Royal Riverkwaii Resort and Spa กาญจนบุรี

ที่พัก กาญจนบุรี ที่จะทำให้การพักผ่อนนั้นสุขสบายมากกว่าที่ผ่านมา ด้วยบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีทั่วทั้งพื้นที่ ที่สำคัญคือ ติดแม่น้ำแควใหญ่อันเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดกาญจนบุรี นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสปาเพื่อการผ่อนคลายโดยแท้จริง ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือ Royal Riverkwaii Resort and Spa

เริ่มจาก ขับรถมาถึงรีสอร์ตและเข้าเช็คอินหน้าฟร้อน มีที่นั่งจำนวนค่อนข้างมาก รวมไปถึงตู้จำหน่ายของที่ระลึกสวยๆงามๆอีกมากมาย

และมี Welcome Drink อร่อย เย็นชื่นใจ เสิร์ฟให้ระหว่างรอ

ไม่นานนัก พนักงานจะพาไปยังห้องพักที่จองเอาไว้ สำหรับครั้งนี้พักในห้อง ประเภทดีลักซ์ ห้องกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆพร้อมให้ใช้งานครบครัน

ภายในห้องพัก เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ คลุมโทนสีให้เข้ากับธรรมชาติ และตกแต่งด้วยสีสันเล็กน้อย

ทีวี ตู้เย็น มินิบาร์ ไดร์เป่าผม โต๊ะ กระจก ล้วนมีพร้อมให้ไว้ในห้องแล้ว

เตียงคู่ สำหรับ 2 คน เพื่อให้การนอนหลับพักผ่อนเป็นไปอย่างสบายที่สุด จะขยับตัวอย่างไรก็ไม่สะเทือนถึงกัน

ถัดมาคือระเบียงที่ยื่นออกไป สามารถเปิดออกไปนังเล่น หรือชมวิวสวนได้ตลอดเวลา

ตู้เสื้อผ้าไม้ลายกนกลั่นดาลที่ซ่อนของใช้เอาไว้ให้ ทั้งตู้เซฟ ร่ม ไม้แขวน เสื้อคลุม ผ้าเช็ดตัวที่เอาไว้นำลงไปใช้บริเวณสระว่ายน้ำได้ และรองเท้าสำหรับใส่ในห้อง

มีรองเท้าแตะสีสันสดใสไว้ให้สำหรับใส่ออกไปเดินเล่นข้างล่างด้วย

หันมาอีกทางเป็นห้องน้ำ สีขาวสะอาดตา ใส่ลูกเล่นด้วยสีดำและกรอบกระจกเงาสีน้ำตาล ของใช้สำหรับใช้อาบน้ำ+สระผม+แปรงฟัน มีให้ครบ

ก่อนจะเอนหลัง มีโอกาสได้เข้าไปดูห้องอีกประเภทที่อยู่ติดกัน คือ ห้องจูเนียร์สวีท ซึ่งห้องพักประเภทนี้จะอยู่ตรงมุมของอาคารแต่ละชั้น ดังนั้นจะมีระเบียง 2 ด้าน ที่สามารถออกไปนั่งเล่นนอกห้องได้

ห้องมีขนาดกว้างขวางมาก โดยแบ่งพื้นที่ใช้สอยเอาไว้ชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบกับโซนโต๊ะกระจกขนาดใหญ่ทางด้านซ้าย ตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำอยู่ทางขวา

เข้าไปด้านในจะเป็นเตียงนอนขนาดคิงไซส์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และจัดวางไว้อย่างที่ดูดีมาก

และห้องน้ำอันโอ่อ่า มีอ่างอาบน้ำ และห้องอาบน้ำในตัว กว้างขวางมากๆ

กลับเข้ามายังห้องพักของตัวเองได้สักพัก มีเจ้าหน้าที่มาเคาะประตู เมื่อเปิดประตูออกไปก็ได้พบกับ Welcome Fruit เป็นผลไม้ตามฤดูกาลที่จะยกมาเสิร์ฟกันถึงห้องแบบนี้เลย

เอนหลังพักผ่อนในห้องกันได้สักพักหนึ่ง ก็ลงไปเดินเล่น ชมนกชมไม้ด้านล้าง สูดรับอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด เพราะเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่รายล้อม ดอกไม้ใบหญ้าสีสันสวยงามก็มีอยู่มากมายให้ได้ชื่นชมตลอดทางเดินเล่น

จากนั้นเดินไปยัง รันตี สปา เพื่อเพิ่มการผ่อนคลายด้วยการนวดเท้า และนวดไทย

เริ่มจาก นวดเท้า ในห้องนี้ค่ะ บรรยากาศปลอดโปร่ง ดูสบายๆ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำแควและต้นไม้ต้นหญ้าได้ด้วย

แต่ละคอร์สจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง ถ้าหากมีเวลาไม่มากสามารถรีเควสครึ่งคอร์สหรือครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ

แต่บอกเลยว่าความละมุนมือของพี่ๆคนนวดนั้น ทำให้เคลิ้มหลับ พอตื่นขึ้นมาอีกที อ้าว..จบคอร์สแล้วเหรอคะ? ครึ่งชั่วโมงไม่พอจริงๆนะ

