เติมพลัง ดื่มด่ำธรรมชาติ ใจกลางเมืองอยุธยา

ณ Thann Wellness Destination

วันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาว เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ส่วนใหญ่เรามักใช้ไปกับการพักผ่อนท่องเที่ยว เพื่อเติมเต็มพลังให้กายและใจหายเหนื่อยจากการทำงาน โดยหนึ่งในสถานที่พักผ่อนฮอตสุดในตอนนี้ ก็คืออยุธยา ดินแดนแห่งธรรมชาติและอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ขับรถชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง

สำหรับจุดหมายปลายทางเล็งไว้ในอำเภอใกล้ๆ อย่างบางไทร อันเป็นที่ตั้งของธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น (Thann Wellness Destination) สถานที่พักผ่อนแบบพร้อมสรรพริมแม่น้ำน้อย ที่มีทุกอย่างบริการทั้งห้องพัก ห้องอาหาร ห้องสันทนาการ และกิจกรรมหลากหลาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะช่วยรีชาร์จร่างกายและจิตใจให้สดชื่น ท่ามกลางธรรมชาติเย็นสบายตั้งแต่ขับรถไปถึงหน้าประตูทางเข้าทีเดียว

อาณาจักรอันร่มรื่นของธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น

ส่วนการเดินทางขับรถไปได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางถนนพหลโยธิน ถนนแจ้งวัฒนะ หรือถนนทางหลวงหมายเลข 306 ซึ่งตัดผ่านกรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี โดยก่อนจะถึงจุดหมาย เรายังแวะเที่ยวตลาดในตัวเมืองอยุธยา ซื้อหาของกินท้องถิ่น โดยเฉพาะโรตีสายไหมต้นตำรับ หรือเยือนพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตำบลเกาะเกิด ชมศิลปวัตถุอันอลังการ เพื่อเป็นการเสพซับกลิ่นอายความเป็นเมืองเก่าทรงคุณค่าให้อิ่มใจล่วงหน้าได้อีกด้วย

จากนั้นขับรถตรงไปไม่นานนัก ก็จะเข้าสู่อาณาจักรแห่งธัญ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยต้นไม้และทุ่งนาเขียวขจี โดยมีพนักงานต้อนรับอย่างอบอุ่นในโซนล็อบบี้ พร้อมเสิร์ฟเวลคัมดริ๊งเป็นชาสมุนไพรเย็นๆ ที่สับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล กับผ้าเย็นกลิ่นหอมที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและประทับใจไปพร้อมๆ กัน

โซนด้านหน้าล็อบบี้
ภายในโซนล็อบบี้ที่ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ไทยร่วมสมัย มีพนักงานต้อนรับคอยดูแลผู้มาพักอย่างอบอุ่น
นั่งพักผ่อนในล็อบบี้ ระหว่างรอพนักงานต้อนรับขับรถกอล์ฟไปส่งยังห้องพัก

ก่อนเช็กอินเข้าห้องพักและสัมผัสกับธรรมชาติสวยงาม ต้องอธิบายสักนิดว่าสถานที่พักผ่อนครบวงจรสไตล์เวลเนส เดสทิเนชั่น ไม่ใช่ของใหม่ เคยมีในบ้านเรามาหลายปีแล้ว แต่เป็นรูปแบบโบราณ ขณะที่ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น แห่งนี้ เคลมได้เลยว่าเป็นสถานที่พักผ่อนเน้นฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมแห่งแรกของเมืองไทยที่ทันสมัยที่สุด และบริการทุกอย่างพรั่งพร้อมที่สุด แบบหิ้วกระเป๋าเข้ามาพักผ่อนโดยไม่จำเป็นต้องออกไปเที่ยวไหนอีกเลย

บรรยากาศอันตระการตาโดยรอบ
โซนออนเซ็น อีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับการฟื้นฟูกายใจ
โปรแกรมนวดบำบัดแบบไทยๆ มีให้บริการเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจเช่นกัน
ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานน้ำ
โยคะและไทชิ เป็นอีกกิจกรรมออกกำลังกายที่ผู้มาพักชื่นชอบกันมากๆ

