ภูสอยดาวหน้าฝน ไม่เจอฝน ไม่เจอหมอก เจอแต่แดดและทุ่งดอกหงอนนาคที่บานสะพรั่ง

ภูสอยดาว

  • อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวอยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาเดินทางราว 6 ชั่วโมงจาก กทม. 
  • ภูสอยดาวเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทยด้วยความสูง 2102 เมตร
  • ภูสอยดาว จะแบ่งช่วงขึ้นออกเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ดอกหงอนนาคบานและช่วงพิชิตยอด
  • ช่วงดอกหงอนนาคบานจะเริ่มหน้าฝนตั้งแต่ กค.ถึงต้นเดือน ตค.
  • ดอกหงอนนาคบานเต็มที่ในเดือนสิงหาคม-กันยายน เคยไปช่วงกลางเดือนกันยา ดอกบานเต็มที่เลยค่ะ หันไปทางไหนก็มีทุ่งดอกไม้สีม่วงน่ารักๆเต็มไปหมด ช่วงนี้หน้าฝน พิชิตยอดไม่ได้ อันตราย ห้ามขึ้น
  • ช่วงพิชิตยอด คือช่วงเดือน พย.-กลางเดือน มค. ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน วันแรกเดินถึงลานสน 1633 เมตร วันที่ 2 ถึงจะเดินขึ้นพิชิตยอด ยอดภูสอยดาวอยู่ห่างจากลานสน 4 กม. แต่ใช้เวลาเดิน 4 ชั่วโมง ไปกลับ 8 ชม. เห็นว่าโหดเอาการ ช่วงขึ้นยอดก็ไม่มีดอกหงอนนาคละคะ ต้องเลือก
  • เรามากับทัวร์ สะดวกดีนะ มีข้าวให้กิน ได้รู้จักกับคนอีกเยอะแยะ

ลูกหาบ

ถ้าใครจะฝากของให้ลูกหาบแบก จะต้องติดต่อที่ทำการอุทยานก่อนซึ่งอยู่คนละจุดกับที่เดินขึ้น ต้องจองคิว และมีใบแทกติดกระเป๋า คิดเป็นใบ แทกละ 5 บาท ค่าแบก 30 บาท/กก. ต่อรอบ  ขาขึ้นจ่ายน้ำหนักกระเป๋า+แทก ตอนขาลงก็ชั่งน้ำหนักแล้วจ่ายอีกรอบ อาจจะคนขึ้นเยอะหรืออาจมีเหตุบางอย่าง ลูกหาบมาถึงช้ามาก ขนาดได้คิวแรกๆยังขึ้นมาถึงเกือบ 4 โมงเย็น 

ร้านอาหาร


ตรงบริเวณจุดเดินขึ้น หน้าอุทยานจะมีร้านอาหารอยู่ 2 ร้าน เป็นอาหารตามสั่ง รสชาติใช้ได้ มีเครื่องดื่มเย็นๆไว้ซดหลังจากลงเขา ก่อนเดินก็กินอาหารคุ้นเคยก่อน

บริเวณอุทยาน

ตรงข้างหน้าจุดเดินขึ้น มีห้องน้ำ มีขัน อาบน้ำได้ อาจจะขุ่นๆหน่อย พอล้างเนื้อล้างตัวได้ น้ำเย็นฉ่ำ มีฝักบัวแต่น้ำอ่อนมาก อ่อนจนจั๊กจี้ ตักอาบสะใจกว่า

เส้นทางเดินขึ้น

ใช้เวลาเดินเท้า ราวๆ 4-5 ชั่วโมง ทางเดินช่วงแรกยังไม่มีเนินเท่าไร เดินสบายๆ ชมน้ำตก  มีสะพานข้ามแม่น้ำ เดินไปเรื่อยๆ บรรยากาศดีมากกกกกกก


ภูสอยดาวมีเนินหลักอยู่ 5 เนิน


เนินแรก เนินส่งญาติ
บันไดเยอะ เป็นบันไดต่อกันไปเรื่อย

เห็นแล้วอาจจะท้อ เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง

เนินที่ 2 เนินปราบเซียน

เป็นเนินจริงๆ


เป็นทางเดินดินกับหินสลับกัน

เนินที่ 3 เนินป่าก่อ

เนินนี้ไม่ยากเท่าไร มีเนินบ้างประปราย เดินไม่เหนื่อยมาก ภูสอยดาว เดินขึ้นซะเยอะ ตอนขึ้นก็จะนึกถึงตอนลง คงลงอย่างเดียว

ภูสอยดาวมีข้อดีตรงป้ายบอกทางตลอดทั้งทาง ถึงแม้จะรู้สึกว่าทำไมดูป้ายแล้วไม่ถึงสักทีก็เถอะ การเดินๆไปแล้วเจอป้ายบอกว่าเหลืออีก 3-2-1 กิโล มันทำให้เรามีแรงใจฮึดสู้และคิดว่าทำไม 1 กิโลมันยาวจัง 5555

พอเหนื่อยๆเราก็จะเดินไปถ่ายรูปไป ไม่รีบค่ะ ไม่ไหว 5555

เนินที่ 4 เนินเสือโคร่ง

เนินนี้โหดนิดหน่อย จะมีทางเดินดินชันยาวประมาณหนึ่ง ต้องจับราวขึ้นไป ใช้กำลังแขนพอสมควร ขาขึ้นไม่ยากเท่าขาลง ตอนลงจะไหลลงอย่างเดียวเลย

