คุ้มแบบนี้ มีที่นี่ที่เดียว ที่ Chatrium Hotel Riverside Bangkok

ถึงแม้ว่า COVID-19 จะฝากแผลลึกไว้กับโลกเราหลายแผล ไม่ใช่แค่จำนวนยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่พุ่งทะลุ 10 ล้านคน ไปแล้ว และดูทีท่าว่าจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตก็ขยับตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกก็หยุดชะงักเช่นกัน ร้านรวงต่างพากันปิดตัว ส่งผลให้พนักงาน ลูกจ้างตกงานกันเป็นแถวๆ แต่ในความโหดร้ายของ COVID-19 ก็ยังมีมุมสวยงามเล็กๆ อยู่เหมือนกัน ผู้คนต้องอยู่กับบ้าน ไม่สามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้เหมือนปกติ ทำให้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกกว่าราคาน้ำอัดลม รวมถึงธรรมชาติได้พักฟื้นตัว เพราะไม่มีมนุษย์ไปรบกวน ทำให้สัตว์ป่าที่เคยหลบซ่อนจากสายตามนุษย์ กลับได้ออกมาหากินตามธรรมชาติ อวดโฉมให้เราได้เห็นกันอีกครั้ง

ภายหลังที่รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว และคลายล๊อกเฟส 4 แล้ว ธุรกิจต่างๆ ก็เริ่มทยอยกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร รวมถึงโรงแรม รีสอร์ท แต่ละที่ต่างก็งัดโปรโมชั่นเด็ดๆ มาแข่งขัน เพื่อจะดึงลูกค้าให้มาใช้บริการ บ้างก็ออกแพคเกจหรูหราในราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึง บ้างก็หั่นราคาห้องพักลงกว่าครึ่ง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีของ COVID-19 ที่มีให้กับผู้บริโภค ให้ได้เลือกช้อปเลือกใช้ของดีราคาถูก แถมยังถือเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ต่ออายุพนักงานร้านค้า ร้านอาหารและโรงแรมอีกด้วย

Chatrium Hotel Riverside Bangkok ก็เช่นกัน มีการออกโปรโมชั่นเด็ดๆ ให้กับลูกค้าได้เลือกช้อปเลือกใช้กันตามความต้องการ มีหลายประเภทมากๆ รายละเอียดตามลิงค์นี้เลยครับ

https://shop.bookin1.com/property/rbcvth/vouchers/list?cat=all

เรามาดูกันครับว่า Cash Voucher แบบ 3,000 บาท สามารถใช้อะไรได้บ้างใน Chatrium Hotel Riverside Bangkok

ในส่วนของผู้บริโภคอย่างเรา ก็คงต้องวางแผนใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดใช่ไหมครับ หลังจากที่เลือก Cash Voucher 3,000 บาท ซึ่งมีมูลค่าใช้แทนเงินสดได้ถึง 4,500 บาท ผมจึงใช้มูลค่าในส่วนนี้ใช้สิทธิ์เลือกซื้อ Package แบบ Stay Or Dine For Free อีกต่อหนึ่ง ซึ่งสิทธิประโยชน์ของ Stay Or Dine For Free นั้น คือการเลือกจองห้องพักแบบ Grand Room City View 1 คืน ในราคา 3,600 บาท เราจะได้สิทธิ์เลือกรับฟรี 2 กรณี คือ

เลือกรับห้องแบบ Grand Room City View อีก 1 คืน สรุปคือ ได้ที่พัก รวมอาหารเช้า 2 คืน หรือ
เลือกรับอาหารและเครื่องดื่ม ในราคาเท่ากับค่าห้อง แต่กรณีนี้ ห้องพักจะไม่รวมอาหารเช้านะครับ สรุปคือ ได้ห้องพัก 1 คืน (ไม่รวมอาหารเช้า) และจะได้รับอาหารและเครื่องดื่มที่มีมูลค่า 3,600 บาท ครับ

