ถ้าพูดถึงภาคเหนือ ปลายฝนต้นหนาว นอกจากจ.เชียงใหม่แล้วก็มีจ.น่านนี่แหละ ที่ผมชอบสุดจังหวัดนึงเลย
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ผู้คนน่ารัก วัฒนธรรม แล้วก็ธรรมชาติ วิวระหว่างทางเพลินตา เพลินใจมาก ถนน ภูเขา อากาศ โอ้ยเยอะแยะเลย เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์มาก ผมไปน่านมา2ปีติด หลงรักน่านไม่รู้ตัวเลยครับ ทริปนี้ผมมีแพลน 3 วัน 2 คืน ซึ่งน้อยกว่าครั้งก่อนที่เคยไป มีแพลนไปนอนที่บ่อเกลือ 1 คืน ปัว 1 คืน จริงๆอยากหลายวัน แต่วันลาดันหมด 5555 ทริปนี้เลยต้องนั่งเครื่องทั้งไปและกลับ แต่ก็ไวดีมีเวลาเที่ยวเยอะ มาครับมาผมมาเที่ยวน่านกัน

ไฮไลท์การเดินทาง (ผมไป 26-28 ก.ย. 62)
Day 1 :
- วัดศรีมงคล(ก๋ง)
- ถนนลอยฟ้า1081 สันติสุข-บ่อเกลือ
- อุทยานแห่งชาติขุนน่าน
- น้ำตกสะปัน
- สายหมอกบอกฮัก(ที่พัก)
Day 2 :
- จุดชมวิว 1715
- ถนนลอยฟ้า 1526
- อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
- ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
- วังศิลาแลง
- กาแฟบ้านไทลื้อ/ลำดวนผ้าทอ
- บ้านฮิมนาปัว(ที่พัก)
Day 3
- สกาดโฮมสเตย์
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
- ซุ้มลีลาวดี
- วัดภูมินทร์
- วัดพระธาตุแช่แห้ง
(กลับไฟท์ 16.00 น.)

มาเริ่มกันที่เช้าตู่ ของวันที่ 26 ก.ย. 62 ไฟท์บินเราคือ 07.00 น. เช้าเลยจ้า สายการบินไปน่านตอนนี้มีแค่สายการบินเดียวนะคือหางแดง เราไม่ได้จองล่วงหน้า จองแบบปุบปับมาก ได้มาราคาเที่ยวละพันกว่าๆ
แพงจุงTT แนะนำใครจะไปวางแพลนจองล่วงหน้าราคาโปรมาเรื่อยๆ

ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงน่าน พอดีว่าแฟนมีน้องที่รู้จักอยู่น่าน ทริปนี้เราเลยได้มอเตอร์ไซด์ฟรีแว๊นซ์เที่ยวไปเลยจ้า ส่วนใครถ้าอยากเช่ามอเตอร์ไซด์ ให้ไปที่บขส.มีร้านนึงชื่อร้านโตโน่คาร์เร้นท์ โอเคเลยผมเคยเช่าปีที่แล้ว วันละ 300 บาท ส่วนรถยนต์สนามบินมีให้เช่านะ ที่แรกที่เรามาคือนี่เลย
"วัดศรีมงคลหรือวัดก๋ง"

เป็นวัดที่สวยวัดนึงในจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าวังผา ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะแว


ได้ฟิลเหนือสุดๆ


มุมถ่ายรูปเยอะมาก สาวต้องชอบแน่นอน นี่หรือคือวัด


ด้านหลังจะเป็นทุ่งนา แต่คาดว่าตอนเขียนนี่น่าเกี่ยวไปแล้วนะ


มีสะพานไม้ไผ่ ผ่ากลางลงไปในทุ่งนา มีร้านกาแฟอยู่ด้านล่าง


จากวัดก๋ง เรามุ่งหน้าสู้ถนนลอยฟ้า 1081 สันติสุข-บ่อเกลือ จะบอกว่าระหว่างทางสวยมาก ภูเขาเขียวๆ ต้นไม้ใบหญ้ามองสบายตาสุดๆ


โค้งหมายเลข 3 ไฮไลท์ของถนนเส้นนี้ ใครผ่านก็ต้องแวะแชะสักภาพ มองไปมันก็เป็นเลข3จริงๆนะ


