สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท เลยนะคะเพราะ จขกท เพิ่งเรียนจบใหม่ๆไม่ค่อยได้ไปไหนก็เลยไม่ได้เขียนอะไรสักเท่าไหร่ แต่พอปีกกล้าขาแข็งหน่อยมีโอกาสได้ออกไปเปิดหูเปิดตาเองสักครั้งก็เลยเกิดแรงบัลดาลใจในการเขียนเล่าประสบการณ์ อิอิ สำหรับกระทู้นี้ก็ขอมารีวิวประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะครั้งแรกนะคะ  

 วันนี้จะมารีวิวทริปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ การเดินทาง ที่พัก อาหารการกิน ชีวิตบนเกาะ ทริปดำน้ำ โดยการเดินทางครั้งนี้เริ่มเดินทางจาก กรุงเทพฯ-หาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา(สตูล)-เกาะหลีเป๊ะ  จขกท ได้เดินทางไปพักบนเกาะ 5 วัน 4 คืน อิอิ  จะขอเล่าเป็นขั้นๆเนอะเกี่ยวกับการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ

- จขกท เริ่มเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไฟล์ท FD 3118 ถึงlสนามบินหาดใหญ่ประมาณ 11.50

.....ใช้เวลาในการนั่งเครื่องบินราวๆชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงสนามบินหาดใหญ่จ้าาา.....

-จากสนามบินหาดใหญ่ เราก็รอรถตู้รอบ 13.00 มารับ เรามีเวลาเหลือเล็กน้อยก็หาอะไรในสนามบินรองท้องสักหน่อยเพราะกว่าจะถึงเกาะหลีเป๊ะก็เกือบห้าโมง ขืนไม่กินอะไรมีใส้ขาดแน่ๆ (แนะนำให้จองรถ-เรือ ไว้ก่อนเลยนะคะเพราะเกิดไปหาเอาที่สนามบินเลยโดยส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างยุ่งและลำบาก และเรือข้ามไปเกาะก็มีเป็นรอบๆด้วย เพราะถ้าไปช้าก็อาจตกเรือได้นร้าาา จขกท แนะนำให้จองรถเรือไว้ล่วงหน้าเลยค่า ^^
....... กินเสร็จก็ไปหาที่นั่งรอรถ พอใกล้ถึงเวลารอบรถก็จะมีพี่เจ้าหน้าที่เขาโทรมานัดให้ออกไปยืนรอรถที่ประตูทางออกแล้วก็ออกเดินทางกันได้เล้ยยยยย

.......จากสนามบินหาดใหญ่มาถึงท่าเรือปากบาราใช้เวลาราวๆ 1.30-2 ชั่วโมง..... รถก็มาจอดหน้า Booking Center เป็นจุดจอดรถตู้และเป็นจุดรับตั๋วเรือ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้บัตรคิวขึ้นเรือ

พอถึงเวลาขึ้นเรือเจ้าหน้าที่จะเดินนำทางพาเราไปขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือ

ระหว่างทางก่อนเข้าประตูท่าเรือก็จะมีเจ้าหน้าที่รอเก็บค่าธรรมเนียมเข้าท่าเรือคนละ 20 บาท และค่าตั๋วอุทยาน 40 บาท

หลังจากนั้นก็เตรียมตัวขึ้นเรือไปเกาะหลีเป๊ะได้เลยจ้าาาา

*** ถ้าใครอยากแวะเกาะไข่ และเกาะตะรุเตา ควรเลือกไฟล์ทบินที่ถึงหาดใหญ่ก่อนเก้าโมงเช้านะคะเพราะวันนั้น จขกท มาไฟล์ทหลังเก้าโมงเลยไม่ทันเรือรอบที่แวะเกาะเลยต้องอดเลยยยยย TT ***

*** ใช้เวลานั่งเรือไปเกาะราวๆ 1.30 ชั่วโมงนะคะ **** มองไปรอบๆละต้องพูดกับตัวเองเลยว่า ติดเกาะจริงๆมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะรอบตัวมีแต่น้ำทะเล ภูเขา กว้างไปสุดลูกหูลูกตา ... แต่ถามว่าชอบไหมก็ชอบนะ 555555 มีความสุขที่เห็นน้ำทะเล ได้กลิ่นทะเล มันผ่อนคลายแบบบอกไม่ถูกอ่ะ

เรือที่ จขกท นั่งมาจะจอดที่โป๊ะนะคะ ดังนั้นเราต้องจ่ายตังค์เอง 50 บาทเพื่อซื้อตั๋วเรือหางยาวเข้าหาด วันนั้นได้เพื่อนร่วมเดินทางที่เป็นคนจีนอีก 6 คน เฟรนลี่และนิสัยดีมาก พวกนางน่ารักมากมากันเป็นคู่เลย

