เกาะลันตา กระบี่ 9 พิกัด ที่พัก ที่เที่ยว

เกาะลันตาพาเพลินเดินเล่นหาด

ไม่ควรพลาดเป็นเกาะหนึ่งในกระบี่

ขับรถลงแพไม่กี่นาที 

ก็ถึงที่บนเกาะขับเลาะไป

ทะเลสวยน้ำใสหาดทรายขาว 

นักท่องเที่ยวเกรียวกราวมามากมาย

ที่พักดีที่พักสวยมีหลากหลาย 

มีให้เลือกตามสไตล์ที่ชอบกัน

หากข้ามมาไม่มีรถส่วนตัวขี่ 

ก็มีที่เช่ามอไซค์ขายน้ำมัน

ทั้งคาเฟ่ชมทะเลร้านอาหาร

หรือเมืองเก่าและสะพานยังดูสวย

อยู่ 3 วัน 2 คืนกำลังดี 

หาที่พัก 2 ที่ 2 ฝั่งด้วย

ฝั่งหนึ่งหาดเยอะ sun rises สวย

อีกฝั่งเมืองเก่าด้วยของไม่แพง

ทริปนี้ออกเดินทางไปยัง "เกาะลันตา" จังหวัดกระบี่ จริงๆแล้วจังหวัดกระบี่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะชายหาดสวยๆ น้ำทะเลใสๆ และหมู่เกาะอีกมากมายหลายแห่ง ถ้าหากต้องการเที่ยวเกาะ อย่างสบายๆ มีทุกอย่างครบครันอยู่ในเกาะ มีความเป็นกันเองของคนในพื้นที่ มีจุดให้เที่ยวหลายๆจุด และจุดถ่ายรูปสวยๆมากมาย ที่สำคัญไปง่ายและของบนเกาะราคาไม่แพง แนะนำเกาะลันตาแห่งนี้เลยค่ะ

วันที่ 1

เดินทางถึงกระบี่ในช่วงเช้า จัดการเช่ารถที่สนามบิน ครั้งนี้เลือกใช้บริการของ Avis Thailand Avis เพราะที่นี่มีรถให้เลือกหลากหลายรูปแบบ จะเช่าขับเองหรือเช่าแบบพร้อมคนขับก็ได้ และมีสาขาทั่วประเทศไทยมากถึง 29 สาขา


เกาะลันตา

จากนั้นมุ่งหน้าสู่ท่าเรือบ้านหัวหิน(เกาะลันตา) เพื่อที่จะขับรถลงแพข้ามไปยังเกาะลันตา เมื่อไปใกล้ถึงท่าเรือต้องขับเข้าไปที่ "จุดจำหน่ายตั๋ว" ก่อนนะคะ


อัตราค่าโดยสารแพขนานยนต์

นักท่องเที่ยว ชาวไทยและประชาชนทั่วไป 10 บาท

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 20 บาท

รถยนต์ 90 บาท

รถจักรยาน, รถจักรยานยนต์ 5 บาท

เราเดินทางไปกันสองคนด้วยรถยนต์ 1 คัน เพราะฉะนั้นจึงจ่ายไปทั้งหมด 110 บาทต่อเที่ยว

จากนั้นก็ขับไปต่อแถวรอลงแพค่ะ มาถึงตรงนี้จะมองเห็นทะเล และเกาะลันตาที่อยู่ไม่ไกลแล้ว

เมื่อแพขนานยนต์ออกเดินทางกลางทะเลแล้ว สามารถลงรถออกมาชมวิวกลางทะเลได้ บางแพจะมีที่ให้ขึ้นไปนั่งชมวิวได้ชิลๆด้วย แต่ก็ต้องรักษาความปลอดภัยระมัดระวังตัวเองกันด้วยนะคะ

ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ไปถึงเกาะลันตาแล้ว เกาะลันตา ประกอบไปด้วย เกาะลันตาน้อย และเกาะลันตาใหญ่ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักจะอยู่ที่เกาะลันตาใหญ่ เมื่อถึงท่าเรือที่เกาะลันตาน้อย ขับรถตรงไปข้ามสะพานสิริลันตา ก็จะถึงเกาะลันตาใหญ่แล้วค่ะ

จากสามแยกที่เจอป้ายบอกทางเหล่านี้ จากเลี้ยวขวาซึ่งจะไปยังหนังที่มีหาดต่างๆมากมาย มาถึงเวลาบ่ายๆแบบนี้เขาเข้าที่พักก่อนเลยค่ะ


1. Coco Cape Lanta Resort

ที่พักคืนแรกของเราคือ Coco Cape Lanta Resort ลักษณะที่ตั้งจะเป็นเนินเขาสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดภายในพื้นที่ของรีสอร์ทได้เลย อีกทั้งสระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวทะเลและอาทิตย์ตกทะเลสวยๆ นอกจากนี้ยังมีโซน บาร์ สปา และมุมให้เดินเล่น พักผ่อน หรือถ่ายรูปได้อีกเพียบ

