ทริปบาหลีของเราสามเราแม่ลูก เริ่มต้นด้วยความอยากพาแม่ไปดูวิวที่อู้วว ว้าวว แบบโขดหิน หน้าผาใหญ่ๆ แบบอเมริกาโดยที่ไม่ต้องไปไกลๆ และด้วยความที่บาหลีเป็นเมืองที่ไม่แพง ข้าวของถูก ก็โป๊ะเชะ จองตั๋วเลย แล้วมหกรรมการซื้อเสื้อผ้า เตรียม outfit ก็เกิดขึ้น


ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ FB fanpage: ต้องเที่ยวแล้วป้ะ 

https://www.facebook.com/tongteawlaewpa

ในรีวิวนี้จะแจ้งราคาโดยละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ

จองตั๋วเครื่องบิน

ทางเราใช้บริการสายการบิน Air Asia ไป 5 วัน 4 คืน เที่ยวบิน FD396 06:00-11:15 ราคาต่อคน 4,740 บาท และซื้อน้ำหนักกระเป๋า 20 กก. ไป 1 คน สบายๆ นอกนั้นก็หิ้วเอา

ที่พัก

เราจองไป 3 ที่ 4 คืน รายละเอียดเราค่อยๆรีวิวทีละวันไปนะ

คืนแรก จอง Airbnb นอนที่ Ubud ฟีลทุ่งนาธรรมชาติมาก มากกก มากเกินไป

คืนที่ 2-3 จอง Airbnb นอน Ubud เหมือนกัน แต่เปลี่ยนมานอนใกล้ๆ เมืองหน่อย

คืนที่ 4 จองที่ Booking นอน Kuta ในเมืองเลย แต่โรงแรมห่วยมาก

การเดินทาง

สาวสวยวัยใสอย่างเราพร้อมคุณแม่วัยหกสิบกว่า ก็ต้องเลือกรถพร้อมคนขับสิคะ โดยใช้บริการของ Teddy Tour เราอีเมล์ไปหาเขาก่อนได้ที่เมล์นี้ [email protected] ว่าต้องการไปไหนบ้าง ลิสต์ไปเลย เขาก็จะจัดตารางมาให้ว่าวันแรกไปไหนๆๆบ้าง พร้อมราคาค่ารถต่อวัน ขึ้นกับเราไปไหนไกลมั้ย ถ้าใครอยากได้รายละเอียดบอกได้จ้า เดี๋ยวส่งให้

ป.ล. อย่าลืมเตรียมทิปให้ตอนขากลับหลังส่งเราที่สนามบินด้วยนะ เราไม่รู้ว่าปกติเค้าให้เท่าไหร่กันก็เลยให้ตามเพื่อนที่เคยไปคือ 200,000 IDR

SIM

ซื้อ Sim2Fly AIS ไปค่ะ สะดวก ไปไหนก็ใช้อันนี้ตลอด ไม่ต้องไปวุ่นวายที่สนามบิน

การแลกเงิน

แนะนำให้แลกเป็นดอลลาร์ไป แล้วไปหาแลกที่ในเมือง บอกคนขับก่อนว่าพาไปแลกเงินก่อน เขาก็จะพาไปให้ค่ะ แต่ถ้าแลกที่สนามบินบาหลีก็จะแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อย 

เรทเงินช่วงที่เราไป เอา IDR x 0.0024 จะได้ค่าเงินไทยค่ะ

-----------------------------------------------------------------

DAY 1

FD 396 Bangkok – Denparsar, Bali 06:00-11:15

หลังรับกระเป๋าออกจากสนามบิน ก็มองหาป้ายชื่อเรา คนขับประมาณแปดแสนคนจะมายืนรอพร้อมป้ายรับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นคนไทยเยอะมากก ความผิดพลาดของเราคือ เขียนชื่อจริง นามสกุลไป ยาวมากแม่ ทีหลังเอาสั้นๆ เขาจะได้เขียนตัวใหญ่ๆอ่านง่ายพอ

จากนั้นก็มุ่งหน้าไปหาของกินก่อน recommend โดยคุณลุงคนขับ ร้าน ILGA WARUNG JIMBARAN คาดว่าเป็นร้านต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แขกไปใครมา คนขับต้องพามาร้านนี้เพราะกระดิกคิ้วไว้กับร้าน ^^ โชคดีที่อาหารอร่อย เลยรอดไป

มื้อนี้ IDR 362,700

ไปเช็คอินที่แรกกันดีกว่า!

