เชียงใหม่หรรษาจ้าว @ Bamboori Boutique Resort




เชียงใหม่อีกกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ อยากมาบ่อยๆ มาเรื่อยๆ มาได้ทุกครั้ง มาได้ทุกวัน ทุกโอกาสที่มีโอกาสได้มา…

ครั้งนี้เข้าพักที่ Bamboori Boutique Resort ที่นี่คือดีงาม ใกล้สนามบินมากกกก มีบริการรถรับ-ส่ง จากสนามบิน สถานที่ตั้งอยู่แทบจะกลางเมือง แต่ไม่เหมือนอยู่ในเมือง เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนที่สุด แต่…ถ้าอยากจะไปเที่ยวก็เดินทางใกล้นิดเดียว ไม่ถึงสิบนาที ถึงถนนนิมมานเหมินทร์ จะไปไหว้พระดอยสุเทพก็ไม่ไกล หรือจะไปสวนสัตว์ยิ่งใกล้เข้าไปอีก คือดีจริงๆ



งั้นตามมาดูห้องพักกับบรรยากาศที่นี่กัน ห้องพักที่นี่จะค่อนข้างกว้างนะ เตียงใหญ่นอนสบายเลย ตกแต่งเรียบง่ายงานไม้ผสมกับความเป็นไทย สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบ มีภาพวาดเรื่องราววรรณคดีไทย โชว์อยู่ในมุมต่างๆ งามสง่า…









Bamboori Boutique Resort มีพื้นที่ไม่ใหญ่โตมากมาย ขนาดกลางๆ การตกแต่งและโครงสร้างเกือบทั้งหมดพยายามนำไม้มาใช่ให้ดูเหมือนเราอยู่กับธรรมชาติ ทางเข้าตั้งแต่ด้านหน้าก็มีซุ้มต้นไผ่ ยาวมาจนถึงหน้าตัวรีสอร์ตเลย อย่างที่บอกไปตอนแรก ที่นี่เงียบสงบดีมาก มีความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย เพราะตัวที่พักจริงๆ หลบเข้ามาจากถนนใหญ่เกือบสองร้อยเมตร ชอบมาก…







หลังจากพาชมแล้วก็ขอพัก่อนก่อนนะ ครั้งนี้มีเวลาสองคืนที่นี่ วันแรกมาถึงก็สายบ่ายเย็นแล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปเที่ยวกัน ลืมบอกมีสระว่ายน้ำด้วยอยู่ด้านนอกตัวอาคาร บรรยากาศดีมากยิ่งตอนเย็นพระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้า บรรยากาศยิ่งดี…







สระว่ายน้ำ บรรยากาศดีเนอะ…


รับชมบรรยากาศ รีสอร์ตได้ที่นี่ https://youtu.be/di8PX8HAqQU


เช้าแล้วหลังจากออกกำลังกาย ก็ลงมาทานเช้าที่ห้องอาหาร ก็ยังคงรูปแบบของงานไม้ ผสมผสานภาพวาดศิลปะวรรณคดีไทย ก็เท่ห์ดีนะ วันนี้ช่วงเช้าจนถึงเทียงฝนตก ก็ไม่ได้ออกไปไหน เข้าทางเลย กินแล้วก็นอน รอฝนหยุดค่อยออกไปลุย ตอนเที่ยงก็ฝากท้องไว้กับห้องอาหารของที่นี่แหละ อยากบอกว่าอร่อยมาก มีเมนู ข้าวผัดสัปปะรด ต้มยำกุ้ง คอหมูย่าง ตามภาพเลยจ๊ะ…






บรรยากาศห้องอาหาร…


ข้าวผัดสัปปะรด กุ้ง…


คอหมูย่าง…


ต้มยำกุ้ง…


อร่อยจ้าววววว…


จริงๆฝนหยุดตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้วล่ะ แต่ก็ตั้งใจไว้แล้ว่ากินข้าวเที่ยงให้เรียบร้อย รอบ่ายๆค่อยออกไปไหว้พระที่วัดอุโมงค์ ที่อยู่ใกล้ๆกับไปหา ชา กาแฟดื่มตอนบ่าย…