แต่ก่อนอื่นเช็คอินกันก่อนค่ะ รับ Welcome drink และกุญแจกันที่นี่

ขึ้นมาที่ห้องพักของเราในวันนี้ บรรยากาศระหว่างทางเดินขึ้นลงห้องพัก สวยงามและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน

ห้องพักของที่นี่จะมีให้เลือกหลายประเภทห้องนะคะแต่สำหรับห้องที่เราพักวันนี้เป็นประเภท HONEYMOON SUITE SEAVIEW WITH JACUZZI

ครบครันทุกอย่างตามชื่อประเภทของห้องพักเลยค่ะ บ้านหลังสีส้มอ่อนๆสไตล์ Tropical

ภายในเป็นผนังสีขาวให้ความรู้สึกอบอุ่น สะอาด และปลอดโปร่ง มีเตียงขนาดควีนไซส์ตกแต่งไว้อย่างงดงาม ทีวี ตู้เย็น ตู้เซฟ ชุดคลุมอาบน้ำ มีไว้ให้พร้อม

ประตูกระจกด้านหลังออกไปก็จะพบกับตัวชานระเบียงที่ยื่นออกไป ซึ่งสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้จากห้องพักเลยหละค่ะ

มีอ่างจากุซซี่ ให้นอนแช่ไปพร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศให้ความรู้สึกเซ็กซี่เบาๆ มีระบบน้ำวนนอนแช่แล้วเหมือนได้นวดผ่อนคลายไปในตัว

อีกด้านเป็นห้องอาบน้ำแบบโอเพ่นแอร์ ออกมาอาบน้ำแบบวาบหวิวพร้อมกับชมวิวทะเลเพลิน ท่ามกลางต้นไม้น้อยๆที่ประดับประดาเอาไว้มากมาย

ภายในห้องน้ำมีบานกระจกใสที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ อีกด้านเป็นหน้าต่างกระจกสีวินเทจหน่อยๆ

ช่วงเย็นลงไปเดินเล่นรับลมชมวิวกันต่อ ตอนแรกตั้งใจว่าจะออกไปยังหาดต่างๆที่อยู่ไม่ไกล แต่พอเข้ามาที่นี่แล้วก็อยากใช้เวลาให้เต็มที่อยู่ในนี้ เพราะมีจุดให้เดินไปชมไปถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ

ตามที่บอกไปตอนต้นว่าที่นี่มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยมากอีกแห่งหนึ่งของเกาะ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสวยมากจริงๆค่ะ

หรือจะชมวิวอาทิตย์ตกทะเลจากสระว่ายน้ำก็ได้นะคะ สวยมากไม่แพ้กัน

แล้วก็ได้เวลาอาหารค่ำ ห้องอาหารที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ พอตกกลางคืนในสระว่ายน้ำจะมีแสงสีให้ชมด้วยนะคะ

บรรยากาศโรแมนติกมากเพราะสามารถเงยหน้าขึ้นไปดูดาวได้ มีลมพัดเย็นๆตลอดเวลา

เมนูอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย รสชาติสามารถสั่งได้ มีให้เลือกทานเยอะมาก บอกได้เลยว่าอร่อยทุกจาน


วันที่ 2

เมื่อเช้าลงมาเดินเล่นถ่ายรูปเล่น ชมวิวทะเลธรรมชาติรอบๆ

แล้วจึงเดินไปยังห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ มีเมนูให้ทานเยอะมาก อร่อยทุกเมนูด้วยนะคะ

สำหรับใครที่ชอบที่พักสไตล์ tropical ที่มีทุกสิ่งอย่างอยู่ภายในรีสอร์ท ทั้งวิวสวยๆ อาหารอร่อย สระว่ายน้ำวิวดี ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย มีโซนสปานวดผ่อนคลาย โซนบาร์ที่จะนั่งดื่มได้ รับรองว่าโคโค่เคปลันตารีสอร์ทจะตอบโจทย์ได้ทุกอย่างแน่นอนค่ะ


ข้อมูลติดต่อ Coco Cape Lanta Resort

443 หมู่ที่ 1 ศาลาด่าน บ้านเกาะลันตา กระบี่ 81150

https://cococapelantaresort.com

https://facebook.com/CocoCapeLanta

โทร 094-429-4249



2. หาดคลองดาว

ชายหาดที่อยู่บริเวณแหลมคอกวาง มีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ หาดทรายค่อนข้างขาว มีชาวต่างชาติจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมนอนอาบแดดและลงเล่นน้ำทะเล รวมถึงมีร่มเงาของต้นสนใหญ่ๆอยู่เป็นจำนวนมาก



