“Wherever you go becomes a part of you somehow.” ที่ใดก็ตามที่คุณได้เคยไป มันจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ ทริปนี้ Wherever เลือกไปจังหวัดเชียงราย เมืองแห่งศิลปะและความงามที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไปค่ะ! ไปด้วยกัน! ออกไปกอดเก็บความทรงจำใต้สายฝนที่โปรยปราย แล้วดื่มด่ำไปกับความสุขที่เป็นนิจนิรันดร์

วันแรกของการเดินทาง

การเดินทางหน้าฝนมันดีอย่างนี้นี่เอง ทันทีที่ถึงจังหวัดเชียงราย สิ่งแรกที่สัมผัสได้ คือ ความชุ่มช่ำ เย็นสบาย ทอดสายตามองไปตามยอดเขาก็จะเห็นเมฆหมอกปกคลุมประปราย ทุกอย่างดูเนิบช้า เบาสบาย ชวนให้ลืมเวลา ก้มหน้าไปมองนาฬิากาจึงได้รู้ว่านี่ 10.00 น. ไป! ไปCheck In โรงแรม เก็บข้าวของเตรียมไปเที่ยวกันดีกว่า

SOOKNIRUND HOTEL” หรือ “โรงแรมสุขนิรันดร์” Luxury Boutique Hotel ที่ตั้งตระหง่านผ่านการเวลามามากกว่าครึ่งศตวรรษ พิกัดก็หาง่าย อยู่ใกล้ๆ หอนาฬิกา ถึงจะมีระยะเวลายาวนานแต่โรงแรมไม่ได้เก่าอย่างที่คิดนะคะ มีการรีโนเวทใหม่ สวยงาม ร่วมสมัย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นเหมือนเช่นเคย


SOOKNIRUND HOTEL
ที่ตั้ง 424/1 ถ.บรรพปราการ ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57000

Website: www.sooknirund.com/

Facebook: www.facebook.com/sooknirundhotel/

Email: [email protected]

โทร. 053 - 798 788


การเลือกใช้สีขาวเป็นหลักของโรงแรมทำให้รู้สึกความคลาสสิกแต่ก็เรียบง่าย ซึ่งไปกันได้ดีกับการแต่งเติมด้วยโครงสร้างเหล็กสีฟ้าหม่นๆ เสียงและการเคลื่อนไหวของน้ำพุใกล้ล็อบบี้ทำให้รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวา กลิ่นหอมอ่อนทำให้รู้สึกผ่อนคลาย รอยยิ้มและการต้อนรับที่ตั้งใจทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น

ระหว่างนั่งรอ Check In ทางโรงแรมก็จะมีการเสิร์ฟ Welcome Drink ซึ่งสีสันและรสชาติของเครื่องดื่มเข้ากันได้ดีกับสถานที่ คือ ดูสวย เกร๋ แต่รสชาติมีความเท่และสดชื่นในคราวเดียวกัน


นั่งจิบ Welcome Drink และกวาดสายตาชื่นชมความงามของสถานที่ได้สักพัก พนักงานก็แจ้งให้ทราบว่าห้องพร้อมสำหรับการเข้าพัก ยกกระเป๋าขึ้นมาส่งถึงห้อง พร้อมกับอธิบายการใช้งานคีย์การ์ดรูปนาฬิกา เกร๋ไปอีก!!!


ทันทีที่ใช้เจ้าคีย์การ์ดรูปนาฬิกาเเตะประตูห้อง 302 ห้องก็ปลดล็อคและเปิดออกให้เห็นความละมุนที่ซ่อนอยู่ภายใน การตกแต่งด้วยสีขาวครีม เทาเข้ม ชมพูอ่อน ดูเข้ากันได้ดี เตียงดูละมุนแต่เรียบตึง ทุกอย่างดูสะอาดและพร้อมสำหรับการพักผ่อน แอบคิดในใจขอนอนก่อนได้มั๊ยเนี่ย? 555+


"น่านอนเป็นที่สุด!!!"


