เที่ยวเชียงราย 3 วัน 2 คืน  กับที่เที่ยวเชียงรายสุดชิค เชียงราย แต้ แต้ ออกไปสัมผัสกับเสน่ห์และบรรยากาศเมืองรอง เหนือสุดแห่งแดนสยาม

อะเริ่ม!!

        เริ่มที่แรกเลยและกัน ไปแวะไหว้พระกันก่อน วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ ตั้งอยู่บนดอย “ม่อนแสงแก้ว” ด้านในเป็นพุทธศิลป์และศิลปะต่างๆ ภายในวัดเป็นแบบผสมผสานกันอย่างสวยงาม คือ ศิลปะล้านนา ศิลปะไต (ไทยใหญ่) และศิลปะพม่า

        วัดแสงแก้วโพธิญาณ นั้นมีความหมายว่า ดอกบัวที่ผุดโผล่ขึ้นพ้นน้ำแล้วมีแสงสว่างเรืองรองเหมือนแสงแก้ว

          มุ่งหน้าสู่ดอยช้างต้องห้ามพลาด ชิมกาแฟที่ โรงงานกาแฟดอยช้าง ที่ได้ชื่อว่าเป็นกาแฟที่ดีสุดในประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง และยังได้รับรู้เรื่องราวที่มาที่ไป กว่าจะเป็นกาแฟดอยช้างอันขึ้นชื่อของเชียงราย 

        ร้านดอยช้างวิว แวะทานอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยและชมวิวสวยๆ ที่ร้านดอยช้างวิว (อร่อยจริงๆ) บอกเลย ชอบมาก 

          พุทธอุทยานดอยช้าง ชมความสมบูรณ์ของป่าไม้ในพุทธอุทยานดอยช้าง ใครที่ชอบถ่ายรูปแนะนำเลยที่นี่แสงสวยมาก บรรยากาศสงบ ร่มรื่น เย็นสบาย ปกคลุมด้วยป่าไผ่ เหมือนได้ไปเที่ยวป่าไผ่ที่ญี่ปุ่น

        บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำ 1 ใน 9 แห่ง ของน้ำศักดิ์สิทธิ์ น้ำศักสิทธิ์ที่นี่มักจะนำเข้าไปในพระราชพิธีสำคัญๆ ของประเทศเสมอ เช่นนำไปประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาภิเษก เนื่องในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา



วันที่ 2 ... ไปเที่ยวแบบวิถีท่องเที่ยวเชิงเกษตร เกษตรอินทรีย์ ตามแบบวิถีพอเพียง ที่ ไร่รื่นรมย์ กัน

         ที่นี่มีพักแบบกระโจมสุด Cool พร้อม กิจกรรมภายในไร่ เช่น มัดย้อมสีธรรมชาติ ปั่นจักรยาน ให้อาหารแพะและแกะ เดินชมแปลงและกิจกรรมอื่นๆตามฤดูกาล) ให้เราได้สัมผัสอย่างมากมาย และที่ขาดไม่ได้คือ กิจกรรมสาธิตการปลูกข้าว นาโยน สีข้าว เลี้ยงไก่ และการสปาสปาโคลน ไป ลองไปดูกัน

คุณ เปิ้ล ศิริวิมล กิตะพาณิชย์ ผู้ก่อตั้ง ไร่รื่นรมย์

มีการทำขนมครก และย่างข้าวเกรียบ ท่านกันด้วย

ได้ทดลองสีข้าว และมีข้าวสารห่อน้อยๆ ให้ติดไม้ติดมือกลับมาหุ้งทานกันที่บ้านอีกด้วย

กิจกรรมสปาโคลน ทำสปาเสร็จแล้วอย่าลืมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะ (อันนี้บอกเลยสนุกสุด)

กินข้าวแบบชาวทุ่ง ก็อร่อยดีนะ

ไปต่อกันที่ อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง  ชมหอคำ หอแก้ว ศาลาแก้ว ลานพระรูปปั้นแม่ฟ้าหลวง และศิลปะวัฒนธรรมแบบล้านนา จัดแสดงเครื่องใช้โบราณต่างๆ​

เปิดให้เข้าชม อังคาร-อาทิตย์ เวลา 8.30 - 17.00 น. ค่าเข้าชม
-คนไทย ราคา 100 บาท
-ชาวต่างชาติ ราคา 200 บาท
-เด็กนักเรียนและนักศึกษาอายุ 12-18 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ราคา 50 บาท

ไปเดินชิล ถ่ายรูปเล่นที่ สิงห์ปาร์ค 


วันที่ 3 ... มุ่งหน้าสู่ ไร่ชาฉุยฟง จิบชา กินเค้กชาเขียว แสนอร่อยสุดฟิน เดินถ่ายรูปชมวิว 

มาแล้วก็ต้องลองกินเค้กชาเขียว เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง น่ากินมากขอบอก

        อิ่มแล้วไปต่อได้ ขับรถไม่นานก็มาถึง วัดหิรัญญาวาส ชมพระพุทธรูปสานด้วยไม้ไผ่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็น Unseen Thailand เลยก็ว่าได้