กลับมายังบรรยากาศในโซนล็อบบี้ ซึ่งตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ไทยร่วมสมัย เป็นโซนที่ผู้มาพักต้องแจ้งพนักงานก่อนถึงห้องที่จองไว้ ที่มีให้เลือกพักทั้งแพกเก็จ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน โดยห้องพักจะมีด้วยกัน 5 แบบ ได้แก่ ห้องพักเดี่ยวและห้องพักคู่บนอาคาร ห้องพักพูลวิลลา 1 ห้องนอน กับ 2 ห้องนอน และห้องพักแบบบ้านต้นไม้ แต่ละแบบราคาแตกต่างกันไปตามความพรีเมียม จากนั้นพนักงานจะให้สายรัดข้อมือใช้แทนกุญแจห้องกับเรา ดูเก๋ไก๋เข้ากับยุคดิจิทัลมากๆ แล้วเขาจึงขับรถกอล์ฟพาไปส่งที่ห้องพัก ผ่านสองข้างทางร่มรื่นด้วยดอกไม้ใบหญ้าและสวนสวย เมื่อไปถึงห้องพักแล้วก็สามารถพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย เช่น นอนพัก ดูทีวี ออกมาเดินเล่น ไถสกู๊ตเตอร์แบบ Push Bike สนุกๆ ออกกำลังกายเบาๆ หรือนวดสปาก่อนก็ได้ โดยค่าที่พักจะเริ่มต้นที่ 22,500 บาท รวมอาหาร 3 มื้อต่อวัน บวกกิจกรรมทุกอย่าง แถมด้วยอาฟเตอร์นูนทีคนละ 1 เซ็ตในวันแรกที่เข้าพักด้วย ซึ่งตรงนี้ถูกใจมาก เราเลยเลือกสั่งมาเสิร์ฟก่อนอื่นใด 555

เดินเล่นบริเวณบ้านต้นไม้ หรือ Tree House สดชื่นจริงๆ
ผู้มาพักสามารถขึ้นไปชมวิวบนดาดฟ้าของบ้านต้นไม้ได้
ระเบียงด้านนอกของห้องพักแบบพูลวิลลา มองออกไปเห็นวิวทุ่งนาสวยงามกว้างสุดสายตา
ห้องพักแบบพูลวิลลา หรูหราสมราคา
สระว่ายน้ำส่วนตัวของห้องพักแบบพูลวิลลา
ภายในห้องพักแบบพูลวิลลา
อาฟเตอร์นูนที ที่ผสมผสานทั้งขนมไทยและขนมฝรั่ง เป็นเซ็ตพิเศษจัดให้สำหรับผู้มาพักทุกคนในวันแรกที่เข้าเช็กอิน เสิร์ฟอย่างสวยงามและหวานอร่อยถูกใจ

สำหรับห้องพักนั้น เราเลือกห้องพักบนอาคารแบบห้องเดี่ยว งดงามและสะดวกสบายไม่แพ้แบบอื่น เพียงแต่ขนาดห้องเล็กหน่อย และระเบียงสัมผัสวิวอาจจะไม่ว้าวเท่ากับนอนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบบ้านต้นไม้ หรือมองออกไปเห็นทุ่งนากว้างสุดสายตาแบบห้องพูลวิลลา แต่เราก็ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมสระน้ำและแม่น้ำน้อยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะยามเย็นพระอาทิตย์ตก สวยงามเหลือเกิน

