เมื่อโลกของดิจิทัลเข้ามาผสมผสานกับการกินอาหารจะเป็นอย่างไร ครั้งนี้จะเป็นการเปิดประสบการณ์ที่จะทำให้คุณได้สัมพัสความเป็นอาหารทั้งรูป รส กลิ่นและเสียงได้อย่างเต็มที่ กับ Digital Delicious ที่ทำให้คุณต้องอุทานว่า WOW ระหว่างกิน ผมเชื่อเลยว่าคนที่ไปกินแล้วไม่ได้อ่านรีวิวที่ผมเขียน คุณจะกินแบบได้สวยอย่างเดียว แต่ถ้าอ่านแล้ว คุณจะซาบซึ้งกับส่วนผสมของอาหารต่าง ๆ ที่เขาจัดมาให้ แล้วคุณจะบอกว่า อาหารมื้อหลายเป็นพันนี้ไม่ได้แพงเลย อาหารที่เสริฟ เป็นฝีมือการสร้างสรรค์โดย ระดับเชฟกระทะเหล็ก เชฟระดับ มิชลิน 3 ดาว และเชฟที่มีชื่อเสียง คือเอาจริง ๆ ผมก็แบบไม่ได้หวังมากนะ ว่าจะเท่าไหร่กันเชียวก็คงมีแค่ชื่อเสียงได้รางวัล มันจะอร่อยกันเชียวแต่พอได้ทานแต่ละเมนู มันทำให้ผมได้สัมผัสว่าอร่อยเป็นยังไง


เริ่มต้นที่จะกินคือก็ต้องจองก่อนไม่ใช่เดินดุ่ม ๆ ไปจะได้กินนะครับ การจองรอบที่จะทานให้เราจองผ่านเว็บ https://www.digitaldelicious.net/ ซึ่งจะมีรอบและราคาบอกเรียบร้อย แต่ถ้าบอกว่ามาจาก กินเที่ยว360 ก็ไม่ได้ลดนะครับ เสียตังค์เท่าเดิม

สำหรับรอบที่ผมจองคือรอบค่ำ ซึ่งห้องอาหารนี้เป็นเหมือนห้องอาหารชั่วคราว อยู่ในโรงแรม Oriental Residence Bangkok ถนน วิทยุ โดยสามารถขับรถมาได้มีที่จอดให้บริการฟรี โดยห้องอาหารจะอยู่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นสระว่ายน้ำและGym

พอเข้ามาถึงจะมีพนักงานต้อนรับแล้วให้เราถ่ายภาพ ผ่านตู้ Kiosk โดยจะต้องทำท่าขยับไปมา แล้วเราก็สามารถ Scan QR-Code เพื่อ Download ภาพเข้าโทรศัพท์ จากนั้นก็เดินผ่านเข้าไปในห้องอาหาร

บรรยากาศห้องอาหารจะไม่มีอะไรนะครับเป็นกำแพงโล่ง ๆ และก็มีโต๊ะยาว นั่งฝั่งละ 10 คน โดยที่โต๊ะจะเป็นจอภาพที่เราสามารถสัมผัสได้

โดยจะมีชื่อของเราอยู่บนโต๊ะ ตอนนั่งดูดี ๆ ละครับอยากนั่งผิด

พอเริ่มต้นก็จะมี intro เปลี่ยนห้องให้เป็นฉากต่าง ๆ แสงสีก็ถือว่าสวยงามครับ พอจบ intro ก็จะมีอาหารมาเสริฟ

สำหรับคอร์สแรกคือ Flowers of life บรรยากาศในห้องจะเป็นลายเส้นแนว ๆ Gasby คอร์สที่เสริฟมาจึงเป็นแบบทองเหลืองโค้งเหมือนเชิงเทียน สำหรับอาหารที่เสริฟ จะมี 3 ชิ้นน้อย ๆ ชิ้นแรกเป็น เนื้อปูปู+แกงกะหรี่แดง+วาซาบิ+มายองเนส+ ไข่ +มะนาว +ทอดรวมกันเป็นก้อน คือแบบว่าตอนกินน้ำตาจะไหล ไม่ได้เผ็ดวาซาบินะ มันเหมือนเป็นชิ้นที่เปิดรสชาติ แบบบอกไม่ถูกอะว่ารสอะไร แต่รู้ว่ามันอร่อยมาก คือ แอบเสียดายที่มีชิ้นเดียว

ชิ้นที่ 2 เป็นคัสตาส กุ้ง เห็ด ครีม รวมกันใส่มาในเปลือกไข่ กินละลื่นคอและละมุลลล ลิ้นมาก

