ต่อจากภาค 1 เลยนะคะ ...

วันที่ 5 : วันนี้ก็เป็นวันที่ จขกท. รอคอยมานานแสนนาน.. ในที่สุดก็มาถึงสะทีนะ..หลังจากอุปสรรคมากมาย..อิอิ.. วันนี้ ไกด์ นัดออกเดินทางพร้อมกัน ตอน8โมงเช้าค่ะ มีลูกทัวร์ที่ไปด้วยกันก็ประมาณ20กว่าคน ไปรถคันเดียวกัน (ทัวร์ที่ซื้อไว้เมื่อสองวันก่อน 480 หยวน มีออกซิเจน+เสื้อกันหนาวให้พร้อมค่ะ) แจกออกซิเจน แจกเสื้อกันหนาว แล้วก็พาไปขึ้นรถ ใช้เวลาประมาณ 1ชม. ก็ถึงทางเข้าภูเขาหิมะ ไกด์ก็จัดการซื้อตั๋วเข้าให้ทุกอย่าง เราก็มีหน้าที่นั่งคอย..สักพัก ไกด์ก็เดินมาบอกพวกเราว่า... ทางเจ้าหนาที่เเจ้งมาว่า .. วันนี้คนขึ้นไปเยอะมาก หลังจากปิดไป1วัน เลยทำให้ไม่สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปเขาหิมะได้ .. เอิ่ม.. ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม..สตั้นไป5วิ.. ไกด์ก็ถามว่าเอางัยดี ..จะกลับมั้ยถ้ากลับจะคืนเงินให้ครบ .. ถ้าไม่กลับก็ขึ้นไปเสี่ยงเอาว่าจะได้ขึ้นมั้ย...แหม่...มาแล้วเนอะ.. เสี่ยงดวงเอา..ยังงัยก็จะไป.. สรุปบนรถก็มีคนขอกลับไป5-6คนที่เหลือก็ยอมไปเสี่ยงดวงกันดู ..

ไกด์พาเรามาเที่ยวที่ Blue Moon Valley (蓝月谷) ก่อน แล้วบ่ายสามครึ่ง ค่อยไปขึ้นกระเช้าไปภูเขาหิมะ เพื่อว่า ช่วงบ่ายจะมีโอกาสได้ขึ้นมากกว่า พวกเราก็โอเค ตามนั้นเลย .. ถ้าถาม จขกท. ได้ขึ้นหรือไม่ได้ขึ้นไม่ซีเรียส เพราะแค่ได้มาเห็น Blue Moon Valley (蓝月谷) ก็คุ้มค่าละค่ะ มีรูปมาฝากเยอะเลย สวยจริงจัง...สวยจับใจจริงๆ

เทือกเขาหิมะมังกรหยก มองไกลๆ ก็สวยไปอีกแบบ

Blue moon valley

Blue moon valley ก็ประมาณนี ... ต่อไปก็ได้เวลาลุ้นว่าจะได้ขึ้นเขามั้ย.. ถึงเวลานัดคือบ่ายสามโมงครึ่ง ..ไกด์ก็มาแจ้งว่า ..ขึ้นได้นะครับบบ..เตรียมเสื้อผ้าและออกวิเจนให้พร้อม..เพราะสิ่งที่คุณกำลังจะไปเจอต่อไปนี้คือเขาหิมะมังกรหยก ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 4500 กว่าเมตร !! มันอาจทำให้บางคนมีอาการหายใจไม่สะดวก อึดอัด คลื่นไส้ อาเจียน วินเวียนศีรษะได้ .. ร่างกายต้องพร้อม ห้ามป่วยนะคะ!

