ตุรัดตุเรงตะเรงกันไป... จอร์เจีย 15วัน 4หมื่นสอง รวมทุกอย่าง EP.2

15วัน 4หมื่นสอง รวมทุกอย่าง

95%ของรูปรีวิวทริปนี้ อีหล้าถ่ายด้วยกล้องมือถือค่ะ

อีหล้าพาลุย …จอร์เจียภาคเหนือ Kazbegi, Juta village และ Truso valley

แผนการเดินทางของเรา ep.นี้ คือ

DAY 2-3. ออกจากเมือง Kazbegi ขึ้นเขาไปนอน Juta 2 คืน พักที่ zeta camping / กิจกรรม ขี่ม้า

DAY 4. ออกจาก juta กลับ ทบิลิซี ระหว่างทางแวะ Truso valley

เพื่อนๆคะ อีหล้าขออนุญาตเพื่อนๆช่วยเป็นกำลังใจขอแรงสนับสนุนแรงใจจากเพื่อนๆ

โดยการกดสับตะไคร้กดไลค์และกระดิ่งให้อีหล้า

อย่าลืมติดตามอีหล้าเที่ยวจอร์เจียได้ที่

Ep.1

https://pantip.com/topic/39128804

จาก ep.ที่แล้ว อีหล้าและผองเพื่อนมาถึง kazbegi guesthouse ที่พักแห่งนี้สะดวกสบายมีห้องครัวให้ทำอาหารด้วยแถมราคาตกแล้ว 450 บาทรวมอาหารเช้าแบบพื้นเมืองสดจากเตา นอกจากเจ้าของจะน่ารักและเป็นกันเองแล้ว สำหรับอาหารก็ปรุงมาจากใจ ทำให้อีหล้าและผองเพื่อนรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยยามอยู่ต่างแดน แถมบ้านก็น่ารักมีสวนดอกไม้อยู่หน้าบ้าน หากมีโอกาสอย่าลืมมาแวะพักกันนะคะ

เติมอาหารจอร์เจี้ยนจนเต็มท้อง การเดินทางก็เริ่มขึ้นพวกเรานั่งรถประมาณ 30 กิโลเพื่อไป Juta village ส่วนมากนักท่องเที่ยวนิยมมา trekking ประเภทจัดเต็มจัดหนักมีอุปกรณ์แบกมาเต็มหลัง ค่ำไหนนอนนั่น ส่วนอีกกลุ่มก็นิยมมา Hiking เดินป่าเบาๆเหนื่อยก็พัก ชมวิวธรรมชาติของเทือกเขาคอเคซัสสุดขอบเอเซีย

สำหรับอีหล้าและผองเพื่อนแล้ว แค่มองเห็นที่พักอยู่บนเขาริบๆขาก็สั่น ใจก็ป็อด เลยร่ำร้องจะเอาม้ามาแบกเป้และสัมภาระเสื้อผ้าให้ได้ สนนราคาอยู่ที่ 30 ลารีต่อตัว

เมื่อทุกอย่างลงตัวข้าวของขึ้นหลังม้า อีหล้าก็เดินตัวกลม ปลิวขึ้นเขายาวๆไป ทางเดินขรุขระ แถมชันเล็กน้อย ระหว่างทางจะมี ดอกไม้หลากหลายสารพัดสี บานรอคอยสร้างสีสันให้พวกเราได้แวะถ่ายรูปตลอดทาง เดินออกแรงพอเหงื่อซึม ก็ถึงที่หมาย

เราพักที่ zeta camping หากเพื่อนๆยืนอยู่กับที่แล้วหมุนไปรอบๆ 360 องศาจะเจอแต่ภูเขาล้อมรอบ มันคือโอบกอดของขุนเขาอย่างสมบูรณ์แบบที่งดงาม ช่างภาพพร้อมหรือเปล่าไม่รู้แต่นางแบบจำเป็นจัดเต็มทุกท่า พร้อมแจกความร่าเริงบนเทือกเขากันไปเลยค่ะ

รุ่งเช้าของอีกวันตามแผนเดิมเราต้องเดินทางไปที่ Abudelauri Lake (อะบูเดลารี เลค ) ที่ซึ่งมีทะเลสาบ 3 สี คือ blue lake, green lake และ white lake จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดในจอร์เจีย สามารถเดินเท้าไปใช้เวลา 6 -8 ชั่วโมง แล้วแต่แรงเลยค่ะ หรือจะขี่ม้าซึ่งเป็นแพคเก็จ 2 วัน 1 คืนคือต้องขี่ม้าไปค้างคืนแบบนอนเต็นท์ ราคาประมาณ 500 gel ไม่รวมค่าไกด์ นี่คือสิ่งที่หวัง

แต่ความจริงคือฝนยังคงตามมาเล่นงาน วันนี้เราทำได้เพียงขี่ม้าแบบวันเดย์ทริป 3 ชั่วโมง ราคา 90 gel ม้าพาพวกเราเดินไปตามทางเล็กๆ ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี ข้ามลำธาร สูดอากาศที่บริสุทธิ์ มองดูเทือกเขา Juta-Chuakhi mount ที่ยังมีหิมะขาวโพลนปกคลุมอยู่ ทุกย่างก้าวที่ม้าเดินมันช่างเพิ่มเติมความสุขของอีหล้าจัง

