สะพานมอญ สังขละบุรี สุดเขตแดนสวรรค์ตะวันตก

สังขละบุรี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของใครหลายคนที่มาเยือนจังหวัดกาญจนบุรี รายล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งภูเขา แม่น้ำ น้ำตก และเสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวมอญแบบอันเรียบง่าย มีสะพานไม้ที่ถือว่ายาวที่สุดในประเทศไทย เชื่อมความสัมพันธ์ของชุมชนริมสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย ถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสกันอย่างไม่ขาดสาย


DAY 1

FM Cafe' & Steakhouse - สะพานแขวน วัดท่าขนุน - น้ำตกเกริงกระเวีย - สะพานมอญ

----------------------------------

ทริปนี้เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ ออกเดินทางแต่เช้ามืด ขับรถไปเรื่อยๆ เข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ไปตามเส้นทางถนนแสงชูโต หรือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ซึ่งเป็นทางหลวงแผ่นดินภาคตะวันตกของประเทศไทย ที่เริ่มต้นจากถนนเพชรเกษมผ่าน อ.บ้านโป่ง (ราชบุรี) เข้าสู่ จ. กาญจนบุรี สิ้นสุดที่ด่านเจดีย์สามองค์ สายๆ หน่อยเริ่มหิว ลองหาร้านที่จะแวะพักรถ พักคน เลยฝากท้องไว้ที่ร้าน FM' Cafe สถานีอิ่มสุข

ร้านสีฟ้าโดดเด่น อยู่ริมถนน มีที่จอดรถเยอะ มีสวนเล็กหน้าร้าน ส่วนด้านในร้านตกแต่งน่ารัก แอร์เย็น มีตุ๊กตาหมูเยอะมาก

ที่นั่งภายในร้านมีหลายโต๊ะเลย ร้านนี้นอกจากกาแฟ แล้วยังมีอาหารให้ทานด้วย เราสั่งสเต๊ก , พิซซ่า และข้าวผัดหมู รอไม่นานอาหารก็มา

สเต๊กหมูพริกไทยดำ (90฿) หมูนุ่ม รสชาตออกหวานนำเล็กน้อย ปริมาณก็เหมาะสมกับราคา

พิซซ่า ฮาวายเอี้ยน และ ข้าวผัดหมู

กินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ ระยะทางยังอีกยาวไกล ขับรถยาวๆ ไป ประมาณ 100 km ก็ถึงวัดท่าขนุน เห็นป้ายบอกทาง "ชมวิวสะพานแขวน วัดท่าขนุน" เห็นว่าเวลายังเหลือ เลยลองแวะเข้าไปดูซะหน่อย

เป็นสะพานแขวนเล็กๆ ข้ามแม่น้ำแควน้อย เชื่อมต่อระหว่างวัดท่าขนุนและตลาดทองผาภูมิได้สะดวกมากขึ้น สำหรับพระสงฆ์ใช้เป็นทางเดินไปบิณฑบาตรในตอนเช้าที่ตลาดทองผาภูมิและให้ชาวบ้านได้ใช้เดินทางมาทำบุญที่วัดท่าขนุน ไม่ต้องเดินอ้อมไกลๆ

มีไกด์น้องหมาเจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับและพานำเที่ยวด้วย

ออกจากวัดท่าขนุน ก็หลับจ้า ตื่นมาอีกที เพราะคนขับรถปลุก บอกว่าไม่ไหวแล้วขอแวะพักรถพักคนซักหน่อย เพราะคนขับก็ง่วงเหมือนกัน เลยแวะ "น้ำตกเกริงกระเวีย" ให้หายเมื่อย หายง่วง 

น้ำตกอยู่ติดถนน เสียค่าเข้า คนละ 40 บาท ด้านในร่มรื่น มีทางเดินไปยังด้านในน้ำตกทำไว้อย่างดี ผู้สูงอายุเดินไปได้สบายมาก น้ำตกใส สะอาด ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ มีร้านกาแฟชมวิวน้ำตกด้วย ถือเป็นจุดแวะพักที่ดี ก่อนขึ้นไปยังสังขละ

ออกจากน้ำตกเกริงกระเวีย ขับต่อไปอีก 40 กิโลก็ถึงที่พักเราแล้ว เราพักที่ "สามประสบรีสอร์ท" โซนบูทิค จะอยู่ด้านนอกประตูทางเข้าสามประสบ ตึกตรงที่ทำลูกศรชี้ไว้เลยจ้า

ราคาที่พัก สามประสบ โซนบูทิค คืนละ 1,200 บาท พร้อมอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ใช้สระว่ายน้ำของสามประสบได้ ห้องพักที่เราจองจะอยู่ด้านล่าง มาดูห้องพักกันค่ะ