ชิ้นสุดท้าย เป็นขนมปังบริยอช โป๊ะด้วย มูซซี่ไก่ ผสมฟิกอบแห้ง คือแบบ กิน 3 ชิ้นนี้นะ มันเหมือนเปิดโสตประสาทการรับอาหาร ตอนที่เรากินก็ไม่ธรรมดามีการฉาย 3d mapping ลงบนอาหาร แต่เวลากินยากนิดนึง คือเข้าใจบรรยากาศมะทุกคนดูผู้ดีหมด ไอ้เราจะใช้มือหยิบก็กะไรอยู่ ต้องพยายามใช้ช้อนตัก ไอ้ที่ตักยากก็เป็นชิ้นแรกนี้แหละ นี่ก็พยายามดูว่าเขาตักยังไงหว่าไม่ให้มันตกจากเชิงเทิน แต่เห็นเขาใช้มือดัน ๆ เอาละ นิ้วดันเล็ก ๆ เอามือบังแล้วก็ อั่มมมม เคยดู Cartoon ญี่ปุ่นมะพวกทำอาหาร คือแบบแทบจะลุกปรบมือกับชิ้นแรก ที่โต๊ะเราสามารถเอานิ้ววาดเป็นชื่อเราเองได้ด้วย อย่าลืมเล่นกันละ

แต่กว่าผมจะกินได้ก็ต้องทั้งถ่ายรูป ถ่าย Video ซึ่งก็กลัวว่าเขาจะมารีบเก็บอาหารไปเสียก่อน ตอนกินเลยรีบ ๆ แต่ไม่ต้องกังวลครับ เขาจะเปิดเพลงคลอLoop ไป จนกว่าเราจะกินเสร็จ แต่ก็อยาช้ามาก เดี๋ยวคนอื่น ๆ จะเขม่นได้

เอาละมาต่อคอร์สที่ 2 ชื่อว่า Hidden Treasure สำหรับคอร์สนี้มาในบรรยากาศป่าหิมพานแบบฝรั่ง กวางมีปีก เสื้อมีปีก หมูมีปีก พร้อมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์

โต๊ะจะถูกเปลี่ยนเป็นดอกไม้ผุดโผล่ เราสามารถเอานิ้วไปจิ้ม ๆ ที่โต๊ะได้ เพื่อเล่นกับดอกไม้ รอจน intro ของคอร์สนี้จบ ก็จะเป็นการเสริฟจาน ซึ่งตอนนั้นตรงกลางจะมืด แล้วมีผีเสื้อถูกฉายลงมาที่จาน เราสามารถเอามือไปรองรับผีเสื้อได้ด้วย

ถ้าจะบอกว่าชุดไหนบรรยากาศสวยสุดผมชกให้ชุดนี้แหละ ไม่นานนัก แสงก็ปรากฏลงบนจาน กลายเป็นดินและมีต้นอ่อนของต้นไม้ขึ้นมา มีเบบี้แครอทเล็ก ๆ หูยยยย สวยอะ ทั่งหมดนี้กินได้นะครับ ดอกไม้ก็กินได้ ( มั้ง แต่กินไปแล้ว )

ตอนกินให้พยายามอินไปกับเนื้อเรื่องจะได้อรรถรสมาก โดยเป็นส่วนผสมของ เป็ดที่ผ่านการหมัก ผสมด้วยไวน์แดงซอสไก่ รวมกับมันฝรั่งบดกับขนมปังป่น ส่วนที่เห็นเป็นต้นไม้ ก็จะเป็น เห็ดชิเมจิและชิตาเกะ เบบี้แครอท บัตเตอร์ ผักจิ๋วไมโครกรีน จานนี้ก็อร่อยครับ เหมือนเป็นจานที่เริ่มปูให้หนักท้องมากขึ้น แต่ได้ประโยชน์จากผักต่างๆ โดยที่จะมีซุปถ้วยให้ซดหรือจะราดลงบนดินก็ได้

คอร์สที่ 3 จะพาคุณสู่ใต้ทะเลลึก จะมีปลาหมึกสัตว์น้ำมากมายโผล่มาที่ผนัง และบทโต๊ะก็จะมีแมงกะพรุนให้เราแกล้งแตะมัน แล้วมันจะเปลี่ยนสี และมีฝูงปลาแหวกว่ายไปมาบนโต๊ะ

สำหรับคอร์สนี้ขอเรียกว่า ปลาหมึก EDM เพราะแสงสีตระการตาเสียเหลือเกิน แต่ชื่อจริง ๆ ของเขาคือ The Octlantis

ซึ่งจะมีแสงฉายลงมาตลอดเมื่อที่จานนี้ปรากฎ เหมือนว่าปลาหมึกชิ้นนี้อยู่ใต้น้ำ สำหรับจานนี้มีส่วนผสมของหนวดปลาหมึกยักษ์ที่เราต้องหั่นเอง ซึ่งก็ไม่ได้เหนียวอะไร ออกจะเค็มหน่อย ส่วนข้าวจะเป็น อาโบริโอ เป็นข้าวเมล็ดสั้น ส่วนใหญ่จะเจอข้าวนี้ในอาหารอิตาเลี่ยน ผสมกับพาเมชานชีส ไวน์ขาว ตัวข้าวนั้นจะออกเป็นสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล และสีฟ้าที่เห็นคือสีของอัญชัน เพิ่มความเปร้ยวด้วยผิวมะนาวและใบ ซอเรลที่มีอยู่ 2-3 ใบ แลัที่เห็นแผ่น ๆ ไม่ใช่สาหร่ายเฒ้าแก่น้อย นะครับ แต่มันคือ หมึกของปลาหมึกแล้วนำมารวนกับสาคูแล้วทอด ออกมาเป็นแผ่นๆ


