DAY6 : เตรียมขึ้นเครื่องเดินทางไปฝั่งตะวันตกกัน เราจองตั๋วเครื่องบิน easyJet ราคาถูกจาก Prague ไป Milan ประมาณคนละ 2 พันกว่าบาท

การเดินทางไปสนามบิน เราต้องซื้อตั๋วแบบ 90 นาทีและบวกกระเป๋าเดินทางด้วยนะคะ แต่เวลาเดินจริงประมาณ 40-45 นาทีค่ะ สนามบิน Prague เงียบมากกกก เล่น wifi แบบไม่ต้องใช้ Password เลย การเดินทางโดยเครื่องบินในยุโรป จิงๆ ก้อสะดวกดีนะคะ ไม่มีตรวจ Immigration แล้ว เช็คอินเสร็จก้อพร้อมขึ้นเครื่องเลย

ประมาณ 1.30 ชม.เราก้อมาถึงสนามบิน Mapensa ที่ Milan ค่ะ จากนั้นก้อซื้อตั๋วรถไฟมาลงที่สถานี Milano centrale ก่อนต่อรถไฟ ItaliaRail ไป Regiio Emilia ซึ่งเราจองมาจากเมืองไทยเรียบร้อยแล้วค่ะ (ค่ารถไฟคนละ 66 USD)


ขบวนนี้แหละ ขับชิลๆ 300 กว่า km/hr.!!!


จาก Milan มาถึงบ้านพี่สาวที่ Regiio Emilia ประมาณ 50 นาที เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ร่มรื่นเพราะต้นไม้เยอะ น่าอยู่กว่ามิลานมากๆ จตุรัสกลางเมืองก็เป็นโบสถ์เก่าแก่ค่ะ เดินเล่นพร้อม Welcome Drink จากบาร์เก๋ๆในเมืองก่อนเข้าบ้าน

คืนนี้ดินเนอร์อาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ แล้วพักผ่อน เตรียมตัวไป "เวนิส"

DAY 7 : "เวนิส ในอุดมคติ" พูดเลยว่าหลายๆคนคาดหวังอยากมาเวนิสสักครั้ง เป็น 1 ใน Dream Destination ของหลายๆคน แต่ส่วนตัวกลับเฉยๆไม่ได้คาดหวังอะไรเลย (เอาจิงๆไม่อินประวัติศาสตร์) แต่พอเจอของจริง!!

พูดเลยยยต้องมาสักครั้งในชีวิต!!!


เริ่มต้นเราต้องซื้อตั๋วเรือกันก่อนบริเวณท่าเรือต่างๆค่ะ เลือกก่อนด้วยว่าจะไปลงป้ายไหน แต่ละท่าเรือจะจอดสถานีต่างกัน อย่างเริ่มแรกเราขอไปไฮไลท์บริเวณจตุรัสก่อนนะ เพื่อดูวิว หาไรกินเพราะมาถึงก้อเกือบเที่ยงแล้ว แล้วค่อยไปเกาะอื่นๆกันค่ะ


วิวสองข้างทาง ถ่ายจนไม่รู้จะถ่ายยังงัยหล่ะ สวยมว้ากกกก ยิ่งวันนี้ฟ้าเป้นใจสุดๆ ถึงจะร้อนแต่สู้ตาย ^^



ถึงท่าเรือหลัก เราก้อเริ่มเดินเล่น ชมวิวสวยๆเลยคร้า ...


St.Mark's Campanile หอระฆังซานมาร์โก จุดชมวิวของเมืองเวนิส จากชั้นบนสุดของหอระฆัง




St. Mark's Basilica มหาวิหารซานมาร์โก โบสถ์สำคัญประจำเมืองเวนิส

บริเวณจัตุรัสซานมาร์โก มีร้านเก๋ๆ นั่งฟังเพลงคลาสสิกอยู่เพียบ แถมมีช้อปแบรนด์เนมอยู่รอบๆ ทัวร์พี่จีนลงเพียบเช่นกัน เข้าไปช้อปนี่เห็นแต่หัวดำเอเชียทั้งนั้นค่ะ

Caffe Florian ร้านกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลก



หิวล้าววววว..



