หากใครไปเที่ยวแถวโซนตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆลองไปรู้จักกับเมืองคานาซาว่าซึ่งเป็นเมืองหลักของจังหวัด Ishikawa เมืองนี้ไม่ได้มีความเจริญอะไรมากมายเหมือนกับ Tokyo หรือ Osaka แต่เราคิดว่าเพราะเหตุนี้แหละ ที่ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์จนต้องตกหลุมรัก ^^


ช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เริ่มร่วงเยอะแล้วค่ะ (ต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว) ถ้าเพื่อนๆมาช่วงกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน น่าจะได้เห็นใบไม้อยู่บนต้นแน่นๆ สวยกว่านี้แน่นอน


🚌การเดินทางท่องเที่ยว :

คนที่นี่จะใช้รถบัสค่ะ ซึ่งรถบัสจะมีผ่านจุดท่องเที่ยวทุกจุดเลย สะดวกมากๆ

ราคาปกติ 200 เยน / เที่ยว

แต่เดี๋ยวก่อน!! ถ้าซื้อเป็นบัตร One Day Pass ก็จ่ายเพียง 500 เยนเท่านั้น

สามารถโดยสารได้ไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน เพียงแค่โชว์บัตรกับพนักงานขับรถตอนจะลงรถเท่านั้นค่ะ คุ้มมากๆ ^^ ซึ่งรีวิวนี้เราจะพาเที่ยว Kanazawa ใน 1 วัน ด้วย Loop Bus One Day Pass นี่ล่ะค่ะ


รถบัสจะมีให้บริการหลายสายและวิ่งหลายเส้นทาง เราจะแนะนำคร่าวๆที่นักท่องเที่ยวนิยมนะคะก็คือ

- Kanazawa Loop Bus Right Loop (ตัวย่อ = RL)(สายสีส้ม)

- Kanazawa Loop Bus Left Loop (ตัวย่อ = LL)(สายสีเขียว)

***สองสายนี้จะวิ่งวนแบบสวนทางกัน***


🚌Bus Map >> http://www.hokutetsu.co.jp/media/tourism_bus/kanaz...

📍จุดจำหน่ายบัตร >> ที่สถานี Kanazawa จะมี Tourist Bus Services อยู่หลายจุดค่ะ

ศึกษาได้ที่นี่ https://www.kanazawastation.com/kanazawa-tourist-b...


ทั้งสองสายจะต้องมารอขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 7 ที่สถานี Kanazawa

โดยเราเลือกขึ้นสาย RL จะวิ่งวนไปทางขวา


แผนการเที่ยวใน 1 วันของเรามีดังนี้

🍁RL 4 เดินเล่นรับบรรยากาศยามเช้าเลียบแม่น้ำ Asanogawa

🍁RL 5 เขตร้านน้ำชา Higashi Chaya

🍁RL 7 Kenrokuen Garden & Kanazawa Castle

🍁RL 15 Omi-cho market ตลาดของสด


ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันค่ะว่าแต่ละที่มีอะไรน่าสนใจบ้าง 😃


หลังจากที่เราซื้อตั๋วมาเรียบร้อยแล้วก็จะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ ซึ่งจะระบุวันที่ใช้งานไว้อย่างชัดเจน

ตอนจะลงรถก็แค่แสดงให้เจ้าหน้าที่ขับรถดูค่ะ


จุดแรกของเราก็คือ RL 4 Hashiba-cho
เดินเล่นชมบรรยากาศยามเช้าเลียบแม่น้ำ Asanogawa

แม่น้ำ Asanogawa เป็นหนึ่งในแม่น้ำสองสายที่ไหลผ่านใจกลางของ Kanazawa
และเรียกได้อีกชื่อว่า แม่น้ำ Onna (ผู้หญิง) เนื่องจากสายน้ำจะไหลเบาๆ เสมือนความอ่อนโยนของผู้หญิง

...

