สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่ารีวิวนี้เป็นรีวิวแรก อาจฝืดๆบ้าง ยังไงก็ทนๆไปละกันนะครับ ^^

ยากกว่าการวางแผนเที่ยวก็มานั่งเขียนรีวิวนี่ละครับ

มาเริ่มกันเลยละกัน ทริปนี้เป็นทริปต่างประเทศของพวกเราสี่คน ความที่เพื่อนอยากเที่ยวต่างประเทศแบบงบประมาณที่หลักสิบล้าน(รูเปียห์) เที่ยวแบบราชา 555 ได้ผมจัดให้

ก่อนหน้านี้เราได้ไปเที่ยวโบรโม่ คาวาอีเจียนมาก่อนแล้ว แล้วตามด้วยบาหลี แต่วันนี้ผมจะมารีวิวบาหลีก่อนนะครับ

Day 1 เราเริ่มจากที่เราเดินทางจากท่าเรือ Ketapang มายังเดนปาซาร์ การเดินทางด้วยรถยนต์ต้องบอกก่อนเลยว่าใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า มันเป็นอะไรที่นานมากกว่าจะถึงที่พัก เรามาถึงท่าเรือฝั่งบาหลีประมาณ12:00 น. จริงๆระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากหรอก แต่ด้วยการจราจรติดขัด บ้านเขาถนนไม่ได้กว้างเหมือนบ้านเราเวลารถส่วนทางกันรถอีกคันอาจต้องชะลอความเร็วบ้างเป็นปกติ

ดูหน้าตาแต่ละคนเหมือนไม่ค่อยเอนจอยสักเท่าไหร่แหะ

ก็เล่นหลับสองสามตื่นยังไม่ถึงสักที ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงสุดท้ายก็มาถึงที่พักประมาณ16:30น.

***รูปภาพเอามาจากเว็บไซต์ทางที่พักนะครับ พอดีไปถึงบวกกับความเพลีย ลืมถ่ายมา***

นี่ก็จะเป็นที่พักของเรานะครับก็จะมีความบาหลีหน่อยๆ ดูเหมือนจะฮือๆ แต่ก็ไม่มีอะไรนะครับ หลับฝันดีกันทุกคน ที่พักจองผ่าน Airbnb นะครับ ชื่อว่า Hidden escape pool & WiFi ราคาย่อมเยาเพราะเราเน้นสบายและถูก 5555

Day 2 มาๆวันนี้จะพาไปนั่งสปีดโบ้ทข้ามไปเกาะ Nusapanida ไปตามล่าแลนมาร์คงามๆกัน

ตั๋วเรือที่เราซื้อจะเป็นตั๋วไปกลับนะครับ รวมรับส่งจากที่พักไปท่าเรือ รับจากท่าเรือส่งที่พัก ซึ่งราคาก็จะประมาณนี้บอกเลยคุ้มสุด

ซื้อแบบไปกลับจะถูกกว่าสามารถสอบถามที่พักได้เลยครับ แนะนำให้ออกมาเที่ยวแรกเลยนะครับ 08:00น ไปถึงจะได้เที่ยวเลย ใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณ 1ชั่วโมง ไปยังเกาะ Nusapanida แล้วนั่งรถมาที่พักอีกประมาณ30นาที

และนี่คือที่พักของเรา ชื่อว่า Cozy Lotus Garden Cottage #2 จองผ่าน Airbnb เหมือนกันครับ ราคาย่อมเยาเหมือนเดิม ที่พักจะอยู่ตรงกลางระหว่างทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของเกาะนะครับ

แล้วเกาะ Nusapanida มีอะไรบ้างละทำไมมาบาหลีต้องมาที่นี่ด้วย จริงๆมันก็มีเยอะแหละครับ ต้องบอกก่อนเลยว่าเกาะ Nusapanida จะมีที่เที่ยวสองฝั่ง นั่นคือตะวันตก แล้วตะวันออก

พอมาถึงประมาณ 11:00 เราก็เตรียมตัวหามอเตอร์ไซค์เช่า ไปเที่ยวฝั่งตะวันตกก่อน และเราก็ไปที่นี่ เป็นที่แรก

ตรงนี้มีชื่อว่า Broken Beach

ตามมาติดๆกับที่นี่ มีชื่อว่า Angel Billabong ต้องบอกเลยว่าสวยมากกกก สองที่นี้จะอยู่ติดกัน 

เราออกมาจากที่ตรงนี้ประมาณ16:30 น. เพื่อมุ่งหน้าไปดูพระอาทิตย์ตก ที่ Klingking Beach หรือ เกาะทีเร็คที่เรารู้จักกัน

จริงๆข้างล่างมันจะมีชายหาดให้เล่นนะ แต่ต้องเดินลงไปซึ่งเราก็เดินลงไป แต่ไปได้แค่ครึ่งทาง แหะๆ ก็ขั้นบันไดแต่ละขั้นสูงมากกกเหมือนทำมาให้ฝรั่งขายาวโดยเฉพาะ 555

มันคือดีย์มากเลยครับตรงนี้ แต่น่าเสียดายที่ตอนพระอาทิตย์ตกมีเมฆบังมาหน่อย เราออกจากตรงนี้ประมาณ18:00น. ได้ แล้วมุ่งหน้ากลับมาที่พัก บอกเลยใช้เวลาในการขี่มอเตอร์ไซค์เกือบชั่วโมงได้ มันไกลมาก ใครที่จะมาเที่ยวที่นี่แนะนำเช่ามอเตอร์ไซค์เลยครับ ถ้านั่งรถยนตร์มาต้องใช้เวลากว่านี้อีกเยอะเพราะถนนเล็กและขรุขระ อาจทำให้เมารถได้

Day 3 วันนี้ต้องทำเวลาหน่อยต้องรีบไปรีบกลับ เพราะเราจะข้ามมาบาหลีกับเรือเที่ยวสุดท้าย17:00น.  แต่รถเขาจะมารับจากที่พักประมาณ15:00น.

