ต่อนยอนตะต่อนยอน ตะต่อยย้อนต้อนยอนตอนยอน (กรุณาอ่านให้เป็นเพลงเพราะเราไม่มีเพลงประกอบ ) วันนี้เรามีร้านอาหารเหนือมาแนะนำครับ ชื่อว่าร้านขนมจีนต้นกามปูแน่นอนว่าร้านนี้ของที่อร่อยมากๆก็คงเป็นขนมจีนไม่อย่างนั้นเค้าไม่เอามาตั้งเป็นชื่อร้านหรอกใช่ไหมครับ ซึ่งเมนูอื่นเขาก็อร่อยนะไม่ใช่แค่ขนมจีนอย่างเดียว สำหรับร้านนี้สาขาแรก ดั่งเดิมอยูที่พิษณุโลกแต่ก็มีสาขาอยู่ที่กรุงเทพที่นวลจันทร์แล้วก็ที่อยุธยาด้วย ซึ่งที่ผมสั่งมาในวันนี้คือที่สาขานวลจันทร์ เพราะตอนที่สั่งมานั้นทางการยังไม่ปลดล็อก แต่ตอนนี้ผ่อนปรนให้ไปนั่งทานที่ร้านได้แล้ว ใครสะดวกไปกินที่ร้านได้ครับ ใครไม่สะดวกยังกังวลเรื่องโควิชอยู่ก็สามารถสั่งมากินที่บ้านได้ โดยจะมีค่าส่งนิดหน่อย

โดยทางร้านจะบรรจุอาหารแยกมาเป็นอย่างดีไม่ปะปนกัน ผักก็อยู่ส่วนผัก ปลาก็อยู่ส่วนปลา น้ำยาก็อยู่ส่วนน้ำยา แยกจากกัน ส่วนราคานั้นถือว่าไม่แรงนะครับโดยส่วนใหญ่จะไม่เกิน 100 บาทก็จะมีเมนูพิเศษอยู่บ้างที่เกิน 100 บาทไปฉะนั้นถ้ากินจริงๆแล้วสั่งมาซักสามอย่างผมว่าก็ไม่เกิน 300 บาทถือว่าคุ้มอยู่ แต่วันนี้เบื้องหลังคือกินกันสามคนครับก็เลยสั่งมาเยอะนิดหนึ่ง งั้นมาชมกันว่าเราสั่งอะไรกันวันนี้บ้าง

เมนูแรกที่จะแนะนำก็คือเมนู ส้มตำผลไม้รวม ราคา 95 บาท

สมราคามากครับ กลับปริมาณผลไม้ที่ให้มาแบบเต็มเต็มจาน ส่วนน้ำราดก็มีความอร่อย เผ็ดเปรี้ยวหวานกลมกล่อม แต่ถ้าใครอยากได้เปรี้ยว Extra ก็มีมะนาวให้บีบเพิ่ม มาถึงส่วนประกอบหลักอย่างผลไม้ มีความสดทั้งแก้วมังกร แอปเปิ้ล สาลี่

สำหรับส่วนประกอบอย่างกุ้งแห้งนั้นก็มาแบบตัวโตแบบนิ่มกินง่ายไม่ติดฟัน ทำให้เมนูนี้กินง่ายกินเพลิน และเหมาะอย่างยิ่งเป็นเมนู ออเดิร์ฟ เพื่อเปิดโสตสัมผัสการรับรู้ของลิ้นสู่อาหารเมนูอื่น ๆ ฉะนั้น เมนูนี้ต้องสั่งครับ

เมนูที่ 2 แกงอ่อมเหนือ ราคา 90 บาท 

เพื่อน ๆ อาจจะเคยกินแกงอ่อมอีสานกันมาบ้างซึ่งมันมีลักษณะที่แปลกแตกต่างกันไป สำหรับชาวล้านนาแล้วแกงอ่อมไม่ใช่อาหารที่กินกันทั่วไป แต่จะกินเฉพาะมีช่วงเทศกาลเหตุการสำคัญ สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อวัวก็ไม่ต้องกังวลนะครับ ที่นี่เป็นแกงอ่อมหมู เอกลักษณ์ของแกงอ่อมเมืองเหนือคือเครื่องแกงครับ จะผสมด้วยผริกและผักสมุนไพรต่าง ๆ ทำให้มีรสเผ็ดร้อน แต่ไม่ได้เผ็ดจ๋า 

