ไปชมของดีเมืองสุราษฎร์ธานี ที่ไม่ใช่ทะเลและหอยใหญ่ 

กับที่เที่ยววิวสุดปัง บรรยากาศดี 

 

สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้พวกเราจะพาไปเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานีกัน ... สุราษฎร์เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีธรรมชาติที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยแล้วชาวต่างชาติต่างหลงไหล ไม่ว่าจะเป็นทะเลสวยๆ ของเกาะต่างๆ เช่น สมุย พะงัน และเกาะเต่า แต่ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวสุราษฎร์ธานีแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่เน้นทะเล และพาไปชมของเด็ดของดีเมืองสุราษฎร์ธานีที่การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศเลย จะเป็นที่ไหนอะไรยังไง ก็ตามรีวิวนี้เลย....

ไปชมของดีเมืองสุราษฎร์ธานี 

 ชมวิวเขาและหมอกยามเช้า เที่ยวสวนกาแฟที่ชนะเลิศการประกวด Nescafe Robusta Contest 2020

ทริปสุราษฎร์ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมของดีจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ไม่ใช่ทะเลและไม่ใช่หอยใหญ่แน่นอน แต่เป็นกาแฟโรบัสต้าที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย หลายคนอาจจะรู้จักสุราษฎร์เพราะเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้สุราษฎร์ธานียังขึ้นชื่อในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และภูมิอากาศที่สมบูรณ์แบบ จึงทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นแหล่งปลูกกาแฟโรบัสต้าชั้นดีของประเทศไทย  ซึ่งเมื่อล่าสุดนี้เอง กาแฟโรบัสต้าของจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็ได้รับรางวัลชนะเลิศที่การันตีคุณภาพจาก Nescafe Robusta Contest 2020 ที่จัดประกวดเพื่อค้นหาสุดยอดเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ใช่ครั้งแรกในประเทศไทย

ตื่นเช้า เริ่มต้นรับวันใหม่ท่ามกลางธรรมชาติและสายหมอก พร้อมจิบกาแฟโรบัสต้าหอมๆ รสชาติเข้มข้น แต่นุ่มละมุ่นในปากของ ‘เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น สุราษฎร์ธานี’ ชมวิวเขาและหมอกสีขาวๆ ยามเช้า มันดีต่อใจจริงๆ <3

ปกติเราชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว หรือจะเรียกว่าติดเลยก็ได้เพราะต้องดื่มทุกเช้า ;) ดังนั้นทริปนี้เราขอเริ่มต้นด้วยการพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวสวนกาแฟที่ชนะเลิศการประกวด Nescafe Robusta Contest 2020 และเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ชนะเลิศได้รับรางวัลการันตีความอร่อยของปีนี้นั้นมาจากสวนกาแฟของ "คุณพงษ์ศักดิ์ บาลเมือง" เกษตรกรชาวสวนจากอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั่นเองค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปเยี่ยมชมสวนกาแฟของคุณลุงกันว่ามีความพิเศษขนาดไหน ตามกันมาเลยจ้า....

สวนของคุณลุงพงษ์ศักดิ์อยู่บนเนินเขา เราต้องนัดเจอลุงตอนเช้าประมาณ 6 โมงเช้าเพื่อนั่งรถกระบะขึ้นไปเพราะรถเก๋งขึ้นไม่ได้ แค่ทางขึ้นก็วิวแจ่มมาก พอถึงสวนถึงกับต้องร้องว้าววววววว วิวหลักล้านมากบอกเลย เพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขาและสายหมอก เห็นแล้วอยากเป็นชาวสวนกาแฟขึ้นมาทันที :)

โอ๊ยยแค่วิวของสวนกาแฟก็สุดยอดมากๆ นี้มันที่เที่ยววิวหลักล้านจริงๆ ปังมากจ้า ของดีเมืองสุราษฎร์จริงๆ 


วิวสวนกาแฟของคุณลุงพงษศักดิ์จากมุมสูงสวยมากค่ะ ด้านหลังคือภูเขาท่ามกลางสายหมอก ซึ่งวิวสวยๆ นี้ก็ถูกนำมาออกแบบบนตัวแพ็คเก็จของ ‘เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น สุราษฎร์ธานี’ นั่นเองจ้า

นี่คือโฉมหน้าของคุณพงศักดิ์ บาลเมือง เกษตรกรชาวสวนจากอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศปีนี้


