ขึ้นชื่อว่า “เขาหลวง” สายป่าคงรู้กัน ถึงความชันความโหดกว่าเขาทั่วๆไป “เขาหลวงประจวบ” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีภูมิประเทศติดกับเทือกเขาตะนาวศรีซึ่งเป็นเขตกั้นชายแดนระหว่างไทยกับพม่า ถ้าขับรถมาจากกรุงเทพฯ ก็ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. จะมาเดินป่าที่นี่ได้ต้องมีการจองล่วงหน้าด้วยนะ แต่ปีนี้ทราบมาว่าเต็มหมดแล้ว ใครจะมาคงต้องรอปีหน้า ดูรายละเอียดได้จากเฟสบุ๊คของอุทยานเลย

Facebook : อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง - Namtok Huai Yang National Park

จุดเริ่มต้นอยู่ตรงที่ทำการอุทยานฯ หลังจากชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ประกอบด้วย ค่าเข้าอุทยาน คนละ 20 บาท ค่ากางเต็นท์หลังละ 30 บาท ค่าเจ้าหน้าที่นำทางเท่าไหร่จำไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะมาแนะนำพร้อมตัวอธิบายรายละเอียดนิดๆหน่อยก่อนจะเริ่มออกเดิน

หลังจากรับข้าวห่อสำหรับมื้อเที่ยงไว้กินระหว่างทาง แบ่งของส่วนกลางให้คนในทริปช่วยกันแบกขึ้นไป เนื่องจากที่นี่จะไม่มีลูกหาบเหมือนเขาหรือดอยอื่นที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกัน เลยต้องช่วยๆกันแบกจ้า จากนี้ใครพร้อมแล้วก็เริ่มออกเดินได้เลย

เราเริ่มออกเดินประมาณ 9 โมงนิดๆ เส้นทางเดินช่วงแรกๆ คือเดินเลาะไปตามน้ำตกห้วยยาง จากชั้นที่ 1 ไปจนถึงชั้นที่ 5 ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้ามาเล่นน้ำได้

เดินเลยน้ำตกชั้น 5 มารวมตัวกันซักแปบ หลังจากนั้นแหละ ความบรรลัยได้เริ่มขึ้นแล้ววว !!!

ก่อนมาก็ทำการบ้าน อ่านรีวิว มาแล้วแหละ รู้แค่ว่าหนักมาก ทางเดินขึ้นอย่างเดียวเลย ชันก็ชัน ก่อนก็มาแทบไม่ได้ฟิตร่างกายเลย T-T

แค่เริ่มก็เล่นเอาเหงื่อท่วมบอกเลย

ระหว่างทางก็จะผ่านแหล่งน้ำอยู่ 2-3 จุด แวะพักล้างหน้าล้างตาได้

เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ไหวบอกไหว จนถึงลาน 1 จะมองเห็นจุดชมวิวลาน 2 ซึ่งเป็นจุดที่เราจะตั้งแคมป์กัน นั้นหมายความว่า มันใกล้ถึงแล้วไง หลังจากเดินมา 6 ชม.

เดินต่อเซ่ !! อีกนิดเดียว


ถึงซักที ใช้เวลาเดินไปประมาณ 6 ชม.ครึ่ง หลังจากนั่งพักให้หายเหนื่อย เด่วจะพาไปดูวิวที่จุดชมวิวใกล้ๆ กับจุดกางเต็นท์

โฉมหน้าส่วหนึ่งของผู้ร่วมทริป กว่าจะขึ้นมาถึงได้ ก็ยิ้มแย้มฮาเฮกันเป็นธรรมดา


ยอดเขาหลวงประจวบ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ระดับ 1,250 เมตร กับระยะทาง 7 กิโลเมตร ทางชันล้วนๆ ทางราบอย่าไปพูดถึง มีก็เหมือนไม่มี แถมยังต้องฝ่าฟันกับกองกำลังทากดูดเลือดที่พร้อมจะโจมตีคุณได้ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าที่นี่เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมากเลยทีเดียว แต่จุดที่เราตั้งแคมป์นี้ยังไม่ใช่ยอดสูงสุดนะ ต้องขึ้นไปอีก

จากจุดนี้ จะสามารถมองเห็นวิว 3 อ่าวแห่งเมืองประจวบฯได้ จะประกอบ อ่าวน้อย อ่าวประจวบ และอ่าวมะนาว แต่วันที่ขึ้นไปสภาพอากาศไม่ค่อยปอดโปร่งเท่าไหร่ มองไม่ค่อยวิว 3 อ่าว แต่ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์รอให้เราดูกัน ต้องรอให้มืดๆก่อน

พ่ามมม !! นี่แหละไฮไลท์ที่บอก ดาว3โลก ที่หลายคนพูดถีงกันเมื่อมาเยือนเขาหลวงประจวบ ประกอบด้วย 1 ดาวบนพื้นดิน คือ เหล่าแสงไฟจากบ้านเรือน ถนนนทาง 2 ดาวในผืนน้ำ แสงไฟที่มาจากเรือไดร์หมึก เรือหาปลา และสุดท้าย 3 แสงจากดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า รวมเป็น ดาว3โลก สวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ


กลางคืนฟ้าเปิดเลยได้เห็นทางช้างเผือกด้วย ถ่ายได้ แต่แต่งไม่เป็นเลยได้มาประมาณนี้แหละ



ตัดภาพมาตอนเช้าเลยละกัน กะว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ แต่มองไม่เห็นอะไรเลย เมื่อคืนฝนตก เช้ามาเลยได้เห็นหมอกน้อยๆ ลอยอยู่บ้าง


หลังจากมื้อเช้า เราช่วยกันเก็บของ เก็บเต็นท์ เดียวเดินทางลง แต่ก่อนจะลง เราจะแวะไปอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของที่นี่ ต้องเดินขึ้นอีกแระใช่มั้ย แต่ยังดีที่ไม่ต้องแบกเป้ไปด้วย เอากองๆรวมไว้ตรงก่อนทางขึ้นได้


หลังจากเดินมาอีกขึ้นซักพักใหญ่ๆ พ่ามมม !!! จะเรียกอะไรแล้วแต่เลย บางคนเรียก ซุ้มประตูมิติ ประตูกาลเวลา ประตูเฉลิมพระเกียรติ ฯ ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ธรรมชาติได้สรรสร้างเอาไว้ ป่าโบราณที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะอยู่แค่ ประจวบฯ ใกล้ๆแค่นี้เอง


หลังจากชื่นชมกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าแห่งนี้แล้ว ก็ได้เวลากลับแล้วล่ะ ถามว่าโอกาสหน้าจะมาอีก ณ ตอนนี้บอกเลยว่า ไม่แล้วแหละ 555


ส่วนตัวมองว่า “เขาหลวงประจวบ” เป็นป่าที่หนักพอสมควร ทางชันมาก เหนื่อยมาก ลูกหาบไม่มี ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ทากก็เยอะ ป่าทึบพร้อมจะหลงได้ตลอดเวลา แต่อย่างน้อยเราก็เอาไปโม้ได้ว่า ครั้งนึงเราเคยพิชิตเขาลูกนี้มาแล้วนะ ตบมือสิ รอไร !!


สุดท้ายขอแอบฝากเพจท่องเที่ยวเล็กๆของผมหน่อยนะครับ ไปติดตามการเดินทางของผมได้ที่เพจนนี้เลยฮะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดู ขอบคุณฮะ

facebook : https://www.facebook.com/getawayTH/


pennuenq

 วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 18.29 น.

ความคิดเห็น