เรื่องมีอยู่ว่าวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ อยากไปเที่ยวแต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี ก็เลยลองดูสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ เลยได้ชื่อจังหวัดราชบุรี ขึ้นมา เออน่าสนใจ ยังไม่เคยไปเที่ยวด้วย เคยอ่านแต่ในรีวิว ที่เที่ยวราชบุรีเยอะมาก ส่วนใหญ่คนชอบไปกางเต็นท์กัน จุดกางเต็นท์ดังๆหลายที่อยู่ราชบุรี  แต่นอนเต็นท์คงไม่ใช่ทางเราแน่ๆ  ค้นหาข้อมูลที่พัก มีน่าสนใจหลายที่ แต่เปิดไปเจอรถบ้าน น่าสนใจแฮะ ยังไม่เคยนอนรถบ้านเลยสักครั้ง ก็อยากรู้เหมือนกันว่ารถบ้านที่เค้าไปพักกันมันจะเป็นยังไง เค้านอนกันยังไง น่าสนุกดีนะ เลยตัดสินใจจองรถบ้านไป แล้วที่เที่ยวไม่ได้แพลนอะไรมาก กะว่าเดี๋ยวไปหาดูข้างหน้า ผ่านตรงไหนก็แวะ ตามมาดูกันครับว่าจะเป็นยังไง

การเดินทางของเราในทริปนี้ ไม่มีรถส่วนตัว : เราไปขึ้นรถตู้ที่หมอชิต ไปลงแถวๆ ม.ราชภัฏจอมบึง นั่งรถแป๊บเดียวประมาณ 2 ชั่วโมง พอถึงไปเช่ามอเตอร์ไซด์ที่ myway resort ที่ติดต่อไว้ แต่ราคาแอบแรง วันละ400บาท แต่ก็ไม่มีทางเลือก ลองหาข้อมูลรถมอเตอร์ไซด์เช่าในราชบุรีหายากมากๆ 

ทริปนี้เราเดินทาง 1-2 สิงหาคม 63 

ที่แรกที่เราไป คือ สวนอินทผาลัมคุณวินัย คือความตั้งใจ อยากจะไปลองอินทผาลัมสดๆจากต้น ว่ารสชาติเป็นยังไง

จากที่ได้ลอง เราว่าไม่อร่อย 5555 แต่กลับไปชอบ อินทผาลัมลอยแก้ว อันนี้เราว่าเด็ดมาก กินแล้วชื่นใจ อร่อยเลย

ช่วงบ่ายๆ เรามากันที่ถ้ำจอมพล อยู่ใกล้ๆกับราชภัฏจอมบึง ด้านนอกลิงเยอะมากครับ การจอดรถต้องระวังสิ่งของให้ดีๆ

ด้านนอกดูธรรมดามากครับ แต่พอเข้าไปด้านใน ถ้ำอลังการมาก

มีม่านหินงอก หินย้อย สวยมาก

หินรูปร่างแปลกตา สวยๆเยอะเลย แต่ข้างในค่อนข้างมืด ภาพก็เลยจะไม่ชัดเท่าไหร่ เป็นอีก1จุดเช็คอินที่ใครไปราชบุรี ควรแวะเลย

ไฮไลท์คือ ด้านในสุด จะมีปล่องเล็กๆ ถ้าไปตรงช่วงจะมีแสงส่องลงมา เป็นช่อง ลองดูในเนตภาพสวยมาก
ถามหลวงพ่อด้านใน เค้าบอกว่า เดือน เม.ย. กับ ส.ค. ต้องมาช่วงบ่าย  แต่วันที่เราไปอากาศครึ้มๆ เราก็เลยแต่งภาพขึ้นมาเพื่อความสวยงาม 555