"เตียงสะอาด เรียบ ตึง"


"โคมไฟเกร๋สุดๆ"


"ตกแต่งด้วยภาพติดฝาผนัง"


ทำธุระส่วนตัวและเก็บข้าวของเสร็จก็ลงมาชั้นล่าง เตรียมตัวออกเดินทาง วันนี้เลือกเดินทางแบบชิวๆ สบายๆ ไล่ชมงานศิลปะและความงามตามธรรมชาติในตำแหน่งแลนด์มาร์กเด่นๆ ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน เริ่มจาก วัดร่องขุ่น สิงห์ปาร์ค กลับมาทานอาหารเย็นโรงแรม เดินเล่นเชียงรายไนท์บาร์ซ่าร์ แล้วตบท้ายด้วยการแวะถ่ายรูปหอนาฬิกา


"มุมมองจากหน้าประตูห้องพัก"


"มีทั้งลิฟต์และบันไดพร้อมให้บริการ"


"ถึงแล้วจร้าชั้นล่างสุด"

13.4 กิโลเมตร จากโรงแรมสุขนิรันดร์ถึงวัดร่องขุ่น

  • มุ่งหน้าทางตะวันตก ไปตามถนนบรรพปราการเข้าสู่ถนนอิสระภาพ
  • เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสนามบิน
  • เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนร่วมจิตถวาย
  • เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพหลโยธิน
  • เลี้ยวขวาที่ทางแยก แม่กรณ์เข้าสู่ถนนหมายเลข 1
  • เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 1208
  • เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอย 1
  • วัดร่องขุ่นจะอยู่ทางซ้ายมือ


"เปิดมือถือเข้า Google Map กดตำแหน่งที่จะไปเลยค่ะ รับรองไม่มีหลง"


"วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ ลานจอดรถอยู่ด้านหลัง (ฟรี) มีประตูเดินทะลุมาโซนด้านหน้าได้เลยค่ะ"


วัดร่องขุ่นออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทยสร้างขึ้นด้วยแรงปณิธานที่มุ่งมั่นรังสรรค์งานศิลปะที่งดงาม แปลกตา ผสานวัฒนธรรมล้านนา อย่างกลมกลืน ทั้งลวดลายปูนปั้นประดับกระจกและจิตรกรรรมฝาผนัง ขนาดใหญ่ ลักษณะเด่นของวัด คือ พระอุโบสถถูกแต่งด้วย ลวดลายกระจกสีเงินแวววาวเป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันไป หน้าบันประดับ ด้วยพญานาคมีงวงงาดูแปลกตา ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถเป็นฝีมือภาพเขียนของอาจารย์เอง


วัดร่องขุ่น

ที่ตั้ง ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.30 - 18.00 น.

ห้องแสดงภาพ เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ - ศุกร์ 08.00 - 17.30 น.

วันเสาร์ วันอาทิตย์และวันหยุดราชการ เปิดให้เข้าชมเวลา 8.00 - 18.00 น.

6.4 กิโลเมตร จากวัดร่องขุ่นถึงสิงห์ปาร์ค

  • มุ่งหน้าทางตะวันตกไปตามถนนหมายเลข 1208
  • เลี้ยวขวาหลังสี่แยกสมเกียรติมอเตอร์ไซด์ (ทางด้านซ้าย)
  • เลี้ยวซ้าย แล้วสิงห์ปาร์คจะอยู่ทางซ้ายมือ

สิงห์ปาร์ค หรือ ไร่บุญรอด เป็นไร่ของบริษัท บุญรอด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ เส้นทางเดียวกับวัดร่องขุน อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงาม ภายในสิงห์ปาร์ค มีการจัดแต่งสวนดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยงามนานาชนิด มีพื้นที่ เกษตรกรรมและไร่ชากว่า 600 ไร่ โดยจัดเป็นรูปแบบฟาร์มทัวร์ให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชม สิงห์ปาร์ค ปลูกพืชหลายชนิด ตามความเหมาะสมกับสภาพดิน มีชาพันธุ์อู่หลง รวมทั้งแปลงเกษตรผสมผสาน และกิจกรรมต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส

สิงห์ปาร์คเชียงรายเปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดปี

การบริการรถฟาร์มทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมไร่วันจันทร์-ศุกร์

รถฟาร์มทัวร์ให้บริการเป็นรอบๆ ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.00 น.โดยออกทุกครึ่งชั่วโมง

มีบริการให้เข้าจักรยานสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักในการปั่นโดยได้จัดทำเลนสำหรับจักรยานไว้โดยเฉพาะ

โดยมีจักรยานให้เลือก 2 แบบ คือ

  • จักรยาน 2 ที่นั่ง อัตราค่าบริการ
    • 1 ชั่วโมง 150 บาท
    • 2 ชั่วโมง 200 บาท
    • 6 ชั่วโมง หรือ 1 วัน 400 บาท
  • จักรยานเสือภูเขา อัตราค่าบริการ
    • 1 ชั่วโมง 100 บาท
    • 3 ชั่วโมง หรือ 1/2 วัน 250 บาท
    • 6 ชั่วโมง หรือ 1 วัน 400 บาท