จุดจอด Bus Stop 4 จะอยู่ใกล้กับแม่น้ำเลยค่ะ ซึ่งจะมีสะพานที่มีลักษณะเหมือนแว่นตา มีชื่อว่า สะพาน Ume-no Hashi สามารถเดินเล่นชมวิวเลียบแม่น้ำบริเวณนั้นได้เลย อากาศดีและวิวดีมากๆ ค่ะ

หลังจากชื่นชมและถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว บางคนจะเดินไปย่าน Higashi Chaya (ย่านร้านน้ำชา) จากตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ หรือจะขึ้นรถบัสแล้วมาลงป้ายถัดไป RL 5 ก็ได้เช่นกัน


RL 5 Hashiba-cho (Kinjoro-mae)

(ชื่อป้ายเหมือนกับ RL4 ระวังสับสนนะคะ)

เขตร้านน้ำชา Higashi Chaya

Higashi Chaya District

เป็นหนึ่งในหมู่บ้านโรงน้ำชาที่ใหญ่ที่สุดและฮิตที่สุดจาก 3 แห่ง

เป็นแหล่งผลิตชาในสมัยเอโดะ และเป็นสถานบันเทิงให้แขกผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินไปกับ

การร้องเพลงและเต้นรำของเกอิชา

เมื่อเดินเข้ามาจะได้กลิ่นอายของความเก่าแก่ของโรงน้ำชาที่คลาสสิคมากๆ

มีบ้านไม้โบราณแบบญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเปิดเป็นร้านน้ำชา และยังมีร้านที่เป็นแบบจำลองให้ชมบรรยากาศสมัยก่อน

มีร้านขนม ร้านของฝาก และร้านอาหารด้วยค่ะ

ที่นี่เดินชมฟรีนะคะไม่ต้องเสียค่าเข้าใดๆ ^^

ร้านขายขนมโมจิ ได้มา 1 ชิ้น โมจิไส้สตอเบอร์รี่สด อร่อยสดชื่นมากค่ะ :)

จากนั้นเราเดินมารอรถบัสเพื่อไปเที่ยวต่อที่ Kenrokuen garden และปราสาท Kanazawa

ที่นั่งรอรสบัสของป้าย RL5 เก๋ดีค่ะ


RL 7 Kenrokuen Garden・Kanazawa Castle Park

เมื่อลงรถมาเราก็จะเจอปราสาทคานาซาว่าและสวนซึ่งจะอยู่คนละฝั่ง

เราเลือกไปเดินเที่ยวสวนก่อนค่ะ เพราะคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า

จากจุดที่รถจอดให้ลง ให้เราเดินขึ้นไปตามทางขึ้นนี้เลยค่ะ จะเห็นปราสาทอยู่ด้านขวาตามรูปข้างบน


- Kenrokuen Garden -

สวนเคนโรคุเอน (Kenrokuen Garden) ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ของสวนที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

ภายในสวนประกอบไปด้วยวิวทิวทัศน์ของบ่อนํ้า ต้นไม้ หินที่ถูกจัดวางอย่างสวยงาม

หากมาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแบบเรารับรองว่าตื่นเต้นทุกจุดแน่ๆค่ะ ไม่ได้ละสายตาเลยทีเดียว

ก่อนอื่นเราต้องซื้อบัตรเข้าชมกันก่อน

ราคา ผู้ใหญ่ 310 เยน / เด็ก 100 เยน

เปิดบริการทุกวัน เวลา 7:00〜18:00 น.

มีไกด์บุคเป็นภาษาไทยให้ด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาก็ตะลึงทันที คือสวยมากๆ

สวยจนถ่ายรูปอยู่นานเลยค่ะ รูปที่ถ่ายมายังไม่เท่าที่ตาไปเห็นเองเลยนะคะ

เมื่อข้ามสะพานนี้ไปจะเป็นสวนที่มีต้นเมเปิ้ลเยอะมากๆค่ะ เราไม่แน่ใจว่าเรียกว่าโซนอะไร

เพราะเอาแต่เดินๆ ไม่ได้เปิดดูแผ่นพับที่หยิบมาเลยค่ะ ^^"

ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ใบเริ่มร่วงเยอะแล้ว ถ้ามาก่อนหน้านี้คงจะสวยสะพรึงมากแน่ๆ