ภาพจริงที่เราไปเห็น ประมาณนี้ครับ

จากนั้นเราก็ขับไปยังที่พัก กะไว้ว่าผ่านตรงไหนก็แวะ ปรากฏว่า พอดูที่พัก คือที่พักที่เราจองเนี่ย ชื่อ บ้านนากาแฟ เป็นคาเฟ่ด้วย  เปิดGPSดู เอ้าอยู่อำเภอบ้านโป่ง ตอนจองก็ไม่ได้ดู นึกว่าอยู่สวนผึ้ง 5555 เพราะว่าโซนที่เที่ยวจะอยู่แถวสวนผึ้งเป็นส่วนใหญ่  แต่อ่ะ ไม่เป็นไร ถือว่าพลาดเอง 555

มาดูบ้านพักกันครับ ที่พักของที่นี่จะเป็นรถบ้านทั้งหมดเลย มีอยู่ประมาณ 5-6 หลังนี่แหละไม่แน่ใจ ดูข้างนอกเหมือนเป็นคันเล็กๆนะ  แต่เดี๋ยวเข้าไปดูด้านในกัน หลังนึงพักได้สูงสุด 4 คน ราคาเริ่มต้นคืนละ 2000 บาทวันธรรมดา (ราคาแอบแรง)

ด้านในก็จะมีเตียงใหญ่ 1 เตียง กว้างนะ ผมสูง175 ยังเหลือพื้นที่ปลายเท้าพอสมควร

มีเตียง 2 ชั้น ล่าง บน แต่ใครนอนข้างบนระวังหัวโขก แคบหน่อย 555  พอดีตอนที่เราไปเราพัก 2 คน เค้าก็เลยไม่ปูเตียงตรงนี้

มองจากประตูทางเข้าก็จะประมาณนี้

ด้านข้างมีตู้เย็น มีเตาไมโครเวฟ แล้วก็จาน ชามช้อน แก้วน้ำ

ห้องน้ำ เล็กมาก จะแยกกันเป็น โถส้วมกับที่อาบน้ำ ตรงโถสวมนี่โอเคได้อยู่ แต่ตรงห้องอาบน้ำนี่แคบมาก 5555

บริเวณด้านนอก ก็จะประมาณนี้  

บรรยากาศดีอยู่ ค่อนข้างเงียบสงบ

มีภูเขาหญ้าจำลอง อยู่ตรงโซนคาเฟ่

ตกเย็นเราขับรถกันไปที่เขาหินงู จุดที่ใครๆก็ต้องมา มีสะพานโค้งล้อมรอบด้วยภูเขาหิน มีแอ่งน้ำอยู่ตรงกลาง เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเขาหินงู

มีเรือถีบให้เช่า

สะพานทอดยาว ลัดเลาะไปตามท้องน้ำ ท่ามกลางหุบเขา 

มุมถ่ายรูปที่นี่สวยมาก แนะนำไปช่วงเช้าหรือเย็นๆ ไปกลางวันแดดร้อนแน่ ถ่ายรูปไม่สวย แต่คนก็จะเยอะหน่อย

บรรยากาศดีเลยฮะ ในน้ำนี่มีปลาคราฟเยอะมากเลยนะ สามารถซื้ออาหารไปเลี้ยงได้

ระหว่างทาง เราหาซื้ออะไรไปย่าง จริงอยากได้กุ้ง หมึก แต่หาไม่ได้เลยได้หมู่ที่เอาไปทำหมูกะทะมาแทน 555 หล่นบ้างได้กินบ้าง  จากการที่สอบถามใกล้กับที่พักจะมีตลาด มีอาหารทะเลขาย ด้วยนะ แต่เรากลับไปค่ำเลยไม่ได้แวะ

บรรยากาศยามค่ำคืน วันที่เราไปมีเราพักเพียงหลังเดียว บอกเลยว่าเงียบสงบมาก

ยามเช้า ตื่นมาถ่ายรูปเล่นกันหน่อย อิอิ

ประตู หน้าต่าง เปิดได้นะ ถ่ายรูปก็เก๋ดี

ไปดูโซนคาเฟ่กัน ด้านบนเขาก็จะมีที่นั่งไว้ถ่ายรูป มีพร๊อพให้เช่าด้วยนะ เป็นผ้าปูพร้อมเซตถ่ายรูป 20 มั้งถ้ำจำไม่ผิด แต่เราไม่ได้เช่าหรอก 55