พวกเราได้มีโอกาสไปชมสวนและพูดคุยกับคุณลุงถึงความพิเศษที่ทสวนของคุณลุงชนะการประกวด Nescafe Robusta Contest 2020 ครั้งนี้ มีอยู่ 3 ส่วนหลักๆ คือ

  • ความรักและใส่ใจในการปลูกและดูแล ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นคุณพ่อสู่รุ่นลูก ยาวนานมากกว่า 30 ปี
  • ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ทำให้แร่ธาตุดินดี และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย (สวนกาแฟของคุณลุงสวยมาก วิวสวยอย่างกับที่เที่ยว)
  • เน้นปลูกกับธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีมากที่สุด ทำให้ดินดีไม่เป็นกรด รสชาติกาแฟที่ได้จะสดและสะอาด

นอกจากนี้คุณลุงพงษ์ศักดิ์ยังได้เล่าให้ฟังถึงโครงการดีๆ จากทาง Nestlé นั่นคือ โครงการ “ปลูกด้วยใจ กาแฟไทยยั่งยืนกับเนสกาแฟ” (Grown Respectfully)” ที่ได้เข้ามามีส่วนช่วยเกษตรกรอำเภอพนมในการปลูกกาแฟให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยการให้ความรู้ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีและเกล็ดความรู้ต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมการปลูกกาแฟแบบยั่งยืนและสร้างคุณภาพให้เมล็ดกาแฟมากยิ่งขึ้น

อีกจุดเด่นของชาวเกษตรกรอำเภอพนม คือการร่วมด้วยช่วยกัน ไม่ใช่แค่ทำสวนของใครของมัน แต่เป็นรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หากใครเจอปัญหาอะไรก็จะมาแชร์กันและช่วยกันหาวิธีการแก้ไขช่วยกัน พูดง่ายๆ คือเป็นการพึ่งพาอาศัยกันและกัน เติบโตไปด้วยกัน ทำให้การสวนกาแฟของที่นี่ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพดี เป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟโรบัสต้าที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย


และนี่ก็เป็นเหตุผลดีๆ ที่ทำให้สวนกาแฟของ คุณลุงพงษ์ศักดิ์ บาลเมือง ได้รางวัลการันตีคุณภาพจากงาน Nescafe Robusta Contest 2020 และทาง Netle' ก็ได้นำเมล็ดกาแฟคุณภาพดีนี้มาผลิตอยู่ในซอง ‘เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น สุราษฎร์ธานี’ เพื่อให้คนไทยได้ลิ้มลองกันเรียบร้อยแล้ว นี้แหละคือของดีและความภูมิใจของจังหวัดสุราษฎร์ธานีจ้า 

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นคอกาแฟแบบพวกเราอย่ารอช้า... อยากให้ไปลิ้มลองกาแฟปลูกด้วยใจ ‘เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น สุราษฎร์ธานี’ กาแฟโรบัสต้าคุณภาพดี ที่มีรสชาติเข้ม หอมกลิ่นกาแฟละมุ่น จากสุราษฎร์ธานีการันตีความอร่อย รุ่นนี้ผลิตมีจำนวนจำกัดนะจ๊ะ  สามารถไปหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และ 7-11 ทั่วประเทศ หรือช๊อปออนไลน์ได้ที่ Shopee คลิก https://bit.ly/3e53sDr


นอนเต้นท์กลางหุบเขา ชมวิวทะเลหมอกยามเช้า 

ที่ Khaosok Boutique Camps

ได้พาไปเที่ยวสวนกาแฟกันมาแล้ว พวกเราจะพากลับเรื่องที่พักกันบ้าง ปกติมาเที่ยวสุราษฎร์คนชอบไปนอนแพกลางเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือไม่ก็ที่พักติดทะเลกันใช่ไหม? แต่ทริปนี้เราขอพาเพื่อนๆ มามานอนพักผ่อนกับธรรมชาติท่ามกลางหุบเขากันบ้าง ซึ่งเป็นการนอนเต้นท์สไตล์ Glamping ชมวิวเขาและหมอกยามเช้า ที่ Khaosok Boutique Camps รีสอร์ทตั้งอยู่เนินเขาใกล้ๆ กับอุทยานแห่งชาติเขาสก บอกเลยว่าดีงามมาก  วิวโคตรสวย แถมราคาไม่แพง 