โดยสามารถเช่าได้ที่ จุดที่ 3 บ้านแดง ซึ่งนำรถเข้าไปได้

นอกจากกิจกรรมขี่จักรยานแล้ว ในจุดที่ 3 เป็นส่วนของกิจกรรม Zip Line หรือโหนตัวให้เล่นด้วยกิจกรรม Zip Line มีทั้งหมด 4 ฐาน ราคาท่านละ 800 บาท สามารถมาจองคิวเล่น และใส่ชุดอุปกรณ์ที่บ้านแดง ครบ 6 คนถึงออก 1 รอบ โดยต้องขึ้นรถเข้าไปที่ไร่ชา แปลงที่ 2 ซึ่งอยู่ด้านในไร่


หลังจากรถรางพาวนท่องเที่ยวครบตามจุดกำหนด รถรางก็จะวนกลับมาจอดส่งหน้าร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของสิงห์ปาร์ค (ใกล้กับลานจอดรถ) ก็เลยแวะลงไปเดินเล่นดูของแล้วแวะดื่มกาแฟแก้วนึง นั่งไปนั่งมามองดูนาฬิกา 16.00 น. ใกล้ได้เวลาอาหารเย็นพอดี กลับโรงแรมกันดีกว่า มีหลายคนRecommend อาหารโรงแรมมา ว่าห้ามพลาด! อร่อยจนต้องร้องขอชีวิต! ไป! กลับไปพิสูจน์กัน!

11.9 กิโลเมตรจากสิงห์ปาร์คถึงโรงแรมสุขนิรันดร์

  • มุ่งหน้าทางตะวันออกไปยังถนนหมายเลข 1211
  • เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1211
  • ขับต่อไปยังถนนศรีดอนชัย
  • ขับต่อไปยังถนนราชโยธา
  • ขับตรงไปตลอดเพื่อวิ่งบนถนน ราชโยธา
  • เลี้ยวขวาหลังสี่แยกเดอะอันเดอร์ด็อกมวยไทยยิม (ทางด้านซ้าย)
  • เมื่อถึงวงเวียน ใช้ทางออกที่ 4 และวิ่งต่อไปบนถนนบรรพปราการ
  • โรงแรมจะอยู่ทางซ้าย

เชียงรายขับรถเที่ยวเองง่ายมากค่ะ เนื่องมาจากเส้นทางไม่ซับซ้อนและพิกัดของสถานที่ต่างๆ ถูกต้อง ชัดเจน ไม่มีหลง เลยทำให้มาถึงโรงแรมได้ไว ก่อนทานอาหารเย็น เลยมีเวลาเดินเล่นรอบๆ บริเวณโรงแรม ยิ่งสำรวจยิ่งเห็นความน่ารักที่ซ่อนอยู่ เลยเก็บภาพโรงแรมบริเวณชั้นแรกมาฝากค่ะ

"มุมนี้ห้ามพลาดเลยนะคะ เหมาะมากสำหรับการถ่ายรูป"

"กลีบของดอกแก้วร่วงหล่นลงมาบนพื้น หอมและสวยงามมากๆ ค่ะ"


"มีมุมให้นั่งพักผ่อนตามสบายอยู่หลายจุด"


"มีน้ำพุบริเวณส่วนกลาง การเคลื่อนไหวของน้ำทำให้รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา"


"เปลี่ยนบรรยากาศจากสำรวจสวน มาเป็นสำรวจห้องอาหารกันบ้างดีกว่าค่ะ"

มาเริ่มกันเลยค่ะ จานแรก Local Rocket

เป็นสลัดผักที่สดชื่นมากๆ ผักสดๆ ตัดกับรสของน้ำสลัดที่จัดจ้าน เข้ากันได้ดี

จานที่ 2 Cold Cuts Grilled Focacia


จานที่ 3 Pan Roasted Chicken

จานที่ 4 Mac & Cheese


และตบท้ายด้วย Honey Panna Cotta

รวมๆ แล้ว “สมคำร่ำลือ” ห้ามพลาดจริงๆ ค่ะ อิ่มแล้วไปเดินย่อยอาหารกันดีกว่า ระยะทางประมาณกิโลกว่าๆ แนะนำให้เดินเท้าออกกำลังกายชมเมืองยามค่ำคืนไปเลยค่ะ


