ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 9)

highlights:

  • ร้านกาแฟยามเช้า
  • ถ่ายรูปเล่นที่สะพานมังกร
  • การไปฮอยอัน

---------------------------------------------------------------------------------

ตื่นเช้า Day 3 แล้วจ้าาาาา ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าตื่นมาทำอะไรก็ไม่รู้ 555555 ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเป็นอะไรที่เหนื่อยยับเยินมาก [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 8)] แล้วเราดันตื่นมาคนเดียวใน Hostel ด้วยยยย เช้าขนาดพนักงานยังนอนอยู่เลย 5555 แล้วนางไม่ได้นอนธรรมดานะ นางนอนปูเสื่ออยู่ที่ชั้น 2 เราเดินลงมาที่ประตู Hostel นางยังไม่ตื่นเลย แล้วพอมาถึงประตูมันก็ถูกล็อคไว้ เราก็เลยยังไม่กล้าเปิดออกไปเพราะมันยังเช้าอยู่มาก 

แล้วไม่รู้จะทำอะไร เราก็เลยถ่อสังขารขึ้นไปถ่ายรูปถึงดาดฟ้า บวกกับช่วงนั้นยังถ่ายรูปไม่เก่ง ใช้โทรศัพท์ถ่ายแล้วก็พกเลนส์ Tele ไปด้วย หวังว่าจะถ่ายน้องเหลืองสวยๆ ปรากฏมันก็ไม่สวยจ้าาาา เลยต้องใช้กล้องโทรศัพท์ปกติถ่ายมา ได้ภาพเท่าที่เห็นนี่แหละจ้ะ  

ถ่ายแล้วถ่ายเล่ารอเวลาให้มันเช้า แล้วก็ลงไปนั่งโง่ๆ ที่เก้าอี้ล็อบบี้อยู่คนเดียวพักใหญ่ พอสักหกโมงพนักงานก็ยังไม่ตื่นแล้วฟ้าก็สว่างมากๆ แล้ว เราก็เลยตัดสินใจหมุนเปิดประตู Hostel นางได้ยินเสียงเราเปิดประตูก็เลยสะดุ้งลุกขึ้นมาดู ต้องขอโทษด้วยค่าาาา หน่องตื่นเช้าหน่องไม่รู้จะทำอะไร

ออกมาจาก Hostel ได้ปุ๊ปก็เห็นร้านกาแฟข้างซ้ายเปิดแล้ว มีคนเข้าร้านแล้ว เราก็เลยไปนั่งกินกาแฟรอเวลา ดูเมนูอันไหนแปลกๆ เราก็ลองอันนั้นแหละจ้ะ เราสั่งมาเป็น Sai Gon milk coffee ราคา 25.000 VND หวานจ๋อยยยเลยแมรร่ ระหว่างรอเขาก็จะมีน้ำชามาเสริฟให้ด้วย *0* กินกาแฟกับน้ำชาเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก

เราก็นั่งเพลินๆ ชิวๆ เสพบรรยากาศยามเช้าไป คนก็ทยอยๆ เข้าร้านมาเรื่อยๆ แล้วคนที่นี่เขาก็ดูเหมือนจะกลัวคนต่างชาตินะ ไม่กล้าคุยกับเรา เงียบกริบจนรู้สึกได้ อารมณ์เหมือนเรากลัวฝรั่งนั่นแหละ 5555

ด้วยความเช้าจัด เราก็ลองกดแกรบดูสิ๊ เผื่อได้ไปถ่ายรูปน้องเหลืองตอนเช้าๆ บ้าง ก็เลยลองเปิด Grab ดูราคาเล่นๆ ตอน 05.53 Garb Car ราคาอยู่ที่ 44.000 VND แต่ถ้าเป็น Grab bike ราคาจะอยู่ที่ 12.000 VND แล้วการนั่งมอเตอร์ไซด์ในเวียดนามดูเป็นอะไรที่เสี่ยงตายมากๆ 555555 ดังนั้นถ้าจะไปต้องรอ Grab car ลดราคาก่อนแล้วกัน มันยังแพงไป

