การเดินทางของวันนี้

ในที่สุดก็มาถึง new year's eve วันนี้จะได้ไปดูดอกไม้ไฟอันเลืองลื่อที่ London eye ซักที

เริ่มแรกมา Shopping กันก่อน นั่งรถเมล์ออกจากที่พัก

ผ่าน Hyde Park ด้วย ได้เห็นอีกมุมของสวนนี้ ฝั่งที่ไม่ใช่สวนสนุกที่ไปมาเมื่อวาน

Harrods

มา Shopping ที่ห้างดัง ห้างนี้ถือว่ารวมของ Brand Name ไว้หลาย Brand เลยทีเดียว เรียกได้ว่า Shop กันได้อย่างจุใจไปเลย

ซื้อเสร็จก็มี Vat Refund ให้ แนะนำว่าถ้าไปหลายคนให้รวมๆบิลกับเพื่อนแล้วค่อยทำ Vat Refund พร้อมกัน อย่าทำแยกกัน เพราะถ้าทำรวมแล้วมันจะได้ % Refund ที่เยอะขึ้น 

มันเยอะขึ้นไม่มากหรอก ประมาณ 1% งี้

แต่ 1% ของของ Brand Name มันก็ถือว่าหลายร้อยอยู่นะ

TWG Tea Knightsbridge

มาอังกฤษ ถ้าไม่ได้มา Afternoon tea ก็จะกระไรอยู่

ตอนแรก plan ว่าจะไปกินที่ Harrods แต่ว่าคนเยอะมาก อีกสองชั่วโมงกว่าจะได้คิว แล้วบรรยากาศก็ดูวุ่นวายด้วย คนเยอะ เลยแวะมากินร้านชาฝั่งตรงข้ามดีกว่า บรรยากาศหรูๆ และสงบกว่ากันเยอะ

ชาในหม้อสีทอง

Eggs Benedict อันนี้สั่งมาเพิ่ม เพราะหากินที่กรุงเทพไม่ค่อยได้

อร่อยดี

ชุดขนมหวาน

ชั้นล่างเป็น Sandwich รสชาติแปลกๆ รสแกง รสแตงกวางี้

ชั้นกลางเป็นสโคน

ชั้นบนเป็นขนมหวาน ที่หวานมากกกก หวานถึงขึ้นต้องสั่งชามาอีกแก้วเพื่อกินด้วยกัน เพราะกินเปล่าๆไม่ไหว

กินเสร็จก็กลับมา Shopping ที่ Harrods ต่อ

ที่โกนหนวดกะมีดโกนหนวดที่นี่ก็ถูกกว่าที่ไทยเกือบจะครึ่งๆเลยนะ ใครที่มี plan จะเปลี่ยน ซื้อติดไว้ด้วยก็ดี

ใน Harrods ไม่ได้มีแต่กระเป๋ากะเสื้อผ้านะ งาน Art กับ Furniture ก็มีขาย 

Refund 

แถวยาว แต่ flow เร็วมาก เพราะมีหลายเค้าเตอร์ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ

เตรียม information พวกออกจากประเทศวันไหน ไปที่ไหนต่อ ออกจาก EU วันไหนไปด้วย ต้องใช้

จากนั้นก็เอาของที่ซื้อมาไปเก็บที่พักก่อน (ไม่อยากถือไป Countdown ด้วย)

แล้วมากินข้าวกันก่อน

Dinner @ Steak & Co. Gloucester Road Kensington

เนื้อหมู อร่อยดีนะ

จุดเด่นของที่นี่คือการที่เค้าเอาเนื้อดิบมาย่สงบนกระทะข้างหน้าเราเลย เราใส่เนยใส่ซอสตามความชอบของเราเลย เลือกความสุกเอง ถ้าชอบสุกๆ ก็ย่างนานๆหน่อย บอกเค้าได้ว่าอยากได้สุกแบบไหน เค้าจะสอนว่าต้องหั่นเนื้อแล้ววางไว้นานเท่าไหร่

