ทริปดำน้ำ ชมปะการัง กินซีฟู๊ด ที่เกาะช้าง นอน Awa Resort (ช้างทัวร์ดอทเน็ต)

มีคนเคยบอกไว้ว่า ถ้าเราข้ามสะพานมาที่เกาะช้างแล้ว จะต้องมีโอกาสได้กลับมาอีกครั้ง

แล้วมันก็จริง เพราะ STOP ME รู้ตัวอีกที ใจมันก็พามาถึงที่นี่แล้วค่ะ ^____^

สำหรับตลอด 3 วัน 2 คืน ของทริปนี้ STOP ME ได้เลือกใช้บริการของ Changtour.net หรือ ช้างทัวร์.เน็ต ทัวร์เกาะช้าง ที่รวม Package ทั้งที่พัก, อาหาร, และกิจกรรมดำน้ำไว้หมดแล้ว

กิจกรรมดำน้ำ

กิจกรรมดำน้ำ ถูกจัดขึ้นโดยใช้เวลา 1 วัน ซึ่งทางทีมงานจะมีรถตู้มารับเราที่โรงแรม เพื่อพาเราไปขึ้นเรือ และจะอยู่ดูแลเราตลอดเวลาจนจบทริปค่ะ

Snorkeling

ต้องบอกเลยว่าช่วงที่ STOP ME ไป ถือว่าเป็นช่วงที่โชคดีมาก ๆ เพราะวันนั้นคนน้อยสุด ๆ จนเจ้าหน้าที่แซวว่าวันนี้คือการตีตั๋วนอนเลยทีเดียว 55 สำหรับใครที่ขึ้นเรือมาแล้ว เค้าจะมีห้องน้ำ 2 ห้องให้เปลี่ยนชุด หลังจากเปลี่ยนชุดแล้วก็ต้องใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยนะคะ

เราจะไปทั้งหมด 5 เกาะด้วยกัน ได้แก่เกาะยักษ์ใหญ่, เกาะยักษ์เล็ก, เกาะรัง, เกาะมะปริง, และหาดอุทยาน ซึ่งแต่ละจุดจะมีปะการังและปลาสวยงามมากมาย ที่สำคัญคือถ้าในช่วงที่น้ำลด จะต้องระวังเท้าเหยียบหอยเม่นนะคะ ดังนั้นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองค่ะ

Coral and sea fish

Highlight ของที่นี่ คือปะการังที่มีสีสันสวยงาม, ดอกไม้พันปี, และอื่น ๆ อีกมากมายให้เราได้ชมกันค่ะ สำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นไม่ต้องห่วงเลยนะคะ เพราะทางเจ้าหน้าที่นั้นจะเป็นคนพาเราไปชมวิวตามจุดต่าง ๆ ได้อย่างไม่พลาดทีเด็ดแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ยังคอยดูแลความปลอดภัย ถ้าเมื่อไหร่ที่กระแสน้ำแรงขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จะพาเรากลับมายังจุดที่ปลอดภัยทันทีค่ะ

กิจกรรมชิล ๆ หลังจากดำน้ำ

หลังจากดำน้ำแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะพาเรามายังชายหาดค่ะ ซึ่งเราจะมีเวลานั่งเล่นแบบชิล ๆ ได้สักพักนึงก่อนกลับค่ะ

The beach

หาดนี้นอกจากจะมีทรายให้นั่งเล่นแล้ว ยังมีชิงช้า รวมถึงมีน้องกวาง (ไม่แน่ใจว่าคือสัตย์อะไร แต่รูปร่างคล้ายกวาง ตัวเล็ก ๆ) น้องน่ารักมากกกก เดิมมาหา พร้อมกับหาใบไม้กิน สามารถจับได้ ลูบได้ค่ะ

The clearly sea

นอกจากนี้ น้ำยังใสมากกก ขนาดที่ STOP ME เดินลงไปถึงเอวแล้ว ก็ยังมองเห็นพื้นทรายชัดเจน แถมมีปลาว่ายวนเวียนรอบ ๆ ตัวเราด้วยค่ะ ชอบในความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่จริง ๆ

The beach

GO PRO HERO 7 BLACK

สำหรับภาพบรรยากาศแทบทั้งหมดนั้น ถูกบันทึกด้วยกล้อง GO PRO HERO 7 BLACK ฟรี!! โดยทางทีมงาน หรือน้องเรย์ เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลเราตลอดทั้งทริปนั่นเอง ซึ่งสามารถดาวน์โหลดภาพได้จากหน้าเพจ Changtour.net ได้เลยค่ะ (สำหรับใครที่ไม่ได้ซื้อทัวร์ สามารถขำเช่ากล้องจากทางเรือได้นะคะ)

