ถ้าเอ่ยถึงจังหวัดลำพูน เชื่อว่าทุกคนอาจจะไม่เคยแวะ เนื่องจากเป็นทางผ่านไปยังเชียงใหม่ ในวันนี้จึงอยากจะแนะนำให้แวะพ้กรถ พักคนขับ มาไหว้พระขอพรกันก่อนนะครับ ที่แรกที่ทุกคคนคงเคยได้ยินชื่อกัน 

วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองคนละปูน และยังเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตริย์ ระกา หรือปีไก้อีกด้วย

วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร เดิมทีเป็นพระราชวังของพระเจ้าอทิตยราชกษัตริย์ผู้ครอง
นครหริภุญชัย องค์ที่ ๓๓ ต่อจาก พระนางจามเทวี ปฐมบรมกษัตริย์ของเมืองหริภุญชัย บริเวณกำแพงพระราชวังของพระเจ้าอาทิตยราชได้แบ่งออกเป็น ๒ ชั้น คือ ชั้นนอกและชั้นใน ในกาลต่อมาภายหลังพระเจ้าอาทิตยราช ได้ถวายราชวังของพระองค์ให้เป็นสังฆารามไว้กับทางพระพุทธศาสนาเมื่อถวายเป็นสังฆารามแล้ว ได้รื้อกำแพงชั้นนอกออกแล้วปั้นสิงห์คู่หนึ่งไว้ที่ซุ้มประตูด้านทิศตะวันออก เป็นสิงห์ขนาดใหญ่ประดับเครื่องทรงยืนอ้าปากประดิษฐานไว้แทน ตามคติโบราณทางเหนือซึ่งนิยมสร้างสิงห์เฝ้าวัด วัดพระธาตุหริภุญชัย จึงมีกำแพงสองชั้นตามรูปลักษณ์ของพระราชวังเดิมของพระเจ้าอาทิตยราช คือ รอบบริเวณวัดชั้นนอกชั้นหนึ่ง และก่อกำแพงเป็นศาลาบาตรรอบองค์พระธาตุหริภุญชัยเป็นกำแพงชั้นในอีกชั้นหนึ่ง

ในช่วงที่ผมไปยามค่ำคืนจะสวยมากครับเพราะมีเทศกาลโคมแสนดวง สวยไปอีกแบบครับ

นอกจากนี้ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยยังมีกิจกรรมน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ “การนั่งรถรางเที่ยวชมเมือง” โดยจะพาไปแวะเที่ยวชมจุดสำคัญๆต่างในตัวเมืองลำพูน อาทิ “อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี”, “วัดจามเทวี”, “วัดมหาวัน”, “วัดพระคงฤาษี” และ “กู่ช้าง-กู่ม้า” เป็นต้น

ขณะที่จากวัดพระธาตุหริภุญชัยหากเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม จะได้พบกับ “ขัวมุงท่าสิงห์” ที่เป็นสะพานคนเดินขายสินค้าที่ระลึกหลากหลาย โดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์จากลำไย และผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือ(ราคาเยา) ของดีขึ้นชื่อ ซึ่งเป็นสินค้าอันโดดเด่นของที่นี่ให้ผู้สนใจได้ชอปปิ้งกันอย่างจุใจ

ส่วนถ้าเดินทะลุสะพานไปจะเป็นถนนสายวัฒนธรรม มีวิถีชีวิตชุมชน บ้านเรือน วัดเก่า ศูนย์หัตถกรรม ของชาวยองให้ได้สัมผัสชื่นชมกัน รวมถึงยังมีเมนูเด็ดอย่าง“ก๋วยเตี๋ยวลำไย” แห่งร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย(เวียงยอง) ที่เป็นเมนูต้องห้าม...พลาดเมื่อมาเยือนลำพูนให้ลองลิ้มชิมรสกัน

ส่วนอีกวัดที่ไม่ไกลคือวัดสันป่ายางหลวงครับ

ประวัติวัดสันป่ายางหลวง
เดิมชื่อ “วัดขอมลำโพง” สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1074 โดยชาวบ้านที่พร้อมใจกันสร้างขึ้นเพื่อถวายไว้ในบวรพุทธศาสนา วัดสันป่ายางหลวงนับเป็นวัดแห่งแรกในพุทธศาสนาของแคว้นล้านนา หลังจากสร้างเสร็จจึงได้มีการอัญเชิญเอาพระอัฐิธาตุ ของพระอัครสาวก ของพระ พุทธองค์คือพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ มาบรรจุไว้ ณ ที่เจดีย์ของวัดสันป่ายางหลวง ต่อมา ในยุคเสื่อมของพุทธศาสนา วัดสันป่ายางหลวงก็กลายเป็นวัดร้าง จนมาถึงสมัยของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ของเมืองลำพูน จึงได้มีการฟื้นฟูวัดสันป่ายางหลวงด้วยการสร้าง ถาวรวัตถุ และมีการกำหนดเขตธรณีสงฆ์ขึ้นใหม่ พร้อมกับประทานชื่อวัดใหม่ว่า “วัดอาพัฒนารามป่าไม้ยางหลวง” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “วัดสันป่ายางหลวง” เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสถานที่ตั้ง เพราะในสมัยก่อน บริเวณดังกล่าวมีต้นยางขึ้นอย่างหนาทึบ วัดนี้ยังใช้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระนางจามเทวีอีกด้วย

การเดินทางไปวัดสันป่ายางหลวง
ไปตามถนนสายต้นยางมาถึงปากทางเข้าเทศบาลเมืองลำพูนเราก็เลี้ยวเข้าไปในซอยข้าง ๆ กับเทศบาล วัดอยู่ตรงข้ามกับเทศบาล ไม่ไกลจากวัดพระธาตุหริภุญชัยด้วยครับ

ฝากติดตามรีวิวอื่นๆด้วยนะครับที่ B e L L a G i O ..... Studio

B e L L a G i O ..... Studio

 วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.11 น.

ความคิดเห็น