ถัดมาที่ ห้องนวดไทย เป็นอีกห้องที่มองเห็นวิวธรรมชาติผ่านกระจกใสกั้นห้อง ได้ผ่อนคลายแบบสุดๆไปกับบรรยากาศดีๆ

จะให้นวดหนักหรือเบาอย่างไรสามารถบอกกับพี่คนนวดได้เลยนะคะ

ส่วนใครที่ไม่ถนัดให้นวดไทย จะกลัวเจ็บหรือจั๊กจี้ก็ตามแต่ สามารถเลือกคอร์สอื่นๆในห้องอื่นได้อีกนะคะ

ระหว่างนวดใกล้เสร็จ จะมีชาร้อนและขนมยกมาเสิร์ฟไว้ให้ละเลียดหลังจากการผ่อนคลายด้วย

ผ่านการผ่อนคลายของร่างกายด้วยการนวดไปเป็นที่เรียบร้อย ออกมาเดินเล่นกันต่ออีกสักหน่อย อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ ที่ดูเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ ก็คือชิงช้าริมน้ำ ตรงนี้นี่เอง แกว่งไปได้เต็มที่ มือจับไว้ให้มั่นระวังจะพุ่งลงแม่น้ำเท่านั้นเอง ^^

ตรงนี้บรรยากาศดีมาาาาาก ชิลแบบชิลมากจริงๆ จะมานั่งเล่นตอนเย็นหรือตอนเช้าก็ได้เลยค่ะ

เริ่มเย็นย่ำ กับบรรยากาศริมน้ำสุดโรแมนติก ได้เวลาอาหารเย็น โต๊ะอาหารอยู่ริมแม่น้ำแคว วิวแม่น้ำยามเย็นที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว ท้องฟ้าค่อยๆเปลี่ยนสีดูสวยงาม

เริ่มจากจิบไวน์แดงเย็นๆหรูๆเรียกน้ำย่อยก่อนมื้ออาหาร

และจัดเต็มด้วยอาหารมื้อเย็นเต็มโต๊ะ จากห้องอาหารของรีสอร์ต ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก เย็นสบาย สายลมพัดอ่อนๆ

มื้อนี้ประกอบไปด้วย พิซซ่า เมี่ยงญวนยำสลัด แกงป่าไก่ ต้มยำปลาคัง และกุ้งผัดพริกเกลือ รสชาติกลมกล่อม อร่อยทุกจาน

ตื่นเช้าออกมาเดินชมนกชมไม้ สูดรับอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง สีเขียวของธรรมชาติช่วยบำบัดสุขภาพจิตและสุขภาพกายได้เป็นอย่างดี

แล้วก็เดินเข้าสู่ห้องอาหาร เพื่อทานมื้อเช้า ห้องอาหารตรงนี้จะอยู่ช่วงกลางรีสอร์ต ไม่ได้ติดริมแม่น้ำแต่เป็นห้องเปิดรับลมชมวิวได้ชิลไม่แพ้กัน

ชาร้อน กาแฟร้อน มีพร้อม เลือกดื่มได้ตามใจชอบค่ะ

ทานกับขนมปังปิ้งร้อนๆ ทาเนยผสมกับแยม ยิ่งอร่อยเข้ากัน

ปกติแล้วอาหารเช้าจะเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ ให้เลือกตักได้เต็มที่ แต่เนื่องจากช่วงที่ไปยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติดีนัก อาหารเช้าจึงมีให้เลือกทานเป็น อเมริกันเบรคฟาสต์ และ ข้าวต้มหมู ข้าวต้มกุ้ง ซึ่งสามารถทานได้ทั้งสองอย่างเลยค่ะ อิ่มแน่นเลยด้วย

ตบท้ายด้วย ผลไม้สดๆ จัดเรียงใส่จานและตกแต่งมาให้อย่างงดงาม

จากห้องอาหารตรงนี้ สามารถมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและวิวสวนได้ในมุมที่สวยไม่น้อยเลยค่ะ

มาต่อที่ สระว่ายน้ำ เปิดให้บริการเวลา 07.00 - 18.00 น. ของทุกวัน โดยมีกฎเล็กๆน้อยๆ คือ โปรดอาบน้ำก่อนลงสระ และโปรดแต่งกายด้วยชุดว่ายน้ำมาตรฐาน

สระจะแบ่งออกเป็น 2 โซนชัดเจน สำหรับเด็ก และผู้ใหญ่

มีขนาดกว้างมาก และที่สำคัญคือรายล้อมไปด้วยต้นไม้ อาทิ ต้นมะพร้าว และต้นชบา รวมถึงที่นั่งริมสระ ที่ทำให้บบรรยากาศดี งดงาม และน่ามาว่ายน้ำเล่นแบบเพลินๆ

กิจกรรมอื่นๆจะมี เช่าจักรยานปั่น และโต๊ะปิงปองพร้อมอุปกรณ์

สรุป ประทับใจและชอบที่นี่มาก ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น สวยงาม ติดแม่น้ำที่สามารถไปนั่งแกว่งชิงช้าหรือนั่งเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน อาหารที่อร่อยทุกมื้อทุกเมนู พนักงานที่ให้บริการแบบมืออาชีพด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทุกคน รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่มีให้ทำ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มเพื่อน ครอบครัว คู่รัก หรือแม้แต่มาคนเดียว จะมาเพียงแค่พักอาศัย หรือใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่นี่เลยก็ได้เช่นกัน