เกือบบ่ายสองได้เวลาเที่ยว เช่ามอไซค์ที่เคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ ที่นี่มีให้บริการเช่ามอเตอร์ไซค์ด้วยนะ ขับออกจากรีสอร์ต เข้าถนนสุเทพ มองหายูเทรินแรกเลย จากนั้นเลียวเข้าซอยวัดอุโมงค์ วิ่งไปตาม goggle maps ไม่ถึงสิบนาทีถึงแล้ว…



วัดอุโมงค์(สวนพุทธธรรม) วัดเก่าแก่อายุกว่าเจ็ดร้อยปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามังรายมหาราช ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ ทรงขนานนามว่า “วัดเวฬุกัฏฐาราม” ต่อมาในรัชสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช พระองค์ได้บูรณะวัดเวฬุกัฏฐารามขึ้นใหม่ ทรงสร้างอุโมงค์ถัดจากฐานพระเจดีย์ด้านเหนือขึ้น มีทางเข้าออก 4 ช่อง แต่ละช่องทางเดินสามารติดต่อกันได้ทุกทาง ภายในเพดานอุโมงค์ยังมีภาพเขียนสีน้ำมันด้วย ประวัติโดยย่อที่สุด ใครอยากทราบข้อมูลก็สามารถค้นหาได้ไม่ยาก



คราวนี้มาว่ากันถึงความรู้สึกจริงๆกันบ้าง เข้ามาในวัดรับสัมผัสถึงความสงบ ร่มเย็นทันที วันนี้ผู้คนในวัดไม่มาก มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แสงแดดอุ่นๆเวลาประมาณบ่ายสามก็ไม่ได้ร้อนมาก ได้ร่มเงาจากต้นไม้ บรรยากาศร่มรื่น บริเวณกำแพงด้านหน้าก่อนเข้าอุโมงค์ จะถูกปกคลุมด้วยมอสเขียวไปทั้งกำแพง ด้านขวามือ จะมีสวนคล้ายพิพิธภัณฑ์เศียรพระพุทรูป มีรูปปั้นพระพุทธรูปเก่าๆ วางอยู่มากมาย สวยงาม











เข้าไปด้านในอุโมงค์จะรู้สึกเย็นสบาย สามารถเดินทะลุไปมาหากันได้ทุกเส้นทาง มีเส้นทางทะลุไปด้านหลังเพื่อเดินไปชมเจดีย์ วัดอุโมงค์ ที่อยู่ด้านบนสุด ถ้าขึ้นไปแล้วจะเห็นหลังคาอุโมงค์ด้วย










ใช้เวลาไหว้พระ เดินชมไปทั่วบริเวณก็ได้เวลากลับ ต้องบอกเลยว่าชอบบรรยากาศที่นี่มากๆ สงบ ร่มเย็น ร่มรื่น เข้ามาแล้วรู้สึกสบายใจจริงๆ…


เกือบห้าโมงเย็นไปหาขนมกินดีกว่า คราวนี้แว๊นซ์กันยาวๆเลย ไปหาร้านกาแฟชื่อ The Baristro at Ping River เค้าบอกกันมาว่าร้านนี้เฉียบ…


ออกจากวัดอุโมงค์ บิดกันยาวๆ ออกมาทางไหนก็ไม่รู้เพราะวิ่งมาตาม goggle maps เหมือนจะออกมานอกเมืองนิดๆ แต่ไม่ไกลมาก รวมเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง มาถึงแล้ว อาคารคล้ายบ้านตึกสีขาว แบ่งเป็นสองโซน ส่วนของการสั่งชา กาแฟ ขนมเค้ก มีที่นั่งด้วยนะ กับอีกส่วนอันนี้คล้ายๆเข้าไปในบ้าน มีเป็นห้องๆ มีโซฟา เฟอร์นิเจอร์ เซ็ตเป็นโต๊ะๆ เก๋และเท่ห์มากมาย มีชั้นบนด้วย อีกส่วนด้านหลังบ้านจะติดชิดริมน้ำปิง มีท่าน้ำยื่นออกไปด้วย การใช้สีและการออกแบบคือ เรียบง่ายแต่โคตรเท่ห์ เค้กก็อร่อย เครื่องดื่มรสชาติดี มุมถ่ายรูปพรึ่บ ให้เต็มสิบเลย…