แล้วพอมาเปิด ตอน 06.35 เฮ้ยยยยยย Garb Car เหลือ 24.000 VND ตกเป็นเงินไทยก็ประมาณสามสิบสี่สิบ ราคาพอๆ กับวินจากสดใสไปหนองมนเลย อย่างงี้ต้องกดแล้วไหม เราก็เลยแชทไปบอกเพื่อนว่า เดี๋ยวไปถ่ายรูปเล่นที่สะพานมังกรนะ เดี๋ยวมา

พอเราขึ้นรถมาปุ๊ป คนขับเขาก็ไม่คุยกับดิฉันเลยจ้าาาา เงียบกริบ 555555 แล้วเขาก็มาส่งเราลงตรงที่ใต้สะพาน แล้วข้ามถนนมา 4 เลนก็จะเจอน้องเหลืองเลย เราข้ามถนนตรงนี้ได้สบายมาก เพราะมันยังเช้าอยู่รถเลยน้อยกว่าปกติ

เป็นสะพานที่ใหญ่แล้วก็สวยมากๆ พยายามจะถ่ายให้หมดทั้งตัวก็ไม่เคยได้จ้าาาา 55555

ใกล้ๆ กันก็จะมี Love Bridge Da Nang ที่คู่รักจะเอาแม่กุญแจมาล็อคอะนะ

น้องมังกรขาวววว เขาเรียกอะไรกันไม่รู้นะแต่เราเรียกว่า "ข่าวหรง" ตั้งเอง เรียกเองแบบไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า 555555 อารมณ์คล้ายๆ กับ Merlion ของสิงคโปร์แต่อันนี้จะดูคล้ายกับมังกรมากกว่า

น้องมังกรสองสีนี้เขาอยู่ใกล้กัน ตอนเราไปมันกำลังพ่นน้ำอยู่เลย พอตอนจะกลับ อ้าวววน้องไม่พ่นน้ำแล้ว

ตอนที่เราไปถ่ายคือประมาณช่วงเจ็ดโมงเช้า รถมอเตอร์ไซด์ก็เริ่มเยอะมากแล้ว ตายล่ะ แล้วจะข้ามถนนกลับเข้า Hostel ได้ยังไง ลืมคิดเรื่องนี้ไปสนิทเลย TT^TT

ระหว่างทางที่เราเดินอยู่บนสะพานมังกรข้ามแม่น้ำฮาน นอกจากมันจะกว้างใหญ่ไพศาลเหมือนแม่น้ำเจ้าพระยาบ้านเราแล้ว ในแม่น้ำยังแอบเห็นว่ามีคนใช้เรือพายกันอยู่ด้วย สุดยอดมาก *0* ถ้าให้เราไปพายคงเป็นลมอยู่ตรงนั้นแหละ แม่น้ำใหญ่เกิ๊น

ระหว่างทางก็มีคนมานั่งมองวิวแม่น้ำ คือถ้าเรามีเวลามากว่านี้อาจจะได้มานั่งเสพบรรยากาศที่นี้ด้วย ตรงริมน้ำนี่เขาทำดีมากเลยนะ มีที่นั่ง มีตู้กดน้ำหยอดเหรียญ แล้วก็จัดสถานที่เป็นเหมือนสวนหิน สวนรูปปั้นหินอะไรประมาณนั้นน่ะ มีหลายจุดเลย ตลอดริมแม่น้ำฮาน

แล้วสุดท้ายเราก็มีปัญหากับการข้ามถนนเข้า Hostel จริงๆ ด้วย 555555 นึกสภาพนะเป็นถนน 4 เลนใหญ่ๆ One way แล้วไม่มีไฟแดง ไม่มีทางม้าลาย ไม่มีสะพานลอย ไม่มีใคร มีเราคนเดียว แล้วมวลมหาประชามอเตอร์ไซด์ขี่กันมาแบบเยอะมากกกกกกกก มากกกกกกกกกกกก มากกกกกกกกกกกก แล้วเขาไม่ได้หยุดให้คนข้ามนะจ๊ะ เราต้องเป็นคนจับจังหวะแล้วข้ามได้เอง น้ำตาจะไหลอยู่เมืองไทยถนนสองเลนยังคิดนานเลย นี่เวียดนาม ตายแน่นอน 5555555555555 ยืนอยู่ตรงนั้นเกือบสิบนาที จนในที่สุดก็มีคนมาข้ามถนนแล้วจ้าาาา น้ำตาจะไหล เราก็วิ่งตามเขาไปสิจ้ะ จะรออะไร