บอกเพื่อนว่า วันนี้ต้องตื่นเร็วที่สุดเพราะเราจะไปเก็บอีกสองสามที่ก่อนกลับ ทุกคนโอเคหมด ไม่ไหวบอกไหว เร็วสุดของพวกเราคือ10:00น. 5555

วันนี้เราก็ไปเที่ยวอีกฝั่ง นั่นคือฝั่งตะวันออก

แต่ดีตรงที่ว่าที่ที่เราจะไปอยู่ที่เดียวกันหมดมันทำให้ประหยัดเวลาได้เยอะเลย

และนี่ก็จะเป็น Diamond Beach และ Atoh Beach

จะเดินลงไปถ่ายข้างล่างก็ได้นะ มีชิงช้าอยู่ แต่เราไม่ลง 555 ทางก็ชันเช่นเคย เหมือนที่ Klinking Beach

ถัดไปจาก Diamond Beach ก็จะเป็น Atoh Beach อยู่ติดกันเลย สำหรับคนที่จะมาเล่นน้ำก็เดินลงไปได้เลย

สถานที่ถัดไปที่ไม่ควรพลาดของการมาที่นี่นั่นก็คือ Rumah Pohon หรือ บ้านต้นไม้

ต้องบอกเลยว่าวิวดีมาก แต่ๆ ตรงนี้ต้องเสียค่าสถานที่ถ่ายรูปนะครับ 50,000 IDR ประมาณ 125 บาท ถ่ายได้สามนาที คิวก็ยาวมากด้วย ตอนแรกว่าจะไม่ถ่ายล่ะ แต่ไม่ได้มาแล้วคือต้องถ่าย

ออกจากตรงนี้เราก็รีบกลับมาเก็บกระเป๋าที่พักต่อเลยมาถึงที่พักประมาณ14:00 เฉลี่ยเวลาในการขี่มอเตอร์ไซค์ประมาณ1 ชั่วโมงได้ ประมาณบ่ายสามรถก็มารับพวกเราไปท่าเรือ

เรานั่งเรือมาถึง 18:00 น มีรถมารอรับไปส่งที่พัก คืนนี้เราพักกันที่ โรงแรม (Asri Sari Villa Ubud) สองคืน

ห้องพักโอเคอยู่ แต่อยู่ไกลจากตัวเมือง อูบุดไปนิดนึง ใช้เวลาในการขี่มอเตอร์ไซค์เข้าประมาณ 15นาทีได้

Day 4 วันนี้เป็นสุดท้ายของเราละครับ ตอนแรกตั้งใจว่าจะจ้างไกด์พาทัวร์แบบเหมารถไปซึ่งราคาก็ถูกอยู่ 500,000IDR เอง ประมาณ1,200กว่าบาท ซึ่งคุยกับเพื่อนแล้วถ้าเช่ามอเตอร์ไซค์เราก็แหวกแนวไปตามใจเราได้ สุดท้ายก็เช่ามอเตอร์ไซค์กัน คันละ 80,000 IDR ประมาณ190 กว่าบาท 

เราก็ไปได้ไม่กี่ที่หรอกเก็บแลนมาร์คสำคัญๆได้ไม่หมด ไปแค่นาขั้นบันไดเสียค่าเข้าด้วยเด้อตรงนี้ 10,000IDRประมาณ 25บาท

Monkey Forest (เสียค่าเข้าแพงสุดตรงนี้) 83,000IDR ประมาณ200บาท ต่อคน แต่เราเป็นคนดีไง คิดซะว่าจ่ายค่าเข้าเพื่อเป็นอาหารลิงละกัน5555


จริงๆเราไปน้ำตก Tibumana ด้วยนะ แต่ฝนตกเลยไม่ได้เอากล้องไปถ่ายรูปเป็นน้ำตกที่สวย ถ้าใครได้ไปบาหลีแนะนำให้ไปน้ำตกนี้ด้วยนะครับ

Day 5 เดินทางกลับละวันนี้มีไฟลท์ตอน14:45 น นัดแกร็บมารับ 11:00 ลุ้นว่าจะมาถูกไหม เนื่องจากที่พักอยู่ในป่า ดูจากแอพแล้ว แกร็บขับผ่านทางเข้าอยู่หลายรอบเลย สุดท้ายเขาก็มารับเราถูก

เราบินลงที่ KL กันนะครับ ด้วยสายการบิน City link แนะนำเลยครับสายการบินนี้ดีอยู่โหลดกระเป๋าฟรี10กิโล หิ้วขึ้นเครื่องอีก7กิโล มีอาหารแจกอีก ดีในดีเลยครับ

หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีแต่รูปเที่ยวไม่มีอาหารเลย ไม่กินข้าวกันหรอ 555 จริงๆก็มีครับแต่เราจะกินกันวันละสองมือและนี่คืออาหารของเรา จะกินอะไรประมาณนี้ ทุกอย่างที่สั่งมาคืออร่อยหมด มาม่ากับข้าวผัดนี่ต้องลองเลยนะ

ผมก็มีมารีวิวแค่นี้แหละครับ 

ใครมีคำถามสอบถามได้เลยครับ

รูปเพิ่มเติมส่องไอจีได้เลยครับ

Line& IG : mark49458 

ขอบคุณครับ และ สวัสดีครับ 

เรื่องเที่ยวขอให้บอก

 วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 01.51 น.

ความคิดเห็น