ถ้าหากใครอยากจะได้ห้องพักแบบ River View สามารถ Upgrade ได้ โดยใช้มูลค่าของ Voucher จ่ายเพิ่มอีก 600 บาท (แต่ 600 บาทนี้ ไม่สามารถนำมาบวกเพิ่มในค่าอาหาร 3,600 บาทได้) อันนี้ผมแนะนำให้ Upgrade นะครับ เพราะไฮไลท์ของการเข้าพักที่ Chatrium Hotel Riverside Bangkok คือการชมวิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงพระอาทิตย์ตก และ นอนชมดาวบนดินอยู่บนเตียงนอนนี่แหล่ะครับ

สำหรับเครดิตเงินส่วนที่เหลือ อาจนำไปใช้จ่ายที่ Lobby Lounge หรือ Pool Bar ก็ได้ครับ

เดี๋ยวในตอนท้ายรีวิว ผมจะมาสรุปให้ดูกันอีกที ว่าผมใช้จ่ายอะไรยังไรบ้าง

มาดูในแต่ละส่วนกับสิ่งที่ผมเลือกใช้กันครับ

ในส่วนแรกคือการซื้อ Package แบบ Stay Or Dine For Free กับการเลือกห้องพักแบบ Grand Room City View ในราคา 3,600 บาท และ upgrade ห้องเป็น River View อีก 600 บาทครับ

ห้องพักขนาด 60 ตารางเมตร ถือว่ากว้างขวางเลยทีเดียว โดยภายในห้องจะแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน พื้นที่ในส่วนของห้องนอน จะมีเตียงนอนขนาด King size ที่นอน และหมอน นุ่มสบาย มีมุมโซฟาให้นั่ง/นอนเอกเขนก ชมสมาร์ททีวี LED ขนาดใหญ่ พร้อมมุมให้นั่งทำงาน และมุมทานอาหาร มี Welcome Fruit ไว้คอยต้อนรับด้วย นอกจากนั้นยังมีระเบียงให้ออกไปยืนชมวิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ

จากพื้นที่ห้องนอน เมื่อหันหลังกลับ พื้นที่ส่วนขวามือ จะเป็นห้องน้ำ ส่วนซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้า และพื้นที่จัดเตรียมอาหารครับ

มาดูในส่วนของห้องน้ำกันก่อน พื้นที่ในห้องถือว่ากว้างขวางดีครับ ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งอย่างชัดเจน มีทั้งอ่างอาบน้ำ มีทั้งตู้อาบน้ำแบบ Shower ด้านข้างของอ่างอาบน้ำจะเป็นโถสุขภัณฑ์ ที่นี่ไม่มีสายฉีดชำระให้ครับ

สำหรับฝั่งตรงข้ามห้องน้ำ จะเป็นตู้เสื้อผ้า และส่วนของพื้นที่จัดเตรียมอาหาร ในตู้เสื้อผ้า มีชุดสำหรับใส่คลุมอาบน้ำ รองเท้าผ้าสำหรับใส่เดินในห้อง ตู้นิรภัย เตารีดพร้อมที่รองรีด ด้านข้างตู้เสื้อผ้าจะเป็นตู้เย็นพร้อมมินิบาร์ครับ

ในส่วนของพื้นที่จัดเตรียมอาหาร ทางโรงแรมได้จัดเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไว้ให้หลายอย่าง มีทั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ไมโครเวฟ กาน้ำร้อน จาน ช้อน ครบครันครับ

มาพักที่นี่ ยอมเลือกพักแบบ River View เถอะครับ บรรยากาศนี่สุดยอดจริงๆ มองเห็นคุ้งน้ำเจ้าพระยา เห็น ASIATIQUE The Riverfront เห็น ICONSIAM ด้วยครับ

ในช่วงบ่ายๆ ห้องพักในส่วน River View จะโดนแดดเต็มๆ แต่ถ้าแลกกับการได้ชมพระอาทิตย์ตกริมระเบียงห้องพักส่วนตัว ยังไงก็ยอมครับ

ช่วงเย็นๆ มี Turndown Service ครับ

แต่ละช่วงเวลา ให้อารมณ์ต่างกันจริงๆ ครับ

ช่วงนี้สว่างเร็วครับ ตั้งนาฬิกาปลุก 05.30 น. เพื่อจะมาชมแสงเช้าที่ระเบียงห้อง ปรากฏว่า ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว แต่ก็ยังโชคดีได้เห็นฟ้าออกโทนสีชมพู ถ่ายรูปเสร็จก็กลับไปนอนตามเดิม