AWA Resort Hotel

โรงแรมที่เราเลือกพักกันนั้นคือ AWA Resort Hotel หรือ เอวา รีสอร์ท ซึ่งถือเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเกาะช้างสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกโรงแรมนึงเลยก็ว่าได้ ที่นี่ออกแบบตกแต่งโทนสีครีมและน้ำเงิน ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งสบาย บริการครบทั้งรถกอล์ฟรับส่ง, Spa และ Massage ริมหาด, ห้องอาหารริมทะเล, Bar, สระว่ายน้ำแบบ infinity และอื่น ๆ อีกมากมาย

External hotel

Swimming pool

Hills side

Room

Discount 20% for guests

ภายในห้องนอนมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โทรทัศน์, มินิบาร์, ผ้าขนหนูสำหรับใช้ในห้อง, ผ้าขนหนูสำหรับไปสระว่ายน้ำและดำน้ำข้างนอก ที่ STOP ME รู้สึกชอบมาก ๆ เลยคือเราสามารถเปิดประตูด้านข้างออกไปเป็นระเบียง นั่งชมวิวสวน หรือนั่งชิล ๆ ได้ อีกทั้งห้องน้ำก็ยังกว้างขวาง แยกโซนชัดเจนค่ะ

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่เข้าพัก ทางโรงแรมยังมอบคูปองส่วนลด 20% ให้มา 2 ใบ เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรมอีกด้วยค่ะ (จำกัดการใช้ 1 ใบ ต่อ 1 บิลนะคะ)

Massage

ใครชอบ Spa ผิวและนวด massage ผ่อนคลาย ละก็ ต้องมาที่นี่เลยค่ะ เพราะทางโรงแรมมมีบริการนวดหลากหลายรูปแบบ ทั้งนวดแผนไทย, นวดอโรม่า, นวดหน้า, นวดสมุนไพร, นวดอโรเวร่า, และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญ!! ถ้ามาเป็นคู่ก็นวดน้ำมันเพียงแค่ 999 จาก 1,200 บาทไปเลยจ้า!! หรือถ้ามาเดี่ยวก็จ่ายแค่ 899 บาท จากปกติ 1,200 บาทเช่นกัน!!

Promotion for massage

Duo Oil massage

Duo Oil massage room

Black underwear for oil massage

Hot Jasmine tea

STOP ME ได้มีโอกาสลองซื้อ Duo oil massage package ซึ่งต้องบอกเลยว่า ที่นี่มันดีย์ม๊ากกก!! สำหรับการนวดอื่น ๆ จะเป็นการนวดริมหาด แต่นวดน้ำมันนี้จะมีห้องนวดโดยเฉพาะค่ะ มาถึงก็เปลี่ยนเป็นกางเกงในผ้าสีดำของที่ทางพนักงานยื่นให้ จากนั้นก็นอนก้มหน้าค่ะ

ซึ่งการนอนก้มหน้านี้ ด้านล่างจะเป็นน้ำโรยด้วยดอกลีลาวดีและดอกเข็ม ให้กลิ่นหอมจาง ๆ เพื่อความผ่อนคลายค่ะ จากนั้นทางพนักงานจะมานวดให้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งความรู้สึกตอนนวดคือสบายมาก เคลิ้มจนแทบจะหลับ เมื่อนวดเสร็จก็ยังรู้สึกสบายตัวอีกด้วย ที่สำคัญทางพนักงานเตรียมชามะลิร้อนไว้ให้เราจิบหลังจากนวดเสร็จด้วยค่ะ เรียกได้ว่าที่ที่เหนื่อยเมื่อยล้ามา หายเป็นปลิดทิ้งเลย

อาหาร

ในส่วนของอาหารนั้น ทางโรงแรมได้มีบริการอาหาร Seafood ในตอนเย็นของวันที่ 1 และอาหารเช้าสำหรับ 2 วันค่ะ ในส่วนของอาหารเย็นวันที่ 2 นั้นทาง STOP ME ได้สั่งซื้อเป็นแบบ A la carte ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ว่าจะมื้อไหน ๆ ก็อร่อยจนกินหมดเกลี้ยงทุกมื้อเลยยยย ~

Breakfast

ในส่วนของอาหารเช้านั้น ทานที่ The Sala resturant ห้องอาหารโปร่งแสงที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นการทานมื้อเช้าแบบชิล ๆ ทั้งจากการตกแต่งที่ชวน Relax ไม่แพ้พื้นที่อื่น ๆ ของทางโรงแรม Line อาหารนั้นเป็นแบบนานาชาติ มีทั้งอาหารแบบไทย ๆ และสไตล์ฝรั่ง รวมถึงพวกเส้น ๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวก็มีเช่นกันค่ะ ถ้าใครมาทางสายญี่ปุ่น จะหยิบซูชิมาทานก็เข้าท่านะคะ พวกขนมหวาน เค้กก็จัดมาให้ไม่ขาด รวมทั้งน้ำเปล่าและน้ำผลไม้ต่าง ๆ ก็ไม่อั้นค่ะ