ห้องพักแบบห้องเดี่ยวบนอาคาร โอ่อ่า สะดวกสบาย เช่นเดียวกัน
บรรยากาศยามเย็น ริมแม่น้ำน้อย ที่สามารถมานั่งพักผ่อนชิลๆ ได้ โดยช่วงพระอาทิตย์ตก สวยงามและโรแมนติกมากๆ
อีกมุมหนึ่งของพระอาทิตย์ตกยามเย็น มองออกไปจากบริเวณสระว่ายน้ำรูปโดมตกแต่งด้วยซุ้มไม้อันแสนร่มรื่น
ทัศนียภาพอันสวยงามบริเวณสะพานที่ทอดลงสู่แม่น้ำน้อย แม่น้ำแห่งความสงบงามของอยุธยา

ส่วนเรื่องอาหาร ขอบอกว่าที่นี่มีให้เลือกไม่ซ้ำกัน มื้อเช้ากับเย็นเขาจะเสิร์ฟให้ที่ห้องอาหารริเวอร์ฟร้อนต์ เรสเตอรองต์ มื้อกลางวันที่ห้องอาหารไทย สตรีต ฟู้ดส์ และอาฟเตอร์นูนทีที่ห้องทีรูม นอกจากนั้นแม้เน้นเป็นอาหารปรุงด้วยส่วนผสมดีต่อสุขภาพ หลายอย่างนำมาจากสวนปลูกเองในธัญ แต่ก็มีสปอยบางเมนู เพื่อให้แขกไม่รู้สึกว่าใช้เวลาแบบสุขภาพจ๋าเกินไป

เริ่มจากมื้อเช้าที่เราได้ลิ้มรสชาติ มีทั้งเมนูไทยและฝรั่งให้เลือกรับประทาน เช่น ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย ข้าวต้มปลา เครปผักโขม ขนมปังอบชีสเห็ดแชมปิญอง แต่เด็ดสุดเห็นจะเป็น ข้าวต้มหอยเชลล์ ที่ห้ามพลาดเชียว! รวมถึงครัวซองต์ร้อนๆ เรียกน้ำย่อย รับประทานคู่กับแยมมะม่วงหรือแยมสตรอเบอร์รี ดีงามอย่าบอกใคร

ข้าวต้มหอยเชลล์ เมนูซิกเนเจอร์มื้อเช้าของที่นี่
หลากหลายความอร่อยยามเช้าให้เลือกรับประทาน
อยากอร่อยแบบฝรั่ง ก็มีให้เลือกลิ้มลองตอนมื้อเช้าเช่นกัน

สำหรับมื้อกลางวัน เน้นเป็นเมนูจานเดียว อาทิเช่น ผัดไทยกุ้งล็อบสเตอร์ ข้าวซอยขาเป็ดกงฟี รีซอตโตหมูตุ๋น เป็นต้น แต่ละเมนูอร่อยรสไม่น้อยหน้ากัน รับประทานแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจ

เมนูเป็ดกงฟี ยังไงก็ไม่ควรพลาด
เมนูของมื้อกลางวัน เลือกรับประทานได้ตามความชอบ

ตกเย็นมื้อแห่งความหรรษาริมแม่น้ำน้อย มีทั้งเมนูไทยและอินเตอร์หลากหลายให้เลือกอร่อยเช่นกัน โดยหลังจากออเดิร์ฟเบาๆ ด้วยเครื่องดื่มสดชื่นและซุปฟักทองรสกลมกล่อมแล้ว ก็จะมีเมนูหลักอย่างเช่น สเต็กเนื้อออสเตรเลีย ริซอตโตล็อบสเตอร์ หรือสำรับไทย เสิร์ฟมาไม่ขาดสาย พร้อมตบท้ายกับเค้กใบบัวบกท็อปด้วยไอศกรีมชาเขียวมัทฉะ อร่อยฟินอีกแล้ว

เครื่องดื่มเย็นๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น ก่อนจัดเต็มด้วยเมนูหลัก
ซุปฟักทอง ออเดิร์ฟเบาๆ ก่อนเริ่มเมนูหลัก
นี่แหละรีซอตโตล็อบสเตอร์ สุดแสนอร่อย
สเต็กเนื้อออสเตรเลีย ขอบอกพลาดแล้วจะเสียใจ