Uluwatu Temple วัดแห่งแรกของบาหลีที่สร้างอยู่บนหน้าผาที่สูงมาก มองลงไปเป็นทะเลมหาสมุทรอินเดีย น้ำทะเลสีฟ้าเข้มคอยซัดเข้าฝั่งซู่ซ่าเป็นฟองคลื่นสีขาว สวยมาก สวยและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน

มีค่าเข้าและทุกคนต้องคาดผ้าสีเหลืองที่เอว

ค่าเข้า IDR 10,000/คน

หลังจากวัดนี้เราจะไปว่ายน้ำที่ One Eighty สระว่ายน้ำริมหน้าผา แต่ด้วยความที่เสร็จเร็วก่อนเวลาทำนัด ทำให้ต้องหาที่แวะก่อน ปรึกษาลุงแล้ว ลุงจะพาไปคาเฟ่ต์กาแฟชะมด เหมือนเป็นที่เบสิคที่ต้องพานักท่องเที่ยวไป แต่แนะนำที่นี่เวิร์คกว่ากาแฟชะมดที่ Swing Uma Pakel มาก

Bukit Sari Bali คาเฟ่ต์กาแฟชะมด เหมือนศูนย์การเรียนรู้ขนาดเล็กแบบมินิ ที่ร้านจะมีกรงเลี้ยงชะมดให้ดู เดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆก็จะเป็นจุดคั่วกาแฟ ให้ดมกาแฟ ลองคั่วเอง ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ โดยไม่เสียค่าเข้า ค่าธรรมเนียมใดๆ หลังจากนั้น เค้าก็จะพาเราไปนั่งที่โต๊ะ และแนะนำชาและกาแฟรสชาติต่างๆ โดยถ้าเป็นกาแฟชะมดจะต้องจ่ายเพิ่มตามราคาในเมนู ส่วนชาและกาแฟอื่นๆ ให้ชิมฟรี แล้วแต่ความชอบ ถ้าชอบก็ไปซื้อที่ด้านในได้เลยจ้า

บอกเลยว่า อร่อยทุกเมนู และราคารับได้ ที่ชอบมากและซื้อกลับคือชามังคุดและชาขิง ส่วนกาแฟชะมดเราไม่ค่อยชอบเพราะมีเนื้อผงๆเป็นตะกอนด้วย บางคนอาจจะชอบก็ได้

พอใกล้เวลาที่จองไว้กับ One Eighty ก็มุ่งไปจ้า

One Eighty

ก่อนไปแนะนำให้จองล่วงหน้าสักอาทิตย์นึง เราไปอ่านรีวิวนึงมาบอกให้จอง 2-3 วันล่วงหน้า สรุปไม่ทันจ้า 5555 ก็เผื่อๆไว้ จองไปไม่เสียตัง จองเร็วไว้ก่อนดีกว่า จองได้ที่ https://www.oneeightybali.com/ เค้าจะมีเวลาให้เลือกว่าจะเข้าช่วงกี่โมง มีรายละเอียดทุกอย่างบอกหมด ตั้งแต่ราคา เมนู พื้นที่ที่เข้าชมได้

ส่วนใครที่อยากได้ที่นั่ง exclusive ตรงระเบียงริมทะเล ก็จองแบบ VIP ไปโลด จ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่สำหรับเรา เอาแค่นี้พอแล้วจ้า

อาหารที่สั่งก็ราคากินในห้างทั่วๆไป ไม่ได้แพงเว่อขนาดนั้น ตอนแรกเข้ามานึกว่าใหญ่กว่านี้ แต่จริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มาก ขอแบ่งเองเป็น 3 โซนใหญ่ๆคือ Blue Lagoon, Seaside Pool, ที่นั่ง Outdoor และ Indoor จ้า

เมนูอาหารจะเปลี่ยนตอน 5 โมงเป็นอีกชุดนึงสำหรับ Pool party เลย พวกค็อกเทลไรงี้ ใครอยู่ดึกวางแผนกินไว้ก่อนเด้อในเว็บเขามีเมนูบอก จะได้ไม่หิวท้องกิ่ว

หลังจากถ่ายรูปเป็นไอดอลในไอจีเสร็จแล้วก็กลับที่พักจ้า ใช้เวลาจากตรงนี้คือเมือง Kuta ไปที่พักบ้านนอกใน Ubud ประมาณ 3 ชั่วโมง นั่งรถกันยาวๆ