3. หาดคอกวาง

ขับรถไปอีกหน่อย ทางฝั่งตรงข้ามก็มีชายหาดเช่นกัน นั่นคือ หาดคอกวาง แต่หาดแห่งนี้น้ำจะขึ้นสูงไวกว่า จึงทำให้มองเห็นหาดทรายแคบมีเห็นค่อนข้างมาก มีทัศนียภาพค่อนข้างดี แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว



4. หาดพระแอะ

สวนสาธารณะหาดพระแอะ เป็นลานป่าสนมีพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย มีลานจอดรถ มีร้านขายอาหารเล็กๆอยู่จำนวนหนึ่ง

หาดทรายขาวสะอาดตา ชายหาดค่อนข้างกว้าง ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ชาวต่างชาตินิยมมานอนอาบแดดจนตัวแดงกันเยอะมาก เห็นแล้วรู้สึกแสบผิว ^^"



5. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

ขับรถเลาะลงไปเรื่อยๆทางทิศใต้จนสุดเกาะ จะพบกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ใครที่ไปเกาะลันตาก็ต้องไปเที่ยวด้านในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาด้วย


ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 40 บาทเด็ก 20 บาท รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ส่วนบุคคล 4 ล้อ 30 บาท ดังนั้นเราจ่ายไปทั้งหมด 110 บาท

มาที่นี่ ห้ามใช้โดรนขึ้นบินนะจ๊ะ

ขับรถเข้าไปจอดด้านในได้เลยค่ะ จากนั้นก็สามารถเดินชมรอบๆได้ มีห้องน้ำให้เข้าฟรีสบายใจหายห่วง

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีเนื้อที่ประมาณ ๑๕๒ ตารางกิโลเมตร ในอำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตาน้อย เกาะตะเล็งเบ็ง และเกาะใกล้เคียง รวมไปถึงหมู่เกาะห้า หมู่เกาะรอก และเกาะไหง คำว่า “ลันตา” แผลงมาจากคำว่า “ลันตัส” ซึ่งเป็นภาษาชวา มีความหมายว่า “ผลาย่างปลา” ซึ่งก็คือ ที่ย่างปลาสร้างด้วยไม้ รูปสี่เหลี่ยมยกพื้นสูงขึ้นคล้ายโต๊ะ จุดไฟไว้ข้างล่าง เผาปลาที่เรียงไว้ข้างบน

จุดเด่นหลักๆที่ได้รับความนิยม คือ

ประภาคารปัชโชติวชิราภา

ประภาคารสีขาวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นภาพที่งดงามมากและนับเป็นจุดชมวิวที่งดงามมากเช่นกัน สามารถเดินขึ้นไปยังประภาคารได้เลย


หาดแหลมโตนด

ต่อมาคือ หาดแหลมโตนด มีจุดเด่นตรงที่เต็มไปด้วยต้นตาลโตนด จึงตั้งชื่อไปหาดบริเวณนี้เป็นหาดแหลมโตนด นั่นเอง


โขดหินริมทะเล

โขดหินริมทะเล บริเวณนี้จะมีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอาศัยอยู่ เช่น หอย ปู นก และยังเป็นจุดที่สามารถลงไปโพสท่าถ่ายรูปสวยๆได้อีกเยอะเลยด้วย



ถ้ำเกลือ

ถ้ำเกลือ เป็นโพรงหิน มีลักษณะเป็นถ้ำขนาดเล็กสามารถเข้าไปนั่งเล่นชมวิวทะเลได้ ถ่ายรูปกับมุมดีๆทำให้ลูกออกมาดูเหมือนเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในมีเกลือที่เกิดจากน้ำทะเลอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ไม่สะอาดเพียงพอที่จะนำมารับประทานได้นะคะ



6. สะพานท่าเรือเกาะลันตา

จากนั้นเดินทางกันต่อไปยังอีกด้านหนึ่งของเกาะ ซึ่งเป็นฝั่งย่านเมืองเก่า ของกินของใช้รวมถึงน้ำมันราคาถูกกว่าอีกฝั่ง

ก่อนเข้าที่พักขอเลยไปชมวิวที่สะพานปลากันสักหน่อย

และนี่คือรูปสะพานตรงนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2557 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน เคยมาครั้งแรกแล้วถ่ายเอาไว้ค่ะ หน้าฝนก็สวยมากเช่นกันนะคะ แม้สะพานจะได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไป แต่วิวธรรมชาติยังคงงดงามดังเดิม



7. Relax House Lanta Old Town

ที่พักคืนที่สองของเรา คือ Relax House Lanta Old Town ที่พักเปิดใหม่อยู่ไม่ไกลจากย่านเมืองเก่า มีลักษณะเป็นบ้านอยู่ริมป่าชายเลนที่มองออกไปเห็นวิวทะเลได้ มองดูผิวเผินภายนอกให้อารมณ์เข้ากับบรรยากาศรอบๆ