เผอิญเห็นป้าย อุทยานแห่งชาติขุนน่าน เลยขับแวะเข้าไป เห็นจุดชมวิว โอ้ว เป็นวิวที่สวยมากที่นึงเลย ทิวเขาสลับซับซ้อนมองไปสุดลูกหูลูกตา ทำให้นึกถึงบรรยากาศยามเช้า คงจะมีหมอกมาให้เชยชม บรรยากาศที่นี่คงคูลสุดๆ ที่นี่สามารถพักค้างแรมได้นะ อยู่ในเขตอุทยาน


ที่พักของเราคืนแรก เราพักที่นี่เลย สายหมอกบอกฮัก ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ หลายๆคนคงเห็นเห็นรีวิวจากหลายๆที่ เพราะเป็นที่พักนึงที่นึงที่ฮอตเอามากๆ ชอบสุดคงเป็นบรรยากาศยามเช้า มีน้องหมอกมาให้เชยชมถึงหน้าเต็นท์ อากาศก็เย็นกำลังดี เห็นว่าปีนี้พ.ย.-ธค. เต็มหลายวันแล้ว ยังไงลองสอบถามเพจที่พักดูนะ


บรรยากาศยามเช้า มองเห็นหมอกจากเตียงนอนเลย ห้องที่เรานอน คืนละ 1800 บาทนะ รวมอาหารเช้า ไม่มีระเบียงเป็นห้องน้ำรวม


ห้องน้ำสะอาดนะ มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย


ยามเช้าหมอกหนามาก อากาศโคตรดี ที่เห็นตรงนั้นเป็นที่พักนะชื่อดอยอิงดาว ใกล้ชิดหมอกมากเลย


ยามเช้าสดชื่น


มาสะปันทั้งทีต้องแวะมา น้ำตกสะปัน ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสะปัน บรรยากาศเขียวชะอุ่มน้ำตกมี 3 ชั้น ทางเดินง่ายอยู่ ต้นไม้ดูอุดมสมบูรณ์มาก ต้นไม้เก่าแก่ ต้นใหญ่ๆยังคงถูกรักษาไว้ เอาจริงๆมันเหมาะกับคนที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติเลยทีเดียว


ป่าสมบูรณ์มาก เขียวขจี ต้นไม้ขนาดหลายคนโอบ


เดินขึ้นมาถึงตรงนี้ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตรงนี้ คือชั้น 3 ที่เค้าบอกหรือเปล่า แต่บอกเลยว่าเป็นน้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติที่สวยเอามากๆ ไม่มีคนพลุกพล่าน เงียบสงบ ฟังเสียงน้ำตกเพลินๆ


หลังจากเช็คเอ้าท์ ฝนตกมาอย่างหนักหน่วง เราจอดพักตรงศาลาแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุด แพลนของเราตั้งใจจะไปที่โครงการหลวงสะจุกสะเกี้ยง เลยหยิบเสื้อกันฝนแล้วขับมุ่งออกไป แต่ขับไปได้ไม่เท่าไร น้องฝนก็ยิ่งเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เลยหันหัวกลับขับขึ้นไปยังถนนลอยฟ้า 1526 ดอยภูคา แล้วมาแวะจุดชมวิวอันเลื่องชื่อ จุดชมวิว 1715 หมอกหนามาก แต่โชคดีครั้งนี้ยังเห็นวิวข้างหลัง บอกเลยว่าวิวสวยมาก


ขับออกมาจากจุดชมวิว 1715 หมอกหนามาก บรรยากาศของถนนเส้นนี้เป็นอะไรที่ชอบสุดๆ


อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
เสียค่าเข้า 40 บาท ค่ารถมอเตอร์ไซด์ 20 บาท
ด้านในมีบ้านพักให้ค้างคืน มีหลายหลังนะ จองโดยตรงผ่านทางเว็บไซต์อุทยาน หรือใครชอบกางเต็นท์นอนก็มีจุดให้กางเต็นท์


