จุดหมายการเดินทางของเราในครั้งนี้ คือ Barrenjoey Lighthouse แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและถือว่าเป็น Iconic ของซิดนีย์ที่เหล่านักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดกับความอลังการของวิวที่มองได้แบบ 360 องศา

เรานั่งรถสาย L90 จาก wynyard station ใช้เวลาในการการเดินทางประมาณ 1.30 ชม. เพราะ Barrenjoey Lighthouse อยู่ในพื้นที่ North Sydney ห่างจากตัวเมือง 45 ก.ม.

เราลงที่ป้าย Palm beach เพื่อเดินรับลมชมวิวทะเลฟังเสียงคลื่นที่นั่นก่อน ส่วนใครที่ไม่อยากเดินไกลมากสามารถลงได้ที่ Governor Phillip carpark ทางขึ้น Barrenjoey Lighthouse จะอยู่ฝั่ง Bronken Bay

จากนั้นเดินเลาะเรียบชายหาดไปเรื่อย ๆ จะเห็น Governor Phillip carpark แล้วเดินผ่านที่จอดรถเข้าไปจะเป็นอีกฝั่งทะเล เดินเรียบเลาะชายฝั่ง broken bay ไปจะเห็นทางเข้าอยู่ทางขวามือ

สิ่งที่ควรเตรียมในการเดินขึ้นเขา คือ น้ำ อาหาร ขนม หมวก ครีมกันแดด เพราะข้างบนไม่มีร้านอาหารมีแต่ห้องน้ำเล็ก ๆ สองห้องเท่านั้น

สำหรับทางขึ้นมีให้เราเลือกสองแบบ คือ แบบทางเดินขึ้น Barrenjoey Lighthouse ทางเดินปูนเรียบ gentle trail เดินขึ้นสบาย ๆ แต่ค่อนข้างชันใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที และทางเดินแบบ smugglers trail ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งท้าทายหัวเข่ามาก ๆ เพราะทางเดินเป็นแบบบันไดหินธรรมชาติและชัน แต่ทั้งสองทางจะได้เห็นวิวสวย ๆ ไม่แพ้กันอย่างแน่นอน

ต้องบอกก่อนว่า การเดินขึ้นไปที่ Lighthouse แห่งนี้ ต้องใช้ความแข็งแรง เพราะเป็นแบบ bush walk ที่ต้องเดินขึ้นเขาที่ค่อนข้างชัน เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการหัดเดินป่าแบบเบาๆ

ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม มักมาพร้อมกับอุปสรรคที่เราต้องฟันฝ่าถึงจะได้เห็นถึงความงดงามที่รออยู่ข้างหน้า เช่นเดียวกับทางที่เราเดิน เป็นแบบบันไดหินธรรมชาติและชัน มันท้าทายหัวเข่ามาก ๆ แต่ความสวยงามก็ปรากฎให้เห็นตลอดทาง

เมื่อเดินมาถึงข้างบนเราจะเห็น Barrenjoey Lighthouse ประภาคารที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของซิดนีย์ มีอายุถึง 139 ปีสร้างจากหินทราย ถือเป็นมรดกเก่าแก่ล้ำค่าของซิดนีย์ พร้อมกับวิวแบบ 360 องศาที่มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตาและที่นี่ยังมีจุดชมปลาโลมาด้วยค่ะ

สำหรับการเข้าชมที่นี่ฟรี แต่หากเข้าไปชมภายใน Lighthouse จะเสียค่าใช้จ่าย $5 และ $2 สำหรับเด็กและต้องมาวันอาทิตย์เท่านั้น เพราะจะมี guide tour พาเดินชมภายใน

เราออกไปเดินเล่นสำรวจบริเวณโดยรอบไลท์เฮ้าส์อีกเล็กน้อยระหว่างรอถ่ายทางช้างเผือก เพราะที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายรูปดาว ทางช้างเผือก หรือ milky way ด้วยในคืนที่ฟ้าโปร่งใส ไร้พระจันทร์สามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่าเลย แล้วเหมือนเราอยู่ใกล้กับมันมาก แต่เราต้องเช็คช่วงเวลาการขึ้นของดาวด้วยเพราะไม่ได้มองเห็นได้ทุกวัน

การเดินทางสู่โลกกว้าง มันคือมนต์เสน่ห์ที่สวยงาม ทำให้เราได้เรียนรู้ มีมุมมองใหม่ ๆ ไปกับสถานที่นั้นอย่างแท้จริง แล้วการเดินทางของคุณล่ะเป็นแบบไหน

ฝากกด subscribe ในยูทูปตรงนี้เลยจ้า

ฝากติดตามเพจ https://www.facebook.com/jcAusLife/

#Guไปเรื่อย

#ชีวิตจับฉ่าย

#ทอล์คกะเธอ

Guไปเรื่อย

 วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.37 น.

ความคิดเห็น