ภาค 2 ของ 4 จังหวัดภาคใต้ที่ไปเยี่ยมชมเจ้าค่ะ คือสุราษฏร์ธานีเมืองคนดี #นครศรีธรรมราช #พัทลุง และจังหวัด #ตรัง ค่ะ เดินทาง 8-12 ส.ค ที่ผ่านมา ทริปนี้ทริปเดียวได้เห็นทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน (ภาคแรก ลิ้งในนี้ค่ะ https://th.readme.me/p/26795)

หลังจากเยี่ยมชมไปหลายที่ทั้งอ่าวเตล็ด ศาลหลักเมืองสุราษฯ อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้แล้ว ไปหาร้านเครื่องดื่มชิคๆนั่งชมวิวกันดีกว่า ที่นครศรีธรรมราชมีจุดเช๊คอินมากมายไปแอ่วกันนนนน

ร้าน MOON COFEE & ROTI


ร้านคาเฟบนเขาพลายดำก่อนถึงอ่าวท้องยาง อ.สิชล เบื้องหน้าเป็นวิวทะเล เรียกได้ว่าจ่ายเงินหลักร้อย แต่วิวหลักล้านกันเลยทีเดียวค่ะ ตัวร้านมีระเบียงยื่นออกไปให้นักท่องเที่ยวได้นั้งจิบเครื่องดื่มชิลๆ รับลมทะเล มองฟ้ามองน้ำกันไป




จุดเซลฟี่สวยๆเยอะมาก








น้องโรตี มิ้วของร้านค่ะ แมวหน้าบาก นักรบย่อมมีบาดแผล 555


ประทับใจชายหาดที่ขนอม-สิชลมากค่ะ ชายหาดสวยสะอาดน้ำใสมาก


หาดทุ่งใส หัวใจยิ้ม หาดมีเปลือกหอยสวยๆเยอะเลย


บรรยากาศเงียบสงบ หาดทรายสวย


หาดปากดวด ที่สิชล นครศรีธรรมราช หาดโค้งสวยงามมากค่ะ



หาดนี้โปรดสุด หาดหัวถนน เล็งไว้มีโอกาศมาอีกจะมานอนหาดนี้^^

หาดที่สิชล สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ เราไปต่อกันที่พรหมคีรีกันดีกว่า ธรรมชาติข้างทางสวยๆ ฝนๆเขียวๆ

หิวข้าววววว มื้อกลางวันฝากท้องที่ วังปลาแงะ ร้านอาหารริมเขื่อนค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ทำเลดีวิวดี งาม ติดสายน้ำของวังปลาแงะเลย อาหารรสชาติดี ราคาไม่แพงค่ะ

ให้อาหารปลากัน น้ำที่วังปลาแงะเป็นสายน้ำเดียวกับน้ำตกพรหมโลกค่ะ ไม่ไกลกันมาก

ปลาแงะหรือปลาพวงเยอะม๊ากกกก

ถนนตัดผ่านสายน้ำเลย อันซีนสุดๆ


วัดเขาขุนพนม

วัดนี้อยู่ที่ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณเชิงเขาขุนพนม เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช ราวพุทธศตวรรษที่ 18 ชาวนครศรีธรรมราชเชื่อกันว่า ถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จหนีมาผนวชและประทับ ณ ถ้ำแห่งนี้จนสวรรคตค่ะ โดยสันนิษฐานจากเพลงกล่อมเด็กที่เรียกกันว่าเพลงร้องเรือ และภายในถ้ำได้มีผู้ขุดพบพระพุทธรูปทองคำ เงิน สัมฤทธิ์ และพระพุทธรูปจำลองเป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางซึ่งเป็นของมีค่ามาก ไม่น่าจะเป็นของชาวบ้านทั่วไปในวัดกลางป่า ปัจจุบันโบราณวัตถุเหล่านี้แสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดเขา ขุนพนมค่ะ

บ่อน้ำศักดิ์สิทธ์โบราณ

ขุนพนมหรือถ้ำพระเจ้าตาก ภายในถ้ำแห่งขุนเขาลูกนี้ เป็นที่บำเพ็ญเพียรภาวนา พร้อมด้วยผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง และพระองค์ได้สวรรคตในขณะเป็นพระภิกษุที่วัดแห่งนี้ เดินขึ้นถ้ำ บันได 245 ขั้น ขาต้องแข็งแรงหน่อย