ซึ่งเครื่องแกงพวกนี้จะเข้าไปในเนื้อหมูในตอนที่ผัดก่อนที่จะนำมาต้มจนเปื่อย เปื่อยจนกระดูกอ่อนที่มีอยู่ในนั้นก็กินได้ง่ายมาก กุบกับ ๆ  สามารถกินได้ทุกชิ้นส่วน ซึ่งผมได้ทานแล้วต้องบอกว่าเปื้อยจริง ๆ ทานง่ายไม่ติดฟัน ส่วนผักที่โรยนั้นทางร้านแยกมาให้นะครับโรยหน้าตอนหลังได้เองเลย ซึ่งให้มาเยอะมาก โรยทีแทบจะปิดหน้าแกง แต่ที่ไม่เคยเห็นคือใส่มะเขือพวงด้วย แต่มะเขือพวงก็ไม่ขมครับทานง่าย ( สารภาพว่าทานไม่หมดครับ เลยเอาไปแช่เย็น กินได้ราว ๆ 3-4 มื้อครับ พออุ่นน้ำมันก็ข้น ๆ รสยิ่งเข้มข้นครับ ขนาดว่าหมูหมดผมก็แอบเอามากินกับข้าวแทนในเมนูอื่น ๆ

เมนูที่ 3 ถุงทอง 110 บาท

ถุงทองเป็นของว่างไทยโบราณ ทั้งยังเป็นอาหารมงคล มักจะนำมาใช้ในงานเลี้ยง หรือมอบให้กับผู้อื่น ส่วนผสมข้างในเป็นอะไรผมไม่ทราบครับไม่ได้แกะมาดู แต่น่าจะเป็นการผสมระกว่างหมูกุ้งไก่ บางทีก็ไม่ต้องสนใจส่วนผสมมากครับ โยนใส่ปากแล้วอร่อยก็พอ เนื้อข้างในแน่น สวนแป้งข้างนอกกรอบมากครับ ถ้าใครได้ชมคลิปก็จะรู้ว่ากรอบมาก

ถือเป็นอีกเมนูที่ทานเล่นได้ สำหรับเมนูนี้ราคาเกินร้อยไปนิดนึง อาจจะดูว่าแพงกว่าเมนูอื่น แต่ลองไปกินตามสวนอาหารสิครับเมนูนี้ก็ปาไป ร้อยกลาง ๆ สำหรับเมนูนี้ก็จะตกคำละ 10 บาทราคานี้ถือว่ากลาง ๆ ครับตามความคิดของผมนะ เพราะถ้าไปทำเองก็วุ่นวายมาก สำหรับเมนูนี้มาพร้อมกับน้ำจิ้มและผักกาดหอมครับ

เมนูที่ 4 ลาบเมืองเหนือ ราคา 80 บาท 

ซึ่งจะต่างกับลาบภาคอื่น ๆ ลาบเมืองเหนือ จะไม่ได้เผ็ดจัด รสจะออกไปทางเค็มมัน ในลาบมีหมูกับตับเป็นส่วนประกอบหลัก คลุกเคล้ากับเครื่องแกงสูตรเฉพาะของลาบเมืองเหนือ ต้องชมว่ากินได้ทุกส่วนกินได้จนหมด บางทีไปกินลาบแล้วใส่พวกใส้ที่เคี้ยวยาก ๆ มา หรือปนกระดูกมา แต่ที่นี่ไม่มี เรียกว่า ผู้ดีกินได้ง่ายมาก ไม่ต้องค่ยทิ้ง 

มาพร้อมกับ เครื่องเคียงอย่างแตงกวาและถั่วฝักยาวกรอบ ๆ ส่วนเครื่องโรยหน้าก็เป็นต้นหอมผักชี กระเทียมและหอมเจียว และพริกแห้งสำหรับหยิบมากัดกินระหว่างทานลาบ ( พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป ) เสียดายว่าไม่ได้สั่งแคปหมูมาด้วยไม่งั้นจะโรยหน้า จะยิ่ง ลำ ยิ่งขึ้น