เป็นที่พักแบบแกลมปิ้งสไตล์บาหลีนิดๆ อยู่หุบกลางเขา ได้วิวธรรมชาติแบบ 360  วิวห้องพักจะมองเห็นวิวทิวเขาเรียงยาวสวยงามและใกล้ชิดธรรมชาติมาก  บรรยกาศดีเหมาะสำหรับไปพักผ่อนมากจ้า ตอนเช้าจึงทำให้สามารถเห็นวิวทะเลหมอกได้แบบเต็มๆ

Khaosok Boutique Camp

ที่ตั้ง: 11/36 หมู่ที่ 5 ต.ฉลอง อ.เมือง สุราษฎร์ธานี

ราคาห้องพัก: เริ่มที่ 2,000/คืน รวมอาหารเช้า สำหรับ 2 คน

เว็บไซต์: http://www.khaosokboutiquecamps.com



ที่เที่ยวแนะนำของสุราษฎร์ธานี ที่ห้ามพลาด! 

มาสุราษฎร์ทั้งทีจะพลาดที่เที่ยวเด็ดๆ ได้อย่างไร เพราะที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่รีวิวนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวสุราษฎร์ธานีแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่เน้นทะเล แต่บอกเลยว่าแต่ละที่วิวเด็ด วิวปังที่ห้ามพลาดเลยจ้า!

จุดที่ 1. เขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทย (เขื่อนรัชประภา)

ที่ตั้ง: เขื่อนเชี่ยวหลา ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี 84230

ค่าเข้าชม: สำหรับค่าธรรมเนียมใช้บริการ มี 2 ส่วน คือ

  1. ค่าธรรมเนียนเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ราคาคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาท ราคาชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
  2. ค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้เทศบาลตำบลบ้านเชี่ยวหลาน ราคาคนไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 3-14 ปี 5 บาท ราคาชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 3-14ปี 10 บาท

ออกจากที่พักก็ขับรถไปที่เขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทย (เขื่อนรัชประภา) เป็นจุดเที่ยวที่ขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้หากได้มาเที่ยวที่สุราษฎร์ เพราะว่ามันสวยงามจริงๆ เป็นเขื่อนที่สวยที่สุดในประเทศไทยที่เมื่อได้เห็นต้องร้องว้าวววว แน่นอน <3 

หากจะแวะมาเที่ยวเขื่อนอย่างเดียวโดยไม่ต้องพักแพก็ได้ เป็นการเหมาเรือหางยาวเที่ยวแบบ 2 ชั่วโมง ประมาณ 1,700 ค่ะ ซึ่งเขาจะพาแวะไปจอดพักให้ถ่ายวิวเขื่อนตรงบริเวณแพนางไพรประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะพากลับฝั่ง รับรองคุ้มค่าและไม่ผิดหวังแน่นอน


จุดที่ 2. สะพานแขวนเขาพัง-ภูเขารูปหัวใจ

ที่ตั้ง: สะพานแขวนเขาพัง ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี

เปิดบริการ: เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

สะพานแขวนเขาพัง-ภูเขารูปหัวใจ เป็นอีกจุดที่ห้ามพลาดเพราะมุมถ่ายรูปสวย เป็นฉากภูเขาที่มีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจอยู่ด้านหลัง และมีสะพานแขวนที่ยาวประมาณ 120 เมตร ทอดยาวข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่ง ซึ่งตัวสะพานถูกสร้างอยู่ในบริเวณของ วัดเขาพัง สามารถเดินข้ามไปได้


จุดที่ 3. เจดีย์ลอยฟ้า อุทยานธรรมเขานาในหลวง

ที่ตั้ง: หมู่ที่ 8 บ้านเขานาใน ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฏร์ธานี

เปิดบริการ: เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี


เจดีย์ลอยฟ้า อุทยานธรรมเขานาในหลวง เป็นอีกไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดเลยนะคะ มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม วิวด้านบนสวยมากเหมือนอยู่บนสวรรค์ สามารถถ่ายรูปได้ตั้งแต่ทางเข้าซุ้มประตูพุทธวดี 9 ยอด แนะนำให้มาช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น จะได้วิวพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมหมอกบางๆ สวยงามมากค่ะ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ลอยฟ้า และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดเขาหินปูนที่สูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบที่กันลื่นนะคะ เพราะทางขึ้นค่อนข้างชันและอันตรายหากไม่ระวัง บรรยากาศด้านบนสามารถมองเห็นวิวทิวเขาและทะเลหมอกได้แบบพาราโนมาจริงๆ ยิ่งตอนที่ทะเลหมอกมาเยอะเหมือนได้อยู่บนสวรรค์เลย คุ้มค่าแก่การมาเยี่ยมชมแน่นอนค่ะ