กระทั่งเรามาหยุดอยู่ที่ Erkonovano lake ( ภาษาจอร์เจีย )ทะเลสาบขนาดเล็ก น่ารักวิวชนะเลิศเป็นที่แวะพักระหว่างทางเดินไป Abudelauri lake บางคนก็มาตั้งแคมป์ที่นี่ มีร้านขายของเล็กๆตั้งอยู่ไม่ห่าง อากาศจะเย็นสบาย โลกที่สดใสเป็นอย่างนี้นี่เอง

กำลังดื่มด่ำกับธรรมชาติฝนเจ้ากรรมก็ตั้งเค้ามาแต่ไกล ถอยทัพกลับแคมป์ด่วน มาถึง zeta camping ซักพัก ฝนก็ตกลงมา อากาศก็หนาวเย็น อีหล้าเลยไปเมาส์มอยหอยกาบกับพนักงานเรียนภาษาท้องถิ่นกันซะหน่อย

เย็นย่ำอากาศหนาวมาก กลางคืนประมาณ 8-10°C ต้องเอาความร้อนเข้าร่างกาย นี่เลย Zeta hot chacha คือ เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ทำจากน้ำผึ้ง มีรสชาติเข้มข้น สามารถดื่มได้ 2 แบบคือ แบบร้อน จะได้ความรู้สึกเหมือนสาเกญี่ปุ่น หากดื่มแบบธรรมดาจะเหมือนวอดก้ามากๆ อีหล้าลองแล้ว เริ่ดมากขอบอก มาทั้งทีต้องมาให้ถึง ลองกรึ๊บกันดูนะคะ

Zeta camping มีห้องพักและที่สำหรับกางเต้นท์ ในส่วนของห้องน้ำเป็นแบบรวม ภายในห้องพักมีฮีตเตอร์ ผ้าห่มไว้เสร็จสรรพ ราคาต่อคนท่านละ 50 gel รวมอาหารเช้า

สองคืนที่ zeta camping มันคือความสุขที่ยากเกินบรรยาย ทั้งอากาศและวิวอลังการ ตลอดจนต้นไม้ใบหญ้า แถมไปทางไหนก็มีดอกไม้ที่แปลกตาจากเมืองไทยสดใสเต็มไปหมด อีกทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ผ่านไปมา ถ้าหยุดเวลาได้อีหล้าขอใช้สิทธิ์นั้นทันที

แต่ภาระกิจ ของอีหล้ายังต้องตุรัดตุเรงตะเรงกันไปต่อ เพื่อที่จะไป Truso Valley จาก jutaไปประมาณ 35 กิโลเมตร มีทางแยกจากถนนหลัก พอมาถึงสะพานข้ามลำธารใหญ่ การเดินทางก็เริ่มขึ้น เราต้องเดินเท้าไปประมาณ 5-6 ชั่วโมงระยะทางไปกลับประมาณ 22 กิโลเมตร เดินผ่านป้อมเก่าๆบ้านเก่าๆบ้านบางหลังเหมือนโดนทิ้งร้างไว้นานเป็นซากปรักหักพังดูทรุดโทรม แต่อีหล้ากับผองเพื่อนกลับมองว่ามันช่างมีเสน่ห์ชวนให้ค้นหาตามแบบฉบับของมัน

เดินไปไม่ถึงครึ่งทาง ถ่ายภาพต้นไม้ ลำธาร และภูเขาได้ไม่เท่าไร พระพิรุณก็ออกทำงานอีกครั้ง อีหล้าไม่สามารถจะฟันฝ่าสายฝนที่โปรยปรายไปถึง Truso Valley ได้ มาเที่ยวบางครั้งก็ต้องทำใจปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ทริปนี้พระพิรุณขยันตามอีหล้าจังเลย

ไปไม่ถึง Truso Valley แต่ยังดี ระหว่างทางกลับเข้าทบิลิซี มีวิวสวยๆข้างทางให้ว๊าว..ว๊าว..ว๊าว..กันตลอด มองไปทางไหนก็มีแต่ทุ่งดอกไม้ เต็มไปหมด ทั้งดอกขาว เหลือง ชมพู ม่วง น่ารักน่าชัง

นั่งรถมาอีกแป๊ป ก็ผ่าน Sulphur Water ดูเป็นภูเขาสีส้มๆสวยแปลกตา มีน้ำไหลซึมผ่านตลอดเวลา เลยแวะเก็บภาพสวยๆกันนิดหน่อย ตรงข้างๆกันนั้นมีอุโมงค์ ที่เป็นถนนให้รถใช้วิ่งลอด ยามหิมะตกหนักปิดถนน ว่าแล้วก็ถ่ายรูปเล่น เป็นที่ระลึกซักหน่อย จะเป็นไร

เสร็จสรรพพวกเราก็กลับขึ้นรถพร้อมเดินทางกลับสู่ทบิลิซี Tbilisi : the city that love you คืนนี้นอนที่ Hotel Rustaveli พร้อมการปรับแผนเดินทางกันใหม่ ตามแผนอีหล้ามานะคะว่าจะคงแผนเดิมไปต่อ Armenia หรือจะลุยจอร์เจียให้ถึงที่สุด ตุรัดตุเรงตะเรงกันไป จอร์เจีย EP 3 ทั้งสนุกและตื่นเต้นกับมนุษย์ถ้ำ