แล้วเราก็มาถึงที่ Hostel จนได้ วันนี้เราจะต้องออกจากที่ดานังไปฮอยอัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรามีปัญหากับเน็ตมาตลอด แล้ววันนี้เราต้องไปต่างเมืองถ้าไม่มีเน็ตตายแน่นอน เราก็เลยเดินไปตรงตลาดฮานระหว่างทางมันจะมีร้านขายซิมอยู่ เราก็เลยขอให้เขาเติมตังเข้าซิมให้หน่อยจะได้มีเน็ตใช้ตามที่พี่ผู้หญิงบอกเราเมื่อวันนู้นนนนน โดนค่าเติมตังไป 50.000 VND น้ำตาจะไหล มันใช่เรื่องที่จะต้องมาเติมตังเพิ่มไหม เคืองมากจริงๆ

แล้วเราก็มาเก็บของ Check out ออกจาก Hostel แล้วแบบพนักงานหล่ออะแกรรรรร เราเลยขอนางถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แอร๊ยยยยยเขินนนน >////< ขอนางถ่ายรูปเสร็จนางก็ให้ Facebook ดิฉันจ้าาาาา ตายๆๆๆๆๆ แถมเดินถือกระเป๋ามาส่งถึงหน้า Hostel เลยด้วย ถามเราว่าจะไปฮอยอันยังไง จองรถไว้หรือยัง โอ่ยยยย ตายตรงนี้ >/////<

แล้วเราก็จะไปฮอยอันด้วยโคโค่เหมือนเดิมที่เรายังเหลือเวลาใช้ได้อยู่ เราก็บอกว่าเราจะไปฮอยอัน พนักงานบอกเราว่าจะต้องไปรอเปลี่ยนรถที่ Cocobay นะ จริงๆ ตารางรถจากดานังไป Cocobay และจาก Cocobay ไปฮอยอันมันจะเหลื่อมกันอยู่ประมาณชั่วโมงนึง เราก็เลยต้องมานั่งรอเปลี่ยนรถตรงสำนักงานที่ Cocobay แล้วแดดร้อนมากเราก็เลยไม่ได้ออกไปถ่ายรูปตรงไหนเลย TT^TT

ที่ Cocobay คือทางเข้ามันลึกมากกกกกก เราออกไปไหนด้วยการเดินไม่ได้เลย แต่ข้างในมันจะมีร้านอาหาร มินิมาร์ท ร้านขายของฝาก อยู่ด้วย ดังนั้นไม่ต้องกลัวอดตาย มีเงินไว้ก็พอ 5555 

แล้วโคโค่ก็มาส่งเราที่ฮอยอันจ้าา มัวแต่ดูวิวข้างทางเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา วิวข้างทางนี้มีแต่ทุ่งนา มีควายด๊วยยยย *0* อารมณ์เหมือนทุ่งนาแถวอยุธยาเลย โคโค่มาจอดให้เราลงที่ลานอะไรก็ไม่รู้นอกเมืองฮอยอันเพราะรถจะเข้าได้ใกล้เมืองฮอยอันได้มากที่สุดแค่ตรงนี้ เราก็เลยต้องเรียก Grab เข้าที่พักที่อยู่อีกฝั่งของเมือง เพราะดูจากแผนที่และแดดแล้ว ถ้าเดินไปได้เป็นลมตายก่อนแน่ๆ บวกกับดูจากก้อนเมฆฝนน่าจะตกแน่นอน การเรียก Grab เลยเป็นวิธีที่ดีที่สุด

และแล้วเราก็มาถึงที่ฮอยอันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเมืองฮอยอันจะสวยโรแมนติกอย่างที่เขาร่ำลือกันไหมต้องติดตามใน [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 10)] หรือติดตามการเดินทางอื่นๆ ของเราได้ที่ เพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน

Try to try ก็แค่ออกไปลอง

 วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.33 น.

ความคิดเห็น