวจะประหยัดได้มาก

รีวิวกันต่อดีกว่าเนอะ หายไปเป็นวันเลย
ตอนกลางคืนเราไปเดินตลาดรถไฟที่ตรังกันค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปเลยยยมัวแต่กินอย่างเดียว 5555
ต้องหาภาพจากเนต ขออนุญาติเจ้าของภาพสวยๆน่ะค่ะ อิอิ
http://travel.kapook.com/view38484.html[img]
http://f.ptcdn.info/780/036/000/nwtq1uhf7qAdi8lzf65-o.jpg[/img]
ของกินน่ากินมากๆๆๆๆๆ หมดไปหลายบาททีเดียว (แต่ก็ยังอยู่ในงบ)
เราก็ซื้อของกินเล่นค่ะ เพราะว่าเราจะไปไปหาของกินตอนกลางคืนอีกที กลางคืนของกินเยอะมาก เราเลยไม่อยากพลาด
ที่สถานีรถไฟบางอย่างก็ถูกบางอย่างก็แพง แล้วแต่ค่ะคละกันไป
อันนี้ถ่ายเองได้มารูปเดียว



เราซื้อมะม่วงกับมันกุ้ง ขนมกุยช่าย ไข่ปลา แป้งข้าวหมาก และมีของกระจุกกระจิกอีกเยอะแยะมากมาย
ต่อไปเราจะพาไปดูของกินหลักๆตอนกลางคืนที่เรากินกัน เป็นเกาเหลาซี่โครงหมูค่ะ ถ้วยนึงก็ราคา 50 บาท
ขณะที่เรานั่งอยู่นั้นก็มีของมาเสิร์ฟเรื่อยๆค่ะ เช่น ขนมจีบ ปลาท่องโก๋ เราเลือกได้ค่ะว่าจะกินไม่กิน ถ้ากินก็จ่ายเงินถ้าไม่กินเค้าก็จะ
เก็บไปไม่คิดเงิน แต่ขนมจีบอร่อยอยู่ค่ะ ราคาถ้วยละ 20 บาท ส่วนปาท่องโก๋ สังขยาอร่อยยมากก มันๆดี จขกทชอบบ
ร้านนี้จะอยู่หน้าร้านแมงมุมค่ะ ป้ายเขียนใหญ่เลยแมงมุม มีแมงมุมเกาะอยู่ด้วย 555

เกาเหลาอร่อยโดยที่ไม่ต้องปรุงเลยค่ะ รสชาติน้ำซุปจะเป็นเหมือนเครื่องยาจีน

หลังจากที่เราอิ่มหมีพีมันกันแล้วเราก็กลับเข้าที่พักโดยสวัสดิภาพค่ะ แต่ยังไม่หมดน่ะค่ะมีรีวิวของกินข้างล่างต่ออีกอิอิ

เช้าวันต่อมาเราก็ไม่รอช้าอาบน้ำออกไปหาของกินเลยค่ะ ร้านนี้ป้าเจ้าของรีสอร์ทบอกกับตัวเองเลยว่าอร่อยมากก
ขนาดแกกินเครื่องในไม่ค่อยได้ แต่ร้านนี้ทำดีไม่มีกลิ่นคาวเลย แกเลยติดใจ ตามคอนเซ็ปป้าค่ะ "ไม่ดั้งเดิมป้าไก่ไม่กิน"
ร้านนี้ป้าแกบอกว่ารอนานมากกก ย้ำน่ะค่ะมากกกก แต่คุ้มที่รอ ทีแรกเราสองคนก็ไม่เชื่อค่ะ ว่าอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ
แต่เราสองคนจะพลาดได้ยังไง ลุยค่ะ (ร้านนี้พึ่งมารู้ตอนหลังว่าออกหนังสือพิมพ์ด้วย)