ทางเดินปูพื้นด้วยไม้ทอดยาวเข้าไปยังบ้านหลังต่างๆ ที่ดูแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นไปในตัว

หน้าห้องพัก มีอุปกรณ์สำหรับทำครัวต่างๆเอาไว้ให้ยืมใช้ได้เลย เช่น จาน แก้วน้ำ กาน้ำร้อน ซิงค์ล้างจาน

ส่วนภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและดูดีมากกว่าที่คิดไว้เยอะมาก

ที่นอนนุ่มๆที่มีกระจกใสบานใหญ่อยู่บนหัวนอน เปิดม่านแล้วชมวิวต้นโกงกางป่าชายเลนได้เสมือนเป็นภาพที่ใส่กรอบรูปเอาไว้

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ

ทางด้านหลังห้อง ประตูกระจกใส เมื่อเปิดออกไปจะพบกับชานบ้าน มีเปล ให้นั่งหรือนอนเล่นรับลมชมวิวกันได้อย่างสบายใจ มีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งชมวิวป่าชายเลนและทะเลเพลินๆ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำหรับ relax สมกับชื่อ relax House Lanta old Town

เหมาะสำหรับคู่รัก กลุ่มเพื่อน และครอบครัว เพราะนอกจากห้องนี้ ยังมีห้องอื่นที่น่าสนใจอีกหลายห้อง รวมไปถึงบ้านหลังใหญ่ที่มีหลายห้องนอนและมีโซนห้องนั่งเล่นอยู่ในนั้น


ข้อมูลติดต่อ relax House Lanta old Town

72 เกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา กระบี่ 81150

https://acebook.com/relaxhouselantaoldtown

โทร 063-549-7445



8. ย่านเมืองเก่า

ช่วงเย็น เราออกไปเดินเล่นกันที่ถนนคนเดินย่านเมืองเก่า ที่เป็นถนนเส้นตรงขนาบข้างด้วยบ้านไม้เก่าแก่ทั้งสองฝั่ง แต่ละหลังจะมีวางสินค้าจำหน่ายทั้งของกินของใช้ และของฝาก



รวมไปถึงร้านอาหารหลากหลายประเภท ฝากท้องมื้อเย็นไว้ที่นี่ได้เลยค่ะ

และซอกเล็กๆที่สามารถเดินเข้าไปชมวิวทะเลได้ นับเป็นมุมที่ห้ามพลาด



วันที่ 3

ตื่นเช้าลุกขึ้นมาเปิดผ้าม่านรับแสงเช้าที่ทะลุผ่านใบไม้ เปิดประตูด้านหลังออกไปนอนชมวิวบนเปล สูดอากาศบริสุทธิ์แสนสดชื่น ฟังเสียงนกร้องแล้วเพลิดเพลินเหมือนได้ฟังเสียงธรรมชาติบรรเลงดนตรีขับกล่อม

ละเลียดอาหารเช้าไป มองวิวรอบๆไป เป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนที่ดีมาก มากจนอยากอยู่ต่ออีกหลายๆคืนเลย



9. ชุมชนบ้านทุ่งหยีเพ็ง

บ้านทุ่งหยีเพ็ง เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมทะเล ทางฝั่งตะวันออกของเกาะลันตาใหญ่ ชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นกลุ่มชนมุสลิมที่เข้ามาตั้งรกรากเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว ชื่อหมู่บ้านมาจาก "โต๊ะหยีเพ็ง" ชื่อของบุรุษผู้หนึ่งที่ได้เดินทางมาอยู่อาศัย ณ หมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อ "โต๊ะหยีเพ็ง" ได้สิ้นชีวิตลง พื้นที่แห่งนี้ จึงถูกเรียกว่า "ทุ่งหยีเพ็ง"

มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ชมป่าโกงกาง ลิง นกสายพันธ์ต่างๆ ปูก้ามดาบสีน้ำเงิน รวมทั้งวิถีชุมชนมุสลิมที่เรียบง่ายและงดงาม ที่สำคัญ ไม่มีค่าเข้าชมด้วยนะคะ

ได้เวลากลับ

เดินทางกลับช่วงบ่าย โดยขับไปยังท่าเรือที่เกาะลันตาน้อย เพื่อรอลงแพขนานยนต์ มีค่าบริการเท่ากันกับขามา คือ 110 บาท สำหรับ 2 คน และรถยนต์ 1 คัน

สรุปทริปนี้ เป็นทริปที่ได้พักผ่อนหย่อนใจพร้อมๆกับการท่องเที่ยวแบบสบายๆ เป็นการเที่ยวภาคใต้ที่ผ่อนคลายไม่น้อยไปกว่าที่ไหนๆเลยล่ะค่ะ


GowithAmp

 วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.32 น.

ความคิดเห็น