พีคตรงที่พักที่นี้คือ secret garden heaven มากแม่ ขนาดคนขับยังงง เส้นทางดินลูกรังไม่พอ พื้นก็ไม่เท่ากันอีก เดี๋ยวมีเนิน มีหิน ที่กินมาคือย่อยหมด และทุ่งข้าวเขียวๆตามรูปภาพก็ไม่ได้เห็นหรอกจ้า เพราะมาถึงก็ 3 ทุ่มแล้วค่า มืดไปหมดเลยจ้า

ยัง ยังมีพีคกว่านี้ ตอนเข้าที่พัก ทางเดิน ห้องหับก็ดูโอเคนะ ถ้าตอนกลางวันคงถ่ายรูปสวยเลย เพราะเราได้ห้องนอนใหญ่ที่มีพื้นที่ห้องโถงระหว่างกันกับอีกห้องนึง วาดภาพตกแต่งได้สวยเลย แต่!! เปิดห้องน้ำไป โอ้วมาย ธรรมชาติจนต้องร้องขอหน้าต่าง 55555 เป็นฟีลที่เปิดห้องน้ำเข้ามาตอนกลางวันมองออกไปคงจะเห็นทุ่งนาเขียวขจี แต่พอตอนกลางคืน ไม่มีไฟเลยจ้านอกจากแสงจันทร์ มืดไปหมด เห็นแต่ต้นมะพร้าว ต้นตาลไกลๆ ใจก็คิดไปว่า นั่นต้นไม้ ไม่ใช่อย่างอื่น นั่นต้นไม้อย่างเดียว ไม่มีใครอยู่บนนั้น โห ถ้าได้ฟัง The Ghost ไปด้วยนี่ฟินจนขนลุกชูชันแน่นอน

ผ่านคืนแรกไป นอนหลับสนิท เหนื่อยตรงแพ็คข้าวของไปมานี่แหละ แต่ก็เพื่อได้เที่ยวทุกที่ที่เป็น instagrammable อะยอม คืนนี้ต้องรีบนอนเพราะต้องตื่นตี 2 เพื่อไปขึ้นเขา Batur กันจ้า ภาวนาให้เดินได้ไหวและปลอดภัย

---------------------------------------------------------

DAY 2

แพ็คข้าวของเสร็จก็ลงมาที่ล็อบบี้ ลุงคนขับและพนักงานโรงแรมสี่ห้าคนนอนปิดไฟเรียงกันกลางแจ้งเลยจ้า คุณลุงและพนักงานเห็นเราหิ้วกระเป๋ามาก็รีบเข้ามาช่วยยกกระเป๋า เช็คเอ้าท์เสร็จก็มุ่งไป

ถึงจุดนัดพประมาณตี 3 ครึ่ง มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเดินขึ้นเขาเยอะมาก แต่ละกลุ่มจะมีไกด์ประจำทางกลุ่ละคน แนะนำให้สวมรองเท้าที่เดินวิ่งสบายๆและเบา ฝุ่นเยอะ กลับมาต้องมาซักรองเท้าอย่างแรง พอไกด์มาถึงก็จะแจกอุปกรณ์ ไฟฉาย และน้ำดื่ม 1 ขวด ถ้ามีไม้ trekking เอามาด้วยก็ได้ค่ะ

เส้นทางจะแบ่งเป็น 3 จุดพัก ก็จะให้นั่งพักประมาณ 5-10 นาที เพราะต้องทำเวลาให้ไปถึงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นด้วย ช่วงจุดพักแรกไม่เท่าไหร่ เบมาก ชิลด้วย พอเริ่มเดินถึงจุดที่สองเท่านั้นแหละ เหมือนโดนหลอก TT และตั้งแต่จุดนี้จะมีมอเตอร์ไซค์วิบากขับตามหลังมา ใครไม่ไหวก็โบกซ้อนไปเลยจ้า ตอน ณ จุดๆนี้ขาแข็งแบบเหนื่อยมาก ในใจอะคิดว่าทำได้ แต่สงสารแม่ TT เหมือนพามาทรมาน โชคดีที่รองเท้าแม่ดีมาก ก็ทุ่นไปได้เยอะ แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ไหวจ้า โบกมอเตอร์ไซค์โลดคนละคัน ราคาคันละ IDR 200,000 ขึ้นไปยังจุดที่ 3 เส้นทางที่ขี่ไปนั้น โคตรรรรวิบากกกก เร้าใจสุดๆ เกาะแน่นๆ เพราะทางแคบ ชัน หินเยอะ ข้างทางคือเหวเลย ต้องยอมรับว่าคนขับเก่งจริงๆ