ในส่วนที่สองที่ผมเลือกรับจาก Stay Or Dine For Free คืออาหารและเครื่องดื่ม ที่มีมูลค่าเท่ากับมูลค่าของห้องพัก โดยผมเลือกใช้บริการมื้อค่ำที่ห้องอาหาร River Barge ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับ Lobby ครับ

เสียดายที่ช่วงนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ทางโรงแรมเลยยังไม่เปิดให้บริการห้องอาหาร Silver Waves ที่อยู่บนชั้น 36 ครับ

มื้อค่ำนี้ผมเลือกสั่งอาหารแบบ Western Set Dinner โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือ 3-course ในราคา 750 บาท และแบบ 4-course ในราคา 1,000 บาทครับ ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มนะครับ แต่หากใครไม่อยากสั่งเป็น Set สามารถสั่งแบบ a la carte ได้ครับ เครื่องดื่ม ขอเลือก Sprite ครับ

Appetizer มีให้เลือก 2 เมนู คือ Chatrium Chef Salad และ Pumpkin & Rocket,Feta Cheese Salad ครับ

Soup ก็มี 2 เมนูให้เลือกเช่นเดียวกัน มี Seafood Soup และ Green Pea & Coconut Milk Soup ครับ

Main course เป็น Pan Seared Salmon และ Roasted Chicken Supreme ครับ

ปิดท้ายด้วยของหวานแบบ Passion Fruit Cheese Cake และ Vanilla Panna Cotta ครับ

หากใครไม่ถนัดอาหารแนว Western สามารถมาใช้บริการมื้อกลางวัน ในแบบติ่มซำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาหารที่ขึ้นชื่อของ Chatrium Hotel Riverside Bangkok ครับ

ในส่วนที่สาม จะเป็นอาหารเช้า ใครที่เลือกตัวเลือก ฟรีอาหารและเครื่องดื่มเท่ามูลค่าห้องพัก การเข้าพักจะไม่รวมอาหารเช้า แต่เราสามารถนำเครดิตที่เหลือจากอาหารมื้อค่ำ มาใช้ในส่วนอาหารเช้าได้ สำหรับราคาอาหารเช้า อยู่ที่คนละ 650 บาทครับ

อาหารเช้าให้บริการตั้งแต่ 06.00-10.30 น. ที่ River Barge

พื้นที่ให้บริการของ River Barge มีแบบ Indoor และ Outdoor ครับ ใครที่อยากนั่งตากแอร์เย็นๆ ก็เลือกแบบ Indoor หรือใครอึดอัด อยากรับลมธรรมชาติ สามารถใช้บริการ Outdoor ได้ครับ

ไลน์บุฟเฟต์เป็นแบบ International Buffet ครับ

ในยุค COVID-19 แบบนี้ ทางโรงแรมมีมาตรการให้พนักงานและลูกค้าที่มาใช้บริการในห้องอาหาร River Barge ต้องสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือทุกครั้ง เมื่อเดินมาตักอาหารในไลน์ Buffet ครับ โดยจะมีพนักงานคอยเดินแจกถุงมือให้ และเมื่อแขกใช้บริการเสร็จแล้ว ก็จะมีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดโต๊ะก่อนที่จะรับลูกค้าคนต่อไปครับ

เครดิตเงินที่เหลือจากการใช้ Voucher สามารถนำมาใช้บริการที่ Pool Bar ได้อีกนะครับ

สระว่ายน้ำจะอยู่บนชั้น 6 เป็นสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ขนาด 35 เมตร ทอดตัวยาวสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และที่พิเศษไปกว่านั้นคือมีอ่างจากุซชี่กลางแจ้งที่ตั้งอยู่ริมสระใหญ่ รวมถึงมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กด้วย นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้ไว้ให้นอนอาบแดดอีกด้วย

ด้านในสุดของสระว่ายน้ำเป็นที่ตั้งของ Pool Bar

ใครใคร่ว่ายน้ำ ก็ว่ายน้ำกันไป ใครใคร่นอนอาบแดดก็อาบกันไป สำหรับผมขอนั่งชิลล์ชมวิวสระว่ายน้ำ ที่มองออกไปเห็นป่าตึก พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ และอาหารว่างไป มีความสุขไปอีกแบบครับ

