ป.ล. รูปเยอะมากๆ ต้องขออภัย 

ป.ล.2 รูปทั้งหมดจากกล้องมือถือ

ป.ล.3 ถ่ายรูปติดใครมาต้องขออภัยด้วยครับ

 ***หากมีข้อมูลผิดอะไรในกระทู้นี้ ขอความกรุณาแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องด้วยครับ***

นี่เป็นทริปต่างจังหวัดทริปแรกหลังที่ผ่อนคลายการเดินทางท่องเที่ยวได้ ทริปนี้เดินทาง 3-5 กรกฎาคม 2563 เราสมัครร่วมทริป "นั่งรถเขียวเที่ยวป่าละอู" ของ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ไว้ เริ่มการเดินทางด้วยรถไฟธรรมดาขบวน 261 กำหนดออกจากสถานีกรุงเทพเวลา 9:20 ยังพอมีเวลาก็เลยเดินเก็บภาพที่หัวลำโพงสักนิด

รถออกช้ากว่ากำหนด 26 นาที พอมาถึงสถานีรถไฟราชบุรี เรารีบมุดหัวออกไปตามหาก๋วยเตี๋ยวทันที ได้มา 2 กล่อง คนเรียกลุงแกเยอะแกขายไม่ทัน

แดดดีมาตลอดทางเลยจนกระทั่งมุดอุโมงค์เข้าเขตหัวหินฟ้าครึ้มมากและแล้วฝนก็กระหน่ำเลย ตกหนักมาก ทุกคนรออยู่ที่สถานีรถไฟจนฝนหยุดก็ออกเดินไปที่พัก รอบนี้เราเลือกพักที่ Cloud 9 Hotel ดูจากในภาพสวย และใหม่ แถมราคาไม่แพงด้วย พอไปถึงก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ตรงปกมาก ดีเกินราคามากๆ ใกล้โต้รุ่งนักท่องเที่ยว ใกล้โต้รุ่งคนท้องถิ่น เดินไปทะเลก็ไม่ไกล จองห้อง 6 เตียงมาก็อัพเกรดให้เป็นห้อง 4 เตียง ระบบเข้าห้อง ผ่านประตู lobby กดรหัสทั้งหมด เราได้เตียงบน ที่นอน หมอน ผ้าห่มนุ่มและใหม่ ได้โซนหน้าแอร์พอดี

ห้องน้ำรวมของผู้ชายกัน มีทุกอย่างครบ ห้องอาบน้ำ 3 ส้วม 3 ห้องอาบน้ำ+ส้วม 1 โถฉี่ 3 อ่างล้างหน้ายาว

ปิดท้ายด้วยส่วนกลางที่เราสามารถใช้ร่วมกันได้ (โซนนั่งเล่นประจำชั้น ครัว และ rooftop)

จัดของเข้าที่ พอฝนหยุดก็ออกมาชายหาดทันที วันแรกของการมาหัวหินก็ได้แค่เท้าแช่น้ำ ยังไม่มีโอกาสลงทั้งตัว

เดินได้ไม่นานก็เริ่มหิวจนต้องรีบไปตลาดโต้รุ่งของคนท้องถิ่น ตั้งใจจะไปกินทอดมันร้านขนมจีนเจ้รุ่ง ซอยหัวหิน 55 แล้วก็ได้กินสมใจ ขนมจีนให้เยอะ ผักกะหล่ำปลีและมะเขือ (ใส่แกงเขียวหวาน) แช่อิ่มสูตรที่ร้านเอง มันดี กินง่ายดี

เดินมาต่อร้านขนมหวานข้างร้านสะดวกซื้อ เราเลือกทับทิมกรอบ-เผือก

ตรงข้ามกันเป็นโคขุนย่างไม้ละ 10 บาท ก็จัดมาอีก 5 ไม้

ไปเดิน night market (อันนี้ที่เขาไว้ขายนักท่องเที่ยว) เป็นคืนวันศุกร์ที่เงียบมากจริงๆ คนน้อยมาก ของก็ขายไม่มากเหมือนก่อนโควิด

ใจอยากกินข้าวเหนียวมะม่วงอีก แต่ท้องแน่นเกินไปแล้ว สรุปกลับที่พักอาบน้ำนอน คืนแรกเรามีคุณฝรั่งร่วมห้องอีกคน ห้องเงียบมาก และคุณฝรั่งก็เปิดแอร์ 18 องศา ฉ่ำมากจริงๆ

เช้าวันที่ 4 กรกฎาคม 2563 เรามีทริป "นั่งรถเขียวเที่ยวป่าละอู" ออกเดินจากที่พักไปสำนักงาน ททท. ประมาณ 2 กม. ระหว่างทางก็ได้ข้าวเหนียวหมูหวาน 2 กล่องเป็นมื้อเช้า

