ทริปนี้จองตั๋วข้ามปีในราคาโปรโมชั่น ออกเดินทางด้วยดอนเมืองมาลงที่หาดใหญ่

มาถึงหาดใหญ่ก็ 4 โมงกว่าแล้ว นั่งสองแถวเข้าเมืองมาลงแถวสถานีรถไฟ ที่พักที่เดินหาก็อยู่แถวๆ นั้น คืนแรกเราไม่ค่อยโอเคกับห้องนัก มีกลิ่นบุหรี่

ออกสำรวจหาดใหญ่กันก่อนแสงหมด

เดินมาเจอน้องๆ โรงเรียนแสงทองฯ กำลังซื้อขนมกุยช่าย เราก็มารอคิวซื้อบ้าง และก็ไม่ผิดหวัง

เดินต่อมาแถวฉื่อฉาง ย่านนี้วัดจีนเยอะ

ชิมอาหารในย่านฉื่อฉางหลายชนิด ก็มีทั้งอร่อยและเฉยๆ เลือกตามที่เราชอบดีกว่าตามความเห็นคนอื่น

เดินย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่

คืนแรกไม่ค่อยได้ไปไหน ขึ้นห้องเร็วเพื่อหาที่เที่ยววันรุ่งขึ้น

เช้าวันที่ 2 ของทริปเราตัดสินใจไปเมืองเก่าสงขลา เดินจากที่พักไม่ไกลจะเจอจุดจอดรถตู้ไปสงขลา รถตู้มาจอดที่คิวรถเราต่อพี่วินมาที่ถนนนางงาม เราให้พี่วินจอดต้นถนนเลย เราอยากเดินเอง

แดดดี ก็เดินสนุก ตึกรามบ้านช่องยังคงเดิมผสมผสานกับบางหลังที่ใหม่ขึ้น เราชอบความผสมผสานที่ลงตัวนี้

เจอ Street art ชุดแรก ย่านนี้มีหลายจุดหลายมุม เก๋ไก๋มาก

เดินต่อมาที่ศาลเจ้าพ่อหลักมืองสงขลา

มาถึงถิ่นแล้วก็ต้องลองชิมก๋วยเตี๋ยวใต้โรงงิ้ว เราปรุงไม่โดนใจป้า ป้าปรุงให้เองเลย อร่อยดี

เดินต่อมาเจอมิวเซียมยิปอินซอย เราชอบหลายมุมที่นี่ คนไม่เยอะเดินสบาย

ถามน้องๆ ที่ดูแลมิวเซียมว่าที่พักที่ไหนดีและราคาย่อมเยาว์ น้องบอกคนที่มาเที่ยวชอบพักที่โรงแรมเลคอินน์ เราเดินตามที่น้องแนะนำ แล้วด้วยความโชคดีที่ได้ห้องฝั่งเห็นทะเลสาบสงขลา แต่เหลือห้องสุดท้ายของฝั่งนี้เตียงเลยเป็นเตียงคู่

ระเบียงห้องพักจะได้วิวอาทิตย์ตก ดีงามมาก

เก็บของเสร็จก็ถึงเวลาเดินทอดน่องท่องเมืองเก่าสงขลาต่อ เริ่มต้นที่ประตูเมืองสงขลา

เดินชมตึกรามบ้านช่องอีกครั้ง บางตึกก็อยู่ในช่วงปรับปรุง

เดินต่อมาที่บ้านนครใน ที่นี่เปิดให้เข้าชมของเก่าที่เก็บสะสมไว้

ตึกไม่ไกลกันดูใหม่ แต่ลงตัวกับย่านนี้

เราชอบ street art ที่นี่นะ ถ่ายรูปสนุกดี

เดินต่อมาที่โรงกลึงเก่าที่ทำให้ดูน่าสนใจ เล่าเรื่องเมืองเก่า และมุมถ่ายรูปกระจกด้านในสุดนี้ดีมาก

เจอ street art อีกชุด

เดินมาถึงหับโห้หิ้น หรือโรงแดง ที่นี่ก็เปิดให้เข้าชมได้ เราชอบปล่องไฟมาก

อาคารอีกชุดก่อนสุดถนนนางงาม

เดินต่อมาอีกไม่ไกลจะเจอกำแพงเมืองเก่าสงขลา

ใกล้ๆ กันจะเป็นบ้านเกิดป๋าเปรม

เดินต่อมาที่เขาตังกวน มาถึงแล้วก็ต้องขึ้นไปชมวิว ด้านบนจะมีพระธาตุหลวงบนเขาตังกวน ประภาคาร

ชมวิวจนหน่ำใจก็เดินลงไปที่วิหารแดง เคยเป็นที่ประทับครั้งรัชกาลที่ 4 เสด็จฯ ขึ้นเขาตังกวน