Hotel Danieli ตามรอยหนัง The Tourist



เกาะถัดไป "Murano" เกาะเป่าแก้ว..แค่บ้านเรือนสีสันก้อสวยแล้ว เราพยายามหาร้านที่มีโชว์เป่าแก้ว โชคดีที่วันนี้มีกรุ๊ปพิเศษมา เค้าเลยเป่าแก้วโชว์ กลุ่มเราเลยขอไปแจมชมโชว์ด้วย จะบอกว่าข้างในร้อนมากๆ เพราะเค้าต้องใช้ไฟในการหลอมและเป่าแก้ว ราคาแก้วสีสันสวยงามที่เป่าราคาเลยต้อง Extra Charge ตามความร้อนของคุณลุงช่างเป่าแก้ว ^^"




ปิดท้ายเวนิสด้วยสะพานสุดฮิต "Rialto Bridge" ที่ปิดปรับปรุงพักใหญ่ คราวหน้ามีโอกาสจะมาถ่ายเต็มๆสะพานอีกทีนะ


ร่ำลาครอบครัวที่น่ารัก และ Regiio Emilia เมืองร่มรื่นนี้ด้วย PaPa Pizza อร่อยมากกกกจนกินพิซซ่าที่ไหน(ในโลก)

คงไม่อร่อยอีกล้าวว!!


DAY 7 : Milano..Here we come!! มีเวลาไม่มากกะเมืองนี้ก่อนขึ้นรถไฟเข้าสวิส ฮิ้วววว (ตื่นเต้นรัวๆ)

มาถึงก้อแวะเยี่ยมเยียนโบสถ์ Duomo ก่อนเล็กน้อย (เล็กน้อยจิงๆ เพราะไม่ได้เฉียดเข้าไปข้างในเลย) แค่ขอแชะ 2 แชะ แล้วไปต่อค่ะ!!

มื้อกลางวันที่พี่สาวและพี่เขยนำเสนอคือทานกลางวันบนห้างข้างๆ Duomo พร้อมชมวิวโบสถ์ริมระเบียง แต่...!!! วันนี้อากาศร้อนมากกกก คาดว่ากินพาสต้าไปคงเป็นลม เลยขอหลบแดดมาทานข้างใน อร่อยใช้ได้ ปลื้มสุด คือ มอสซาเรลล่าชีสสด!!!



หน้าตาสดชื่นมว้ากกก พอได้กลิ่นช้อปปิ้ง!!

ถ่ายไว้ก่อน กลับเมืองไทยต้องหาเฉลยอ่ะ

จุดนี้ ร้อน/หนัก/หิว ยังงัยไม่มีบ่น <3


ร่ำลา(จิงๆ) กับพี่สาวและพี่เขยสุดน่ารัก แวะเอเชี่ยนซุปเปอร์แถวๆสถานีมิลานตุนเสบียงนิดนึง เพราะรู้ว่าอีก 4 วันต่อจากนี้จะเข้าสู่ประเทศที่ค่าครองชีพแพงเว่อๆๆ


ตั๋วรถไฟ SBB จาก "Milano Centrale" ไปยัง "Brig" (ราคาคนละ 37 CHF) สาเหตุที่ทำไมเราซื้อแค่ Brig เพราะหลังจาก Brig ไปเมืองปลายทางคืนนี้ เราจะเปิดใช้ Eurail Pass ที่ซื้อมาค่ะ (จุดนี้งกได้งกคร่ะ)


..และจุดหมายปลายทางในคืนนี้ ได้แก่เมืองเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา รุ้งกินน้ำ และน้ำตก "Lauterbrunnen"






Bowsojung

 วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 00.02 น.

ความคิดเห็น