30 นาทีก็ถึง เรามาพร้อมฝนปรอยๆ พอลงทะเบียนเสร็จก็รอเวลารถออก กำหนดการวันนี้ก็ตามที่แจ้งไว้แล้วตามนี้

ล้อหมุนตรงเวลา 8:30 เราเลือกนั่งคันที่ 2 เพราะคนน้อยกว่า

ทริปจอยนี้เป็นทริปที่เราพูดและปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นน้อยมาก เป็น New Normal ในการเที่ยวของเราด้วย ใส่หน้ากาก เว้นระยะ พูดน้อย ก็เลยอาจดูหยิ่งๆ แต่จริงๆ ไม่หยิ่งแค่เป็นบ้าเฉยๆ ขออภัยเพื่อนร่วมทริปด้วย

จุดแรกที่มาชมก็คือกลุ่มอนุรักษ์ผ้าฝ้ายทอมือ หมู่บ้านเฉลิมพระเกียรติพัฒนา ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ลงรถปุ๊บได้รับของว่างเป็นขนมใส่ไส้ (อีกอย่างอะไรไม่รู้ เรากินชิ้นเดียว) พร้อมน้ำ 1 ขวด ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งรถเขียว 1.5 ชั่วโมง ด้านในจะมีการทอผ้าแบบกระตุก มีคุณยายอายุ 87 ปีร่วมทออยู่ด้วย พี่ๆ ก็ใจดี อธิบายและตอบคำถามตลอด

จุดที่ 2 เป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลย (สำหรับเรา) ต้นทุเรียนต้นแรกของป่าละอู ในสวนของป้าช้วน กลัดเงิน ชาวกะเหรี่ยง (ที่นี่เรียกกะหร่าง) ได้รับพระราชทานพันธุ์กล้าทุเรียนหมอนทองจากสมเด็จย่า เมื่อปี 2509 ตอนนี้เหลือต้นนี้ต้นเดียว ส่วนต้นอื่นๆ ก็นำพันธุ์มาปลูกใหม่ ลูกดกมาก

จุดต่อไปเป็นไฮไลต์ของคนอื่นที่มีเป้าหมายมาซื้อทุเรียนป่าละอูกัน มาที่สวน ป.ป่าละอู ทุเรียนคัดก.ก.ละ 200 บาท เราก็ได้มา 2 ก.ก. กินให้ฉ่ำใจไปเลย กรอบ อร่อย กลิ่นไม่แรง มีรสซ่าแปลกๆ แต่รวมๆ แล้วมันสมราคาจริงๆ

ถึงเวลาอาหารเที่ยง ทริปนี้มากินที่ร้านครัวชายเขา พร้อมชมวิวป่าละอู อาหารอร่อย รสจัด เราได้กินไข่เจียวพระอาทิตย์ครั้งแรกด้วย ปิดท้ายด้วยผลไม้เป็นทุเรียนป่าละอูและมังคุด ปกติเราเป็นคนกินเก่งมาก แต่รอบนี้เก็บท้องไว้กินทุเรียนที่ซื้อมา เอาเข้าโรงแรมไม่ได้

จุดสุดท้ายของทริปมาที่ "งานของดีตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ครั้งที่ 8" ได้ชิมนมอัดเม็ดรสทุเรียน ที่มีเฉพาะโรงนมห้วยสัตว์ใหญ่ ทุเรียนป่าละอู มังคุด ของกิน ของฝาก ส่วนเรายังไม่กลับบ้านก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรเพิ่มแล้ว

ถึงเวลากลับเข้าตัวหัวหินแล้ว ขากลับเราขอลงที่ตลาดฉัตรไชย จะได้เข้าที่พักเลย ของที่ระลึกของทริป "นั่งรถเขียวเที่ยวป่าละอู" คือผ้ากันเปื้อนน่ารักๆ ผืนนี้

เข้าที่พักไปจ่ายเงินคืนที่ 2 ก่อนจะออกมาร้านกาแฟ Coffee man ทางลงหาด นั่งคุยกับพี่เจ้าของร้านหลายเรื่อง พี่เขาเล่าให้ฟังว่ากำลังจะเปิดถนนคนเดินที่บริเวณนี้ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมา ทำจุดนี้ให้คึกคัก ไม่มืด ไม่เปลี่ยว ให้นักท่องเที่ยวที่กินมื้อเย็นเสร็จได้เดินย่อย เดินชม เดินซื้อของอย่างปลอดภัย จะขายได้ไหมยังไม่รู้แต่จุดนี้จะไม่เปลี่ยวและมืดอีกต่อไป เออเราชอบความคิดนี้นะ แต่ก็อยากให้ขายได้ คนขายจะได้มีกำลังใจมาเปิดร้าน