วันนี้ตอนดึกๆนั่งรถใต้ดินฟรีด้วยนะ

เราก็นั่งใต้ดินมาแถวๆที่เค้าจะ Countdown กัน

Amorino 

เป็นร้านไอติมรูปดอกไม้ ดังมาก มีหลายสาขาทีเดียว

จริงๆแล้วชิมรสไอติมได้นะ แต่ว่าคนเยอะมาก เลยไม่อยากชิม กลัวคนอื่นมองแรง

เลือกกี่รสก็ได้ จะกลีบละรสเลยก็ได้ อยากให้สีไหนอยู่กลางก็บอกสีนั้นเป็นสีแรก

Trafalgar Square

เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอลานโล่งๆ ซึ่งวันนี้ไม่โล่งเลย เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย

เวลาตอนนี้ก็ห้าทุ่มสี่สิบละ

คืองาน Countdown ของที่เนี่ย ถึงแม้ว่ามันจะจัดในที่โล่งๆคนทั่วไปก็ดูได้ แต่ไม่ใช่ว่าอยากจะดูก็ดูได้เลยนะ เพราะคนเยอะมาก เค้าเลยให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อน สามารถซื้อตั๋วได้จากเว็บนี้ 

ซึ่งมันจะมีแบ่งเป็นหลายโซน แนะนำให้ซื้อล่วงหน้า 3-4 เดือนเลย อย่างเคสเรานี่เพิ่งรู้ว่าต้องซื้อตั๋วตอนเดือนตุลา ซึ่งเข้าเว็บแล้วมันเต็มแล้วจ้า ซื้อไม่ได้แล้ว

ส่วนนึงก็คือคนซื้อไว้ขายเป็นตั๋วผีนั่นแหละ ข้างหน้าทางเข้าที่เค้าเชคๆตั๋วกันนี่มีคนขายอยู่เต็ม ราคาคาก็สองเท่าจากในเว็บนั่นแหละ 

จริงๆถ้าจะซื้อตั๋วผีแบบนี้สู้เอาเงินไปจองโรงแรมที่เห็น london eye ดีกว่า ไม่ต้องยืนต่อคิว นอนรอชิวๆบนโรงแรม

แล้วถึงแม้จะได้ตั๋วมาแล้วก็ใช่ว่าจะสบายนะ เค้าเปิดให้เข้าประตูตั้งแต่สองทุ่ม อ่านไม่ผิดนะ สองทุ่ม

ถามว่าเข้าห้าทุ่มได้ไหม ก็ได้ แต่ว่าตั๋วมันคือตั๋วเข้างาน ไม่ได้บอกที่ คือใครไปก่อนได้ที่ก่อน ดังนั้นก็ควรจะไปเร็วๆ แล้วไปเร็วๆแล้วทำอะไร? ในนั้นมีอะไรให้ดูหรอ? บอกเลยว่าไม่มี เป็นแค่ที่โล่งๆรอดูพลุตอนเที่ยงคืนเท่านั้น และตอนนี้ช่วงหน้าหนาวด้วย คือไปยืนสั่นๆ หิวๆ อั้นฉี่ไว้อย่างงั้นแหละ จนกว่าจะถึงเที่ยงคืน

เคยถามคนที่เคยไปเค้าบอกว่าทรมานมาก แต่ว่าพอถึงเวลาแล้วคุ้มค่าจริง เพราะพลุสวยมาก ควรไปดูซักครั้งในชีวิต แต่ถามว่าให้ไปอีกเอาไหม เค้าก็บอกไม่ ไม่อยากรอแล้ว นานเกิน หนาวก็หนาว หิวก็หิว กินน้ำก็ไม่ได้ เดี๋ยวปวดฉี่ ตอนกลับก็ลำบาก คนแห่กันออกมาเยอะมาก

อะ อันนั้นคือเรื่องของคนมีตั๋ว สำหรับพวกไม่มีตั๋วอย่างเราก็เดินไปทั่วเลย หามุมที่เห็น London eye จนในที่สุดก็มาถึงมุมนี้

