Ayutthaya (1) : 3วัน 2คืน อยุธยา การท่องเที่ยวเชิงกุ้งเผา "ใหญ่ ยาว มัน ถูก หวานเจี๊ยบ"

กลับมาแล้วจ้าาาาา หลังจากห่างหายจากการรีวิวไปนาน ไม่ใช่อะไรนะ ฝนตก!!! น้ำท่วมไปเลย 😆

คราวนี้เราเอารีวิวอยุธยาแบบค้างคืนมาฝากกัน คนส่วนมากอาจจะเคยไปแค่เช้าเย็นกลับ เพราะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ใกล้มากกกกก

ครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ลูกรักของแฟนเหมือนเดิม

สำหรับใครที่ไม่มีรถ สามารถนั่งรถตู้มาได้ รถตู้จะจอดบริเวณตลาดเจ้าพรหม จ.พระนครศรีอยุธยา จากบริเวณนั้นจะมีทั้งรถรับจ้าง รถสองแถว และร้านเช่ามอเตอร์ไซค์หรือจักรยาน

หรือถ้ามารถไฟขึ้นที่สถานีหัวลำโพง หรือสถานีที่สะดวก แล้วลงที่สถานีพระนครศรีอยุธยา จากสถานีรถไฟต้องนั่งเรือข้ามฟาก มาที่ฝั่งตลาดเจ้าพรหมจะสะดวกที่สุดนะคะ

และก็เช่นเคย พอเห็นเป็นจังหวัดใกล้ๆก็ตื่นสาย 555 รอบนี้ออกสายกันนิดนึงค่ะ อย่างว่าแหละมันใกล้ อีกทั้งเราตัดสินใจค้างคืน เราเลยมีเวลาพอสมควร จุดประสงค์หลักของเราน่ะเหรอ มันก็ต้องกุ้งเผาน่ะสิ อิอิ ป่ะ ลุย!!

จุดแรกของเราก็คือ วัดไชยวัฒนาราม ถ้าใครไม่รู้จักเชยนะออเจ้า 😁 ที่นี่ก็คือวัดที่อยู่ในละครเรื่องดังช่อง 3 และก็เพราะละครเรื่องนี้แหละ ที่ช่วยปลุกกระแสให้คนเดินทางมาที่วัดนี้แบบเยอะขึ้นมากกกกก

อีกทั้งร้านที่เคยเป็นร้านขายของธรรมดาบริเวณนั้น กลายเป็นร้านที่ให้เช่าชุดไทย ทั้งแถบเลยจ้า 5555 สำหรับใครที่รู้สึกว่าไปเดินเฉยๆแล้วไม่อิน ลองเช่าชุดใส่แล้วมาถ่ายรูปเก๋ๆ ก็ได้นะ

จริงๆแล้วทุกวัดในอยุธยามีค่าเข้านะคะ คนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท แต่พักหลังมานี่เห็นยกเว้นค่าเข้าบ่อยอยู่นะ ใครมาถูกจังหวะก็อาจจะได้เข้าฟรีค่ะ

เดินทางกันมาอย่างยาวนานหวานเย็นมากๆ เราเลยขอเดินทางเข้าที่พักค่ะ ทริปนี้เนื่องจากมีรถมาเอง เลยเลือกพักเขยิบออกไปจากเมืองนิดนึงค่ะ โรงแรม Ayutthaya Bouchic Hostel ขอแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจจะมาเข้าพักโรงแรมที่อยุธยานะคะ โรงแรมที่นี่ถ้าเป็นที่พักแบบLocal ไม่ใช่โรงแรมที่มีแบรนด์ (หมายถึงเป็นแบรนด์โรงแรมที่มีสาขาหรือเรารู้จักกันดี มีระดับดาว) เขาจะคลาสสิคมากนะคะ ห้องที่เราได้ตกแต่งแบบโบราณ มีไม้ฉลุ มีปูนปั้น ประตูเป็นกลอนหับ แต่เป็นห้องแอร์ค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะค่ะ เพราะไม่ค่อยได้อยู่ในห้อง ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหา ชอบห้อง แต่แฟนกลัวค่ะ5555

พักผ่อนสักแป๊บนึง ก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ ช่วงเวลาสำคัญมาถึงแล้ว เรากำลังจะไป ตลาดกรุงศรี night market ไปกินกุ้งงงงง เย่ 😋 พิกัด : https://goo.gl/maps/YVwu4rDGTVFguBZJ8