ที่สำคัญคือ เตรียมชอคโกแลตไปกินด้วย ..มันช่วยได้จริงๆค่ะ ถ้าขึ้นไปแล้วรู้สึกไม่ดี ให้รีบลงมานะคะ อย่าฟื้นเด็ดขาด! ส่วนเวลาเดินต้องเดินช้าๆ ปกติ จขกท.เป็ฯคนเดินเร็วมาก แต่พอไปอยู่ตรงนั้น ทำอะไรต้องช้าค่ะ ไม่งั้นอาการที่เกิดจากผลกระทบบนที่สูง มาเยือนแน่ เพราะรุ่นน้องที่ไปด้วยก็ถึงจะเเข็งแรงมาก แต่พออยู่บนที่สูงก็แย่ได้เหมือนกันนะคะ

ไกด์ก็ให้เราต่อแถวรอขึ้นรถไปที่ตีนเขาเพื่อไปขึ้นกระเช้า..มองดูท้องฟ้า..มันโอเคใช่มั้ย..ขึ้นได้จริงๆใช้มั้ย

ไกด์บอกได้ก็คือได้


เพื่อนร่วมชะตากรรมที่เพิ่งรู้จักกันค่ะ คนจีนน่ารัก


จขกท. พร้อมมาก แอบตื่นเต้น เพราะขึ้นกระเช้าไปมันสูงมากกกกกกก...


ขึ้นกระเช้าไปไม่ถึงสักพัก... หิมะตกหนักเลยค่ะ..ฟ้าใสๆ.. ไม่มีอีกแล้ว ..มืดครื้มมาเลย.. ยิ่งสูงหิมะยิ่งตกหนัก ..


และในที่สุดก็มาถึง..แต่... ปีนไปไหนไม่ได้ไกลค่ะ..หิมะตกหนัก..หนักจนมองไม่เห็นทางเลย ..แต่คนก็ยังคึกคักเล่นหิมะกันสนุกเลย

ในขณะที่ จขกท.นั้น...


ตามรูปเลยค่ะ


กลับกันเถอะเรา..


ทริปวันนี้ก็จบลงด้วยดี (มั้ย) คือรุ่นน้องที่ไปด้วยมีอาการรุนแรงเลย..ลงมาจากเขานั่งรถกลับที่พัก นางอยากอาเจียน เวียนหัว ก็พากันไปกินhotpot ถามว่าช่วยได้มั้ย นางก็ดีขึ้น แต่ก็นิดเดียว สุดท้ายก็ต้องกินยาแล้วรีบนอนเลยค่ะ น่าสงสารไปอีกก..

**ค่าใช้จ่ายวันที่ 5 : ค่าอาหาร 91 + ค่าที่พัก 40 = 131 RMB (747บาท)





วันที่ 6 : วันนี้ออกเดินทางจากลี่เจียง - จงเตี้ยน (แชงกรีล่า) โดยรถบัส ที่ซื้อตั๋วไว้ก่อนหน้านี้ รถออก 8 เช้า มาขึ้นรถที่สถานีขนส่ง (客运站)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ถึง จงเตี้ยน(แชงกรีล่า) พอถึงเราก็มุ่งตรงไปซื้อตั๋วไปเต้าเฉิง(稻城)สำหรับวันพรุ่งนี้เลย แต่พนักงานบอกว่า ไม่มีตั๋วไปเต้าเฉิง(稻城)(อาจจะเพราะตั๋วเต็มเเล้ว) เลยให้เรานั่งไปลงเชียงเฉิง(乡城) แล้วเปลี่ยนรถที่นั้น ไปเต้าเฉิง(稻城)ต่อ เราไม่มีทางเลือก เพราะไม่อยากเสียเวลารออยู่ที่นี้ เลยตัดสินใจซื้อตั๋วไปเชียงเฉิง(乡城)ในราคาคนละ 85หยวน

ซื้อตั๋วเสร็จเราก็เดินหาที่พัก แถวๆนั้นก่อน เพราะว่าพรุ่งนี้เช้าก็ต้องนั่งรถบัสต่อไปที่อีกเมืองหนึ่ง เดินวนๆหา สรุปได้ที่พักที่อยู่ติดๆกับสถานีขนส่ง ชื่อ โรงแรม Shunxin International Business Hotel ราคาคืนละ120หยวน/ห้อง

เก็บของเข้าที่พัก ก็ออกมาเดินหาอะไรกินแถวๆนี้ แชงกรีล่า เป็นที่ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4000กว่าเมตร ซึ่งก็ไม่ต่างจากอยู่บนภูเขาหิมะ เลยทำให้รุ่นน้องก็มีอาการมึน วินเวียน อยากอาเจียน เช่นเดิม ส่วนตัว จขกท.นั้น เป็นคนชอบเล่นของสูง..เอ้ย..ชอบที่สูงมั้ง..เลยไม่มีอาการดังกล่าว

