ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้ว ผมก็ยังมูฟออนตัวเองออกจากงานนี้ไม่ได้ งานที่ไม่เกี่ยวกับงานวิ่งที่ผมต้อง Book ไว้ทุกๆ ปีว่าจะต้องไป โดยมีหลักๆ อยู่ 2 งานคือ Cat T-Shirt และ Cat Expo ซึ่ง Cat Expo เนี่ย มันเปลี่ยนมาจากงาน Fat Festival ที่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2544 ที่โรงงานยาสูบ ผมเริ่มไปแบบจริงๆ จังๆ ครั้งแรก เมื่อปี 2546 เป็น Fat Festival ครั้งที่ 3 ที่จัดที่แดนเนรมิต และจากนั้นก็ไปมันทุกปี มีเพียง Cat Expo ครั้งแรกเท่านั้น ที่ไม่ได้ไป นับรวมกันก็ 16 ปีติดต่อกันแล้ว ที่ผมมาเสพย์เทศกาลงานดนตรีที่งานนี้ เรียกได้ว่าเป็นเด็กอินดี้ยุคบุกเบิก เป็นเด็กแฟตรุ่นแรกก็ได้ 555

ปีนี้ทาง Cat Expo ก็เปลี่ยนสถานที่อีกครั้ง โดยมาที่สวนสยาม หรือ Siam Amazing Park นั่นเอง

การเดินทาง :

ถึงแม้จะเขยิบไกลจาก สวนสนุก Wonder world มานิดหน่อย แต่รู้สึกได้ถึงความไม่ชำนาญพื้นที่ และมีความยากลำบากในการนำรถมา หรือการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม จริงๆ แล้วทางงานได้จัดที่จอดรถไว้ให้ซึ่งตอนแรกคิดว่าเพียงพอต่อความต้องการ แต่เอาเข้าจริงด้วยระยะทางที่ไกล ถ้าเป็นไปได้ ทุกคนก็อยากจะมาจอดรถที่บริเวณงานมากกว่าที่จะไปจอดแถวสวนสนุก Wonder world เพราะต้องนั่งรถมา และถ้าใครเคยมีประสบการณ์ตอนคอนเสิร์ตเลิก บอกเลยว่านรกแตก ที่สำคัญไม่มีป้ายบอกให้เห็นชัดๆ ว่าตรงนี้เข้าได้ หรือเข้าไม่ได้ รถที่ตามมาด้านหลังก็จะตามคันหน้าไป โดยที่ไม่รู้ว่ามันไม่สามารถเข้าได้

ผมคิดว่าการจัดการเรื่องการเดินทางทีมงานทำได้ดีนะเพราะมีทั้งรถรับ-ส่งจากจุดสำคัญ และจากที่จอดรถที่อยู่ไกลๆ แต่จุดจอดตรงพื้นที่งานผมว่ายังจัดการได้ไม่ดีเท่าไหร่ และแถวนี้รถติดมากกกกกกกกกกกกกกกก และขากลับกว่าจะออกไปถนนใหญ่ได้ก็ใช้เวลานานมากกกกกกกกก ทางที่ดีมารถสาธารณะก็น่าจะดีที่สุด แต่ตอนกลับก็อาจจะลำบากหน่อย เพราะหารถกลับยากเหมือนกัน

พื้นที่ในงาน :

ตามปกติแล้วงานจะแบ่งเป็นโซนๆ คือโซนเวที ซึ่งมีถึง 6 เวที โซนอาหาร โซนบูธขายของ แต่ปีนี้ทุกอย่างมันถูกรวมๆ กันกระจัดกระจาย ทำให้การเดินไปในแต่ละเวทีค่อนข้างลำบาก นอกจากไกลแล้วยังเดินยาก เพราะติดร้านค้าบ้าง ติดคนที่นั่งกินข้าวบ้าง ติดบูธศิลปินบ้าง จากที่คิดว่าการกระจายๆ แบบนี้มันน่าจะดี กลายเป็นติดขัดไปหมด และเป็นหย่อมๆๆ และแต่ละเวทีก็รองรับคนไม่ได้เยอะ โดยเฉพาะเวที 1 ที่คนล้นทุกปี มาปีนี้ไปอยู่ในโซนปิด แถมเล็กกว่าเดิม โดยมีร้านค้าต่างๆ ล้อมรอบด้วย บอกเลยว่าพัง ส่วนเวทีที่ 2 ก็เป็นเวทีปิด เข้าออกยาก และไม่ได้มีเจ้าหน้าที่จัดการด้านใน มันเลยดูติดๆ ขัดๆ เวทีอื่นๆ ก็เล็กกว่าเดิมเยอะ

แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสีย เพราะข้อดีของมันก็คือ หิวข้าว หิวน้ำ เมื่อไหร่ก็ซื้อกินได้เลย เพียงแลกคูปองเผื่อๆ ไว้หน่อย ก็แล้วแต่คนชอบครับ แต่ผมชอบแบบพื้นที่ว่างๆ ทางเดินเยอะๆ มากกว่า ส่วนของกินผมว่าแบ่งเป็นโซนเหมือนที่เคยผ่านมาน่าจะดีอยู่แล้ว คนกินก็กินไป คนเดินเที่ยวงาน เดินดูบูธ ดูคอนเสิร์ตก็ดูไป

แผนที่ในงาน ที่มีอยู่ทั่วงาน แต่เราก็ยังอุตส่าห์เดินหลง 55



ศิลปินมาออกบูธมากมาย แต่ผมถ่ายมาเฉพาะเหล่าน้องๆ ไอดอล แหม่ เปรียบเสมือนมาเดินงาน Idol Expo ยังไงยังงั้น

น้อง 2 ป๋อง

น้องนัชชี่ จาก AKIRA-KURØ

น้องป๊อบ จาก Fever

Show :

สิ่งที่เป็นหน้าเป็นตาของงานก็คือศิลปินที่มาขึ้นโชว์นี่แหล่ะ ปีนี้ก็ยกโขยงมากันเยอะเช่นเดิม แต่ขอเล่าเฉพาะวงที่ได้ไปดูแล้วกันครับ

ไปส่งกู บขส.ดู๊ : ปีนี้ ดีเจไอดอลชายคนหน้ามนนามอ๋องแอ๋ง ได้เป็นวงเปิดเวทีอย่างอลังการตามสไตล์ ไปส่งกูฯ ซึ่งปีที่แล้วเป็นวงปิด ดึกเกินไปเลยไม่ได้ดู มาปีนีก็ขอไปชมแบบเต็มๆ เสียหน่อย บอกเลยว่าทั้งมันส์ และฮา ถ้าในสมัยยุคอินดี้เฟื่องฟูวงที่บ้าที่สุดคือ Paradox ในยุคนี้ ไปส่งกูฯ คือวงที่บ้าๆ บอๆ ไม่แพ้กัน ทั้งเรื่องของเพลงที่เป็น message ประหลาดๆ ความบ้าบอของอ๋องแอ๋ง แต่พาร์ทดนตรีกับแน่นเหลือเชื่อผิดคาแรคเตอร์และเพลงของวง ผมรอคอยเพลง พนักงานสวนสัตว์ ก็ได้ฟังตอนที่อ๋องแอ๋งอขออังกอร์ให้ตัวเอง เพลงอยาก ม้าลายอยากขับรถจี๊บ เพลงที่คนพร้อมใจกันร้อง บรื่น บรืน บรืน บรื บรื๊น บรืน บรืน บรื้นนนนน กัน และฉันเป็นสโม้กเกอร์นิ เนื้อเพลงมันอาจจะประหลาๆ แต่พาร์ทดนตรี กับเมโลดี้มันโอนะ ชอบบบบบ

เพจวง ไปส่งกู บขส.ดู๊ : https://www.facebook.com/bks49/

ธีร ไชยเดช : ไม่ได้ตั้งใจดูจริงจัง เพราะดูไปยืนจิบเบียร์ไป คุยกับเพื่อนไป แต่เพลงของพี่ธีร์ เมื่อผ่านเข้าไปในโสตประสาทแล้ว มันก็ยังทำให้เราสบายใจทุกครั้ง และทำให้เบียร์ในมือลื่นคอมากกว่าเดิม ...

2 days ago kid : วงที่เหมาะกับวัยของเรา ... ใช่ เราเติบโตมากับยุคดนตรีอินดี้เฟื่องฟู และในยุคสมัยนั้น วง friday / yokee playboy / เจอรี่ คือกลุ่มนักดนตรีแถวหน้าในยุคนั้น และยังคงเล่นดนตรีกันอยู่จนมาถึงยุคนี้ เราได้ฟังเพลง ฉันไม่รู้จะรักเธอนานเท่าไหร่ / วันที่ใจซบเซา / ชั่วโมงต้องมนต์ / คืนนี้ขอหอม และ กลับมา ที่เราร้องตามได้ทุกเพลง และเพลงใหม่อย่าง พี่ชาย ก็มาเปิดตัวที่นี่ เป็นวงที่ทำให้เราคิดถึงตอนที่ยืนเย้วๆ ดูคอนเสิร์ตแบบไม่กังวลเรื่องปวดหลัง ปวดเข่า เหมือนตอนนี้เลย