แล้วอย่างที่บอกไปก่อนหน้า ที่นี่เน้นให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและเติมเต็มพลังกายใจ พร้อมฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม จึงมีกิจกรรมและการออกกำลังกายให้เลือกหลายอย่าง เช่น โยคะ ไทชิ มวย อควา (การออกกำลังกายในน้ำ) ซุมบ้า จักรยานน้ำ ออนเซ็น นวดสปา แถมมีห้องเกลือดีท็อกซ์สารพิษ ห้องสตีม-ห้องซาวน่าช่วยปรับสมดุลร่างกาย และคลาสสอนขนมไทยกับสานปลาตะเพียนให้ย้อนอดีตอีกด้วย เรียกว่าตลอดเวลาที่พักผ่อนที่นี่มีแต่ความสุข สนุกสนาน ซึ่งทั้งเราและแขกคนอื่นๆ ต่างก็มาเล่นออกกำลังกายกันเกือบครบทุกประเภท

ปั่นจักรยานน้ำยามเย็นในแม่น้ำน้อย ท่ามกลางธรรมชาติแสนโรแมนติก
ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ดีมากสำหรับการออกกำลังกายไทชิ
คลาสออกกำลังกายแบบไทชิ จะมีตารางบอกผู้มาพักว่าบริการวันไหนและเวลาใดบ้าง ที่เห็นในภาพอยู่นี้ มีครูไทชิสอนนำ
เล่นไถสกู๊ตเตอร์แบบชิลๆ ภายในอาณาบริเวณของธัญ สนุกและได้ย้อนวัยด้วย
โซนออนเซ็นเป็นแบบรวมหญิงชาย ไม่ได้เปลือยแบบญี่ปุ่น โดยให้ใส่เป็นชุดว่ายน้ำแทน ภายในตกแต่งสวยงาม น่าออนเซ็นมาก
ถ่ายรูปก่อนเตรียมตัวเข้าออนเซ็นนิดหน่อย
ออนเซ็นอย่างมีความสุข ได้ผ่อนคลายทั้งกายและใจ

นอกจากนั้นบรรยากาศภายใน ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น ก็ยังมีความร่มรื่นและมุมสวยๆ งามๆ อีกเยอะทีเดียว ให้เราได้ชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นสระบัวกว้างใหญ่ สระน้ำตระการตา ทุ่งนาเขียวสดใส หรือสวนอันร่มรื่น

สระบัวที่ออกแบบอย่างงดงาม บ่งบอกคุณค่าแห่งความเป็นไทย
ทัศนียภาพบ้านต้นไม้ด้านที่ติดกับแม่น้ำน้อย
บรรยากาศยามเย็นบริเวณบ้านต้นไม้
อีกมุมหนึ่งของบ้านต้นไม้ มองขึ้นไปจากด้านล่าง
สะพานข้ามสระบัวโซนด้านหลังล็อบบี้
สัมผัสกับน้ำใสเย็นในสระว่ายน้ำที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย
พักผ่อนริมสระว่ายน้ำได้ทั้งยามเช้าและยามเย็น

ฟินและเต็มอิ่มขนาดนี้ คงมาเติมพลังพร้อมดื่มด่ำธรรมชาติกับ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น ครั้งเดียวไม่พอ เราขอปักหมุดมาพักบ่อยๆ อีกแน่ เพราะ #ของมันต้องมา จริงๆ นี่นา

• ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น เลขที่ 1 หมู่ 5 ตำบลกระแชง อำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยา 13190 จองห้องพักหรือสอบถามข้อมูล โทร. +66 3591 0910, Email : [email protected], fb : THANN Wellness Destination, ig : thannwellnessdestination, website : https://www.thannwellness.com/, การเข้าพักดูแลภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 มีการรักษาระยะห่าง พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยด้วยโปรโมชั่นพิเศษมากมาย



สุพัตรา

 วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.29 น.

ความคิดเห็น