เมนูที่ 5 ยำขนมจีน ราคา 150 บาท 

เป็นเมนูที่มีราคาทะลุร้อยอีกเมนู มาดูกันว่าคุ้มไหมกับ 150 บาท ที่จ่ายไป ส่วนประกอบในเมนูยำขนมจีนคือ ขนมจีน กุ้งตัวโตเนื้อเด้ง ๆ หมูยอ ถั่วฝักยาว ต้นหอมผักชี หอมแดง ปลาทู และที่ขาดไม่ได้คือ น้ำยำ 

ถ้ากินแบบเรียบร้อยหน่อยก็ตักขนามจีน 1 ก้อน แล้วก็เอาเครื่องแต่ละอย่างมาโรย ๆ แล้วก็ราดน้ำยำ หั่นเป็น 2 -3 ส่วนแล้วก็กิน แบบนี้ก็ได้ครับ กินกันได้หลายคน แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในกล้องก็คือ เอาทุกอย่างมาคลุกให้หมดครับ แล้วก็กิน อันนี้ก็แล้วแต่ Style ของแต่ละคน เมนูนี้ถ้าใครกินที่ร้านไม่พอใจว่าผักน้อยไป จะไปเอาผักกันกับขนมจีนก็ไม่ใครว่านะครับ เพราะว่าผักเติมไม่อั้น แต่ถ้าสั่งมาบ้านก็บอกเจ้าหน้าที่ว่าขอผักเพิ่มด้วยก็ได้

เมนูที่ 6 น้ำยาปู ใหญ่ ราคา 150 บาท

แต่มีให้เลือกเปบบเล็กด้วยนะ 90 บาท ถ้ากิน 1-2 คนผมว่าแบบเล็กก็พอ แต่ถ้า 3-4 คนสั่งใหญ่ไปเลย น้ำยาปูมาแบบเข้มข้น มากทั้งในตัวน้ำที่มีเนื้อปูผสมในนั้น และปูที่ให้แยกมาโรยเป็น topping   น้ำยารสหวานมัน เผ์ดเล็ก ๆ ไม่ได้เผ็ดโดดแบบน้ำยาภาคกลาง หรือน้ำยากะทิ 

วิธีการกินก็เหมือนขนมจีนทั่วไป นำน้ำยาปูมาราดกินพร้อมกับขนมจีน ซึ่งสามารถซื้อเพิ่ได้ในราคาชุดละ 20 บาท สำหรับน้ำยาปูนั้นผมไม่แน่ใจนักว่าเป็นของเหนือแท้ ๆ ไหม แต่ที่เคยกินจะเป็นทางใต้นิหน่า เอาเถอะภาคไหนก็ช่างแต่ก็อร่อยแล้วกัน

สำหรับขนมจีนนั้นของที่นี้ก็มีหมดเลยนะครับ ทั้งน้ำยาป่า แกงเขียวหวาน น้ำพริก น้ำเงี้ยว น้ำยาปลาชน ใครอยากกินหมดแนะนำน้ำยาหลายใจ 250 บาท เขาจะให้มาหมดเลย

ส่วนผักนั้นต้องการมากน้อยก็บอกเข้าได้ แต่ถ้าไปกินที่ร้านก็กินไม่อั่นครับ

เครื่องดื่ม

ส่วนเครื่องดื่ม สั่งมาเป็นอิตาเลี่ยนโซดา ซึ่งเครื่องดื่มจะเป็นจากร้าน SiamBhura แต่ก็ในเครือเดียวกันแหละ สำหรับ ราคาก็แก้วละ 80 บาท โดยทางร้านจะส่ง โซดามาให้แก้วละขวดเลย แล้วก็มีไซรับ แยกมาให้ พร้อมน้ำแข็ง จากการทดลองสั่งจากร้านแถวนวลจันทร์ มาดอนเมือง น้ำแข็งยังคงสภาพอยู่ ชะนั้นก็ไม่ต้องกังวลครับ ส่วนรสของเมนูนี้ก็ยังรู้สึกธรรมดาครับ แต่ว่าโซดาเหลือครับ และไซรับยังเข้มข้นอยู่ เวลาดูดใกล้หมดก็เติมโซดาเข้าไปเพิ่มได้ ก็เท่ากับว่า สั่ง 2 แก้ว แต่ได้กินราว ๆ 3 แก้วกว่า