พอถึงจุดที่ 3 เราต้องเดินเท้าไปเองแล้ว เพราะบางเส้นต้องใช้คำว่าปีน ณ จุดๆนี้ ไกด์ดูแลแม่ดีมาก คอยจับมือแม่ตลอดทาง และช่วงเวลานี้ก็มาถึง เราเดินถึงยอดเขาแล้ว แต่...ยังไม่พอ ไกด์พอปีนขึ้นไปอีก จนได้วิวที่สวยมากกกกกกก

ทีนี้ก็นั่งหอบแ..กกัน ระหว่างรอไกด์ไปทำอาหารเช้ามาให้ รวมอยู่ในแพ็คเกจแล้ว เป็นช็อกโกแลตร้อนหรือกาแฟร้อน ไข่ต้ม กับขนมปังไส้กล้วย

วิวที่ได้มา ไม่รู้จะพูดอะไร สวยมาก แบบเห้ออ หายเหนื่อย

มีฝรั่งกลุ่มนึงยกนิ้วโป้งและปรบมือให้แม่ด้วย อายุมากที่สุดในกลุ่มวันนี้แล้ว 5555 และพวกเราเหมือนจะเป็นคนไทยกลุ่มเดียวในเช้าวันนั้นด้วย (จริงๆอาจจะมีมั้ง แต่ไม่เจอเลย)

ชมวิวเสร็จก็ปีนกันลงมา ช่วงลงนี่เร็วกันมากๆ มารยาทการเดินเขาคือ ใครเดินเร็วกว่าเรา ต้องหลบให้เขาไปก่อน พอลงมาถึงพื้น ร่างแทบแหลก ขึ้นรถ เปลี่ยนเสื้อผ้า ไปต่อจ้า

Lampuyang Temple

จุดถ่ายรูปที่ไม่มาถือว่าไม่ถึง ต่อคิวถ่ายรูปประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้ามาเป็นกลุ่มเค้าจะถ่ายกลุ่มให้ 3 รูป เดี่ยวให้คนละ 3 เตรียมท่ากันดีๆ เพราะมันจะเร็วมาก และอย่าลืมให้ทิปคนถ่ายให้ด้วยนะ เขามีจนท.ถ่ายให้ ก็ให้ไปประมาณ IDR 20,000 โดยพี่ช่างกล้องเค้าจะเอากระจกเงารองใต้กล้องให้เกิดภาพสะท้อนที่ใครๆก็คิดว่าเป็นน้ำนั่นแหละ

จบวันนี้ ไม่ไหวแล้ว เข้าที่พัก Pool Villa ถ่ายรูปสวยๆดีกว่า ร่างแหลกไปหมดแล้วจ้า

วันนี้นอนที่ Mulesayana Ubud

** ถ้าจองที่นี่ อย่าลืมคอนเฟิร์มกับที่พักนะ เค้าจะมี service ให้ floating breakfast ต้องจองก่อน เพราะถาดมีน้อย และ shuttle service เราได้ใช้ฟรี เพราะคุยไว้แล้วคุณบอกให้ใช้ได้ฟรีง่ะ เค้าก็จะคิดตังค์เน่อ ถ้าจะใช้อะไรก็โทรเรียกเขาได้เลย เขาให้โทรศัพท์ไว้เครื่องนึง

ภาพจาก https://lh3.googleusercontent....

อันนี้ภาพจริง


ในส่วนของมื้อเย็น ก็ขอให้รถมาส่งที่ปากซอย แล้วเลือกร้านอาหารแถวนั้นเอาเลย ต้องบอกเลยว่า ประทับใจมากๆ ร้านนี้อาหารถูก และอร่อยด้วย ร้าน Warung Bu Mangku Sumampan เป็นฟีล local อาหารตามสั่ง และสะเต๊ะอร่อยมาก

กินเสร็จระหว่างโทรให้รถมารับ เจอรถเข็นขายสะเต๊ะ เอ้า ต้องโดนสิคะ สั่งไปไม้ละ 2 บาท

แต่ละร้านที่ขายสะเต๊ะจะคนะรสชาติกันนะ ลองกินดูหลายๆร้าน อร่อยคนละแบบ ยอมม อร่

อยจริง

DAY 3

วันรุ่งขึ้นไม่มีตาราง แค่ไปเดินเล่นในเมือง Ubud ใช้บริการ Shuttle อีกเหมือนเดิม

เรามากิน Brunch ที่ Anomali Coffee Ubud อาหารอร่อยอีกแล้ว แต่ชอบร้านข้างทางเมื่อคืนมากกว่า ถ้าไม่รวมอาหารฝรั่ง