เลี้ยวขวาจากโรงเเรมก็จะเจอหอนาฬิกา เดินตามถนนบรรพปราการไปเรื่อยๆ ถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวา เดินไปเรื่อยๆ ผ่าน Jatujak Gallery & Restaurant ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นตู้ ATM เยอะๆ ให้เลี้ยวซ้าย ถึงแล้วค่ะเชียงรายไนท์บาซาร์

"เดินกลับตามเส้นทางเดิม ถึงโรงแรมพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่"

วันที่สองของการเดินทาง

นอนหลับสบายมาก แทบไม่อยากลุกจากเตียงกันเลยทีเดียว แต่ไม่ได้นะ ที่เที่ยวรออยู่

เลยต้องลุกขึ้นอาบน้ำ ลงมาทานอาหารเช้า

"เริ่มด้วย Espresso หอมเข้มโดนใจที่นี่ใช้กาแฟ Arabica 100%"

"อาหารเริ่มมา...มาดูกันค่ะ ว่าเช้านี้ทานอะไรไปบ้าง"


"จานแรก Garden Salad "

"จานที่ 2 Eggs Benedict"

รวมๆ แล้วดีไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ คุณภาพและความสดใหม่ของวัตถุดิบ ทุกอย่างลงตัวและคัดมาอย่างดี เป็นประสบการณ์การเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีมากจริงๆ ค่ะ

หากมองไปจากลานจอดรถจะเห็นบ้านหลังนึงที่มีความโดดเด่น และมีลักษณะคล้ายๆ กับพิพิธภัณฑ์บ้านดำเลยลองถามพนักงานโรงแรมว่าคืออะไร ได้คำตอบมาว่า คือ บ้านจริงๆ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนีที่ตั้งอยู่ในเมืองนั่นเองค่ะ แต่ไม่ใช่ตัวพิพิธภัณฑ์ ซึ่งต้องออกไปนอกเมืองอีก 11.7 กิโมเมตร ไปค่ะ! งั้นวันนี้เราไปชมในส่วนของพิพิธภัณฑ์บ้านดำกันว่าจะสวยงาม อลังการเเค่ไหน

11.7 กิโลเมตรจากโรงแรมสุขนิรันดร์ถึงพิพิธภัณฑ์บ้านดำ

  • ใช้ถนนกลางเวียงไปทางถนนหมายเลข 1มุ่งไปตำบลริมกก
  • เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1 ขับตรงไปก็จะเจอพิพิธภัณฑ์


ถ้าขับรถไปเองไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถนะคะ มีลานจอดรถบริการฟรีอยู่ด้านใน ใกล้ๆ กับร้านที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึกเลยค่ะ


บ้านดำ หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้าน จิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมาย ทั้งทางด้านภาพเขียน และ ด้านปฏิมากรรมหลายชิ้น ลักษณะของบ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้านไม้ ศิลปะแบบล้านนา บ้านปูนรูปทรงแปลกตา บ้านเกือบทุกหลังทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” และยังเป็นสีที่ อ.ถวัลย์ โปรดปราน อีกด้วย ในบ้านแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควายมากกว่า 100 ชิ้น เขากวาง หนังจระเข้ เปลือกหอยขนาดใหญ่ และยังมีกระดูกสัตว์ เช่น กระดูกช้าง เป็นต้น


บ้านดำ หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

ที่ตั้ง 333 ม.13 ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย 57100

เว็บไซต์ http://www.thawan-duchanee.com/

เบอร์โทร. 053-776-333

เปิดให้บริการ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.

ค่าเข้าชม 80 บาท ราคาเดียว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ผู้ที่ได้รับยกเว้นค่าเข้าชม

  • เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร
  • นักเรียน/นักศึกษา ในเครื่องแบบหรือแสดงบัตรนักศึกษา
  • ข้าราชการ ในเครื่องแบบหรือแสดงบัตร
  • มัคคุเทศก์ ที่แสดงบัตรประจำตัว
  • พระภิกษุสงฆ์ ผู้ทรงศีลทุกศาสนา
  • สตรีมีครรภ์
  • ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
  • ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพทุกประเภท
  • องค์กร/หน่วยงาน ของภาครัฐและเอกชนผู้ซึ่งติดต่อมาล่วงหน้า
  • โรงเรียน/สถาบันการศึกษาที่มาทัศนศึกษา