หลังจากกินและแกล้งเจ้าแมงกะพรุนจนหนำใจแล้วต่อมาเราจะไป อวกาศกัน ตอนนี้ห้องเปลี่ยนเป็นหมู่ดาวมีแสงวิ่งแบบ HyperSpace และเข้าสู่คอร์สสุดท้ายเป็นขนมล้างปาก นั้นก็คือ Saturnalia ก่อนที่จานนี้จะมาโต๊ะของเราจะเปลี่ยนเป็นแผงบังคับในยานอวกาศ


และเมื่อเราเอามือไปแตะที่โต๊ะจะมีพลังขึ้นที่ฝ่ามือ แล้วก็ยิงเชื่อมไปที่เพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ หรือฝั่งตรงข้าม สำหรับอันนี้สนุกที่สุดในการเล่น พอ intro จบ จานก็มาว่างเปล่า เป็นอาหารว่าง พร้อมด้วยแสงวิ่งวน ๆ ประดุจว่ามันเป็นดาวเสาร์


จากนั้นจะมีมนุษย์อวกาศอยู่ในจานเหมือนกำลังโดนดูดไปอีกมิติ ซึ่งเราช่วยอะไรเขาไม่ได้ คงทำได้แต่บ๊ายบายและถ่ายรูปพอมนุษย์อวกาศวนจนได้ที่


พนักงานก็จะมาเสริฟของจริงจานนี้เราจะได้กินดาวเสาร์กัน สำหรับดาวเสาร์จะเป็น พราลีเน่ เค้ก โดยเนื้อเป็นช๊อกโกแล็ต ผสมกับถั่วเฮเซลนัท สำกรีบจานนี้ก็อารมณ์เค้กช๊อกบอล ก้อนแน่น ๆ แต่ช๊อกโกแล็ตไม่ไก่กา อารมณ์ดาร์คหน่อย ๆ น่าจะประมาณ โกโก้60-70% ส่วนด้านในแกดาวเสาจะเป็นแอปริคอท



สำหรับ interactive ของคอร์สนี้สนุกจริงครับ ผมกับเพื่อนเล่นกันเพลินเลย หันไปดูคนอื่นนั่งกันเรียบร้อยเชียว 5555


สรุปโดยรวมมันอร่อยทุกคอร์สนะ แต่ถ้าให้เรียงความอร่อย ก็เรียงตามนี้ 1 2 3 4 ตามนี้เลยครับ : )


จบครบทุกคอร์สแล้วกลับบ้านได้ ใช้เวลาประมาณตั้งแต่ต้นจนจบชั่วโมงนิด ๆ จะมากก็เพราะรอกันกินไม่เสร็จมัวแต่ถ่ายรูปเขาก็จะขยายเวลาออกไปให้ สำหรับใครพร้อมแล้วก็ราคาตามนี้ครับ ถ้าอยากได้บรรยากาศแต่กลัวงบสูงไป ลองเป็น ชายามบ่าย แต่ถ้า งบพอ อยากจัดแบบผมก็ ดินเนอร์เลยครับ รับรองว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไป สำหรับใครจะไปทานก็ต้องบอกว่าเขาอยู่ถึงแค่ 12 มกราคม 63 เท่านั้น ถ้าหลังจากนี้ต้องตามไปกินที่ภูเก็ตเลยครับ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นนี้หรือเปล่า ถ้าไม่อยากพลาดแบบที่ผมกินก็จัดไปครับ ไปจองที่ https://www.digitaldelicious.net

  • LUNCH THB 3,290 ++ เวลา 12.00 - 13.30
  • AFTERNOON TEA THB 1,690++ เวลา 15.00 - 16.30
  • DINNER THB 3,590++ เวลา 18.30 - 20.00 และ 20.30 - 22.00

ถามว่าราคาสูงไหม ก็ต้องบอกตามตรงว่าสูงนะ แต่ไม่ได้แพง เพราะอาหารนี่ผ่านการคิดมาอย่างดี และสตาฟในการดูแลแทบจะ 2 ต่อ 1 ในการเสริฟ ไหนจะค่าทำกราฟิก ค่าสถานที่ และนี่คือ Exclusive มาก เพราะทั้งห้องอาหารมีจำกัดแค่ 20 คน


ฝากติดตาม กินเที่ยว360 ในทุก ๆ เครือข่ายด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/kintiew360

http://www.instagram.com/kintiew360

http://www.Twitter.com/kintiew360

http://www.Youtube.com/kintiew360

www.kintiew360.com


กินเที่ยว360

 วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 23.09 น.

ความคิดเห็น