ไปเที่ยวเชียงใหม่ ณ บ้านแม่แดดน้อย (ตอนที่ 5)

highlight:

  • กินหมูกระทะ นอนดูดาว นึกถึงความหลัง

---------------------------------------------------------------------------------

หลังจากตอนที่แล้ว [ไปเที่ยวเชียงใหม่ ณ บ้านแม่แดดน้อย (ตอนที่ 4)] ที่เราไปเที่ยวกันมา ก็กลับมาที่ที่พักของเรา ซึ่งถ้ามาที่นี่เราจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย และอาหารในแต่ละมื้อก็ไม่เป็นข้อยกเว้นเช่นกัน ว่าพี่ๆ เขาจะทำอะไรให้เรากิน เราก็ต้องมาลุ้นเอานะจ้ะ 5555  

แล้วด้วยความเซอร์ไพรส์ในวันนี้ของเราก็คือ พี่อ้อมบอกว่าวันนี้เราจะกินหมูกระทะกันนน โอ๊ะะ หมูกระทะ *0* อยากกินอยู่พอดีเล๊ยยยย >///< และผู้ที่รับหน้าที่ก่อไฟให้เราก็คือพี่สิทธิ์นั่นเองจ้าาาา 

ชุดหมูกระทะสำหรับ 6 คนนนน ตอนแรกคิดว่าจะไม่พอกิน สรุปกินเท่าไหร่ก็ไม่หมดจ้าาา 5555 แต่ที่เราชอบที่สุดในชุดนี้ก็คือคุณเห็ดอันอวบอ้วน ที่ต้นใหญ่น่ากินม๊ากกก >//< 

ทุกคนดูลุ้นกันมากว่าพี่สิทธิ์จะรอดไหม 5555 ความรู้สึกตอนอยู่ที่นี่มันกันเองมากๆ อารมณ์แบบถ้ามาคนเดียวไม่รู้จักกับใครก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเท่าไหร่ เพราะเราคิดว่าทุกๆ คนที่มาก็พร้อมจะเปิดใจรู้จักกับคนใหม่ๆ กันทั้งนั้น บรรยากาศมันเลยดูกันเองมากๆ

งุ๊ยยยยคุณหมูกระทะะะ ตอนที่เริ่มกินกันตอน 18.30 อากาศก็เริ่มจะเย็นลง และยุงก็เริ่มออกล่าเหยื่อกันแล้ววววว ตอนแรกที่เราไม่มั่นใจตรงนาขั้นบันไดว่าโดนตัวอะไรกัน พอมาถึงตอนนี้เรามั่นใจมากๆ แล้วแหละว่ามันคือยุงงง โหดร้ายมากกก TT^TT

ไหนๆ ก็มาถึงบูเดอช่าแล้ว ถ้าไม่ได้มาลองชิมเหล้าบ๊วยก็เหมือนมาไม่ถึง คือใครอยากอินกับที่นี่มากๆ เราแนะนำเพลง บูเดอช่าของ I'm Jogging คือแค่ฟังก็อยากมาแล้วอะ 5555 แต่เสียดายเรามาผิดฤดู ก็เลยได้ลองชิมเหล้าท้อป่าแทน รสชาติคล้ายๆ ข้าวหมากแต่แรงกว่า 

ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ววว เราก็นั่งกินไปเรื่อยๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นดาวอะไรใดใดทั้งสิ้น ระหว่างที่กินๆ ไปช่วงประมาณทุ่นนิดๆ เราก็เงยหน้าดูท้องฟ้า ก็เลยเห็นกลุ่มดาวกระจุกตัวกันจางๆ 

เราก็เลยถามทุกคนขึ้นมาว่า "ทางช้างเผือกหน้าตาเป็นยังไง ใช่บนท้องฟ้าตอนนี้ที่เห็นไหม" สรุปคือใช่จ้าาา เห็นชัดมากๆๆๆๆๆ แบบไม่ต้องปิดไฟให้มืดก็มองเห็นนนนน เป็นการเห็นทางช้างเผือกด้วยตาตัวเองครั้งแรกในชีวิตเลย ไม่คิดว่าจะเห็นใกล้ขนาดนี้ สวยม๊ากกกก แต่ด้วยมือถือเราอะถ่ายไม่ติดอยู่แล้ว TT^TT

พอยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งหนาว และยุงก็ยิ่งกัด พี่โปเต้ก็เลยก่อกองไฟให้ อุณหภูมิที่วัดได้คือ 21 องศา แต่เป็น 21 องศาที่รวมความชื้นของน้ำค้างไปด้วย นั่งห่างจากกองไฟไม่ได้ลเยจริงๆ 5555

ฟีลนั่งผิงไฟดูดาวอันเงียบสงบ~~~ 

เราจำได้ว่าเราเคยนอนผิงไฟดูฝนดาวตกที่ลานบ้านสมัยช่วงสมัยเด็กๆ ที่หน้าหนาวยังหนาวมากๆ อยู่ แล้วก็มีดาวเต็มฟ้าเลยยย จากนั้นความทรงจำในช่วงเวลานั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา เพราะบ้านเราไม่หนาวมากและเห็นดาวไม่ชัดอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่พอมาที่นี่มันเหมือนได้นึกย้อนถึงวันเวลาเก่าๆ ในอดีตอีกครั้ง และที่คำคัญที่นี่เห็นดาวใกล้กว่าที่ลานบ้านสมัยก่อนเย้ออออ 

ทุกวันนี้เราอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสีที่ตีสองยังไม่มีความเปลี่ยวใดใด พอได้มาพักสงบในที่แบบนี้ นั่งดูดาว พร้อมกับอากาศเย็นๆ คือมันเหมือนฝันเลย อยากให้เวลาหยุดอยู่ที่นี่นานๆ ขนาดเราที่ยังไม่อินกับการดูดาวยังชอบมากๆ เลย ควรค่าแก่การมาอย่างยิ่ง

อันนี้คือถ่ายด้วยกล้องไอโฟน มันจะได้ดาวรางๆ มาประมาณนี้ แต่ของจริงคือดาวเยอะม๊ากกกกกกกกกก ก็ได้แต่เก็บภาพด้วยตาตัวเองให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วกันน ถ้ามีโอกาสได้มาอีกคงต้องหากล้องถ่ายดาวมาด้วยแล้ววว 55555 มันสวยมากจริงๆ นะ

(ขอขอบคุณภาพจาก: เคอร์ฟิว)

ตรงยอดไม้อันนี้เป็นตำแหน่งของทางช้างเผือกพอดีเล๊ยยย 

(ขอขอบคุณภาพจาก: น้องบี)

จบไปแล้วกับความประทับใจต่างๆ ของ DAY1 ที่แม่แดด มีความครบรสหลายอารมณ์ที่เราชอบมากกกก ส่วน DAY 2 ที่แม่แดดเราจะได้ไปไหนกันบ้างต้องติดตามในตอน [ไปเที่ยวเชียงใหม่ ณ บ้านแม่แดดน้อย (ตอนที่ 6)] และสามารถติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ [https://th.readme.me/id/JKtrytotry] หรือพูดคุยกันได้ในเพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน

Try to try ก็แค่ออกไปลอง

 วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.04 น.

ความคิดเห็น