Readme.me - ชาบูไต้หวันแท้ๆเจ้าแรกในประเทศไทยที่ไม่ต้องบินไปถึงไต้หวันก็สามารถทานได้

ชาบูไต้หวันแท้ๆเจ้าแรกในประเทศไทยที่ไม่ต้องบินไปถึงไต้หวันก็สามารถทานได้ | FUFU Taiwanese Shabu

วันนี้เราจะพาทุกคนบินไปสู่ประเทศไต้หวันเพื่อลิ้มลองรสชาติชาบูแท้ๆสูตรจากไต้หวันกันนนนน

เอ๊ะะะ แต่ๆช่วงนี้การที่จะบินไปต่างประทเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ถ้างั้นไม่เป็นไร วันนี้เรามาพาทุกคนไปทานชาบูไต้หวันแท้ๆในประเทศไทยแทนก่อนแล้วกัน

ซึ่งต้องบอกเลยว่าร้านนี้นั้น Premium สุดๆ นอกจากจะเป็นชาบูสูตรแท้ๆแล้วยังถือเป็นร้านแรกในประเทศไทยที่เป็นสูตรไต้หวันอีกด้วย อีกทั้งร้านนี้นั้นยังมีขนมสุด Premium พิเศษกว่าชาบูร้านอื่นๆอีกด้วยยย ถ้าทุกคนอยากรู้แล้วก็ตามเรามากันนนน

ร้านที่เราจะพาทุกคนไปในวันนี้มีชื่อว่า FUFU Taiwanese Shabu

ตัวร้านจะตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ตึก Empire Tower โดยจะเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00

นอกจากสาขา Empire Tower แล้วนั้นทางร้านจะยังมีสาขาให้สามารถเลือกเข้าไปใช้บริการถึงอีก 4 สาขาด้วยกัน ได้แก่ สาขาพระราม 4, สาขาอารีย์, สาขา G Tower พระราม 9 และสาขา Fashion Island ชั้น 3

ในส่วนของวิธีการเดินทางมายังร้านนั้นสามารถเดินทางด้วย 4 วิธีด้วยกัน

วิธีการเดินทางที่ 01 เดินทางด้วย BTS โดยลงที่สถานีช่องนนทรีออกทางออกที่ 1 หรือ 2 และเดินต่อมายังตึก Empire Tower โดยสามารถขึ้นบรรไดเลื่อนได้ที่ใกล้ๆกับร้านกับข้าวกับปลา

วิธีการเดินทางที่ 02 เดินทางด้วยรถเมล์ ซึ่งสามารถนั่งสาย 162 มาลงยังข้างๆตึก หรือนั่งสาย 17 113 116 149 และ 173 มาลงยังป้ายสถานทูตพม่า และเดินข้ามทางเชื่อมเตรงสี่แยกข้ามมายังตึก

วิธีการเดินทางที่ 03 เดินทางด้วย BRT โดยมาลงที่สถานีช่องนนทรี หรือต้นสาย

วิธีการเดินทางที่ 04 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยสามารถจอดรถได้ที่ตึก และประทับตราบัตรจอดรถได้ฟรีเป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมงด้วยกัน

หากพูดถึงสไตล์ของตัวร้านแล้วนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นสไตล์เรียบๆ เน้นการตกแต่งไปในโทนสีแดงๆเป็นหลัก

ภายในร้านจะสะอาดและมีที่นั่งให้เลือกนั่งอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังมีการจัดแบ่งโซนที่นั่งและโซนตักอาหารอย่างเป็นสัดเป็นส่วนอย่างชัดเจน ไม่ทำให้แน่นหรืออึดอันจนเกินไปป

และเมื่อเข้ามายังร้านแล้วนั้นสิ่งแรกที่เราจะพบก็คือชุดจาน และอุปกรณ์ทานอาหารรวมไปถึงถุงมือที่ไว้ใช้ในการตักอาหารที่จะถุงห่อมาด้วยถุงอย่างสะอาด

ก่อนที่จะพูดถึงวัตถุดิบต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมาแนะนำและให้เราเลือกน้ำซุปกันก่อนเลยย ซึ่งหนึ่งหม้อสามารถเลือกน้ำซุปได้ถึง 2 แบบ โดยน้ำซุปของทางร้านที่มีต้นตำรับมาจากไต้หวันนั้นจะมีให้เลือกทั้งหมด 6 แบบด้วยกันก็คือ น้ำซุปหม่าล่าที่มีรสชาติเผ็ดๆ ชาๆ รวมถึงน้ำซุปไต้หวัน น้ำซุปต้มยำ น้ำซุปยาจีน น้ำซุปเห็ดหอม และน้ำซุปพริกไทยดำนั่นเองง

ในส่วนของวัตถุดิบนั้นจะมีให้เลือกตักตั้งแต่ข้าวสวย ข้าวผัดแซวม่อน มาม่า ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ต่างๆตั้งแต่สัตว์บกไปจนถึงสัตว์ทะเล รวมไปถึงลูกชิ้นต่างๆ อย่างลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นชีส ลูกชิ้นทอดมัน ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลาหมึก หรือเกี๊ยวที่มีให้เลือกถึง 10 แบบ และผักสดสไตล์ไต้หวันที่หาทานได้ยาก

พูดถึงเนื้อสัตว์แล้วนั้น ที่ร้านจะมีเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่และเนื้อ ในส่วนของอาหารทะเลจะมีเป็น กุ้ง ปลา ปลาแซลมอน หอย ปู ปลาหมึก หอยเชลล์ ที่ต้องบอกเลยว่าสดมากๆ ไม่มีความคาวเลยยย

นอกจากนั้นแล้วก็จะยังมีน้ำจิ้มสูตรพิเศษอีก 4 สูตรจากทางร้านที่มีตั้งแต่สูตรง่าย สูตรใส สูตรเข้มข้น ไปจนถึงสูตรกวางตุ้งให้ได้เลือกทาน เลือกปรุงได้ด้วยตนเองอีกด้วย และสุดความ Premium สุดท้ายที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นนั่นก็คือขนมหวานนั่นเองง โดยขนมหวานที่ทางร้านได้จัดมาให้ก็จะมีตั้งแต่ แพนเค้กที่สามารถทำเองได้ ชานมไต้หวัน น้ำแข็งใสหรือที่เรียนว่าเป่าปิง แพนนาคอตต้า เยลลี่ ผลไม้สด รวมถึงไอศกรีมสุด Premium อย่าง Häagen-Dazs และ Mövenpick ที่สามารถเลือกทานได้อย่างไม่จำกัดด

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้นั้นจะสามารถทานได้ภายในราคาคนละ 499++ หรือ 588.- NET โดยจะสามารถทานได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีนั่นเองงงงง

ทานกันอย่างไม่อั้นอย่างงี้ก็จัดหนักจัดเต็มกันไปเลยยย ทางเราเลือกทานเป็นน้ำซุปยาจีนและต้มยำ ในส่วนของน้ำซุปยาจีนจะมีความจืดๆ ไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไหร่ เหมือนน้ำใส และในส่วนของต้มยำจะมีความเผ็ดๆเปรี้ยวๆพร้อมเนื้อสัมผัสของเครื่องต้มยำต่างๆ