พอหาไรกินเสร็จก็กะว่าจะไปเดินเล่นที่วัด ซุงจ้านหลิน (松赞林寺) แต่เผอิญ นั่งรถเมย์ผิดสาย เลยได้มาเดินเล่นที่ กู่เฉิง (古城)แทน (นั่งรถสาย7 หรือสาย3 มาลงกู่เฉิง แต่ รถเมย์ที่นี้ รอนานมากกว่าจะมา ต้องทำใจ)

เราเดินเล่นแค่บริเวณรอบนอก ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะบัตรค่าเข้าแพงงง เดินถ่ายรูปเสร็จ ก็หารถเมย์นั่งไปวัด ซุงจ้านหลิน (松赞林寺) โดยนั่งรถสาย 3 ไปลงป้าย ซุงจ้านหลิน (松赞林寺) ก็ถึงเลย


ที่แชงกรีล่าเราใช้เวลาอยู่ที่นี้แค่ครึ่งวัน ไปได้แค่นิดเดียว อีกอย่างคือ รอรถเมย์นานมากเป็นชั่วโมงกว่าจะมาแต่ละคัน คนส่วนใหญ่เน้นมากับทัวร์ ทะวร์ก็จะพาไปสถานที่ท่องเที่ยวเลย เรามาแค่ทางผ่านไปย่าติงเท่านั้น จุดประสงค์หลักของเราคือ ย่าติง .. วันนี้ก็เลยกลับเข้าที่พัก พักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเช่นเคย

**ค่าใช่จ่ายวันที่ 6 : ค่าตั๋วไปเชียง(乡城)85 +ค่าอาหาร 54 + ค่าที่พัก 60 + ค่ารถเมย์ 6 = 205 RMB (1169 บาท)




วันที่ 7 : วันนี้ก็เป็ฯอีกวันที่เน้น นั่งรถ ทั้งวันเลยค่ะ ออกเดินทางจาก จงเตี้ยน(แชงกรีล่า) นั่งรถบัส(ไม่ปรับอากาศด้วย)ไปเชียงเฉิง(乡城) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 โมง .. ขอเเชร์เลยตรงนี้ ประสบการณ์ตรง เกิดขึ้นใน7-8ชั่วโมงนี้เลย ทางไปเชียงเฉิง คือต้องขึ้นเขาหิมะ ที่มีสูง สูงแบบ ภูเขาเมืองไทย โค้งพันโค้งที่ว่าแน่ กลายเป็นหลานภูเขาของที่นี้ไปเลย !! เพราะรถต้องอ้อมเขาไปไม่รู้กี่ร้อยลูก ทางคดเคี้ยว ชัน อันตรายมากก หน้าผา เหว มีตลอดทาง แถมไม่มีอะไรกั้นด้วย คนขับแน่นอนจริงๆ นับถือเลย .. จขกท. ก็พยายามจะหลับ จะได้ไม่ตื่นเต้นมาก ..ขับไปสักพัก.. รถเบรกกระทันหัน หน้าทิ่มเลยครับ.. พร้อมกับลืมตามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น.. นั้นละครับท่านผู้ชม.. รถจอดอยู่ปากเหว.. พร้อมกับรถบรรทุกที่สวนมาอีกคัน.. เอิ่ม.. ปากเหววว... นั่นตกไปคือร่ะ.. ไม่เหลือซาก... ช็อค ..ตาค้าง.. ระทึกขวัญไปอีก.. คราวนี้ หลับกันไม่ลงเลยทีเดียว 555555 ต้องลองนะคะ อีกทั้งบนรถบัสนั้น..มีชายสี่ห้าคน สูบบุหรีบนรถด้วย จขกท. ก็หันไปบอกดีๆ เขาก็หน้านิ่งใส่ สูบต่อไป ผ่านไปอีกสิบนาที สูบอีก เราก็หันไปวีน เพราะเป็ฯคนแพ้ควันบุหรี มันหายใจไม่ออก ..ผลที่ได้คือ.. เขาสูบหนักกว่าเดิม ..ทำไรไม่ได้เลย นอกจาก ทำใจ คือก็ไม่กล้าเสี่ยงกับ teem ทั้ง สิบ ด้วย 555 ประสบการณ์แบบนี้หาได้ยากจริง อยากให้ทุกคนได้ลองค่ะ .. การนั่งรถบัสถึงจะดูน่ากลัว แต่สิ่งที่เราได้เห็นด้วยตาเรา คือมันดีงามมากก ..วิวข้างทาง สวยมากกกกกก ... บุญตาจริงๆ คุ้มค่ากับชีวิตที่เอามาเสี่ยงที่นี่เลย 5555