ถ้ำขุนพนม ที่เชื่อกันว่าพระเจ้าตากท่านเคยประทับ ถ้ำเป็นลานหินกว้างประมาณ 20 ตารางวา เว้าลึกเข้าไปในภูเขา เหมือนเป็นหลังคากำบังแดดและฝน มีการก่อกำแพงเหมือนกำแพงวัง กั้นด้านในเป็นซอกหลืบ มีทางเข้าออกเล็กๆ นัยว่าข้าติดตามครั้งนั้นได้สร้างขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นที่ทำสมาธิ


ไปแอ่วหมู่บ้านคีรีวงกันต่อ

หมู่บ้านคีรีวง

'คีรีวง' เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ได้ชื่่อว่า อากาศดีที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่นี่ผลไม้เยอะค่ะ ทั้งมังคุด ทุเรียน

ชุมชนคีรีวง ได้เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ( Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติค่ะ อากาศและบรรยากาศดีค่ะ

ลมแรงมากตรงสะพาน




ขับรถเลยมาหน่อยจะเจอ หนานหิน เกิดขึ้นตามธรรมชาติมีความสวยงาม เป็นลานหินแกรนิต บริเวณริมคลองท่าหา เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ


คืนนี้พักที่ Thipburee Resort ค่ะ อยู่ที่หาดหินงาม อ.สิชล เป็นรีสอร์ทบรรยากาศดี ติดลำน้ำ แนะนำให้พักบ้านเดี่ยวดีกว่า ห้องแถวติดกัน เพราะถ้าห้องข้างๆเสียงดังแล้วจะรบกวนการพักผ่อนของเราค่ะ

ที่สิชลสถานที่สวยๆ ก็มี สวนสมเด็จย่า เป็นจุดชมวิว นั่งพักผ่อนตากลมของสิชล เป็นสวนสาธารณะที่อยู่ริมหาด

หาดทรายค่อนข้างสะอาด สวย

ศาลเจ้าพ่อตาปะขาว ที่ปากน้ำสิชลไม่ไกลจากสวนสาธารณะ เป็นที่เคารพสักการะของชาวสิชลมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีรูปเคารพไม้หอมแกะสลัก พ่อตาปะขาว(ปึงเถ่ากงไซสี่) ศาลตั้งบนเนินเขาสวยงามค่ะ

จากจุดนี้ สามารถมองเห็นชุมชนประมงของชาวปากน้ำสิชลได้


มื้อเย็นฝากท้องที่ภัตราคารโก้โตน Kho Ton Restaurant เป็นร้านเก่าแก่ ดังเรื่องขาหมู ลองแล้วขาหมูอร่อยดีค่ะ จานละ 50 บาท ค่ะ

ออกจากสิชลเข้านครศรีธรรมราช ระหว่างทางแวะ วัดเจดีย์ (วัดไอ้ไข่) ทางเข้าสองข้างทางเรียงรายไปด้วย ร้านค้าที่ขายรูปปั้นไก่และชุดทหาร

วัดเจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยเป็นวัดร้างที่เชื่อกันว่าสร้างมาเป็นเวลานับ1000 ปี มีเพียงเจดีย์โบราณเก่ารกร้างอยู่ตรงบริเวณที่กำลังสร้างโบสถ์ในปัจจุบัน จนเมื่อประมาณ พ.ศ.2500 มีการบูรณะวัดเจดีย์ขึ้นมาใหม่ มีพระเข้ามาอยู่ประจำ เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของชาวบ้านใกล้เคียง และเป็นที่ประดิษฐานของ “พ่อท่าน” พระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ยังป็นวัดร้าง

ไอ้ไข่วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ คือรูปไม้แกะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 9 -10 ขวบ ตั้งอยู่ในศาลาในวัดเจดีย์เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ ณ วัดแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านตั้งแต่ในละแวกใกล้วัดไปจนถึงต่างจังหวัดในแถบภาคใต้จากศรัทธาที่เชื่อกันว่า “ขอได้ไหว้รับ” โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย

ตำนานไอ้ไข่มีหลายเรื่องด้วยกัน บ้างก็ว่าไอ้ไข่คือวิญญาณเด็กที่ติดตามหลวงพ่อทวด เมื่อหลวงพ่อทวดธุดงค์มาถึงวัดร้างแห่งนี้ และรับรู้ด้วยญาณของท่านว่าที่นี้มีทรัพย์สินโบราณฝังอยู่ จึงให้วิญญาณดวงนี้เฝ้าดูแลปกปักษ์รักษาทรัพย์สินของแผ่นดิน อยู่ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมา ในขณะที่บางตำนานก็ว่า ไอ้ไข่ คือเด็กลูกชาวบ้านแถวนั้นที่เคยวิ่งเล่นอยู่ในวัดตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นวัดโบราณ ต่อมาเด็กคนนั้นประสบอุบัติเหตุตกน้ำเสียชีวิต วิญญาณของเด็กน้อยคนนั้นซึ่งผูกพันอยู่กับวัดก็สถิตย์ที่วัดแห่งนี้ตลอดมา

ในวัดเต็มไปด้วยสิ่งของที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาเอามาแก้บน เช่น รูปไก่ชน ชุดทหาร หนังสติ๊ก ของเล่นต่างๆ บ่งบอกถึงแรงศรัทธาที่มีต่อไอ้ไข่ และแสดงถึงผลสัมฤทธิ์จากผู้ที่มาขอแล้วได้รับจากไอ้ไข่ เยอะมากค่ะ


เข้านครศรีธรรมราช เลือกพักที่ โรงแรม Puranakhon เป็นโรงแรมใหม่ค่ะ ราคาคืนละ 500.- บาท ห้องพักใหม่สะอาดมาก แนะนำค่ะบริการดี โรงแรมตั้งอยู่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โทรสอบถามห้องพักกันได้ค่ะ ที่ 075-314888 ทริปนี้ประทับใจโรงแรมนี้มากที่สุด ตอนเช้าโรงแรมมีตักบาตรทุกวันนะคะ ใครชอบใส่บาตรแจ้งโรงแรมได้ชุดละ 60 บาท ค่ะ ที่จอดรถสะดวก

ยามเย็นแล้ว นัดกับมิตรที่ร้านอาหารตัวที ร้านนี้เดิมไม่ได้ตั้งใจมาแต่มีมิตรท่านหนึ่งแนะนำและพามาทานอาหารค่ะ ประทับใจมากอยู่ปากนคร บรรยากาศดีมากค่ะ ขอบคุณคุณสัญญาและครอบครัวมิตรคนนครศรีฯ ไว้ที่นี้ด้วยนะคะ ^^

สะพานรูปตัวที เป็นสะพานที่ทอดยาวไปในทะเลเป็นรูปตัวทีที่ตั้งอยู่ใน ต.ปากนคร อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชไปทางทิศตะวันออกในระยะทาง 12 กิโลเมตรค่ะ

บรรยากาศดีมากกก

ร้านอาหารตัวที อยู่ติดกับสะพานค่ะ มีโต๊ะยืนออกไปในทะเลสามารถนั้งทานอาหาร รับลมทะเล ชมวิวปากนครสวยๆ รับลมทะเลสดชื่นดีค่ะ

จัดร้านสวย

อาหารรสชาติใช้ได้ ปูสดดีค่ะ

มื้อเช้าทานอาหารใกล้โรงแรม เดิน สิบเก้าก็ถึง 555 ชื่อ ร้านโรงเตี้ยม เมืองนคร ค่ะ ขายเครื่องดื่ม ติ่มซำเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 4 คูหา ร้านเปิดบริการตั้งแต่เช้า มีทั้งอาหารเช้า ขนมจีบ ซาลาเปา ติ่มซำ บ้ะกุ้ตเต๋สูตรเด็ด ข้าวหน้าเป็ด หมูแดง หมูกรอบ ติ่มซำเข่งละ 10.- บาท เองค่ะ มื้อเช้าจัดเต็ม