ด้านในห้อง แต่ละห้องก็จะใช้ Wallpaper แตกต่างกันออกไป เราจอง 2 ห้อง ห้องที่เรานอน Wallpaper ลายตามากไปหน่อย แต่อีกห้องหนึ่งเป็นสีเรียบๆ สบายตากว่า

ห้องนำ้แยกส่วนเปียก-แห้ง ออกจากกัน

มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ

มีบ้านพักแบบ Pool Villa ด้วย หากสนใจก็ลองสอบถามราคากับทางสามประสบกันได้

เช็คอินเข้าที่พัก เก็บข้าวของเรียบร้อย พักผ่อนเอนกายนิดหน่อย แดร่มลมตกพอดี ไปนั่งเรือดูวัดจมน้ำกันดีกว่า พี่คนขับเรือบอก ไป 1 วัด 300 บาท ถ้าไป 3 วัด 500 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง งั้นก็ไป 3 วัดเลยซิคะจะรออะไร

ส่งสมาชิกร่วมทริปขึ้นเรือ ส่วนเราได้แต่ยืนมองเพราะลูกยังเล็ก ^_^ ไปค่ะ ลงเรือไปด้วยกันเร้ววว เรือ 1 ลำ นั่งได้ 6 คน มีเสื้อชูชีพให้ครบค่ะ ลูกทัวร์พร้อมแล้ว ไปเลยค่ะพี่

ไปกันไกลลิบๆ นู่นแล้ว ..... ถ่ายรูปสวยๆมาฝากด้วยน้าาาาา

ส่วนตัวเราเองก็เดินเล่นบนสะพานไม้ยามเย็น รอดูพระอาทิตย์ตก อากาศเย็นนิดๆ

มองไปทางฝั่งหมู่บ้านมอญ

มองกลับมาทางฝั่งรีสอร์ทสามประสบ

Check in สะพานมอญสังขละบุรี ... หนูมาถึงแล้วนะ^^

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เดินเล่น ถ่ายรูปจนลืมเวลา รู้ตัวอีกที เพื่อนๆที่นั่งเรือไปดูวัดจมน้ำ ก็กลับมากันแล้ว

และนี่คือรูปวัดจมน้ำที่เพื่อนร่วมทริปถ่ายรูปมาฝากค่ะ ตอนที่ไปน้ำค่อนข้างน้อย เห็นวัดเต็มๆเลย

เดินเล่นอยู่บนสะพานไม้จนฟ้าเริ่มมืด โคมไฟบนสะพานส่องแสงสว่าง โรแมนติกดีจัง ^^ ถ่ายรูปอยู่พักใหญ่ๆ ก็รู้สึกหิว ไปหาอาหารเย็นกินกันดีกว่าเนอะ..

สำหรับมื้อเย็นวันนี้เรากินที่สามประสบค่ะ เพราะเพลียและเมื่อยมาทั้งวันไม่อยากขับรถออกไปไหนกันแล้ว

บรรยากาศสะพานมอญยามค่ำ จากจุดชมวิวห้องอาหารสามประสบรีสอร์ท เห็นได้ทั้ง 3 สะพาน คือสะพานซองกาเลีย สะพานไม้ และสะพานแดง

อาหารเย็นวันนี้นั้น ไม่ได้ถ่ายไว้เลย TT ด้วยความหิวเข้าครอบงำ ทำให้ลืมตัวไปชั่วขณะ จบวันแรกด้วยรูปแสงไฟบนสะพานมอญยามค่ำค่ะ


DAY 2

ตักบาตรมอญ - วัดวังก์วิเวการาม - เจดีย์พุทธคยา - RAVI RIVA Cafe'

----------------------------------

ตื่นแต่เช้า (ได้ข่าวว่าอยู่บ้านตื่นสายตลอด 555) น้ำไม่อาบ แต่แปรงฟันนะ 555 เพื่อจะไปตักบาตรฝั่งมอญกันค่ะ ใครมาเที่ยวที่นี่ห้ามพลาดเลยนะคะ ถ้าไม่มีรูปตักบาตร จะรู้สึกค้างคาในใจไปตลอดทริป 55 ตอนเช้ามีหมอกบางๆ บนสะพานไม้ยามเช้าคึกคักพอสมควร หลายคนเลือกที่จะใส่ชุดมอญ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ

เดินข้ามไปตักบาตรทางฝั่งมอญค่ะ มีชุดตักบาตรชุดละ 99 บาท ไว้คอยบริการ มีชุดมอญให้เปลี่ยนฟรี

ตักบาตรเสร็จเรียบร้อย ก็ Shopping สินค้าพื้นเมืองซักหน่อยค่ะ ชุดสวยๆ กระเป๋าสาน เครื่องประดับ เครื่องเงิน ของเล่นเด็ก หรือจะเป็นสินค้าที่ทำไม้ เยอะแยะไปหมดเลย ... ได้เสียเงินอีกแล้ว^^