พอเราไปถึงก็นั่งดูคนในร้านสักแปป ก็รู้แล้วล่ะค่ะว่าต้องรอนานแน่ๆ 5555
เราก็ถ่ายรูปเล่นไปจนผ่านไปชัวโมงกว่าๆ ก็ยังไม่ได้กินเลยค่ะ






ทีแรกเราสองคนก็เริ่มหงุดหงิดค่ะ อาจจะเป็นเพราะหิว แต่เราก็เงียบไว้ 555
ไม่นานค่ะหลังจากเราเริ่มรู้ตัวว่าเราเริ่มหงุดหงิด ป้าแกก็ยกเส้นหมี่เครื่องในมาสังเวยเราสองคน
อื้อหือออออออ หอมมมมมมมมมมมมม
เราก็เลยตักน้ำซุปขึ้นมากิน แฟนถึงกับอุทานว่า ไม่เสียแรงที่รอตั้งนาน (ปกตินางขี้โวยวาย) เราเลยชิมตาม
คุณพระคุณเจ้า อร่อยมาก รสชาติดั้งเดิมเลยค่ะ หากใครคิดว่ากินหมี่น้ำใสของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่งอร่อย
ร้านนี้รสชาติเด็ดดวงกว่ามากค่ะขอบอก (ขออนุญาติกล่าวถึงน่ะค่ะ)





เราสามารถกินของอร่อยถ้วยนี้ได้ในราคา 45 บาทเท่านั้นค่ะ คุ้มมาก

ก่อนที่เราจะหาของกินตอนเที่ยง เราก็ตรงไปบ้านนายชวน หลีกภัยก่อนค่ะ เหมาะสำหรับคนชอบต้นไม้
บ้านนายชวนจะอยู่ตรงข้ามโรงเรียนสภาราชินี และอยู่ข้างๆเซเว่นเลย ตอนเข้าไปคือนึกว่าอยู่ในสวน คือสวนสวยมากกกก บรรยากาศร่มรื่นมาก
เหมาะกับคนชอบต้นไม้น่ะค่ะ





ตอนเที่ยงตรังจะหาของกินค่อนข้างยาก (เพราะร้านอร่อยๆส่วนมากจะปิดเพื่อเตรียมวัตถุดิบในการขายตอนเย็น)
เราเลยลัดเลาะตามซอยไปค่ะจนเจอร้านขนมจีนชื่อขนมจีนป้าผล คนขายแก่แล้วค่ะรุ่นยายเราแล้ว เลยกะจะลองดู
ยายเค้าน่ารักมาก ยิ้มให้ตลอดเลย ผักขนมจีนมีเป็นถาดเลยค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายผักมา รสชาติจัดจ้านอย่าบอกใคร



เรากินขนมจีนน้ำยาผสมกับไตปลา รสชาติอร่อยมาก และค่อนข้างเผ็ด
เราสามารถอร่อยได้ในราคาเพียง จานละ 25 บาท (ถูกแต่อร่อย)

พอกินเสร็จเราก็คิดว่ากลับเกสต์เฮาส์กัน เพื่อที่จะไปเช็คเอ้าท์ และให้ทางเกสต์เฮ้าส์ไปส่งเราที่ขนส่งตรัง
คิดค่าใช้จ่ายเหมือนเดิมค่ะ คนละ 50 บาท

มาถึงตอนสำคัญนั่นคือสรุปค่าใช้จ่ายที่เราใช้ไปทั้งหมด รวมค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตกอยู่ที่ 2,554 บาท หารกันสองคนก็ตกคนละ 1,277 บาท/คน
จากที่ตั้งงบไว้ 4,000 บาท ก็เหลือเก็บไว้ทริปหน้าได้อีกด้วยยยย

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามน่ะค่ะ อิอิ
(ปล ถ้าซื้อทริปที่ตรังคิด 900 บาท แล้วน่ะค่ะ )

Uthaiwan Sanguannam

 วันพฤหัสที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.39 น.

ความคิดเห็น