ไปต่อกันที่โปรตุเกส สำหรับรีวิวนี้หยกจะพาไปเที่ยวที่เมือง Sintra แต่ก่อนจะไปถึง ขอคั่นรายการด้วยการรีวิวที่พักกันนิดนึง 

Urban Art Camping เป็นที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับชายหาดในเมือง Peniche เมืองนี้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่น Surf board กันค่ะ เราพักที่นี่ 1 คืน ก่อนที่จะเดินทางไปเมืองซินตรา

ที่พักอยู่ไม่ไกลกับชายหาด ลักษณะคล้ายกับบ้านน็อคดาวน์ เป็นหลัง ๆ แบบนี้ 

มาถึงห้องพักของเรา เข้าไปดูข้างในกันค่ะ 

มีสิ่งความสะดวกครบครัน ทั้งทีวี เครื่องปรับอากาศ 

ครัว ไมโครเวฟ เตาเครื่องดูดควัน คนที่มาพักยาว ๆ มาเรียนหรือมาเล่นเซิร์ฟก็สะดวกมาก 

ห้องน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น 

ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน 

ชายหาดก็อยู่ไม่ไกลค่ะ ขับรถไปประมาณ 15 นาที ไปดูเค้าเล่นเซิร์ฟกัน 

รีวิวที่พักกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ไปต่อกันที่เมือง Sintra ค่ะ หยกจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว Park and National Palace of Pena ที่เมือง Sintra ประเทศโปรตุเกส ต่อจากเมือง Porto ในรีวิวที่แล้ว ใครสนใจ สามารถกลับไปอ่านรีวิวได้นะคะ https://th.readme.me/p/28669 

ก่อนเข้าไปเที่ยวชม เราต้องซื้อตั๋วก่อนค่ะ เค้าจะแบ่งเป็นโซน ๆ เราเลือกได้ว่าอยากจะเข้าไปดูโซนไหนบ้าง ของหยกเลือกเป็น Pena Palace กับ Park of Pena ค่ะ 

ซื้อตั๋วแล้วก็เดินไปชมปราสาทกัน 

The Pena Palace เป็นปราสาทแนวโรแมนติกที่ตั้งอยู่บนยอดเขาซินตรา เพราะฉะนั้นหมายความว่าเราต้องเดินขึ้นไปบนเขาค่ะ ระหว่างทางก็มีธรรมชาติและต้นไม้มากมายให้ได้ชมกัน 

ปราสาทแรกเป็น Sintra Castle แต่เราไม่ได้เข้าไปชมนะคะ ขอข้ามไปชม Pena Palace เลย 

แน่นอนว่าเดินขึ้นไปบนยอดเขาก็ย่อมเห็นวิวเมือง

มองเห็น Sintra Castle อยู่ลิบ ๆ

ช่วงที่เดินทางไปคือเดือนตุลาคม ปี 2019 ซึ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ก็ยังพอมีดอกไม้ให้ได้ชมกัน 

เดินชมธรรมชาติขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ ปราสาทอยู่บนยอดเขา ต้องอึดหน่อยนะคะ

เริ่มมองเห็นตัว Pena Palace แล้วค่ะ 

มาถึงแล้ว 

มาถึงแล้วก็ยังไม่ได้เข้าไปชมนะคะ ต้องรอคิว บอกเลยว่าเรารอคิวเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ไหน ๆ มาถึงนี่แล้ว ให้รอก็ต้องรอค่ะ 

The Pena Palace ถูกบรรจุไว้เป็น UNESCO World Heritage Site และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส

ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังของ King John II ในปี ค.ศ. 1493 และถูกใช้เป็นที่พำนักของราชวงศ์มาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปี ค.ศ. 1910 ที่ประเทศโปรตุเกสเกิดการปฏิวัติเป็นสาธารณรัฐ ปราสาทราชวังแห่งนี้จึงถูกเปลี่ยนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเข้าชม 

รูปแกะสลัก Gargoyle สำหรับตำนานของ Gargoyyle ชาวยุโรปในยุคกลางเชื่อว่าการ์กอยล์ยัลนั้นตอนกลางวันจะเป็นรูปสลักพอตกกลางคืนจะกลายร่างเป็นมังกรบินไปทั่วหมู่บ้านหรือเมืองที่อาศัย เพื่อปกป้องดูแลมิให้มีสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ เข้ามารังควาน 

ถึงคิวแล้วเข้าไปชมข้างในกันค่ะ 

The Royal Dining Room

ภาพจิตรกรรมบนฝาผนังภายในปราสาท 

ห้องครัว 

เดินเที่ยวชมปราสาทเสร็จ เราก็ไปหาอะไรทานกันค่ะ ชั้นล่างมีห้องอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว 

มื้อนี้เราลองชิมอาหารพื้นเมืองของโปรตุเกส เรียกว่า Bacalhau ทำมาจากเนื้อ ปลา Cod จานนี้อบชีสพร้อมผักโขม อร่อยมาก ปลา Cod เป็นปลาขึ้นชื่อของโปรตุเกส ใครมาถึงต้องลองทานนะคะ เนื่องจากเป็นปลาทะลตัวใหญ่ เลยไม่มีก้าง แถมเนื้อนุ่มอีกต่างหาก ยกนิ้วให้เลยค่ะ 

อิ่มท้องแล้ว เราไปชม Pena Park ก่อนกลับกันค่ะ 

Pena Park เป็นพื้นที่ป่ากว้างใหญ่ที่ล้อมรอบพระราชวัง Pena พื้นที่ทั้งหมดมีขนาดกว่า 200 เฮกตาร์ ภูมิประเทศจะลดหลั่นกันไปบนเนินเขา และมีต้นไม้พันธุ์หายากจากทั่วโลกปลูกอยู่มากมาย และแอบบอกนิดนึงว่าสวนที่ล้อมรอบปราสาทแห่งนี้มีลักษณะคล้ายเขาวงกตย่อม ๆ นะคะ เดินมาเดินไปให้จำจุดสังเกตไว้ด้วย ที่พูดได้นี่ก็เพราะไปหลงมาแล้วนั่นเอง 

ชื่อของกษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 2 ผู้ที่สร้างสวนแห่งนี้ได้ถูกจารึกไว้

เที่ยวชม Park and Palace of Pena เมือง Sintra เสร็จ เราเดินทางเข้าที่พัก ซึ่งหยกจองเป็น airbnb ไว้ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากยอดเขา Sintra มาก 

เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นออกแบบทันสมัย 

พร้อมอาหารเช้า 

ที่ขาดไม่ได้ก็คือทาร์ตไข่ ขนมยอดฮิตของชาวโปรตุเกส 

สำหรับรีวิวนี้ ลาไปพร้อมกับน้องหมาเบลล่าเจ้าของบ้าน รีวิวหน้าหยกจะพาไปเที่ยวโปรตุเกสกันต่อค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

ติดตามรีวิวต่าง ๆ ของ Yoko Go Around ได้ที่ :

https://th.readme.me/id/yokogoaround

https://yokogoaround.wordpress.com/

https://www.facebook.com/YokoGoAround/

Time2Travel

 วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.43 น.

ความคิดเห็น