A La carte

Seafood set

ทางด้านอาหารเย็นนั้นมีทั้งแบบเป็นเซ็ตและเป็นแบบ A La carte ค่ะ จัดเต็มมาทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา พร้อมกับน้ำจิ้มหลากหลายแบบ เพื่อการทานที่แตกต่างกันค่ะ มีทั้งแบบ BBQ ที่ทางเชฟยกริลมาให้ ได้กลิ่น smoke นิด ๆ หรือจะเป็นแบบนึ่งและทอดก็มีให้เลือกค่ะ STOP ME ชอบที่ของเค้าสด หวาน เนื้อเด้งอร่อย อ้อ! ใครสั่งอาหารแล้ว สามารถไปตักอาหารในโซนสลัดบาร์ทานได้ไม่อั้นเลยนะคะ จะมีเป็นพวกข้าวผัด ซุปต่าง ๆ และผลไม้ค่ะ นอกจากนี้ยังมี live music แนว acoustic ให้ฟังเพลิน ๆ ริมทะเลอีกด้วยนะคะ

Lunch meal

ปิดท้ายด้วยอาหารมื้อก่อนกลับค่ะ สั่งเป็นอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน บวกกับไทย ๆ อย่างสปาเก็ตตี้และไก่สเต๊ะค่ะ ในส่วนตรงนี้ ถึงแม้จะเป็นตอนเที่ยง แต่ก็ไม่ได้ร้อนอะไรมากมายค่ะ เพราะลมพัดตลอดเวลา แถมอาหารก็รสชาติอร่อยใช้ได้อีกต่างหาก

การเดินทาง

สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว

- ทางรถ

Minibus

Ticket

สามารถขึ้นรถได้ที่ท่ารถเอกมัยและท่ารถหมอชิตค่ะ มีทั้งรถตู้ รสบัส และรถมินิบัส ซึ่งสามารถซื้อตั๋วล่องหน้าและเลือกที่นั่งได้ทาง Application All ticket ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมงค่ะ

STOP ME เลือกเดินทางโดย Mini bus เนื่องจาก STOP ME มีปัญหาด้านหัวเข่า เวลานั่งรถตู้นาน ๆ จะไม่สามารถขยับขาได้หลังลงจากรถ ดังนั้น Mini bus เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะมีที่นั่งกว้างกว่ารถตู้ค่ะ และไม่แออัดเท่า แต่!! ก็ต้องแลกมาด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลานานกว่านะคะ เพราะทางรถ Mini bus จะจำกัดความเร็วเพียงแค่ 90 Km./hr. ซึ่งต่างจากรถตู้ที่วิ่งได้ถึง 110 Km./hr. ค่ะ

ระยะเวลาเดินทางอยู่บนรถประมาณ 6 ชั่วโมงกว่า ๆ ค่ะ จากนั้นก็มาลงที่จุดเปลี่ยนรถ ซึ่งจะขึ้นรถสองแถวไปท่าเรือเกาะช้าง (สำหรับคนที่ซื้อตั๋วผ่านแอพ ให้กำหนดจุดลงคือท่าเรือเกาะช้างนะคะ เพราะจะรวมตั๋วค่ารถสองแถวให้แล้ว) และก็มาขึ้นเรือ ferry ไปยังเกาะช้างต่อค่ะ

STOP ME ใช้เวลาเดินทางจากสถานีขนส่งเอกมัน มาถึงเกาะช้าง ทั้งสิ้น 8 ชั่วโมงค่ะ

-ทางเครื่องบิน

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากประหยัดเวลาและได้รับความสะดวกสบาย การเดินทางมาที่นี่ มีบริการของสายการบินบางกอกแอร์เวย์เช่นกันค่ะ

สำหรับคนที่มีรถส่วนตัว

Map

สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถขับมายังเกาะช้างได้นะคะ เนื่องจากเกาะช้างสามารถนำรถขึ้นเรือ Ferry ข้ามฝั่งมาได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้าใครที่ไม่ชำนาญในการขับขี่ขึ้นภูเขา ทางแคบ ทางชัน STOP ME ขอแนะนำใช้บริการรถสาธารณะจะดีกว่า เนื่องจากว่าเส้นทางบนเกาะช้างค่อนข้างชันมาก ๆ มีโค้งหักศอก ทำให้อันตรายกับผู้ที่ขับขี่ไม่แข็งค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ช้างทัวร์ดอทเน็ต Changtour.net

Facebook https://www.facebook.com/changtourtrat/

Website https://www.changtour.net/

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ถ้าใครชอบหรือสนใจอยากไปเที่ยวเกาะช้าง ก็อย่าลืมกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจในการแชร์เรื่องราวของ STOP ME และกดแชร์ไปชวนเพื่อน ๆ ออกทริปกันนะคะ

ถ้าใครอยากดูสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารอื่น ๆ ของ STOP ME ก็เข้าไปอ่านกันได้เช่นกันนะคะ ^_^

แล้วพบกันใหม่ใน Ep. หน้า สวัสดีค่าาาา

By STOP ME