ตรงนี้ชื่อบ้านเกวียน คืนละ 300 บาทมีห้องน้ำอยู่ด้านหลัง


ซุ้มต้นไม้มุมนี้วิวว้าวมาก ใครแวะไปอย่าลืมไปถ่ายรูปน้า อยู่ใกล้ๆกับจุดชมวิว

จุดชมวิววันนี้หมอกไม่หนามาก เราเลยเห็นวิวดอยภูคามาพร้อมหมอกบางๆ หลังฝนตก แต่ตรงนี้แอบรกไปหน่อยนะ 555


ทั้งทริปบอกเลยว่าชอบมุมนี้สุด หุบเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา พิกัดจะอยู่เลยดอยภูคาไปนิดนึง ขับผ่านไปจะเห็นแน่ๆเพราะวิวเด่นมาก


ถนนลอยฟ้า ใกล้ชิดติดขอบวิว แบบนี้เลย


ที่พักคืนที่ 2 บ้านฮิมนาปัว ที่พักสไตล์ลอฟท์น่ารักๆ แอบโรแมนติก มีวิวทุ่งนาเป็นเบื้องหน้า มีหุบเขาเป็นฉากหลัง

เปิดประตูออกมาหน้าห้องวิวว้าวมาก ตอนเช้าจะเห็นเขาแบบลางๆเพราะมีหมอก พูดถึงห้องพัก ด้านในเป็นโทนสีพาสเทลน่ารักๆ ที่พักมี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องกว้างๆ มีเตียงเดี่ยว1เตียงและมุมพักผ่อนเก๋ๆ
หน้าต่างเป็นกระจกใสมองเห็นทุ่งนา

ทีเด็ดคือห้องชั้นสอง มีบันไดวนในตัวบ้าน ชั้นบนเป็นทรง สามเหลี่ยมAเฟรม เห็นวิวทุ่งนาและเขาจากเตียงนอน

มีชั้นดาดฟ้าไว้นั่งดูดาว หรือจะจิบเบียร์กินหมูกะทะก็ดีนะเออ

ระเบียงหน้าห้องมีเปลตาข่ายไว้ให้นั่งชิลนอนชิล

มีชิงช้าเล็กๆเอาไว้แกว่งเล่นมองวิวเพลินๆ มีทุ่งนากว้างๆให้เราไปเดินเล่นถ่ายรูป

มีถนนผ่ากลางทุ่งนา มีจักรยานให้ขี่เล่น บรรยากาศทำให้เรานึกถึงตอนเป็นเด็ก ขี่จักรยานเล่นกับเพื่อนๆ
กลางทุ่งนา ที่พักเป็นเหมือนบ้านซะมากกว่า อารมณ์เหมือนเราไปพักบ้านญาติต่างจังหวัด เจ้าของที่พักชื่อพี่แหม่ม แกน่ารัก ใจดี เป็นกันเองสุดๆ

ถ้าเราง่วงเราจะนอนตรงไหนก็ได้ 555 ยามเช้าบรรยากาศดีมาก

วิวสวยเลย

ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ หลังจากที่ปรับปรุงใหม่ มีสกายวอล์คยื่นออกไป มองเห็นวิวทุ่งนา บรรยากาศดีมาก


ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ไม่ว่าใครก็ต้องไปถ่ายรูป กับชิงช้านี้ ไม่ต้องไปบาหลีกันแล้ว แต่อย่าแกว่งแรงเด้อเดี๋ยวล่วง 555

เมนู ส่วนใหญ่และเมนูเด็ดของที่นี่คือเห็ด เมนูที่เค้าบอกว่าต้องทานคือ พิซซ่าเห็ดแต่เราไม่ชอบกินพิซซ่าเลยสั่ง ต้มยำเห็ด ลาบ เห็ดแล้วก็เห็ดอบวุ้นเส้น รสชาติถือว่าโอเคเลยนะ จะบอกว่าคนเยอะมาก ไปถึงต้องจับบัตรคิวรอโต๊ะว่าง


วังศิลาแลง หรือฉายาแกรนแคนย่อนเมืองปัว จะเห็นหินโค้งๆม้วนไปมาคล้ายๆถูกกระแสน้ำพัดจึงทำให้เกิดหินลักษณะแบบนี้ ธรรมชาตินี่สร้างสรรค์สิ่งสวยงามให้เราได้ชื่นชม จริงๆถ้าจะถ่ายให้สวยต้องลงไปข้างล่างแต่วันที่ไปน้ำค่อนข้างเยอะเลยไม่กล้าลงไปถ่าย 555