เพจวง 2 days ago kid : https://www.facebook.com/2daysagokids/

Temp. : คือวง Part Time Musicians เก่า เจ้าของเพลง original Vacation Time จากหนังเรื่อง Freelance นั่นแหล่ะ แม้จะเปลี่ยนชื่อวง และนักร้องนำเหลือแค่คนเดียว แต่เสียงของนิกก็ยังมีเสน่ห์เช่นเดิม พอๆ กับน้องพิมพ์ คอรัสสุดน่ารักที่เด่นสุดบนเวที 555 (หยอกๆ) ถ้าใครอยากฟังเพลง Pop ที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ลื่นหูชวนจิบเบียร์เพลินๆ แนะนำเลยครับ ลองไปหาฟังดู

เพจวง Temp. : https://www.facebook.com/tempdotband/

Jan Chan : เริ่มต้นเข้าสู่ช่วง Cat Idol Expo อย่างจริงจัง และเราก็สิงกันอยู่ที่เวที 3 โดยไม่ไปเวทีไหนตั้งแต่ตอนนี้ จนจบงาน แจนจัง คือศิลปินไอดอล ที่จบการศึกษาออกมาจาก BNK48 ที่เรารู้จักกันดี ปีที่แล้วก็ไปยืนเชียร์น้องอยู่ การร้องเดี่ยวน่าจะยังยากไป เสียงเล็กๆ ของแจนยังไปไม่ถึงในระดับที่ควรเป็น แต่มาปีนี้น้องดูแข็งแรงขึ้นเยอะ เสียงแข็งแรงขึ้น แม้น้องจะเพิ่งหายป่วยกลับมา แต่การแสดง การคุมเวทีด้วยตัวคนเดียวดีมากขึ้นกว่าปีที่แล้วเยอะเลย ต้องบอกเลยว่าพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก และคิดว่าน้องน่าจะพัฒนาขึ้นไปได้อีก

เพจของเชเช่ แจนจังจ้ะ : https://www.facebook.com/bnk48official.jan/

Fever : จุดประสงค์ที่มาที่เวที 3 ก็คือมารอดู Performance บนงานใหญ่อย่างจริงจังของวงไอดอลสุดเท่อย่าง Fever ก็บอกได้เลยว่า ไม่ผิดหวัง และก็ไม่ผิดหวัง ทั้งไลน์เต้นที่ไม่เหมือนวงไอดอลทั่วไป ไม่ได้ขายความสดใส แต่นำเสนอวงด้วยความเท่ และเพลงที่ก้าวออกจากขนบของไอดอลทั่วไป อย่างที่เคยเล่า เบื้องหลังของวงนี้เป็นมือพระกาฬในแวดวงดนตรีอินดี้อย่างเฉลิม Seal pillow & Gym and swim ปกป้อง Plastic Plastic กับ เพียว Polycat ก็มาช่วยดูเรื่องดนตรี ออม TELEx TELEXs เป็น Vocal Director คุมร้องน้องๆ แน่นอนว่าเป็นวงไอดอลที่มีแนวเพลง และคาแรคเตอร์ถูกจริตชาวอินดี้ และผมที่สุดในเวลานี้

เพจของน้องๆ Fever : https://www.facebook.com/FEVERTH/

Daisy Daisy : ต่อเนื่องกับวงไอดอล ยอมรับเลยว่าไม่ได้ตามวงนี้ และไม่รู้จัก ไม่เคยฟังเพลงเลย แต่เชื่อไหมว่า น้องๆ ที่อยู่ข้างๆ เวทีเหมือนกับผม ต่างเปิด google กันเป็นแถว ว่าน้องคนนี้ชื่ออะไร เรียกได้ว่า โดนตกกันเป็นหมู่คระ เพราะน้องๆ สดใสน่ารักจริงๆ ว่าแล้วก็ขอไปติดตามเพจ และเมมเบอร์แต่ละคนเลยแล้วกันนะ 555

เพจของน้องๆ Daisy Daisy : https://www.facebook.com/daisydaisyidol/

Sweat16 : ไม่มีอะไรจะบรรยายนอกจากยอมรับใน Performance ที่แข็งแรงพร้อมเพรียง ตามชื่อของวงจริงๆ แต่ละเพลงของ Sweat16 บอกเลยว่าใช้พลังกายค่อนข้างเยอะมาก แต่น้องๆ ก็เอาอยู่ และเรารู้สึกว่าแต่ละปีที่น้องมา มันดีขึ้นเรื่อยๆ ปีก่อนๆ เราอาจจะแค่ยืนดู แต่มาปีนี้มันทำให้ผมโยกตาม และเชียร์ไปกับโอตะสายยิงมิกซ์ได้ บอกเลยว่าสนุกครับ