ขนมหวาน

มาถึงของหวานกันบ้าง กินคาวก็ต้องกินหวานใช่ไหมครับ จะได้อ้วน เอ่ยไม่ใช่ สำหรับของหวานผมสั่งมา 2 อย่าง เพราะอีกคนไม่กิน กลัวอ้วน เมนูที่สั่งคือ

เปียกข้าวฝ่าง และ เปียกข้าวเหนียวดำ เมนูนี้ก็จะคล้าย ๆ กันจะมีกะทิข้น ๆ ราดหน้าแยกมาให้ด้วย สำหรับเปียกข้าวเหนียวดำ ก็กลมกล่อมกินง่าย แต่สำหรับผมคืออร่อยนะไม่หวานจนเกินไป

แต่ไม่ว๊าวเท่าสิ่งนี้ครับ เปียกข้าวฟ่าง ซึ่งหาทานในเมืองยากเย็น โดยทำมาจากผลผลิตของต้นข้าวฟ่าง รสจะเหมือนข้าวโพดหวานแต่มันย่อส่วนมาเม็ดกล็ก ๆ  เหมือนกินข้าวโพดหวาน ๆ แต่มันละลายในปากกลืนลงคอง่าย

เจ้าข้าวฟ่างนี้ไม่ใช่อร่อยอย่างเดียว แต่เมล็ดของมัน ช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร ลำไส้ กระเพาะอาหาร ทำงานได้ดี นั้นก็เหมาะแล้วที่จะมาเป็นเมนูปิดท้าย สำหรับความหวานของข้าวฟ่างก็ไม่ต้องห่วงเพราะ ข้าวฟ่างมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำและอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ แอบบอกว่าราคาข้าวฟ่างโลนึงแพงมากครับ

สำหรับราคา เปียกขา้วฟ่าง 50 บาท และเปียกข้าวเหนียวดำ 40 บาท ครับ 

จบแล้วครับสำหรับการรีวิว อาหารจากร้านขนมจีนต้นก้ามปู เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ชอบเมนูไหนกันบ้าง สำหรับผมรสถือว่าถูกปากนะครับ บางเมนูก็หากินได้ไม่ยากแต่หาคุณภาพแบบนี้ได้ยาก บางเมนูก็หากินยาก อย่างเปียกข้าวฟ่าง ผวกผมกินได้แบบไม่มีเหลือซาก เว้นที่เหลือก็คือผักครับ ผักให้มาเยอะมาก นึกว่าจะให้มาเปิดร้านขาย ขนาดว่าเอาไปกันกับกับข้าวอื่น ๆ ในวันอื่นแล้วก็ยังไม่หมด ฉะนั้น เวลาสั่งผักเพิ่ม บอกปริมาณเขาดี ๆ นะครับ ไม่อยากให้เอามาแล้วเหลือกัน ผักอันไหนเราไม่กินหรือไม่ชอบกินก็ไม่ต้องสั่งมาก็ได้ แต่ไม่ใช่ไม่กินผักเลยซักอย่างนะ ตีตายเลย 

สำหรับเมนูอื่น ๆ ก็ดูราคาได้ตามนี้ครับ 

ถ้าสนใจสั่งอาหารจากร้านหรือไปทานที่ร้านเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ Facebook
https://www.facebook.com/pg/tonkampunuanchan

ปล. ทางเพจมี gift Voucher ให้ได้ลองไปทานที่ร้านกันด้วยนะครับ ส่วนกติกาให้ติดตามทาง Facebook Page ครับ ที่ http://www.facebook.com/kintie... 

กินเที่ยว360

 วันพฤหัสที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.03 น.

ความคิดเห็น