เนินที่ 5 เนินมรณะ


แค่ชื่อก็เสียวแล้ว ตอนเดินพ้นเนินเสือโคร่งมา มีคนให้สวนลงมาพร้อมบอกสู้ๆนะคะ เหลืออีกนิดเดียวก็ถึงละคะ ข้ามเนินนี้ก็ถึงแล้ว สังเกตตรงป้ายเพิ่มความน่ากลัวโดยประทับรอยมือลงไปด้วยนะ 555555

ยอดนี้เลย เห็นลิบๆ ลมแทบจับ เนินเบ้อเร่อ เรียกว่าข้ามเขาเป็นลูกจะถูกกว่า แดดแรงมาก เดินแล้วท้อแท้ แดดเผา ร้อนมาก ร่มไม้ไม่มี ใครมาเดินหน้าฝนก็เผื่อใจเตรียมเครื่องกันแดดมาด้วยนะคะ

ถึงแล้วลานสนภูสอยดาว

อากาศข้างบนเย็นสบาย แดดร้อน ต้นไม้ส่วนใหญ่โปร่งสูงไม่มีที่หลบแดด วันนี้แดดดีดอกหงอนนาคบานเต็มไปหมด ไม่มีหมอกเลย ฟ้าใสกิ๊ก เดินไปด้านขวาจะมีจุดเติมน้ำและหลักไทยลาว

เดินวนซ้ายมาเรื่อยๆจะเจอทุ่งดอกหงอนนาค ต้นสน ให้ซึมซับบรรยากาศแล้วจะมาบรรจบที่ลานกางเต๊นท์ ดอกหงอนนาคกับแสงอาทิตย์ยามเย็นก็ดูละมุนไปอีกแบบนะ

ตอนแรกหวังว่าจะเจอหมอกบนภูสอยดาวอย่างใครเขา แต่หมอกไม่มาเลยค่ะ ฝนตกเปาะแปะ ตกเหมือนฝนไล่ช้างแล้วก็หายไป เหลือเพียงความร้อน และท้องฟ้าครึ้ม แต่ก็สวยคนละแบบ 

แหล่งน้ำ

ด้านบนมีแหล่งน้ำ มีห้องน้ำ คลองอยู่หลังห้องน้ำ 

ห้องน้ำ

วิธีเข้าห้องน้ำคือหยิบถังที่เขาแจกมา ในถังจะมีขันน้ำ เอาถังน้ำไปตวงน้ำจากลำธาร แล้วเอาไปใช้ในห้องน้ำ ห้องน้ำที่มีคือห้องน้ำบนเขา อย่าคาดหวังอะไรมาก ห้องน้ำมีแยกชายหญิง เวลาเข้าห้องน้ำบางคนจะใช้ทิชชู่เปียก พอใช้เสร็จก็จะวางตามขื่อไม้ในห้องน้ำ ไม่ก็ตามพื้นเป็นกองเลย ทางที่ดีควรเก็บใส่ถุงลงมาจะได้ไม่เป็นภาระกับธรรมชาติ ทิชชู่เปียกทำมาจากพลาสติกนะไม่ได้เป็นผ้า ใช้เวลาย่อยสลายนานมาก เป็นร้อยๆปี 

บรรยากาศยามค่ำคืน


อากาศหนาว ควรมีเสื้อกันลมไปด้วย ลมแรง ถ้าฟ้าเปิดจะเห็นดาวชัดมาก ดาวเยอะเต็มไปหมด เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเวลาขึ้นเขา เท่าที่ขึ้นมา มักจะเห็นดาวเสมอ อาจจะเพราะไม่มีแสงไฟรบกวน เลยเห็นดาวชัดกว่าในเมือง ไม่ได้ถ่ายดาวนะ ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมาเพราะคิดว่าฝนตก T.T

พอตอนเช้า ตรงลานสนเราก็จะได้อีกบรรยากาศหนึ่ง มโนว่าอยู่กับต้นไม้สูงใหญ่ที่แอฟริกา 55555 ตั้งใจเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้น วันนี้พระอาทิตย์ไม่ขึ้น ครึ้มๆแล้วก็แดดจ้าเลย เราชอบบรรยากาศบนภูสอยดาวมากๆ ปกติเวลาขึ้นดอยก็จะมาดูหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ที่นี่เป็นลานขนาดใหญ่ไว้เดินเล่น ความสวยงามจะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ มีต้นสนสูงโปร่ง ต้นใหญ่ พื้นที่โล่ง ลมพัด อากาศเย็นสบาย

ตอนเช้าดอกหงอนนาคไม่บานนะ น้องนางตื่นสายค่ะ ถึงแดดจะจ้า บางทีก็จะบานราวๆ  9 โมงเช้า เพราะฉะนั้นวันที่ขึ้นมาถ้าเห็นดอกบาน ก็รีบถ่ายรูปเก็บไว้


ดอกหงอนนาคตอนเช้า หุบเชียว หุบทั้งลาน

บรรยากาศบนดอยและชาวเต๊นท์ เรนโบว์มากเลย

ภูสอยดาวไม่ว่าฝนตกแดดออกยังไงก็สวย ลองมาสัมผัสบรรยากาศดูกันนะคะ ธรรมชาติมีเสน่ห์ในตัวเสมอ

ALIS X Wonder world

 วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 09.15 น.

ความคิดเห็น