จานนี้ 50.- บาท


ยามเช้าไปนมัสการ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช กันค่ะ ศาลหลักเมืองนครศรีฯ ประกอบด้วยอาคาร 5 หลัง หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง ออกแบบให้มีลักษณะ คล้ายศิลปะศรีวิชัย เรียกว่าทรงเหมราชลีลา ส่วนอาคารเล็กทั้งสี่หลัง ถือเป็นบริวารสี่ทิศ เรียกว่า ศาลจตุโลกเทพค่ะ

องค์เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ตะเคียนทองที่ได้มาจากภูเขายอดเหลืองอันเป็นภูเขาลูกหนึ่งในทิวเขานครศรีธรรมราช ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคามรามเทพ (สี่พักตร์) หรือเทวดารักษามือง เหนือสุดเป็นเปลวเพลิงอยู่บนยอดพระเกตุ งดงามค่ะ

พระราหู ภายในศาล

ไปชมวัดกันบ้าง

เก๋งจีนวัดแจ้งวรวิหาร

เก๋งจีนวัดแจ้ง ตัวอาคารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนรูปทรงอย่างอาคารจีน ภายในดิษฐานบัว บรรจุอัฐของเจ้าพระยานคร (หนู) และหม่อมทองเหนียว ผู้เป็นชายา


กฎิทรงไทยวัดวังตะวันตก ชาวนครท้องถิ่นเรียกกันว่ากุฏิร้อยปีค่ะ ตั้งอยู่ในวัดวังตะวันตก ริมถนนราชดำเนิน เป็นกุฏิไม้ทรงไทยเรือนเครื่องสับ 3 หลัง มีหลังคาจั่วแต่ละหลังคาคลุมเชื่อมต่อกัน ตัวเรือนฝาปะกัน ตามประตู หน้าต่างและช่องลม ประดับด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนคร ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 13 ปี ปกติกุฏิทรงไทยแห่งนี้จะไม่มีการเปิดไว้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา หากต้องการเยี่ยมชมภายในกุฏิ สามารถขอกุญแจเข้ากุฏิได้จากเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกได้ค่ะ


วัดประดู่พัฒนาราม หรือ วัดประดู่ หรือ วัดโด ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครในบริเวณวัดประดู่ วัดนี้มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ กษัตริย์ไทยและเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ในอดีต ข้อมูลจาก สารนครศรีธรรมราช กล่าวว่าพี่สาวของเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัด) ชื่อ “หญิง” หรือ “คุณหญิง” เป็นผู้เสื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง เป็น ผู้สร้างวัดประดู่ขึ้น



พระเจดีย์ยักษ์ เป็นเจดีย์สูงใหญ่รองจากเจดีย์พระบรมธาตุ บริเวณวัดเจดีย์เดิมซึ่งร้างไปแล้ว สันนิษฐานว่าสร้างโดยโคทคีรีเศรษฐีชาวมอญ กับบริวารที่อพยพหลบภัยมาอาศัยเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อประมาณ ปี 1546 ปัจจุบันวัดร้างเหลือเพียงเจดีย์ตามที่เห็นอยู่ในภาพ

กำแพงเมืองเก่า สถานที่ท่องเที่ยวสาระทางประวัติศาสตร์ ใจกลางเมืองนครฯ ตั้งอยู่ ริมคลองหน้าเมือง ถนนมุมป้อม การสร้างปรากฏหลักฐาน จากตำนานเมืองนครศรีธรรมราชว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

เมืองนครศรีมีเสน่ห์ตรงสะพานลอยแยกไฟแดงต่างๆ จะมีสะพานลอยศิลปะแบบจีน ไทย อิสลาม อยู่ในะแต่ละแยกเลยค่ะ


วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็น มิ่งขวัญชาวเมืองนครศรีธรรมราชและคนทั่วไป เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหารตั้งอยู่ในเมืองค่ะ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตามตำนานกล่าวว่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.854 สร้างมามากกว่า 1,500 ปี มีศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัยค่ะ เก่าแก่งดงามค่ะ