ไปเดินเล่นกันต่อไป Ubud Market แหล่งขายของที่ถ้าต่อเก่งก็ราคาถูก แต่ต่อแล้วต้องซื้อนะ ของไม่แพงเลย ราคาก็จะคล้ายๆกัน แต่ต่อแล้วได้เท่าไหร่แล้วแต่ร้าน

เดินเมื่อยๆ มาคาเฟ่ต์พักก่อน Lazy Cat Café เป็นคาเฟ่ต์ที่มีเสน่ห์ตั้งแต่ทางขึ้น เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาสุดปลายถนนคนเดินของ Ubud เราต้องขึ้นบรรไดไปชั้น 2 และเดินลงมาอีกครึ่งชั้น จะเป็นส่วนที่นั่งที่ตกแต่งได้ให้น่าถ่ายรูปทุกมุม ตอนนี้เริ่มแน่น ใส่เอวลอยด้วย ทานได้แต่น้ำ 555

และขากลับเดินไปซื้อของที่ตลาดต่อที่เมื่อกี๊เล็งๆไว้ และไปกินข้าวเย็นกันที่คาเฟ่ต์ทุ่งนา Café Promegranate รับแสงยามเย็น ตัวหลังคาสร้างจากไม้ไผ่ทำให้เป็นโดมขนาดใหญ่ ทั้งโล่ง โปร่ง และเย็นเพราะลมเข้าทุกด้าน ปัญหาของที่นี่คือ มีกระดิ่งน้อยให้เรียกพนักงาน แต่สั่นกระดิ่งแล้วพนักงานไม่ได้ยิน TT



--------------------------------------------------------------

DAY 4

วันนี้จะเฉิดฉายเป็นนางฟ้านางสวรรค์เพราะเราจะไปนั่งชิงช้ากันที่ Uma Pakel

การเลือกสีชุดก็สำคัญนะ ใส่ชุดสีพื้นทำให้เราดูเด่นขึ้น และมอบกล้องให้เจ้าหน้าที่เค้าช่วยถ่ายเถอะ เพราะเค้ารู้มุมสวยๆ

เล่นชิงช้าเสร็จก็จะพาไปถ่ายรูปมุมต่างๆ ตามแพ็คเกจที่เราเลือก ลืมบอกว่าเราเลือกแพ็คกลางนะ คนละ 200,000 IDR แต่เบ็ดเสร็จ ได้ถ่ายหมดทุกมุมเหมือนแพ็คแพงสุด อาจเพราะตอนเช้าคนน้อย เค้าเลยมีเวลาให้เดินเยอะ

มีสระว่ายน้ำให้เล่นด้วยนะ ^^

เสร็จจากเล่นชิงช้าก็ได้เวลาทานข้าว ตรงข้ามกับ Uma Pakel มีร้านอาหาร น่าจะเพิ่งเปิด สร้างใหญ่อลังการมากทำจากไม้ไผ่ Kubu restaurant อาหารดี บริการดี คนเสิร์ฟดี มีอธิบายเมนูด้วย เมนูเด็ดของร้านนี้คือเป็ดทอด แต่ลองสั่งมาหลายอย่าง อย่างอื่นก็อร่อยหมด ส่วนตัวนี่ชอบพาสต้ามั่กๆ


Tegalalang Rice Terrace

ตรงจุดนี้แนะนำให้ โบกครีมกันแดด พกร่ม ยาดม และพัดไปด้วยจ้า ร้อนมากแม่ แต่วิวสวย ตอนเราไปต้นเดือนพ.ย. ก็ยังเขียวขจีสวยอยู่นะ ส่วนชุดที่ไปก็ไม่ต้องเปลี่ยน ใส่สีขาวล้วนเด่นๆไปเลยจ้า ตรงนี้เสียค่าเข้าคนละ 10,000 IDR และถ้าเราอยากข้ามไปอีกฝั่งนาข้าวถ่ายรูป เค้าก็จะขอบริจาคค่าเข้า คนละเท่าไหร่แล้วแต่ศรัทธาจ้า