เดินย้อนชึ้นมารออาทิตย์ตกที่ด้านบน แต่ก็อยู่ไม่ถึงอาทิตย์ตก เจ้าหน้าที่บอกกระเช้าจะปิดแล้ว และเราไม่รู้ว่าเดินลงด้านไหนได้บ้าง เราลงมาพร้อมกระเช้ารอบสุดท้าย

ไหนๆ ก็มาถึงแถวนี้แล้ว แวะมาเยี่ยมนางเงือก และหนูกับแมวที่หาดสมิหลาก่อนแสงหมด

ลงทะเลแค่ขา เพราะแสงกำลังหมด เดี๋ยวต้องเดินกลับที่พักอีก

ระหว่างทางเดินกลับ เจอร้านอาหารตามสั่งที่คนเยอะ ก็เลยแวะกินมื้อเย็นที่นี่เลย ถือว่าไม่ผิดหวัง

เดินกลับมาเส้นถนนนางงาม มาดูบรรยากาศยามหัวค่ำกันสักนิด แสงไฟทำให้ย่านนี้มีเสน่ห์มากขึ้น

กลับที่พักอาบน้ำแล้วออกมากินโรตีหน้ามัสยิดอุสาสนอิสลาม บ้านบน

คืนนี้หมดแรงแล้ว พออิ่มก็กลับขึ้นห้องนอนเลย

เช้าวันที่ 3 ของทริป ระเบียงห้องที่เป็นจุดชมอาทิตย์ตก แต่เราไม่ได้ดู ยามเช้าก็เย็นสบายดี


ออกสำรวจเมืองเก่ายามเช้า เริ่มต้นที่มัสยิดอุสาสนอิสลาม บ้านบน

เดินต่อมาที่วัดมัชฌิมาวาส หรือวัดกลาง


เดินต่อมาอีกจุดที่วัดโพธิปฐมาวาส พระอารามหลวง

มื้อเช้าง่ายๆ ก็เป็นกาแฟกับปาท่องโก๋

และด้วยแต้มบุญที่ยังคงเหลืออยู่เราก็ติดต่อที่พักที่เกาะยอโฮมสเตย์ได้แล้ว นั่งสองแถวไปลงที่ตลาดเกาะยอ จุดนั้นมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ให้ลุงแกไปส่งที่บ้านลุงเดชาได้เลย ด้วยความที่เรามาคนเดียว ลุงเดชาเลยไม่อยากให้ไปนอนกลางน้ำ แต่เราอยากนอนกลางน้ำมาก ขอลุงอยู่นาน ลุงก็ยอมให้เราบ้านพักกลางน้ำจนได้ แถมลุงยังเป็นธุระเอามื้อเที่ยงกับมื้อเย็นมาส่งให้ด้วย ลุงใจดีมากๆ บ้านพักกลางน้ำบรรยากาศดีมาก คุ้มค่าที่ได้มาทริปนี้จริงๆ

การได้มานั่งชมอาทิตย์ตกกลางทะเลสาบสงขลามันฟินมากจริงๆ ถึงเมฆจะเยอะไปนิดก็ตาม

ตึกดึกลมแรงมาก ได้ยินเสียงลม เสียงน้ำดังชัดเจน เข้าใจแล้วทำไมลุงเดชาถึงไม่อยากให้มานอนคนเดียว แต่เรื่องแค่นี้เราหลับได้สบาย

เช้าวันที่ 4 ของทริป ฟ้ามีเมฆมาก ไม่เห็นอาทิตย์ขึ้น

ลุงมาพาชมกระชังปลากะพง และบ้านพักกลางน้ำอีกหลัง ซึ่งเป็นหลังแรกที่ลุงสร้าง

มื้อเช้าเป็นข้าวต้มที่ลุงน้ำมาส่งให้ อร่อยจนกินหมดหม้อ

นัดเวลาให้ลุงรับเข้าฝั่ง ลุงพาชมรอบๆ อีกหลายจุด ก่อนจะนำมาส่งที่ฝั่ง

ป้าโทรเรียกมอเตอร์ไซค์ให้ เราออกไปจุดเดิม ระหว่างรอรถสองแถวเราก็แวะจิบกาแฟ แต่ก็ได้ชิมยำสาหร่ายของขึ้นชื่ออีกอย่างที่ต้องกินเวลามาเกาะยอ (แม่ค้าบอก)

ยังพอมีเวลาอีกเยอะ นั่งสองแถวมาสุดสายที่สะทิงพระ เข้ามาวัดจะทิ้งพระ สักนิด

ขากลับก็นั่งสองแถวมาลงตัวเมืองสงขลา ต่อรถตู้มาหาดใหญ่ และต่อรถเมล์แอร์เพื่อเข้าสนามบิน จบทริปง่ายๆ ที่ไม่ได้วางแผน ไปลุ้นทุกอย่างข้างหน้า ทริปเดินที่สนุกมาก แดดดีไม่เจอฝนเลย และแต้มบุญดีเรื่องที่พักด้วย







ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 05.19 น.

ความคิดเห็น