Chatrium Hotel Riverside Bangkok เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ได้รับการการันตีความเป็นที่สุดจากเวปไซต์ต่างๆ มากมายอย่าง TripAdvisor, Hotel.com, HolidayCheck ฯลฯ เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีทิวทัศน์ที่งดงามไม่เหมือนใครครับ

บริเวณลอบบี้กว้างขวางเลยทีเดียว มีมุมให้แขกได้นั่งพักผ่อนระหว่างรอการ Check in/Check out ด้วย ระหว่างเช็คอิน พนักงานจะแนะนำรายละเอียดต่างๆ ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม การใช้งาน Free wifi วิธีการขึ้นลงลิฟต์ รวมถึงมอบ Welcome Drink Voucher ให้เราได้ดื่ม Welcome Drink เวลาไหนก็ได้ตลอดการเข้าพักครับ

ก่อนสถานการณ์ COVID-19 เราสามารถใช้บริการ Welcome Drink ได้ 3 จุด จุดแรกคือที่ Lobby Lounge จุดที่สองคือที่ Pool Bar ซึ่งอยู่บนชั้น 6 และจุดที่สามคือที่ Silver Waves ซึ่งอยู่บนชั้นที่ 36 แต่ปัจจุบันเปิดให้บริการเพียงจุดเดียว คือ Lobby Lounge สามารถนำมาใช้ได้ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ครับ

Welcome Drink จะมีให้เราเลือก 3 ประเภท คือ Soft Drink (โค้ก/สไปรต์), น้ำผลไม้ (น้ำส้ม/น้ำสับปะรด/น้ำมะนาว) และ Punch ซึ่งจะเป็น Mocktail ที่มีส่วนผสมของ น้ำฝรั่ง น้ำสับปะรด ครับ

Fitness Center อยู่บนชั้น 4 ภายใน Fitness นอกจากจะมีเครื่องออกกำลังกายที่หลากหลายแล้ว ยังมีบริการห้องซาวน่าที่แยกห้องชายหญิงอีกด้วยครับ

สำหรับการเดินทางมายัง Chatrium Hotel Riverside Bangkok หากใครเดินทางโดยรถส่วนตัวมาเอง ทางโรงแรมมีที่จอดรถให้พร้อม สำหรับใครไม่ได้นำรถมาเอง อาจจะนั่ง Taxi หรือจะนั่ง BTS มาลงที่สถานีสะพานตากสินก็ได้นะครับ จากนั้นจะมี Shuttle Van Service ที่ออกตามเวลา คอยรับส่ง (เดิมจะมี Shuttle Boat ให้บริการทุกๆ 15-30 นาที แต่เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 จึงงดให้บริการ)

มาลองสรุปมูลค่าการใช้ Voucher ในครั้งนี้กันดู ว่าผมใช้คุ้มค่ามากขนาดไหนครับ

Voucher: Cash voucher of THB 3,000 (ได้มูลค่า 4,500 บาท )

ใช้ Cash voucher ซื้อ Package Stay Or Dine For Free เลือกฟรีค่าอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่า 3,600 บาท

Room : Grand Room River View (Upgrade ห้องพักเป็น River View มูลค่า 600 บาท)

รายละเอียดการใช้จ่าย

Western Set Dinner 4-course @1,000 บาท/คน

Breakfast @650 บาท/คน

รวม (1,000+650) x 2 คน = 3,300 บาท

คงเหลือ 4,500 – 600 - 3,300 = 600 บาท (Soft drink + Drinks & Snack ที่ Pool Bar)

เราลองมาตีมูลค่าที่เราได้รับ หลังจากการซื้อ Voucher 3,000 บาท กันดูเล่นๆ ครับ (ในกรณีเข้าพัก 2 ท่าน จ่ายท่านละ 1,500 บาท) แต่สิ่งที่เราจะได้รับ นั่นคือ ค่าห้องพัก 3,600 บาท + upgrade ห้อง 600 บาท + อาหารค่ำ 2,000 บาท + อาหารเช้า 1,300 บาท + Soft Drink 600 บาท รวมมูลค่าที่ได้รับทั้งสิ้น 8,100 บาท เลยทีเดียว

คุ้มกว่านี้มีอีกมั๊ย!!!