จุดที่ 4. ตลาดน้ำประชารัฐ บางใบไม้ ตลาดน้ำแห่งแรกของสุราษฎร์ธานี

ที่ตั้ง : ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

เปิดให้บริการ: ตลาดเปิดทุกวันอาทิตย์ เวลา 09:00 - 17:00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

ตลาดน้ำประชารัฐ บางใบ เป็นตลาดน้ำแห่งแรกที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ห่างจากสนามบินประมาณ 25 นาที ที่นี่จะเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ สามารถแวะมาเดินเล่นมาชิมอาหารพื้นบ้าน ขนมต่างๆ และสามารถนั่งเรือล่องคลองร้อยสาย ชมธรรมชาติอุโมงต้นจาก ถ่ายรูปสวยๆ ซึ่งค่านั่งเรือหากเหมาลำส่วนตัวตกลำละ 100 บาท แต่หากไม่เหมาก็สามารถรอนั่งกับคนอื่นๆ ค่านั่งคนละ 20 บาท แต่จะรอนานหน่อยเพราะต้องรอให้มีอย่างน้อย 3 คนขึ้นไป


จุดที่ 5. ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด

ที่ตั้ง : หมู่ 4 บ้านน้ำราด ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เปิดให้บริการ: เปิดทุกวัน เวลา 09:00 - 17:00 น.

ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชมและค่าห้องน้ำ ผู้ใหญ่ คนละ 25 บาท เด็กคนละ 15

ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชม เพราะด้วยความใสของน้ำที่เป็นเหมือนโอเอซิสกลางป่า น้ำที่นี่สวยและใสมากสามารถมองเห็นตัวปลากันได้เลย น้ำสะอาดสะอ้านไม่มีขยะ เพราะเจ้าหน้าที่เขาดูแลดี นักท่องเที่ยวไม่สามารถนำเอาสิ่งของ อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เข้าไปในบริเวณป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด สามารถนำติดตัวไปได้แค่กระเป๋าตัง มือถือและกล้องถ่ายรูป ที่เหลือต้องฝากเจ้าหน้าที่ไว้ มีล็อคเกอร์บริการ


จุดที่ 6 . คิงคองเขาสก 

ที่ตั้ง: กิโล 91 ตรงข้าม วัดถ้ำปลา (วัดถ้ำวราราม) อ.พนม จ.สุราษฏร์ธานี 

เปิดบริการ:  จันทร์ - ศุกร์ 10:00-18:00 น. เสาร์ - อาทิตย์ 09.00-19.00 น. 

ค่าเข้าชม: คนละ 40 บาท 

คิงคองเขาสก เป็นอีกจุดเที่ยวของเขาสกที่น่าแวะไปเที่ยวสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ที่นี่มีบริการร้านอาหารและจุดถ่ายรูปต่างๆ  มีคิงคองและไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ ด้านหลังจะมองเห็นวิวภูเขาและธรรมชาติสีเขียวๆ นอกจากนี้ยังมีบริการรถรางชมสวน ขับ ATV และล่องแพไม้ไผ่ ชมวิวธรรมชาติ ชมปลา แนะนำให้มาช่วงเช้าบรรยากาศจะดีกว่า เพราะหากมาช่วงบ่ายแดดร้อนใช้ได้เลย


จบแล้วจ้าทริปสุราษฎร์ธานีของเรา เป็นทริปที่โชคดีและประทับใจมาก ไม่เจอฝนและเจอที่เที่ยวสวยๆ ไว้เราต้องกลับไปซ้ำอีกแน่นอนจ้า :)

ก่อนจากกันอย่าลืมน๊าา คนไหนที่ชอบกาแฟเหมือนพวกเรา อยากแนะนำให้ไปลองดื่มกาแฟปลูกด้วยใจของ ‘เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น สุราษฎร์ธานี’ ที่เป็นของดีเมืองสุราษฎร์ธานี และต้องรีบหน่อยน๊าาาเพราะรุ่นนี้เขาผลิตมีจำนวนจำกัดนะจ๊ะ สามารถไปหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และ 7-11 ทั่วประเทศ หรือช๊อปออนไลน์ได้ที่ Shopee https://bit.ly/3e53sDr

ReviewPapai

 วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 14.34 น.

ความคิดเห็น