10.5 กิโลเมตรจากพิพิธภัณฑ์บ้านดำถึงวัดร่องเสือเต้น

  • ย้อนกลับเส้นทางเดิม (เข้าตัวเมือง)
  • เดินทางต่อไปยังตำบลบ้านดู่ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 1
  • เดินทางต่อไปบนถนนแม่กกก็จะเจอวัดร่องเสือเต้น

วัดร่องเสือเต้นตั้งอยู่ที่ชุมชนร่องเสือเต้น ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ไฮไลต์ที่สำคัญอยู่ที่ พระอุโบสถใหม่ที่สร้างขึ้น ด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ ที่มีศิลปะที่มีความสวยงดงามแปลกตา จากฝีมือการรังสรรค์ของ นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และเคยเข้าไปทำงานที่วัดร่องขุ่นเป็นศิลปะประยุกต์ที่ เป็นเอกลักษณ์ใช้เฉดสีเป็นสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทอง ลวดลายต่างๆ ที่พริ้วไหวนั้น สล่านกได้จากการเรียนรู้จากอาจารย์ แต่ศิลปะของ อาจารย์จะ ใช้โทนสีขาว และมีการใช้กระจก แต่ของสล่านกดัดแปลงมาเป็นการใช้สีน้ำเงินฟ้าแทนเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะ ประติมากรรมบันไดพญานาคที่ใช้เฉดสีเดียวกันนั้นมีความชดช้อยและลวดลายแตกต่างจากประติมากรรมทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ได้นำเอารูปแบบผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พ.ศ.2544 ผู้สร้างบ้านดำ จ.เชียงราย ที่มีความโดดเด่นเรื่อง เขาและงามาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะช่วงเขี้ยวของพญานาคมีความพลิ้วไหว อ่อนช้อย โดยพระวิหารแห่งนี้ให้นิยามว่าเป็นทิพยสถาน คือ เป็นการสรรเสริญพระพุทธเจ้าทั้งในรูปแบบของประติมากรรมและจิตรกรรม เมื่อคนเข้าไปมีจิตใจดีก็จะรักษาศีลก่อให้เกิดสมาธิ และปัญญาตามมา

6 กิโลเมตรจากวัดร่องเสือเต้นถึงวัดห้วยปลากั้ง

  • มุ่งหน้าทางตะวันตกเลี้ยวขวาไปยังถนนแม่กก
  • เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน หมายเลข 1207
  • เลี้ยวขวา เข้าสู่ถนนบ้านห้วยปลากั้ง
  • เลี้ยวซ้ายอีกที
  • วิ่งตรงไปก็จะเจอวัดห้วยปลากั้งตั้งเด่นสง่า

วัดห้วยปลากั้งตั้งอยู่ในตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงรายที่สวยงามตั้งอยู่บนเขา และมีเนินเขารายรอบวัดสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ คือ " พบโชคธรรมเจดีย์" ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงถึง 9 ชั้น รูปทรงแปลกตาลักษณะเป็นทรงแหลม ศิลปะจีนผสมล้านนา หลังคาสีแดงมีรูปปั้นมังกรทอดยาวทั้งสองข้างบันได ล้อมรอบด้วยเจดีย์ เล็กๆ 12 ราศี วัดห้วยปลากั้งเป็นวัดซึ่งชาวบ้านนับถือและเชื่อกันว่าหากใครได้มาเยือนจะหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระอรหันต์ต่างๆ ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันหอมองค์ใหญ่ สาเหตุ ที่เจดีย์ 9ชั้นนี้มีชื่อว่า พบโชคธรรมเจดีย์ เนื่องด้วยวัดห้วยปลากั้งแห่งนี้เป็นวัดร้างมาตั้งแต่โบราณกาลไม่ทราบประวัติการสร้างแน่ชัด แต่มาพระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส ได้บูรณะและก่อสร้างถาวรวัตถุขึ้นจำนวนมากจึงกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงรายอีกครั้ง

7 กิโลเมตรจากวัดห้วยปลากั้งถึงโรงแรมสุขนิรันดร์

  • ใช้ถนนหมายเลข 1207เข้าซอยแม่ฟ้าหลวงและถนนวินิจฉัยกุล ไปทางถนนประตูเชียงใหม่
  • มุ่งไปตำบลรอบเวียง เทศบาลนครเชียงราย
  • ขับต่อไปบนถนนบรรพปราการก็จะเจอโรงแรม