นั่งเรือหางยาวประมาณ 5 นาทีก็ถึงหาดแล้วววว พอถึงหาดจะมีซุ้มแท็กซี่ซึ่งสามารถโบกจากตรงนั้นไปรีสอร์ทที่เราพักได้ ค่าโดยสารคนละ 50 บาท ( แท็กซี่บนเกาะเป็นมอเตอไซค์พ่วงนะจ๊ะ ) แต่ จขกท เดินค่ะ เดิน เดิน เดิน รีสอร์ทที่จองอยู่ฝั่งหาดซันไรส์นะคะ ตอนไปใกล้จะหน้าโลวแล้วค่ะโป๊ะย้ายมาอยู่ฝั่งหาดซันไรส์ แท่นแท้นนนนนนนน..... ถึงรีสอร์ทแล้วนะคะ  .... Salisa resort เป็นรีสอร์ทเล็กๆน่ารักๆติดหาด บรรยากาศอบอุ่นค่ะ ราคาโอเครเลยค่ะ

ถ้าเทียบกับรีสอร์ทติดหาดรีสอร์ทอื่นๆ บรรยากาศดีงามพระรามแปด

ตอนเย็นนนๆเวลาหิว...จะรอไรล่ะ ก็ออกไปถนนคนเดินสิ... อิอิ ไปหาอะไรกินนนนนนนนนนนนนน

...เดินออกทางด้านหลังรีสอร์ทประมาน 4 นาทีก็ถึงถนนคนเดินแล้วค่ะ บรรยากาศระหว่างทางเดินก็จะประมาณนี้

วันแรกเริ่มต้นด้วยร้านดงทะเล เนื่องจากไม่รู้จะกินอะไรและเดินไปดูโชว์ไฟจนเหนื่อย จุดจบคือดงทะเล สั่งอาหารมากินกันสองคนมื้อนี้หมดไปราวๆ 700 บาท แต่รสชาติก็โอเคเลยค่ะ และคลายร้อนด้วยเบียร์เย็นๆกันคนละขวด

เช้าวันต่อมาตื่นมาบิดขี้เกียจแล้วส่งออกมาทางหน้าต่างห้อง อากาศเย็นฉ่ำจากแอร์ในห้อง

ออกมาเดินเล่นกันเถอะ

เดินเท้าเปล่าบนทรายนุ่มๆบนหาด พร้อมฟังเสียงคลื่นซัด

........อันนี้จะเป็นหาดพัทยา หาดสวยมาก ทรายขาวละเอียดดดด........

เวลาบ่ายๆแก่ๆก็ชวนเพื่อนออกไปพายคายัคหน้าหาดซันไรส์ได้ วันนั้นไปเช่าคายัคของรีสอร์ท 2 ชั่วโมง 300 ไปพายกับเพื่อน สนุกมากกๆๆ พายไม่ยากแต่แรกๆก็พายวนไปวนมานิสสสนึง 555555
...... หน้าหาดสามารถนำสน็อกเกิ้ลไปดำดูปะการังรอบๆเกาะกระได้นะคะ น้ำใสสุดๆไปเลย แต่วันนั้นว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกแต่เมฆมันเยอะเลยไม่เห็น

...ตกเย็น...ด้วยความเหนื่อยไปจัดบุฟเฟ่ต์กันสักหน่อย...

Progress Buffet

อาหารสดดีมีปลาให้เลือกเยอะ มีบริการปิ้งให้ด้วย รอไม่นาน ก็มี พนง เสริฟถึงที่ น้ำจิ้มอร่อยเลยทีเดียว แต่เสริฟทีละนิด ไม่ค่อยสะใจ 55555

คนละ 490 ไม่รวมน้ำ ค่าเสียหายวันนั้นพันนิดแต่ก็โอเครสำหรับอาหารบนเกาะ

วันต่อมาก็ออกไปเดินเล่นเลียบชายหาด ตรงนี้หาดสวยมาก น่าจะอยู่ฝั่งเดี่ยวกับหาดซันไรส์เพราะมีอันดามันรีสอร์ทที่วิวดีมาก น้ำสวย หาดทรายขาวและยาวมากก เหมาะสำหรับทำพิธีแต่งงานมาก บรรยากาศโรแมนติกเว่อร์ๆ นึกว่าอยู่มัลดีฟทีเดียว

เดินถัดมาอีกนิดก้จะเจอเมาเท่นรีสอร์ทตั้งอยู่บนเขา หาดตรงนั้นเงียบ น้ำสวย เห็นเกาะอาดังใหญ่ๆอยู่ด้านหน้าค่ะ

เสียดายช่วงที่ไปเมฆเยอะ ฟ้าไม่ค่อยเปิด เลยถ่ายรูปออกมาไม่สวย แต่ก็ประทับใจนะคะ เพราะน้ำมันสวยจริงๆค่ะ