วันนี้เราพักในเมือง เพราะงั้นตอนเย็นเลยเดินหาร้านกินข้าวสะดวกหน่อย เดินไปเรื่อยๆเลยจ้า ไปเจอร้าน Bakso ร้านนึงข้างถนนถือว่าร้านโอเคอยู่ มีแอร์ และที่สำคัญอร่อยและไม่แพงด้วย

ต่อด้วยของหวานที่ไม่กินถือว่ามาไม่ถึง ที่ Kind Community ตอนแรกมีความสับสนนิดหน่อย เพราะนางเปิดร้านใหญื่อ Kind Community แต่ขายเป็นอาหารหลักและตอนเย็นเปลี่ยนเป็นบาร์ ส่วนตัว Smoothie bowl ที่เป็น Signature นางเปลี่ยนสีร้านใหม่จนนึกว่าโดนเทคโอเวอร์ไปซะแล้ว เข้าผิดเข้าถูก จนสุดท้ายก็ได้กินสมใจ


คืนนี้กินอิ่มนอนหลับ แต่โรงแรมไม่โอคเลย เสียใจ ดูจะเก่าไปซะทุก

อย่างไม่เหมือนในรูปตามในเว็บเลยแม่ แม่เม่อก็บ่นหมด จองไป 3 คน แต่ให้ชุดเครื่องนอนมาแค่ 2 คน

----------------------------------------------------------------------

DAY 5

เกาะ Nusa Penida อันนี้ซื้อเป็นทัวร์ส่วนตัว เหมือนกันคือมีคนรถให้คนนึง และคนรถเราก็จะนั่งไปช่วยดูแลด้วย คนละ 800,000 IDR

เริ่มต้น คนรถเราจะมารับตอน 7 โมง และไปรอที่ท่าเรือ โดยไปนั่งรอที่ร้านอาหารที่ทัวร์ได้จัดไว้ให้ มีข้าวคนละกล่อง และน้ำดื่ม คนไทยเยอะเหมือนกันที่ร้าน ก็แต่งตัวมาถ่ายรูปกันทั้งนั้นเลย 555 พอถึงเวลา ก็ให้ทุกคนรีบไปขึ้นเรือ ที่พีคคือไม่ได้ขึ้นเรือที่โป๊ะใดๆ เขาให้ถอดรองเท้าใส่ตะกร้า ถกกางเกง ไปโกยกันไปขึ้นเรือเลยจ้า

ในการเลือกที่นั่ง บอกไว้ก่อน นั่งหน้า ลมโกรก อากาศถ่ายเท เพราะเวลาเรือแล่นจะปิดหน้าต่างข้างเรือทุกบานเพราะน้ำทะเลแรงมาก เราล่องเรือในมหาสมุทรกันนะจ้ะ ส่วนนั่งหลัง ได้ลงง่ายกว่า เพราะพอไปถึงก็จะมีเรือเล็กมารับเข้าฝั่ง เสียเวลาตรงนี้นานมาก ถ้าไม่เมาเรือ นั่งหลังโลด ส่วนขากลับ เรานั่งหลัง ได้เมาเรือสมใจ สาแก่ใจมากค่ะ

สรุปค่าใช้จ่าย

  • ตั๋วเครื่องบิน 4,740 x 3 คน = 14,220.-
  • ค่าอาหาร/คาเฟ่ต์ 5 วัน รวมทุกมื้อแบบไม่ยั้ง 4,000.-
  • One Eighty + อาหาร 3,030.-
  • ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ 3 คน 936.-
  • ค่ารถรวมคนขับ 4,200.-
  • ค่าไกด์ปีนเขา Mount Batur 960 x 3 = 2,880.-
  • ค่าทัวร์เกาะ Nusa Penida 1920 x 3 = 5,760.-
  • ค่าเล่นชิงช้า Uma Pakel 480 x 3 = 1,440.-
  • ที่พักคืนแรก Ubud กลางทุ่งนาพาเพลิน 939.-
  • ที่พักคืน 2-3 Mulesayana Ubud 2,366 x 2 = 4,731.-
  • ที่พักคืนสี่ โรงแรม Kuta 1,245.-

รวมทุกอย่างยกเว้นซื้อของจุ๊บขิ๊บและของฝาก 43,381 สำหรับ 3 คน ตกคนละ 14,460.-

ตกคนละหมื่นสี่ สำหรับตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร คาเฟ่ต์ ถ่ายรูปทุกมุมครบเป็น instagrammable shots เรียบร้อยฮะ

การเดินทางของหัวหอม

 วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.20 น.

ความคิดเห็น