มีเป็นสะพานเป็นจุดถ่ายรูป

อุโมงค์ ต้นสน

โซนคาเฟ่ด้านใน ก็จะจัดมุมไว้ให้ถ่ายรูป มินิมอลดีนะ คลาสสิคๆ

สาวๆน่าจะชอบนะ

บริเวณด้านนอกก็จะประมาณนี้

อาหารเช้าคือดี ข้าวต้มกุ้งกับน้ำพั้นซ์

กุ้งเน้นๆ อร่อยมาก

มีสระน้ำด้วยนะ โดยรวมโอเคเลยนะ รถบ้านก็ไม่ได้ว้าวอะไรมากมาย แปลกใหม่ดี แต่ราคาแอบแรง 555 ชอบสุดคืออาหารเช้า คาเฟ่ดีงาม สำหรับคนที่ไม่ได้ไปพักก็สามารถแวะไปคาเฟ่ ถ่ายรูปชิลๆ โอเค มุมถ่ายรูปเยอะจริงๆ ได้ฟิลหลายบรรยากาศ ก็ลองแวะไปดูครับ เพจชื่อ baannakafe บ้านนากาแฟ ลองไป search ในfacebook ดูครับ

จากนั้นเราก็เช็คเอ้าแล้วไปกันที่สวนผึ้ง ไปแวะที่บ้านหอมเทียน

เต็มไปด้วยเทียนหอม มากมายหลายกลิ่น

ของฝากเก๋ๆ

มุมถ่ายรูปคลาสสิคๆ ออกแนววินเทจ

มุมถ่ายรูปคลาสสิคๆ ออกแนววินเทจ

ซื้อเทียนหอมกลับไปเป็นของฝากได้

ด้านในมีจุดชมวิวด้วย สวยมาก อย่างกับอยู่ภาคเหนือ บริเวณนี้มีร้านอาหาร มีก๋วยเตี๋ยว ส้มตำขาย ส้มตำเด็ดแนะนำเลย

ไปต่อกันที่ ตลาดโอ๊ะป่อย ที่เค้าแนะนำมาว่าต้องมาตอนเช้า เค้าจะมีใส่บาตรริมลำธาร แต่เราไปบ่าย ไปหาอะไรกินก็ได้

ของกินเยอะมาก ของกินแปลกๆก็มี

ขนมถ้วย ใส่ตะแกรงสาน คลาสสิค

ไฮไลท์คืออยู่ติด ริมน้ำ มีน้ำตกเล็กๆ บรรยากาศดีมาก

จากนั้นฝนก็ตกลงมาไม่หยุดหย่อน ทำให้เราไปแวะที่ไหนต่อไม่ได้ รอแล้วรออีกฝนก็ไม่หยุด ก็เลยเอารถมอเตอร์ไซด์ไปคืนร้านเช่า แล้วนั่งรถตู้กลับกรุงเทพ  เป็นอันจบทริป ราชบุรี  2 วัน 1 คืน  จริงๆ ราชบุรี ที่เที่ยวเยอะกว่านี้มาก โดยเฉพาะแถวโซนสวนผึ้ง  เสียดายที่ไม่ได้วางแพลนไปดีๆ เลยทำให้ทริปนี้ แทบไม่ได้เก็บที่เที่ยวอะไรมากมาย  แต่ก็ถือว่าเป็นทริปพักผ่อนชิลๆไม่ได้เร่งรีบแวะโน่นแวะนี่  ไม่เหนื่อย สนุกดีเลยฮะ แต่มีโอกาสครั้งหน้าต้องกลับไปซ้ำแน่นอน ราชบุรีเมืองเที่ยวง่าย ใกล้กรุงเทพ แล้วเจอกันครับ ^^

อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.45 น.

ความคิดเห็น