พระพุทธรูปองค์สุดท้าย ที่อยู่ด้านในริมระเบียงวิหารคด กล่าวกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ไม่ธรรมดานะคะ พระพุทธรูปองค์นี้กล่าวกันว่าสร้างมานานกว่า 1200 ปีเลยทีเดียว เชื่อกันว่าหากใครได้มานมัสการแล้วอธิษฐานกับท่านจะสมหวังทุกราย

พระพุทธรูปเจ้าชู้ หรือพระแขนขาดที่ศักดิ์สิทธิ์ อายุหลายร้อยปีนี้มีตำนานเล่าขานว่า เป็นพระเจ้าชู้ที่ตอนกลางคืนแปลงร่างเป็นหนุ่มรูปงาม ไปพบรักกับหญิงกำพร้าชาวบ้าน ต่อมามีชาวบ้านคนนึงทราบเรื่องเข้าโกรธที่พระเสพเมถุน พอสบจังหวะที่พระดังกล่าวลอบมาพบปะหญิงชาวบ้านจึงนำมีดดาบที่เตรียมไว้มาฟันลงไป ชายหนุ่มแปลงกายใช้แขนรับดาบ แขนจึงขาดแล้วหลบหนีเข้ามาในวัดหายตัวไปอย่างลึกลับ ชาวบ้านตามรอยเลือดมา แล้วหยดเลือดก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพระพุทธรูปองค์หนึ่ง จึงก้มดูเลือดว่าทำไมเลือดมาหยุดอยู่ตรงนี้ พอเงยหน้าไปดูองค์พระพุทธรูป ถึงกับตะลึงลาน เมื่อเห็นว่าพระพุทธรูปองค์นั้นแขนขาด ด้วยเหตุนี้เองทำให้เชื่อว่า ต้องเป็นพระองค์นี้แน่ที่แปลงกายแล้วลักลอบเข้าไปหาหญิงกำพร้าทุกคืน จากนั้นชาวบ้านคนดังกล่าวจึงเอาผ้ามามัดองค์ท่านเอาไว้เพื่อไม่ให้ท่านไปไหน แล้วเหตุการณ์ของพระสงฆ์ที่แอบลอบออกจากวัดในตอนกลางคืนก็ไม่มีอีกเลย

พระแอด หรือพระมหากัจจายนะ ชาวบ้านให้เรียกว่า พระแอด ขอลูกได้หรือพระแอด-ปวดหาย มีความเชื่อกันว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหาร บันดาลลูกให้แก่ผู้ที่ไปขอแบบที่ไม่เหมือนใคร หรือหากใครปวดเมื่อย ไปนวดพระแอด หรือปวดเอวปวดหลัง นำไม้ไปค้ำยันหลังพระแอด อาการปวดเหล่านั้นจะทุเลาลงจนน่าอัศจรรย์ ใครมีโอกาศอย่าลืมไปกราบไหว้กันนะคะ

ไม้ค้ำหลังพระแอด

อัลบั่มรูปเด็กๆน่ารักๆเยอะแยะมากมายเลยค่ะ ที่พ่อแม่ที่ขอบุตรได้สำเร็จ นำมาถวายพระแอด ไม่น้อยเลยค่ะ ใครมีบุตรยากลองไปกราบขอท่านดูนะคะ อาจจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลแต่ทำแล้วสบายใจ สุขภาพจิตดีก็น่าทำค่ะ


บ้านท่านขุนรัฐวุฒิจารณ์ บ้านไม้เก่าแก่ เป็นเรือนปั้นหยายกพื้น หลังคาสูง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2445 อายุร้อยกว่าปีค่ะ สร้างขึ้นโดยนายเขียน มาลยานนท์ ซึ่งได้รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เป็น "ขุนรัฐวุฒิวิจารณ์" นายอำเภอเมืองกลาย ต่อมาได้ใช้บ้านและที่ดินเปิดเป็นโรงเรียนรัฐวุฒิวิทยาและเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนนครวิทยาในที่สุด เมื่อปีพ.ศ. 2482 หลังจากนั้นได้ปิดตัวลงเมื่อปี พ.ศ. 2529 และต่อมาในภายหลังนายสำราญ ตรีสัตยพันธุ์ ทายาทของขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ได้ดำเนินการบูรณะปรับปรุงบ้านหลังนี้อีกครั้ง ฟื้นฟูสู่สภาพที่สวยงามพร้อมกับเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เยี่ยมชมและศึกษาสำหรับผู้ที่มีความสนใจอย่างแท้จริง โดยบ้านขุนรัฐวุฒิได้รางวัล อาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ดีเด่น ปี 2556 โดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ค่ะ เข้าชมฟรีได้ทุกวัน 8.00-17.00 น ค่ะ