อยู่กันจนเย็นย่ำค่ำมืด นั่งกันเพลิน ถ่ายรูปให้เพียบ ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อน ไม่กินอะไรแล้วกลับถึงที่พักนอนดีกว่า พรุ่งนี้มีเวลาครึ่งวันเช้า พาไปเที่ยวอีกวัด วัดนี้ก็สวย ตามมาๆ…


เช้าวันที่สอง ที่เชียงใหม่ วันนี้อากาศดี เราจองตั๋วเรือบินเที่ยวกลับบ้านไว้ บ่ายสี่โมงเย็น มีเวลาอีกครึ่งวันกว่าๆ หลังจากอาหารเช้าที่รีสอร์ต ก็ออกแว้นซ์กันเลย วันนี้จะไปไหว้พระวัดเจ็ดลิน อีกหนึ่งวัดสวยของเมืองเชียงใหม่…


วัดเจ็ดลิน ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเมือง ถ.พระปกเกล้า ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ถ้าเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกแบบคุ้นเคยจะชื่อ วัดหนองจริน คำว่า ลินแปลความตามภาษาเหนือ คือ รางน้ำ เมื่อนำมารวมกัน วัดเจ็ดลิน หมายถึง วัดรางน้ำทั้งเจ็ด


ในอดีตกาล กษัตริย์ทุกพระองค์ ในราชวงศ์มังราย ก่อนจะขึ้นเสวยราชย์ ต้องไปประกอบพิธีสรงน้ำพุทธาภิเษก ณ หนองน้ำวัดเจ็ดลิน จากนั้นจึงเปลี่ยนเครื่องทรงกษัตริย์ขึ้นเสวยราชย์ต่อไป


จุดเด่นสำคัญของวัดเจ็ดลิน ที่ผู้มาเยือน หรือผู้มาไหว้พระขอพร ต้องขอเก็บภาพเป็นที่ระลึก คือ สะพานโต่วะ โต่วะ เป็นภาษากะเหรี่ยง ไม่ไผ่ สรุปคือ สะพานไม่ไผ่นั้นเอง ตัวสะพานจะอยู่ด้านหลังของวัด ทอดยาวผ่านหนองน้ำ ในหนองน้ำก็มีบัวกระด้ง หรือ บัววิกตอเรียขนาดใหญ่ บริเวณราวสะพานจะประดับไปด้วยโคมไฟหลากสี ดูตามภาพได้เลย นอกจากจะมีสะพานโต่วะ เป็นจุดเด่นแล้ว ภายในวัดยังมี เจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม และศาลาริมน้ำ เหมาะกับการนั่งพักผ่อน พักใจพักกาย…



















ใกล้เที่ยงเราก็ออกจากวัดเจ็ดลินกลับ รีสอร์ต เที่ยงนี้ฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารของทาง Bamboori Boutique Resort





เที่ยงนี้เป็นสปาเกตตีขี้เมาทะเล กับ ผัดไทยกุ้งสด มีชาเย็นด้วย อิ่มและอร่อยเหมือนเดิม ก่อนเดินทางกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวเดินทางในครั้งต่อไป…


ขอขอบคุณ Bamboori Boutique Resort ที่พักสงบ ร่มรื่น นอนหลับสบาย อาหารอร่อย ใครสนใจ ก็ตามนี้เลยจ๊ะ…


https://m.facebook.com/bambooriboutiqueresort/?refid=12

ที่ตั้ง : 141 ม.10 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200

#BambooriBoutiqueResort #วัดอุโมงค์ #วัดเจ็ดลิน #คนฟ้าป่าน้ำ

คน ฟ้า ป่า น้ำ

 วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.58 น.

ความคิดเห็น