ก็ถือว่ายังดีที่เห็นบ้าง เพราะที่ลานนั้นไม่เห็น London eye เลย ไม่รู้ว่าจะได้เห็นพลุป่าว

มีคนมารอดูตรงนี้เยอะเหมือนกัน

รอซักพักก็ 5...4....3...2..1....ตู้มมม

ตอนแรกๆก็สวยดีอยู่หรอกนะ แต่หลังๆแล้วควันเริ่มเยอะผ่านไปสองนาที London Eye เริ่มหายไป 

ผ่านไปอีกสองนาทีเริ่มไปเห็นพลุละได้ยินแต่เสียง คนแถวๆนั้นก็เริ่มมองหน้ากันว่าเอาไงดี กลับไม่กลับ อยู่ต่อก็ไม่เห็นอะไร

ซักพักลมพัดมา พร้อมกลิ่นควันเหม็นไหม้ ตรงที่ๆยืนอยู่นี่คือทรมานมากอะ เหมือนโดนรมควัน จังหวะนั้นอิจฉาคนมีตั๋วมากเลย วิวก็สวย อยู่ต้นลม ไม่เจอควันอีก

พลุจุดไป 10 นาทีเราหนีควันออกมา

ซึ่งตอนออกมานี่คนเยอะมากจ้า หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ

ใต้ดินแถวๆ London Eye นี่ปิดหมดนะ ต้องเดินมาซักพักเลยถึงจะเจอใต้ดินที่เปิด แถมคนก็เยอะมากกกก ยืนออเต็มทางเข้าเลย จริงๆถ้าเดินกลับที่พักนี่คงไปถึงครึ่งทางละ แต่ดันเดินย้อนกลับมาหาสถานีใต้ดินเลยไกลกว่าเดิมอีก

สุดท้ายเลยขึ้นรถเมล์มา เพื่อมาลงใต้ดินสถานีที่ไกลออกมาจากที่เดิมหน่อย

ได้รถประมาณตีหนึ่งนิดๆ กลับที่พัก หลับเป็นตาย

ทริปยุโรป วันที่ 1 (Sweden - Skansen)

ทริปยุโรป วันที่ 2 (Sweden - Gamla Stan)

ทริปยุโรป วันที่ 3 (Sweden - Skinnarviksberget, City Hall)

ทริปยุโรป วันที่ 4 (Sweden - Nordiska museet, Gilded Crown)

ทริปยุโรป วันที่ 5 (Sweden - ร่องเรือสำราญวันคริสต์มาส)

ทริปยุโรป วันที่ 6 (Sweden - Vasa Museum, Denmark - City Hall)

ทริปยุโรป วันที่ 7 (Denmark — Tivoli gardens)

ทริปยุโรป วันที่ 8 (Denmark — Frederiksborg Castle, คลอง Nyhavn)

ทริปยุโรป วันที่ 9 (Denmark — Frederiksberg Runddel, Torvehallerne, England)

ทริปยุโรป วันที่ 10 (England — Chinatown, Winter Wonderland)

ทริปยุโรป วันที่ 11 (England — Harrods and Countdown)

ทริปยุโรป วันที่ 12 (England — Warner Bros. Studio Tour London) Part 1

ทริปยุโรป วันที่ 12 (England — Warner Bros. Studio Tour London, Platform 9 3/4) Part 2

ทริปยุโรป วันที่ 13 (England — Gordon Ramsay Bar & Grill, London Eye, Tower Bridge)

ทริปยุโรป วันที่ 14 (England — France)

ทริปยุโรป วันที่ 15 (France — Eiffel Tower, Tuileries Garden)

ทริปยุโรป วันที่ 16 (France — Louvre Museum, Domaine National du Palais-Royal)

ทริปยุโรป วันที่ 17 (France — Dubai — Thailand)

Itthikorn Aunpanthong

 วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.33 น.

ความคิดเห็น