ภายในสวยงาม

เดินทางต่อ ไปพัทลุงกัน^^

ทุ่งนาข้างทางที่พัทลุง สวยม๊ากกกก

ร้านอาหารวิวยอ ศรีปากประรีสอร์ท เป็นร้านที่วิวสวยมากค่ะ รานอยู่ที่ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง

ดูวิวยกยอสวยๆ ยิ่งถ้ายามเช้าๆหรือยามเย็น แสงพระอาทิตย์น่าจะสวยมาก ทางร้านมีที่พักด้วยนะคะ

ชอบสุดคือกุ้งเผามันเยอะ อร่อยมาก

ไปเมืองตรังงงง กันต่อ

สถานีกันตัง สถานีรถไฟกันตัง เป็นสถานีปลายทางของทางรถไฟสายชุมทางทุ่งสง–กันตัง ตั้งอยู่บนถนนหน้าค่าย ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นสถานีรถไฟสุดทางของทางรถไฟสายใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน เก่าแก่ด้วยประวัติศาสตร์ มีความงามคลาสสิคมากค่ะ

ตัวสถานีรถไฟกันตัง เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนตัวอาคารและชานชาลา ด้านหน้าของอาคารมีมุขยื่น มีการตกแต่งประดับมุมเสาด้วยลวดลายไม้ฉลุคงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้วค่ะ

สถานีรัก ร้านเครื่องดื่มน่ารักๆ เซลฟี่แนววินเทจได้สวยมาก

ไปชมความงามของทะเลตรังกันดีกว่า ขับรถผ่านแม่น้ำตาปี ยังสวยงามกว้างใหญ่

ทะเลตรังก็สวยค่ะ หาดทรายแปลกตาเป็นสีน้ำตาล แต่บริเวณชายหาดบางช่วงขยะค่อนข้างเยอะ

อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 230.87 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ดินชายฝั่งทะเล บริเวณ เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะเมง เกาะปลิง และเกาะเจ้าไหม และส่วนของพื้นน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 137.22 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ดินมีป่าไม้สมบูรณ์หลากหลายทั้งป่าดงดิบ ป่าเขาหินปูนไปชมหาดสวยๆกันค่ะ


หาดยาว หาดนี้มีโขดเขารูปกระโดงฉลาม อันซีนจังหวัดตรังเลยค่ะ หาดยาวอยู่ใน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ชายหาดมีความยาวถึง 5 กิโลเมตรเลย พื้นที่หน้าหาดกว้างขวาง เล่นน้ำสนุกแน่นอนค่ะ เห็นชาวบ้านนำอาหารทะเลมาปิ้งย่างกินกันได้บรรยากาศดี

ขยะให้ทิ้งลงถังจะได้ไม่ทำร้ายธรรมชาตินะคะ

หาดหยงหลิง สวยค่ะ เป็นหาดทรายรูปโค้งขนานไปกับดงสน


ท้องเริ่มหิวอีกแล้วไปหาอาหารเย็นทานกันที่ ร้านอาหารครูคิด ค่ะ

ร้านอาหารครูคิด ร้านครูคิดตั้งอยู่บริเวณริมหาดปากเมงค่ะ อยู่อำเภอสิเกา ไปทางหาดเจ้าไหมคะ ร้านอาหารราคาไม่แพงแนะนำค่ะ ทะเลรวมสามร้อยบาทเองค่ะคุ้มมาก สดอร่อยดี ต้มยำก็อร่อย ใครอยากไปนั่งรับลมลองชิมอาหารโทรสอบถามทางร้านได้ค่ะ 083-9664636

