อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์

ภูสอยดาว เส้นทางสุดโหดที่เหล่าบรรดานักเดินป่า ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่นอย่างเรา "เที่ยวอ้อมโลก" ขอจารึกไว้ในความทรงจำครั้งนี้ค่ะ 

การเดินทางที่แสนพิเศษครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยความบังเอิญและความตั้งใจของเพื่อนร่วมทางกันทุกคน
เมย์ ดิ่ง ปิ๊ก อ้อม บี กิ๊ฟ และพี่เอกผู้ถ่ายรูปนี้

ภาพแรกที่เดินขึ้นมาจนถึงลานสน ก็จะเห็นดอกหงอนนาค ชูดอกพัดปลิวคอยต้อนรับผู้มาเยือน 
ความเหน็ดเหนื่อยยังไม่หายไป แต่กลับมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับมา ใกล้จะถึงแล้วโว้ยยยยยย !!

เริ่มต้นการเดินทางบริเวณที่ทำการอุทยานบริเวณด้านล่าง ลงทะเบียน ติดต่อเช่าอุปกรณ์ต่างๆ ให้เรียบร้อย

หลังจากนั้นก็มาติดต่อฝากของกับพี่ๆ ลูกหาบค่ะ สัมภาระ 7 คน 3 วัน 2 คืน เราเตรียมมาเองแทบทุกอย่าง
หมดค่าลูกหาบไปหลายพันเลยล่ะ ฮ่าๆๆๆ เสร็จเรียบร้อยจะมีเจ้าหน้าที่ขับรถพาไปส่งที่ทำการอุทยานด้านบนค่ะ จุดที่เราจะต้องเริ่มเดินเท้าขึ้นไปอีกราวๆ 6.5 กิโลแม้ววว

หน้าที่ทำการอุทยานด้านบน จะมีน้ำตกภูสอยดาว เราเองก็ไม่พลาดค่ะ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย

ระหว่างทางเดินเราจะผ่านน้ำตกภูสอยดาว ที่มี 5 ชั้น คือ ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ ชื่อคล้องจองกันมาก

เราเริ่มเดินขึ้นตอนประมาณ 9 โมง ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ส่วนมากจะพัก ฮ่าๆๆๆ เดินผ่านเนินทั้ง 5 เนิน มีเนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ  

แวะเติมพลังอาหารมื้อกลางวัน ระหว่างทาง ข้าวเหนียว เนื้อทอด จิ้มแจ่ว เหนื่อยๆ แบบนี้กินอะก็อร่อยเด้อ 

ลองมาใช้ชีวิตในป่า บนเขา ไม่มีแสงสี แสงไฟดูซิว่าจะรอดมั้ย ??

ระหว่างทางก็ชมพืชพรรณสภาพป่ากันไป ที่นี่ความหลากหลายผสมกัน มีทั้งป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าสนเขา มาครบจบในที่เดียว

มาถึงเนินปราบเซียน เนินที่ 2 ความสูงระยะทางเท่าไหร่อย่าไปถามถึงเลยค่ะ มีน้ำเท่าไหร่ก็ค่อยๆ จิบเอาเด้อ เดี่ยวจะหมดซะก่อน แวะพักเอาแรงกันหน่อย

ไปต่อเลยพี่

แวะทีไรไม่ต้องพูดคุยกันเยอะให้เจ็บคอค่ะ แค่ทุกคนมองตากันก็รู็ว่าเหนื่อย 555

เอ๊า ลุยๆๆๆ

จุดพักเยอะมาก และพวกเราก็แวะกันทุกจุด

เดินไปเดินมา ถึงเนินที่ 4 เนินเสือโคร่ง

เส้นทางเดินมีทุกรูปแบบ ทางลาด ทางชัน ขั้นบันได บุกป่า ฝ่าดงกันไป

มาถึงเนินสุดท้าย เนินมรณะ ทางชันสุดดิ่งจนต้องร้องขอชีวิตเลยทีเดียว ระดับความสูง 1,410 เมตรจ้า

ใช่แหละ ต้องเดินขึ้นไปบนยอดเขานั้น ถึงลานกางเต็นท์อีกประมาณ 1.5 Km.  โคตรท้อ แต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ

ดิ่ง รูปนี้สวยมาก

เดินต่อไม่รอแล้วนะ ฝนก็ตกไม่รีรอเช่นกันจ้า พกเสื้อกันฝนไปด้วยเด้อ

ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์หาดูได้ยากจริงๆ ค่ะ ภูเขาสีเขียว ต้นไม้ใบหญ้า สบายตาสบายใจ จนเหมือนหลุดมาอีกหนึ่งโลก

ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งสูงก็ยิ่งสวย ฝนก็พรำ เอ๊าาา เพลงมา

สบายใจสุดๆ

น้องลูกหาบ 

ก่อนถึงลานสน จะมีจุดชมวิวอยู่ด้ายซ้ายมือนะคะ เดินขึ้นไปอีกนิดหน่อยเอง ซึ่งเราไม่เดินเพราะเหนื่อยและอยากถึงที่หมายให้เร็วที่สุด

และแล้ว ฉันก็พาตัวและหัวใจ หอบหิ้วกันมาจนถึงลานสน เย้

เดินต่อไปอีก 500 เมตร สุดท้ายใจจะขาด อีกนิดๆๆ

พนักงานต้อนรับ บนลานสนก็คือ ดอกหงอนนาคนั่นเอง 

ในที่สุดฉันก็คือผู้พิชิตลานสนภูสอยดาวแล้ว ส่วนการใช้ชีวิตบนภูสอยดาว 3 วัน 2 คืน
รอติดตามชมในรีวิวถัดไปนะคะ บอกได้คำเดียวว่า ว้าว !!

ออกมาใช้ชีวิต ให้มีชีวิต เปลี่ยนความเหงา ให้เป็นความสนุก เปลี่ยนห้องนอนสีเหลี่ยมแคบๆ ให้ตรงหน้าเป็นวิวเขา ที่มีเมฆหมอกลอยผ่านหน้า เปลี่ยนความสะดวกสบาย ไปตักน้ำลำธารมาอาบ โอ้เธอ ฉันยังสบายดี

ขอบคุณทุกการเดินทาง ที่ทำให้เราได้รู้จักกับรสชาติชีวิต จริงๆแล้วมันเป็นยังไง อะไรคือคำตอบที่เรายังคงตามหาอยู่ เธอกับเขาหรือรักของเรา 555


ติดตามเรื่องราวการเดินทางของเราได้ที่เพจ อ้อมโลก - wmwphatiew

https://www.facebook.com/Kruaomphatiew

รับรีวิว ถ่ายภาพ ไม่มีค่าใช้จ่าย / ตามเงื่อนไขที่ตกลงระหว่างเพจกับบริษัท

เที่ยวอ้อมโลก

 วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 20.45 น.

ความคิดเห็น