บ่ายๆ แบบนี้ แนะนำเลยค่ะ Afternoon Tea มีชาให้เลือกหลากหลาย เสิร์ฟพร้อมอาหารทานเล่นและขนมมากมายพร้อมไซรัปหลากรส

เปลี่ยนบรรยากาศ จอดรถแล้วไปเดินสำรวจเมืองกันบ้างดีกว่า ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามโรงแรมเดินไปจนถึงสี่แยกหอนาฬิกาเลี้ยวซ้ายก็จะผ่านตลาดสด เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับวัดพระสิงห์

วัดพระสิงห์เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ที่ ถนนท่าหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มี สาเหตุที่วัดนี้ มีชื่อว่า “วัดพระสิงห์” นั้น น่าจะเป็นเพราะครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของ ประเทศไทย คือ พระพุทธสิหิงค์ หรือที่เรียกกันในชื่อสามัญว่า“พระสิงห์”ปัจจุบันวัดพระสิงห์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ (หรือพระสิงห์) จำลองศิลปะเชียงแสน ปางมารวิชัย ชนิดสำริดปิดทอง หน้าตักกว้าง 37 เซนติเมตร สูงทั้งฐาน 66 เซนติเมตร

กด Google Map เดินตามแผนที่มาเรื่อยๆ ก็จะเจอ วัดพระแก้ว

วัดพระแก้วตั้งอยู่ที่ถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย วัดนี้เองที่ได้ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้า สามฝั่งแกน เป็นเจ้าเมือง ครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่า เจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบ พระพุทธรูปลงรักปิดทอง อยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออก จึงได้พบว่า เป็นพระพุทธรูป สีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือ พระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบัน วัดพระแก้ว เชียงราย เป็นที่ประดิษฐาน พระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ ในวาระที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา
เสร็จจากเดินลัดเลาะไหว้พระ ก็มีเจ้าถิ่นมารับไปทานอาหารพื้นเมือง ร้านอาหารหลูลำ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ที่เปิดบริการมาเกือบ 40 ปี บรรยากาศดีริมแม่น้ำกก เป็นอาหารเหนือที่รสชาติจัดจ้านกว่าที่เคยทาน แต่หากมาเชียงรายแล้วอยากทานอาหารพื้นเมือง ก็ควรแวะมาทานที่นี่สักมื้อรับรองไม่ผิดหวัง หมดไปอีก 1 วัน กลับโรงแรมไปพักผ่อนกันดีกว่า

วันที่สามของการเดินทาง

วันนี้เป็นวันเตรียมตัวเดินทางกลับแล้วก็ต้องมาเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินทางกันหน่อย ตื่นสายๆ สบายๆ แล้วพาร่างกายไปเข้าฟิตเนส ฟิตเนสที่นี่ตั้งอยู่ชั้น 2 เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง สะดวกเล่นตอนไหน เชิญได้ตามสบาย


เล่นฟิตเนสเสร็จอาบน้ำเก็บข้าวเก็บของลงไปเดินเล่นรอบบริเวณโรงแรมและใกล้เคียง หากาแฟดีๆ ดื่มสักแก้ว ขนมสักชิ้นน่าจะตอบโจทย์เช้านี้ได้ดี จำได้ตอนเดินสำรวจในเมืองเมื่อวานมีร้านกาแฟร้านนึงชื่อว่า “ปางขอน” ไป! ต้องไปโดน!

ร้านกาแฟปางขอน เมนู Signature คือ “ปางขอน” อ่านไม่ผิดค่ะ เป็นชื่อเดียวกับชื่อร้านเลย ลองสั่งมาดื่มแบบเย็นพร้อมกับเค้กบัตเตอร์ชิ้นนึง ชดเชยพลังงานที่เสียไปเมื่อเช้า 555+
ทอดสายตาจิบกาแฟมองความเป็นไปของเมือง เช็คข่าวสารได้สักพักใหญ่ ก็เดินย้อนกลับมาซื้อของฝาก (ตรงข้าม รร.เลยจร้า)

"ได้ของฝากแล้ว กลับโรงแรมเตรียม Check Out กลับบ้านกันค่ะ"


"คืนคีย์การ์ด Check Out เตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน ด้วยความทรงจำดีดี ยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ที่ไม่ได้ไป ถ้ามีโอกาสมาเชียงรายใหม่ จะกลับมาพักที่นี่อีกแน่นนอน"


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวไปกับ Wherever ได้ที่

Facebook: www.facebook.com/Wherever

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆ ค่ะ ^^

Wherever

 วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.31 น.

ความคิดเห็น