" เรื่องราวอันนั้นจดจำในชีวิต ล้วนถูกเติมเต็มด้วยการเดินทาง "

ผู้คน ภูเขา เรื่องราวและรอยยิ้ม

ความสุขมักเรียบง่ายเสมอ

กลิ่นอายของความสุขที่เราเผลอทำหล่นหาย ในวันที่ความสะดวกสบายครอบงำ ที่นี้จะมอบความสุขเหล่านั้นให้คุณ ไม่มากก็น้อย “ความสุขอาจจะไม่ยิ่งใหญ่ แต่ยั่งยืน”

ตอนที่ ๑ : ครั้งแรกที่ได้พบคุณฯ

ย้อนไปเมื่อปลายปี 2559 หลังจากสอบปลายภาคจบลง ผมได้รับคำเชิญชวนจากรุ่นพี่ปี 3ว่าสนใจไปค่ายครูอาสาบนดอยมั้ยที่อมก๋อยเชียงใหม่ หลังจากที่ได้ยินคำว่า "เชียงใหม่"(เท่านั้นแหละ) ผมที่ยังตื่นเต้นกับการไปเชียงใหม่ครั้งล่าสุดนั้น ก็รีบตกลงอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังและไม่ถามรายละเอียดอื่นอีกเลย และนั้นแหละครับคือจุดเริ่มต้นของผมกับอมก๋อย...


ขึ้นชื่อว่าการผจญภัย ส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้การเดินทางกลมกล่อมคือ ความยากลำบากของการเดินทางนั้นเอง อำเภออำก๋อยห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราวๆ 200 กม. เลยทีเดียวและครั้งเเรกของการไปอมก๋อยผมกับเพื่อน ก็ดันทะลึ่งเช่ามอไซด์จากเชียงใหม่ ตามประสาวัยรุ่นอยากรู้อยากลอง555 เรียกว่าเปลี่ยนกันขับจนก้นชาหน้าชาเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อถึงตัวอำเภอแล้วยังต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณ 70 กม. เพื่อไปยัง รร.บ้านแม่ตื่น สถานที่ที่เราไปจัดค่ายนั้นเอง...



• ตอนที่ ๒ : เหล้าต้ม ข้าวหลามเผา และกองไฟ

ครั้งแรกของการพบผู้คนอมก๋อย การต้อนรับเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากคุณครู น้องนักเรียน และชาวบ้าน โดยพระเอกที่ทำหน้าที่เชีื่อมความสัมพันธ์ของของผู้คนต่างถิ่นคือ "เหล้าต้มแม่ตื่น" อันเลื่องชื่อลือนาม มีพระรองคือข้าวหลามเผาร้อนๆจากกองฟืนไฟ บทสนทนาดำเนินไปอย่างลื่นไหลเสียงหัวเราะกระจายไปไกลทั่วสารทิศคงเป็นเพราะความเงียบสงัดของหมู่บ้าน พอค่ำลงอีกหน่อยเหนือศีรษะถูกรายล้อม ไปด้วยหมูดาวต่างๆ อากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆแต่ไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะความอบอุ่นของกองฟื้น ไม่ก็ฤทธิ์ของเหล้าต้มที่หมดไปหลายจอก หรืออาจเป็นความอบอุ่นของผู้คนที่ ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน จอกแล้ว...จอกเล่า...ภาพของค่ำคืนก็จบลง


• ตอนที่ ๓ : .....................


• ช่ า ง จะ เ ที่ ย ว •

 วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 03.08 น.

ความคิดเห็น