ต้องบอกว่า ที่เราเลือกที่นี่ เพราะหลายอย่างอร่อยและราคาถูก อย่างน้องกุ้งถาดนี้ที่ตกเป็นเหยื่อของเรา ตัวใหญ่สุดในร้านตัวละ 500 เท่านั้น ซึ่งเป็นไซส์เดียวกับที่ข้างนอกขายกันตัวละ 800 คุณพระช่วย😲 ทางเราเลยจัดไป 2 ตัวและไซส์กลางตัวละ 300 อีก 1 ตัว เอาให้มันจุก!!!!

สำหรับใครที่มีงบประมาณจำกัด หรือรู้สึกว่าน้องตัวใหญ่ฉันไม่กล้ากิน (จะมีคนรู้สึกแบบนี้จริงเหรอ5555) ไซส์เล็กสุดจะอยู่ที่ 100 บาท มีมันที่หัวทุกตัวรับประกัน มาช้าหมด อดแน่จ้า เพราะคนเยอะสุดๆ เราไปนั่งได้ ไม่ถึง 20 นาที กุ้งทยอยหมดไปทีละไซส์ๆ

อิ่มท้องแล้ว ก็ตัดสินใจเข้าโรงแรมค่ะ พักผ่อน

เช้าวันรุ่งขึ้นมาถึงแล้วจ้า ไหนๆมาอยุธยาแล้วจะเที่ยววัดเดียวมันเป็นไปไม่ได้ หลังจากหาอะไรง่ายๆทานตอนเช้าแล้วนะคะ ก็ออกเดินทางไปที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นอยุธยารอบที่ร้อยแล้วมั้งในชีวิต5555 หลายๆอย่างเลยอาจจะดูข้ามไป เราไม่ได้เข้าวิหารพระมงคลบพิตร ส่วนตัวอยากไปถ่ายรูปเจดีย์ทั้งสามองค์ในวัดพระศรีสรรเพชญ์มากกว่า เพราะคราวก่อนที่มาไม่รู้นึกยังไงแต่มาเข้าวัดนี้ตอนกลางคืน ภาพเลยออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ ลองเปิดใจไปเดินตอนกลางคืนดูนะคะ ช่วง หกโมง - หนึ่งทุ่ม ดูขลังมาก

แต่วันนี้ไหนๆมาตอนกลางวันแล้ว มาซ้ำรอยเดิมสักหน่อย

จากนั้นออกเดินทางไปต่อแบบใกล้ๆ ที่วัดมหาธาตุ วัดนี้มี unseen ที่ดังไปทั่วโลก เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของจังหวัดไปแล้ว ก็คือเศียรพระที่อยู่ในรากของต้นโพธิ์

อยู่ไปอยู่มาเหมือนจะติดใจ ขี้เกียจกลับค่ะ555 เลยตัดสินใจอยู่ต่ออีก 1 คืน เลยหาที่พักแบบเร่งด่วน ผ่าน traveloka ได้ที่พักในราคาที่โอเคมา และรู้สึกว่าโลเคชั่นอยู่ใจกลางดีก็เลยตัดสินใจจองค่ะ พอเข้าไปเช็คอินน่ากลัวกว่าที่แรกอีกค่ะ55555 ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ในเรื่องของความสะอาดและไม่มีรูปถ่ายนะคะ ไม่ได้อยู่ห้องหนักกว่าเดิมอีกทีนี้ ออกไปขับรถเล่นเพลินเลยค่ะ

เช้าวันสุดท้าย ตัดสินใจกลับจริงๆแล้วค่ะรอบนี้ แต่ก่อนจะกลับ เราได้แวะไปที่หมู่บ้านญี่ปุ่น ดูพนักงานต้อนรับสิ หน้าตารับแขกไหมล่ะ

ด้านในจะเป็นพิพิธภัณฑ์ มี 3 อาคาร แสดงถึงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น แล้วก็ช่วงประวัติศาสตร์ที่ญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทในอาณาจักรอยุธยา รวมถึงเรื่องราวของท้าวทองกีบม้าด้วย มีค่าเข้าชมคนละ 50 บาท

ภายในมีการจัดสวนบรรยากาศแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ติดอยู่เรื่องเดียว แดด!!!! 😁