จอดปากเหวค่ะ


รูปที่ได้อาจดูไม่สวย ..แต่ที่เห็นด้วยตาคือมันสวยมากจริงๆ


นั่งรถมา7-8ชั่วโมงได้ ก็มาถึง เชียงเฉิง(乡城)เหมือนเป็ฯหมูบ้านเล็กๆ ไม่มีอะไรเลย พอเดินออกจากสถานีขนส่ง ก็จะมีคนขับรถออกันอยู่หน้าสถานี รอเรียกลูกค้า ว่าจะไป เต้าเฉิง (稻城)มีหลายเจ้าเลยค่ะ เขาก็จะเข้ามาถามว่าเราจะไปไหน รถมีทั้งแบบเหมา และแบบ นั่งหารๆกันไป ถ้าเหมาไป เต้าเฉิงก็ราคา300หยวน แต่ถ้าไปแบบนั่งรวมๆกัน หารๆกันไปกับคนอื่นก็คิดคนละ 50-60หยวน/คน แล้วแต่ขนาดรถด้วย สรุปเราก็ได้รถแบบนั่งรวมกันไป เขาคิดคนละ60หยวน ก็ถือว่าโอเค เพราะรถที่นั่งใหม่ สะอาด ไม่แออัดด้วย คนขับก็ใจดีด้วยค่ะ


รถที่ จขกท. นั่งมาเป็นแบบนี้ค่ะ


จากเชียงเฉิง(乡城 ) ไป เต้าเฉิง(稻城) ก็ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ค่ะ ระหว่างทางที่นั่งไป วิวก็สวยใช้ได้เลย ชอบๆ ประทับใจวิวข้างทาง อิอิ


วันนี้คือ นั่งรถทั้งวันจริงๆ ส่วนเรื่องที่พัก คือ ทางคนขับรถก็แนะนำว่ามีที่พักราคาไม่แพง ของเพื่อนเขาเอง เปิดใหม่ ให้เราลองไปดูก่อนได้ ถ้าไม่พักก็ไม่เป็น คนขับก็พามาส่งที่พัก เราก็ไปดู ก้โอเคนะ เจ้าที่พักก็เป็นกันเองดีด้วย ก็ตัดสินใจอยู่ตรงนี้เลย หาของกินง่ายด้วยค่ะ ที่พักชื่อ Daocheng Huxin (稻城互信) ราคาคืนละ100หยวน/ห้อง


หรือถ้าไม่ชอบก็ลองเดินๆหาเองได้ค่ะ มีที่พักเยอะเลย แต่ จขกท. เหนื่อยแล้วเลยเลือกตรงนี้เลย เหอะๆ


ปล. เช่นเคยที่นี้ก็ไม่มีฮิตเตอร์ทำความร้อน มีให้แค่ ที่รองนอนไฟฟ้า จะอุ่นๆบนเตียง แต่มีน้ำอุ่นให้อาบค่ะ)

สำหรับวันนี้ก็ก็พักผ่อนเลย เพราะพรุ่งนี้ยังต้องเดินทางต่อไปย่าติงอีกค่ะ

**ค่าใช้จ่ายวันที่ 7:ค่ารถมาเต้าเฉิง60+ค่าอาหาร40+ค่าที่พัก50=150 RMB (855บาท)

ติดตามภาค3 ได้ที่

https://th.readme.me/p/2887


Caili An

 วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.56 น.

ความคิดเห็น