เพจของน้องๆ Sweat16 : https://www.facebook.com/SweatSixteen/

TELEx TELEXs : วงปิดท้ายของเวทีนี้ จากวงที่ผมเคยยืนดูสบายๆ ไม่ต้องเบียดกับใครเมื่อ 2-3 ปีก่อน กลับกลายเป็นวงที่มีแฟนคลับเยอะขึ้นจนล้นเวที เพลงที่ผมชอบถูกนำมาเล่นหมด เช่น เรือใบ และเพลงที่ชอบที่สุดอย่าง ซ่อน ก็ถูกนำมาเล่นเป็นเพลงสุดท้าย บอกเลยว่าเหนื่อยกับวงนี้มาก เพราะเต้นยับ และเป็นวงที่ทำให้เท้าของผมลอยขึ้นจากพื้นได้

เพจของวง TELEx TELEXs : https://www.facebook.com/TELExTELEXs/

ก็จบไปสำหรับวันแรก แม้จะพลาดไปหลายๆ วงที่วางแผนไว้ว่าจะดู เช่น Lord Liar Boots / Moderndog / DEPT / Taitosmith / Stamp / Bomb Attack และ AUTTA ก็ไม่เป็นไรเพราะไม่รู้จะออกไปจากเวทีที่อยู่ยังไงจริงๆ

ก็จบไปสำหรับงาน Cat Expo 6 ในวันแรก ส่วนวันที่ 2 ศิลปินที่ได้ไปดูก็ตามนี้เลยครับ

Earth Patravee : แรกๆ ยอมรับว่าไม่ค่อยติดตามน้องเท่าไหร่นัก รู้แค่ว่าเห็นน้องครั้งแรกในซีรี่ส์ฮอร์โมน และก็ฟังเพลงน้องผ่านๆ มาเรื่อยๆ จนมาระยะหลังทั้งน้อง ทั้งเพลง และการควบคุมเสียงของน้องมันอีโวขึ้นมาเยอะมาก และเพลงก็ละมุนหูมากขึ้น และการแสดงสดของน้องบอกเลยว่า เดอะเบสท์

เพจของน้องเอิร์ธจ้า : https://www.facebook.com/EarthPatravee/

DCNXTR : อ่านว่า ‘เดอ คอนเน็กเตอร์’ เป็นวง อิเล็กทรอนิกส์ – ดรีมป๊อป วงนี้ไม่ต้องฟังเนื้อเพลง แค่ได้ยืนโยกไปกับจังหวะ และซาวด์ อิเล็กทรอนิกส์ จาก Synthesizer ก็ฟินแล้ว และยิ่งเพลงที่มีเนื้อร้องโดยเฉพาะ Summer Rain ที่มีเสียงของน้องลูกน้ำ ร้องแบบกระซิบคลอไปเบาๆ กับเพลง บอกเลยลอยยยย วงนี้ผมชอบมาก และเป็นลิสต์วงแรกๆ ที่ต้องไปดูให้ได้ เพราะหาดูได้ค่อนข้างยาก


เพจของวง DCNXTR : https://www.facebook.com/deconnextor/

สำหรับวันที่ 2 ผมมีเวลาดูแค่นี้ เพราะต้องไปทำภารกิจต่อ แต่โดยรวมแล้ว Cat Expo ครั้งที่ 6 แม้จะเจออุปสรรคจากอะไรก็ตามแต่ที่ผมบรรยายไปข้างต้น แต่วันที่ 2 ผมเห็นความพยายามของทีมงานที่จะจัดการ และแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ก็ไม่มีอะไรจะต่อว่า นอกจากให้กำลังใจให้จัดงานดีๆ แบบนี้อีกในปีต่อๆ ไป

ปีหน้าสำหรับผมยังจะไปอีกไหม? ไม่ต้องเสียเวลาคิด ไปสิครับ

ปล. ขออภัยสำหรับรูปภาพ เพราะตั้งใจมาดูคอนเสิร์ตจริงๆ เลยไม่ได้พกกล้องมาเลย ใช้แค่ Huawei P30 Pro ถ่ายเท่านั้น อาจจะมีเบลอๆ บ้างนะครับ

Pink Yangmatoy

 วันพฤหัสที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.32 น.

ความคิดเห็น