กาแฟบ้านไทลื้อ ลำดวนผ้าทอ มีร้านกาแฟวิวทุ่งนา มีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวไปในทุ่งนา



มุมถ่ายรูปเยอะมาก


ใครอยากซื้อผ้าทอไปเป็นเป็นของฝากก็แวะไปดูผ้าสวยที่ลำดวนผ้าทอ บอกเลยว่าผ้ามีเยอะมาก ราคาไม่แพง อยู่ติดกับร้านกาแฟเลย


สกาดดีโฮมสเตย์ หลังๆเราจะเห็นรีวิวที่นี่บ่อยมาก ที่นี่เป็นทั้งโฮมสเตย์ และร้านกาแฟ ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือวิวมุมสูงมองเห็นหุบเขาแบบสุดลูกหูลูกตา เพลินตาเพลินใจมาก


วิวสวยมาก ยามเช้าคคงอากาศดีสุดๆ ไปคราวหน้าคงต้องไปพักสักคืน


ไปที่นี่ต้องสั่งกาแฟดริป มาดริปกันสดๆท่ามกลางวิวอลังการ กาแฟเข้มข้น มาพร้อมน้ำชาหอมๆ ร้อนๆ เสริฟพร้อมคุกกี้และใบชาดองหรือใบอะไรสักอย่าง รสชาติหวานๆนะ บอกเลยว่าใครไปต้องไปลองชิม


จากสกาดีแล้วเข้ามาในเมืองกันต่อมาแวะที พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน สถานที่คลาสสิคที่ควรแวะเข้าไป เสียค่าเข้าแค่คนละ 20 บาท

ด้านในมีหลายห้องให้เราเลือกชม มีทั้งประวัติผู้ครองนครน่าน ของเก่าๆมากมาย ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ งาช้างดำ ที่ไม่ทราบประวัติความเป็นมา งาช้างดำถือเป็นวัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่านและถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจังหวัดน่าน


ซุ้มลีลาวดี หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ต้นลีลาวดีที่โค้งมาบรรจบกันสองฝั่ง เป็นมุมถ่ายรูปที่สวยที่นึงเลย


วัดภูมินทร์ตำนานรักแห่งเมืองน่าน วัดเก่าแก่อีกวัดที่อยู่คู่กับเมืองน่านมายาวนาน


ในโบถส์มีภาพประวัติศาตร์ ภาพกระซิบรักบรรลือโลก นั่นก็คือภาพปู่ม่านย่าม่าน คนส่วนใหญ่ที่มาเป็นคู่จะบอกมาทำท่ากระซิบรักข้างหูถือเป็นอีกนึงไฮไลท์ของจังวัดน่าน


ภาพมุมนี้เป็นภาพที่สะท้อนจากกระจกเป็นมุมแปลกตาที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น ใครไปก็ลองมองไปที่เสาจะเห็นกระจกอยู่รอบๆเสา ลองส่องดูจะได้ภาพปู่ม่านย่าม่านที่สวยแปลกตามุมนึง


วัดสุดท้ายแวะไปไหว้พระธาตุแช่แห้ง หนึ่งในพระธาตุประจำปีเกิดของปีเถาะ ก่อนเดินทางกลับ


ถือว่าทริปชิลๆทริปนึง ที่ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน ไปแบบไม่รีบไม่เน้นเที่ยวมากมาย เน้นขับรถชิลๆ พักผ่อน ชาร์ตแบต เสพบรรยากาศ 2 ข้างทาง บอกเลยว่าประทับใจมาก หลงฮักน่านเข้าเต็มๆ หนาวนี้เผื่อใครมีแพลนไปน่านลองอ่านรีวิวนี้แล้วเอาไปปรับดูเป็นแนวทาง ส่วนใครที่สงสัยหรืออยากสอบถามอินบ็อคมาได้เลยน้า เรายินดีให้แนะนำ ยังไงก็ฝากรีวิวนี้ไว้ด้วยน้า ฝากกดไลท์กดแชร์ให้ด้วยนะครับ อยากเที่ยวก็เที่ยว เจอกันใหม่ทริปหน้า ^^


อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันพฤหัสที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.37 น.

ความคิดเห็น