เหลืออยู่ไม่กี่ต้นที่ยังมีให้เห็นใบบนต้นแบบนี้

เมื่อเดินเที่ยวเสร็จก็เริ่มหิวแล้ว หน้าทางเข้าสวนจะมีร้านอาหารเรียงรายอยู่ค่ะ

เราเลือกเข้าร้านนี้ เห็นไม่มีคนน่าจะได้ทานเร็ว เพราะหิวสุดๆไปเลย ฮ่าา

สั่งเมนูอุด้งเทมปุระ และข้าวแกงกะหรี่ทงคัตสึ ราคาเป็นมิตร อิ่มและอร่อยดีค่ะ

เมื่อทานอิ่มแล้วก็เดินออกมาเพื่อไปเที่ยว Kanazawa Castle Park ที่อยู่ตรงข้ามกันต่อ

โดยเราจะเดินไปทางที่เป็นสะพานเชื่อมกันค่ะ สะพานนี้มีชื่อว่า Ishikawabashi Bridge


วิวกลางสะพาน Ishikawabashi ก็จะสวยประมาณนี้เลยยยย ^^


- Kanazawa Castle Park -


เมื่อเดินข้ามสะพาน Ishikawabashi มา ก็จะพบกับทางประตูอิชิกะวะมง (Ishikawa-mon Gate)

ในรีวิวนี้เราเที่ยวเฉพาะส่วนที่เป็น Park รอบๆปราสาทเท่านั้นค่ะ ไม่ได้เข้าไปชมด้านใน


::: ประวัติความเป็นมาคร่าวๆ :::

ปราสาทคานาซาว่า เป็นปราสาทที่เก่าแก่อีกหนึ่งแห่งในญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 1583 เพื่อใช้เป็นที่พักของตระกูลคากะ (Kaga) ต่อมา ท่าน Maeda Toshiie ได้ย้ายเข้ามายังเมืองคานาซาวะ จากนั้น ตระกูล Maeda ก็ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในปราสาทคานาซาวะ และปกครองเขต Kaga (บริเวณ Ishikawa และToyama ในปัจจุบัน)

จากอดีตนั้นก็ได้เกิดไฟไหม้ปราสาทขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ทำให้อาคารหลายส่วนเสียหายและพังทลายลง ยกเว้นประตูอิชิคาว่า (Ishikawa-mon Gate) ที่ยังคงสภาพตั้งแต่สมัยที่ถูกสร้างมาประมาณเมื่อ 230 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน


::: เวลาเปิดให้เข้าชม Kanazawa Castle Park :::

วันที่ 1 มี.ค. ถึง วันที่ 15 ต.ค. เวลา 07:00 - 18:00 น.

วันที่ 16 ต.ค. ถึง วันที่ 28,29 ก.พ. เวลา 08:00 - 17:00 น.

สามารถเข้า Kanazawa Castle park ได้ฟรี แต่ถ้าจะเข้าชมปราสาทเสียค่าเข้าคนละ 320 yen ค่ะ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.pref.ishikawa.jp/siro-niwa/kanazawajou/e/

เที่ยวมาทั้งวันก็เริ่มหิวแล้ว เราจะไปทานมื้อเย็นกันที่ Omi-cho market โดยลงที่ป้าย RL15 กันค่ะ


RL 15 Omi-cho market

ตลาดโอมิโจ เป็นตลาดสดขนาดใหญ่และมีความเก่าแก่กว่า 200 ปี รวมร้านค้าไว้มากมายกว่า 100 ร้าน มีทั้งร้านขายวัตถุดิบจากทะเลสดๆ อาหารแห้ง ผักและผลไม้ รวมถึงร้านอาหารที่จะเน้นอาหารทะเลพร้อมเสิร์ฟ


ลงรถมาเราจะอยู่ตรงข้ามกับตลาดค่ะ ให้ข้ามถนนแล้วเดินเข้าไปทางนี้ได้เลย

ด้านในตลาดมีร้านต่างๆเรียงรายเป็นสองข้าง

มีส่วนที่เป็นอาคารแบบตึกเปิดแอร์ด้วยนะคะ แต่ในนั้นส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร เราไม่ได้ถ่ายรูปโซนนี้ไว้