ตกเย็นมาเดินเล่นหน้ารีสอร์ท ฟ้าใกล้ตอนพลบค่ำสวยมากค่ะ เป็นสีชมพู สวยสุดๆ

ค่ำคืนนี้ไปเดินเล่นในถนนคนเดินพร้อมนั่งชิล บาร์เล็กๆชิคๆชื่อ corner bar เจ้าของร้านน่ารัก เป็นกันเอง ราคาไม่เเพงด้วยยย

วันที่สามพร้อมแล้วสำหรับทริปดำน้ำ อันนี้ซื้อทริปไว้ตอนซื้อตั๋วรถเรือ จองเป็นทริปรอบนอกไว้คนละ 650 เย้ยยๆๆๆๆ ตื่นเต้นเพราะเป็นการดำน้ำครั้งแรกเลยอ่ะ ได้เพื่อนร่วมทริปเป็นคนจีนมาเป็นครอบครัวเลย มีอาตี๋ตัวน้อยๆสองสามขวบติดเรือไปด้วยยน่ารักน่าชัง นิสัยดี ไม่กระจองอแงเลยยย

ภาพระหว่างการออกทริปไปดำน้ำนะคะ 

ถึงจุดแรกเลยคือเกาะหินซ้อน แต่ตรงนี้ไม่ได้ดำนะคะแค่เป็นจุดถ่ายรูปค่ะเพราะน้ำค่อนข้างเชี่ยวเลยค่ะ 

จุดที่เรามาจอดดำกันคือเกาะไผ่ น้ำใสเขียวมรกต ปะการังเป็นดงเลยยย

จุดต่อมาเป็นเกาะดง ปะการังที่เจอพี่คนเรือบอกเป็นปะการังไฟ มันเป็นก้อนๆแท่งๆ เยอะมาก น้ำใส ทรายขาวอย่าบอกใครเลยทีเดียว

จุดต่อมาเป็นเกาะลิง ก็สมชื่อว่าเกาะลิง ลิงเยอะมาก ซนมาก ชอบแย่งอาหารนักท่องเที่ยว ดังนั้นต้องระวังนะคะ

จุดนี้เป็นจุดสุดท้าย พอขากลับดันเจอแจ๊คพ็อต เจอฝนกลางทะเล ใจหายใจคว่ำ นั่งภาวนาสวดมนต์กันทั้งลำ 55555 แต่ก็กลับมาถึงเกาะอย่างปลอดภัยค่ะ

.

.

ถึงเกาะแล้วการผจญภัยของเรายังไม่จบแค่นี้คร่าาา 5555555 

วันสุดท้ายก่อนออกจากเกาะทั้งที ด้วยความที่เจ้าหน้าที่บอกว่าหน้ารีสอร์ทนีโม่เยอะเลยลงไปดูกับเพื่อนสักหน่อยยหน่อยละ


ชูชีพตัวนึงกับสน็อกเกิ้ลแล้ววิ่งลงน้ำเลยย ผลที่ได้คือ พระอาทิตย์ตก มองไม่เห็นนีโม่เห็นแค่ดอกไม้ทะเล แล้วน้ำก็ขึ้นสูงมากกก แต่มีคนบอกว่าเวลาน้ำลดเท่าเข่าก็เห็นนีโม่แล้วอ่ะ เสียดายยย อยากกรี๊ดดดด

ตกเย็นฝากท้องกันที่ถนนคนเดินตามเคยย วันนี้ขอเปลี่ยนเมนูความอร่อยหน่อยยค่ะ

โรตีเจ้าเด็ดในถนนคนเดินที่การันตีความอร่อยโดยรูปที่จ้วงกินจนหมดจานแล้ววว 55555555

เช้าวันที่ 5 ออกจากเกาะด้วยเรือรอบแรก งื้ออ ยังไม่อยากกลับเลยยง่าา แต่ก้ต้องกลับแล้วสินินะ กลับก็ได้...

ก็มาซื้อตั๋วเรือหางยาวคนละ 50 บาท เพื่อไปที่โป๊ะ

ขากลับใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินหาดใหญ่พร้อมกลับกรุงเทพฯแล้วสิน้ะ หวังว่าจะได้เจออกันอีกนะหลีเป๊ะ

ไฟล์ทบินรอบทุ่มนึง นั่งรอนั่งหลับวนไป

ก่อนจบ จขกทขอฝากประโยคดีดีไว้สักอัน

สำหรับทริปนี้ขอขอบคุณเพื่อนเลิฟที่ไปผจญภัยด้วย แม้บางที่มันอาจท้าทายหน่อย แต่สุดท้ายวันนึงในอนาคตมันก็จะเป็นความทรงจำ ความสนุกสนานที่เราสามารถนำไปเล่าให้คนอื่นฟังได้ และขอบคุณผู้คนบนเกาะที่คอยช่วยเหลือแนะนำตลอดทริปจนทำให้มันน่าจดจำ

**** อยากกลับไปเที่ยวทุกครั้งเลยที่มีโอกาส*****

พัชรินทรา อ่อนอาจ

 วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 22.15 น.

ความคิดเห็น