อิ่มแล้วเข้าที่พัก คืนนี้พักที่ ตรัง แกรนด์โฮเทล ที่พักค่อนข้างใหม่ อยู่ที่ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีที่จอดรถสะดวกราคา คืนละ 450.- บาทค่ะ สะอาดพอใช้ได้ค่ะ ผ้าเช็ดตัวเก่าไปหน่อย


ตื่นเช้ามา ไปหม่ำของอร่อยเมืองตรังกันดีกว่า ไปที่ เรือนไทยติ่มซำ อยู่ที่ถนนเพลินพิทักษ์ ตำบลทับเที่ยง

ติ่มซำหลากหลายมากค่ะ หมูย่างเมืองตรังก็มี

แวะหาของฝากกันหน่อยที่ขึ้นชื่อต้องร้านขนมเปี๊ยะเจ้าดัง ร้านขนมเปี๊ยะซอย 9 ค่ะ ร้านเป็นตึกแถวอยู่ ใน ซอย 9 ของถนนห้วยยอด ราคากล่องละ 120.- บาท อร่อยมากค่ะไม่ผิดหวังเลย ร้านเปิดมายี่สิบกว่าปีแล้ว ****ใส้เผือกไข่เค็มอร่อยมากกกก เจ้าของร้านก็ใจดีค่ะ

มีให้ชิมด้วยค่ะ


ท้องอิ่มแล้วเดินทางไปสุราษฯ รอขึ้นเครื่องเย็น ยังมีเวลาเหลือแวะแอ่ว ตลาดน้ำประชารัฐ บางใบไม้กันค่ะ

แวะทานอาหารกันหน่อยอยู่ในตลาดน้ำมีหลายร้าน วันนี้ทานที่บ้านไม้ชายคลอง ร้านมีน้ำพริกกะปิผักสดเต็มๆให้ทานฟรีด้วยค่ะ

ปูสดอร่อยมาก

ปลาจาระเม็ดดำ ทอดน้ำปลาอร่อยสุด ตัวนี้ราคาสามร้อยกว่าบาทค่ะ สดมากไม่ผิดหวัง

อิ่มแล้วไปล่องเรือชุมวิถีชีวินชุมชนริมคลองกัน นั่งเรือไปดู Unseen Thailand อุโมงค์ต้นจากที่คลองประชารัฐด้วย นั่งเรือท่องเที่ยวคลองไม่ผิดหวังค่ะ เรือลำนึงนั่งได้ 5 คน ราคา 500.- บาทต่อเที่ยว ถ้ามาน้อยก็คิด 500.- บาทต่อเที่ยวค่ะ พาลัดเลาะชมธรรมชาติคลองร้อยสาย เห็นป่าจากและต้นลำภู วิถีชีวิตริมคลองประทับใจมาก เรือพาล่องออกไปที่แม่น้ำตาปีด้วยคุ้มค่ะ ลุงคนเรือเปฤ็นไกด์ด้วย ได้ความรู้หลายอย่างเลย

บ้านไม้ริมคลอง

ต้นลำภูริมคลองก็เยอะ ใครสนใจตอนกลางคืนมีเรือพาล่องชมหิงห้อยด้วยค่ะ

คลองร้อยสาย สามารถล่องเรืออกสู่ทะเลได้ด้วยค่ะ

เรือพาล่องออกสู่แม่น้ำตาปีแล้ววววววว

เป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่มาก

บ้านนี้ ชาวบ้าน คนเรือเรียกเซเว่นริมคลองค่ะ มีของขายสารพัดอย่าง

สวยเก๋ดี

ล่องเข้ามาสู่อุโมงค์ต้นจาก Unseen Thailand

สวยมากค่ะ ไม่ผิดหวัง

จบทริป 4 จังหวัดภาคใต้แบบเต็มอิ่มค่ะ ท่องเที่ยวหน้าไหนก็สุขใจ ไว้เจอกันทริปต่อไปนะเจ้าคะ

ฝากติดตามเพจท่องเที่ยวเล็กๆด้วยนะเจ้า ไปแอ่วกัน Fun Trip ^^


ไปแอ่วกัน Fun Trip

 วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.40 น.

ความคิดเห็น