ส่วนใหญ่ที่นี่เขาติดป้ายห้ามถ่ายรูปสินค้ากันแทบทุกร้านเลยค่ะ

เราเลยได้แต่ถ่ายแบบภาพรวมๆ

ของสดที่ขายมีหลากหลายประเภท ละลานตามาก

ร้านขนมน่ารักๆ น่าซื้อเป็นของฝากมากค่ะ

เมื่อเดินเล่นจนเหนื่อยทีนี้ก็หิวแล้ว เราเดินสำรวจร้านอาหารก็พบว่าร้านจะขายอาหารหน้าตาคล้ายๆกัน

โดยจะติดรูปไว้หน้าร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นชุดเซทซาซิมิถ้วยยักษ์ มีแทบทุกร้าน ( ซึ่งไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกแล้ว ฮ่าา)

คาดว่าเมนูแบบนี้คงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาตลาดแห่งนี้

เราเลือกมาร้านนึง ที่ท่าทางจะอร่อย แต่ไม่ได้สั่งเมนูดังกล่าวนะคะเนื่องจากคิดว่าทานกันไม่หมด

เลยสั่งข้าวหน้าปลา+ไข่แซลม่อนมาทาน ของสดอร่อยจริงๆค่ะ

เดินเล่นหาขนมกินอีกหน่อยก็มืดแล้วจึงออกมารอรถบัสที่เดิม เพื่อขึ้นรถกลับไปยังสถานี Kanazawa

ซึ่งห่างกันแค่ป้ายเดียว


สถานี Kanazawa

เป็นสถานีรถไฟที่สวยมากๆ ที่นึงเท่าที่เราเคยเจอมา

ในบริเวณสถานี Kanazawa ตอนกลางคืน จะถูกประดับประดาด้วยไฟสวยๆไปทั่วบริเวณ

เราเดินถ่ายรูปเพลินมาก หากยังไม่เหนื่อยลองเดินเล่นรอบๆสำรวจดูนะคะ

ประตูทสึซุมิ หรือรู้จักกันในชื่อประตูกลอง มีพื้นฐานการสร้างจากประตูโทริอิที่พบได้ตามศาลเจ้าและวัดต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น มีเสาฐานทำเลียนแบบฐานกลองญี่ปุ่น เนื่องจากคานาซาว่ามีวัดมากมายจึงถือได้ว่าประตูนี้เปรียบเสมือนตัวแทนของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ

น้ำพุน้อยๆ เล่นแปรอักษรเป็นคำว่า "KANAZAWA" สลับกับเลขนาฬิกาบอกเวลา อันนี้เราชอบมาก น่ารักมากๆ เลยค่ะ


สถานีจะถูกครอบคลุมด้วยโดมกระจกขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างแข็งแรง

ใช้สำหรับกันฝน และให้แสงสว่างตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

บริเวณด้านนอกจะมีโซน Taxi ที่จอดรอเข้าคิวรับผู้โดยสาร เป็นระเบียบมากกกกกก

ด้านในสถานีค่ะ

แถมรูปตรง Taxi อีกรูปค่ะ


จบทริปคานาซาว่าใน 1 วัน เต็มอิ่มและประทับใจมากๆค่ะ

เราได้เห็นทั้งวัฒนธรรม ความเก่าแก่ของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมจนน่าทึ่ง

ได้เห็นธรรมชาติที่สวยงาม อาหารอร่อย แสงสีของไฟที่น่ารักที่สถานี

ผู้คนที่เป็นมิตร ความต้อนรับและใส่ใจต่อคนต่างถิ่นอย่างเรา

หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนที่นี่ก็มีความใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่มองข้าม

เราอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสเมืองที่น่ารักเมืองนี้ด้วยตัวเอง

แล้วเพื่อนๆจะหลงรักจนนึกถึงทีไรก็ยิ้มออกมาได้ทุกครั้งแบบเรา

ขอบคุณที่ติดตามอ่านรีวิวจนจบนะคะ :)

ติดตามเราในช่องทางเพิ่มเติมได้ที่เพจ

https://www.facebook.com/Goholic.TravelAddict





GoHolic : ชีวิตติดเที่ยว

 วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.49 น.

ความคิดเห็น