            ด้านในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่ทำจากไม้ไผ่สานทั้งองค์ ซึ่งมีแนวคิดมาจากรัฐฉาน ของพม่า ใช้เวลาในการสานทั้งหมด 99 วัน โดยช่างฝีมือชาวพม่า มีหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 9 เมตรครึ่ง สามารถลอดใต้ฐานองค์พระเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ด้วย

        เจดีย์สานด้วยไม้ไผ่ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกประทานนามว่า พระธาตุสลีศรีจอมเงิน

บริเวณโดยรอบวัดหิรัญญาวาส

      ไหว้พระแล้วไปลุยกันต่อ เตรียมร่างกายให้พร้อม ไปเที่ยวนาขั้นบันได ห๊ะ!! อะไรนะ.... ฟังไม่ผิดหลอก ที่เชียงรายก็มีนาขั้นบันไดเหมือนกัน ที่บ้านลิไข่ นางแลใน

      ป่ะลองไปดูกัน

การเดินทาง ไม่ยาก!!

🔹️เดินขึ้นได้ หากใครมีแรงล้นเหลือ ก็สามารถเดินลัดเลาะตามไหล่เขาขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวประมาณ 2 กิโล ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง

🔹️ใครเดินไม่ไหว ก็มีมอเตอร์ไซวิบากของชาวบ้านไว้คอยบริการพาขึ้นไป ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ไปถึง ไปกลับ 150 บาท/คน แต่ควรติดต่อล่วงหน้าไว้ก่อน เนื่องจากรถยังมีค่อนข้างน้อย สายลุยต้องไม่พลาด มันส์มากจริงๆ .... สำหรับเรานั้น ไม่เดินแน่นอนจ้า

ทางขึ้นไปนาขั้นบันได จะวิ่งลัดเลาะไหล่เขา และน้ำตก

ถ้าใครจะไปแนะนำให้ติดต่อไปก่อนนะครับ สามารถติดต่อได้ที่คุณเฟิร์น 095-8588385 หรือคุณโยธิน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านลิไข่ 064-1937990
-มีโฮมสเตย์ รองรับได้ประมาณ 30 คน
-สามารถกางเต็นท์ได้ ด้านบนตรงจุดชมวิว มีห้องน้ำไว้รองรับ
-สามารถเที่ยวได้ช่วงเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ ซึ่งหากไปช่วงเดือนมกรา-กุมภา จะได้เห็นชาวบ้านใส่ชุดประจำเผ่ากันด้วย
-ห้ามรถส่วนตัวขึ้นไป เนื่องจากเส้นทางขึ้นไปแคบ และบางช่วงเป็นเหวลึก เหมาะกับมอเตอร์ไซวิบาก ซึ่งชาวบ้านจะชำนาญทางมากกว่า

เดินจนเมื่อยลงมานวดผ่อนคลายด้วยการนวดน้ำมันด้วยฝ่าเท้า ไฟลุกท่วม ๆ แนวล้านนาโบราณ กันดีกว่า

        มาที่นี่เราจะได้พบกับ ตุ๊เม หรือพระเมธาวินทร์ แสนธิ ผู้จัดตั้งโฮงฮอมพญ๋า ซึ่ง ได้ให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาก่อนจะมาเป็นโฮงฮอมผญ๋า ในปัจจุบัน และเป็นผู้เผยแพร่ความรู้ภูมิปัญญาแบบพื้นบ้านล้านนา ให้แก่คนในชุมชน เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดสานต่อองค์ความรู้ของบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น เป็นการสร้างความรู้ สร้างงาน ก่อให้เกิดรายได้ให้กับคนในชุมชนอีกทางหนึ่ง

       การนวดน้ำมันด้วยฝ่าเท้า ไฟลุกท่วม ๆ เรียกว่า ย่ำขาง ... เป็นวิธีการบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บแบบพื้นบ้านล้านนา ด้วยการใช้เท้าชุบน้ำมัน ย่ำลงบนขางที่เผาไฟจนร้อนแดง ก่อนย่ำบนตัวผู้ป่วย เพื่อบำบัดรักษาอาการปวดเมื่อยหรือเจ็บปวดตามร่างกาย

       สินค้าของชุมชน ... พายชีสสัปปะรดสูตรเด็ดของเชฟที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากสัปปะรดแท้ๆ มีความหอม ใส้สัปปะรดนุ่มไม่แข็งกระด้าง ที่สำคัญ ไม่หวานจากสารปรุงแต่ง นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ที่สกัดจากสัปปะรด ไม่เป็นพิษเป็นภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

      โฮงฮอมผญ๋า วัดพระธาตุดอยโอ่งเชียงราย ที่ตั้ง ตำบล นางแล อำเภอเมืองเชียงราย เชียงราย สอนหมอพื้นบ้านล้านนา เรียนฟรี ติดต่อ 090-2806924


ออกไปเที่ยวกัน สัมผัสกับเสน่ห์และบรรยากาศเมืองรอง เหนือสุดแห่งแดนสยาม  "เที่ยวไทยเท่ เที่ยวสไตล์ล้านนา เที่ยวเชียงรายก็เท่ได้ไม่เหมือนใคร" ที่นี่ก็ดีนะ


ที่นี่ก็ดีนะ 5365

 วันพฤหัสที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09.32 น.

ความคิดเห็น