เอราวัณในหนึ่งวันของฉัน

แผนการเที่ยวน้ำตกในหน้าฝนเกิดขึ้นหลังจากที่ไม่ได้เที่ยวมานาน หนึ่งในคณะการเดินทางอยากไปสัมผัสสายน้ำเย็นๆ ใสๆ ที่ชื่นฉ่ำในกลางป่าและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก สถานที่ที่เหมาะสุดก็คงจะต้องเป็นน้ำตกเอราวัณ น้ำตกใสๆสีคล้ายมรกตที่ขังอยู่ตามแอ่งต่างๆ แทบจะทุกชั้น น้ำตกนี้มีทั้งหมด 7 ชั้น มาดูกันว่าเรามนุษย์ผู้ที่ไม่ออกกำลังกายเลยจะเดินได้ครบ 7 ชั้นหรือไม่ พวกเราเริ่มเดินขึ้นน้ำตกตอนบ่ายโมงกว่าๆ แต่เพิ่งเริ่มเดินก็ต้องหยุดถ่ายรูปแล้วเพราะสายน้ำขาวๆ นั้นดึงดูดเราให้เราหยุดมอง

ออกจากตรงนี้ก็เริ่มต้องเดินขึ้นบันไดเพื่อไปน้ำตกชั้นที่ 1 ชื่อไหลคืนรัง สายน้ำขาวๆใสๆไหลลงมาตามซอกหินก่อนจะไหลมารวมกันเป็นแอ่งน้ำไสๆ น่าลงไปนั่งแช่ตัวมาก

เดินไปอีกนิดหนึ่งก็จะเจอชั้นที่ 2 ชื่อวังมัจฉา ชั้นนี้คนค่อนข้างเยอะหน่อย การจะถ่ายรูปก็ต้องใจเย็นๆ หรือไม่ก็ต้องเดินหามุมเอง

หลังจากรอจนได้รูปของน้ำตกที่ชั้น 2 แล้วก็เดินต่ออีกไม่ถึง 200 เมตร หรือถึงก็ไม่รู้แต่ความรู้สึกคือมันไม่ได้ไกลกันมาก ก็มาถึงชั้นที่ 3 ชื่อผาน้ำตก ว่าชั้น 2 คนเยอะแล้วชั้นนี้ยิ่งเยอะเข้าไปอีก เล่นน้ำกันเสียงดังท่าทางสนุกไม่น่าจะเลิกง่าย(ฮา) ทางเราเลยเลี่ยงเดินไปหน่อยเพื่อถ่ายมุมอื่น

เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอน้ำตกเล็กๆ ระหว่างทางไปชั้น 4 ก็ขอเก็บภาพไว้หน่อยเพราะนางก็สวยไม่แพ้ชั้นที่เป็น main ทั้งหลายเลย

step การเดินของเราคืบไปอย่างช้าๆ หยุดทุกจุดเล็กจุดน้อยทำให้ช่วยลดอาการเหนื่อยลงไปได้บ้าง ในที่สุดก็มาถึงชั้นที่ 4 ชื่ออกผีเสื้อ ชั้นนี้เรียกได้ว่าตรงกับชื่อมาก น้ำตกที่ไหลแยกออกมาตามร่องของโขดหินที่รูปร่างคล้ายส่วนของหน้าอกจริงๆ

จากชั้น 4 ไปชั้น 5 ทางเดินเริ่มไม่มีคอนกรีดแล้วเรียกได้ว่าธรรมชาติล้วนๆ แล้วที่สำคัญระยะทางห่างไกลกันมากเดินยังไงก็เหมือนจะไม่ถึง ทางออกของความเหน็ดเหนื่อยคือการหยุดพักถ่ายรูปไปเรื่อย จากความเหนื่อย ณ จุดๆ นี้รากไม้ทางเราก็ว่าน่าหยุดถ่ายรูปเอามากๆ(ฮา)

และแล้วการเดินทางอันยาวไกลก็มาถึงชั้นที่ 5 ชื่อเบื่อไม่ลง เราว่าเราชอบน้ำตกชั้นนี้สุดเพราะความที่มันมีแอ่งน้ำสีมรกตลดหลั่นกันไปเรื่อยๆ ดูแล้วสวยงามมากแบบเบื่อไม่ลงสมชื่อชั้นมากๆ

ระหว่างทางจากชั้น 5 ไปชั้น 6 ก็แวะอีกแล้ว เมื่อมองเข้าไปช่องๆ หนึ่งแล้วเห็นน้ำตกเล็กๆ ไหลลงมาจากช่องของป่าลงมาอย่างสวยงาม เราว่าตรงนี้สามารถแทนน้ำตกชั้น 3 ได้มีความคล้ายกันมากแค่เล็กกว่าและไม่มีแอ่งให้เล่นน้ำเท่านั้นเอง

และเราก็เดินเลยน้ำตกชั้นที่ 6 ชื่อดงพฤกษาไปแบบไม่รู้ตัว(ฮา) ไม่รู้ความเหนื่อยหรือความรีบเพราะเวลาตอนนี้ใกล้บ่าย 3 โมงครึ่งเข้าไปทุกที กลัวไปไม่ถึงชั้น 7 แต่ระหว่างทางดันมองไปเห็นน้ำตกในป่าที่ไหลเป็นสายแบบครึ่งวงกลม คือมันสะดุดตาจนต้องเดินเข้าไปถ่ายรูปเก็บไว้

ตรงนี้เราก็ใช้เวลาพอสมควร พอออกมาและกำลังจะเดินต่อไปชั้น 7 ชื่อภูผาเอราวัณ ก็เห็นผู้คนกำลังเดินทยอยลงมา ทางเราก็กำลังจะสวนขึ้นไปแล้วก็ได้รับคำบอกเล่าจากคนที่เดินลงมาว่าเจ้าหน้าที่ให้ทุกคนลงไปแล้วเพราะเค้ากำลังจะปิด อ้าว! พลาดแล้วเราเพราะมัวแต่อ้อยอิ่งจนลืมดูเวลาและพลาดขึ้นไปชมความงามที่ชั้นสุดท้าย ถ้าใครจะมาแล้วต้องการเดินให้ครบ 7 ชั้นก็เผื่อเวลากันด้วยนะจ๊ะ