ลงหาดมาก็เดินมาด้านขวาไปที่จุดประจำที่เราจะเล่นน้ำ นั่งเล่น หรือกระโดดถ่ายรูป

ใกล้ๆ กันทั้ง 2 ด้านจะคนเยอะมากเลย แต่จุดนี้มาทีไรก็เงียบ ไม่มีคน ตามภาพเลย

แช่น้ำอยู่ 2 ชั่วโมงจน 2 ทุ่มกว่าเพื่อจะรอฟ้าเปิด อยากได้รูปพระจันทร์เต็มดวงสะท้อนแสงในน้ำทะเล แล้วมีเราแช่น้ำในเงาแสงจันทร์นั้น แต่แช่จนเหี่ยวฟ้าก็ไม่เปิด ได้มาแค่นี้

เดินมากินมื้อเย็นที่โต้รุ่งเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนเป็นร้านหอยทอดข้างร้านขนมจีน สั่งหอยนางรมทอดกรอบ

และมาจบที่ขนมหวานร้านเดิม วันนี้สั่งเป็นซาหริ่ม-เผือก ใครชอบเผือกต้องมาโดน ร้านนี้เผือกดีงามมาก

กลับเข้าโรงแรมอาบน้ำ เตรียมนอน แต่คืนนี้คนเต็มและมีวงแอลกอฮอล์ทุกชั้นเลย เพลงดังคนก็เสียงดัง จนเราต้องออกมานั่งริมหาดอีก

จนเกือบ 5 ทุ่มก็กลับมานอน แต่ก็ยังไม่เงียบ ส่วนคุณฝรั่งนั้นกลับมาตี 1 เสียงเงียบพอดี คืนที่ 2 มีอีกคนมานอนด้วย คนนี้ปรับแอร์ที่ 28 องศา จากคืนแรกโดน 18 กลายเป็นร้อนจนเรานอนไม่ได้อีก 5555

เช้าวันสุดท้ายของทริปหัวหินเป็นถิ่นมีหอยก็เลยตื่นเอา 10 โมงแล้วเช็คเอ้าท์เลย ก่อนออกสั่งกาแฟของที่พักมาชิม กลิ่มหอมใช้ได้เลยนะ

ได้ตั๋วขากลับแล้วก็ไปหาของกิน ไม่พูดถึงของคาวดีกว่าไม่ประทับใจ ข้ามมาของหวานกับกาแฟร้านกาแฟสถานีรถไฟกัน เข้ามาแอร์เย็นฉ่ำมาก ร้านเงียบ มีเราเป็นลูกค้าคนเดียว เค้กหวานตัดกับกาแฟไม่หวานได้ดี

กินไปได้ไม่ถึง 10 นาทีคนมาจากไหนกันล้นร้าน เราเลยออกมานั่งด้านในสถานี รอเวลากลับบ้าน แดดมาดีเอาวันกลับ เสียดายมาก

รถออกล่าช้านิดหน่อย เพราะออกจากกรุงเทพฯล่าช้า ระหว่างทางฟ้าก็ใสมาตลอด

ชอบวิวต้นตาลเวลาเข้าเพชรบุรีมาก มันเป็น Signature ไปแล้ว

ขากลับรถแน่นมาก

ไม่มีเว้นระยะห่าง นั่งเกยตักกันเลย และก็เจอเด็กๆ นั่งสูบบุหรี่ใต้ป้ายห้ามสูบบุหรี่กันเลยทีเดียว ทำไมต้องสูบ และทำไมต้องสูบในที่ห้ามสูบ เราเคยสูบบุหรี่แต่ก็ไม่เคยสูบในที่ห้ามสูบ หรือไปสูบรบกวนคนทั้งขบวนแบบนี้ ขอบ่นหน่อยเถอะ ขาไปก็เจอเด็กๆ สูบบุหรี่บนรถเหมือนกัน

พอมาถึงสถานีราชบุรีก็เหมือนเดิมก๋วยเตี๋ยว 10 บาทมาอีก 2 กล่อง

ก่อนถึงบางซื่อเราเห็นพระจันทร์ดวงใหญ่มาก พยายามถ่ายมาจนถึงหัวลำโพงถึงได้

จบทริปแรกหลังจากผ่อนคลายจากสถานการ์โควิด-19

- ขอขอบพระคุณ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ที่จัดทริปดีๆ แบบนี้ และเจ้าหน้าที่ททท.ที่ตอบไลน์ให้คำแนะนำต่างๆ ด้วย เราประทับใจมาก

- ขออภัยเพื่อนร่วมทริปที่เรามีปฏิสัมพันธ์น้อยมากจริงๆ อย่างที่บอกมันคงเป็น New Normal ในช่วงนี้ เราไม่ได้หยิ่งจริงๆ

ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 23.39 น.

ความคิดเห็น