หากใครเป็นสายกิน ก็มีร้านอาหารเช้าแบบเบาๆ แต่หนักท้อง อย่าโจ๊กร้อนๆ โรตีโอ่งนุ๊มนุ่มเสริฟมาพร้อมนมข้น หรือจะเป็นขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย ให้ลองลิ้มชิมรสกันดูได้

ส่วนเราเองก็ลองชิมมื้อเช้ารองท้องจากร้านอาหารทางฝั่งมอญบ้างเล็กน้อย เพราะต้องเก็บพื้นที่ในท้องไว้กินมื้อเช้าที่สามประสบค่ะ ขากลับเดินข้ามสะพานมอญอีกรอบ หมอกยามเช้าหายไป สายๆ แดดเริ่มออก มองไปเห็นสะพานซองกาเลียอยู่ไกลๆ เป็นสะพานปูน สำหรับให้รถยนสัญจร ข้ามฝั่งไปยังหมู่บ้านมอญ รวมถึงวัดวังก์วิเวการาม และเจดีย์พุทธคยา

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตชาวมอญที่จะได้เห็นเมื่อมาถึงสังขละ คือการเทินของไว้บนหัวของหญิงสาวชาวมอญ ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

หมาน้อยผู้ท้าทายความสูงตัวนี้ ช่างเลือกที่นอนได้ ดีจริงๆ ไม่กลัวตกลงไปข้างล่างบ้างเลย

ลองเดินไปทางสะพานแดงดูบ้าง สะพานแดงเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านไทยกับหมู่บ้านกะเหรี่ยง

จากสะพานแดง จะมองเห็นสะพานไม้ทอดยาวข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เป็นมุมมองที่สวยไปอีกแบบ

อาหารเช้าที่สามประสบ เป็นบุฟเฟต์แบบอเมริกันเบรคฟาสท์ มีข้าวต้มและอาหารแบบไทย 3 อย่าง ขนมปังปิ้งเนย สลัดผัก ชา กาแฟ น้ำส้มกับน้ำเปล่าค่ะ

วิวสะพานไม้ยามเช้า จากห้องอาหารสามประสบรีสอร์ท

อีกด้านจะมองเห็นสะพานแดง และโค้งน้ำทอดยาวไปไกลสุดสายตา

ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย ก็เก็บข้าวของ Check out ออกจากที่พัก ไปวัดวังก์วิเวการามกันค่ะ

วัดวังก์วิเวการาม สร้างโดยพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเชื้อสายมอญ ท่านได้รวบรวมชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ รวมทั้งคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีช่วยกันสร้างขึ้น ปัจจุบันหลวงพ่ออุตตมะได้ละสังขารไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549

เจดีย์พุทธคยา หลวงพ่ออุตตมะ ริเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2521 โดยจำลองมาจาก เจดีย์พุทธคยาประเทศอินเดีย  ด้านหน้ามีรูปปั้นสิงห์ ศิลปะแบบมอญ 2 ตัว ยืนเฝ้าบันได้ทางขึ้น

ไหว้พระขอพรเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาต้องโบกมือลาสะพานมอญ สังขละบุรี กันแล้ว ขับรถยาวๆ จากสังขละลงมาถึงตัวเมืองกาญจน์ ก็เกือบบ่าย แวะหาอาหารมื้อเที่ยงทานกันที่ร้าน RAVI RIVA CAFE 

บรรยากาศด้านนอกร้านร่มรื่น เย็นสบาย อัดแน่นด้วยต้นไม้แทบทุกพื้นที่ มุมถ่ายรูปเยอะมาก มีรังนกไว้ให้ถ่ายรูปชิคๆ ชิลๆ ด้วย

ด้านในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจแบบยุโรป หลังคาใสๆ ดอกไม้ย้อยๆ มีของเก่า มาจัดเป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ กดชัตเตอร์กันรัวๆ ไปเลย

อาหารก็มีให้เลือกครบเลยค่ะ ทั้งของคาว ของหวาน เครื่องดื่ม ชา กาแฟ อันนี้คือหน้าตาอาหารที่เราสั่งมาค่ะ

อิ่มท้องแล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ หนทางยังอีกยาวไกล ขับรถไปแบบไม่รีบร้อน เปิดเพลงคลอเบาๆ ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพค่ะ ^^


ขอปิดท้ายด้วยภาพแห่งความทรงจำของเรานะคะ

แค่คิดถึงเรื่องเที่ยวก็มีความสุขแล้ว ยิ่งได้เห็นลูกยิ้ม หัวเราะ ก็ยิ่งเพิ่มพูนความสุขของเราให้มากขึ้น เราเชื่อว่าการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกทางหนึ่ง ให้เราเข้าใจกันมากขึ้น

ขอบคุณที่ติดตาม

--- ที่นี่ก็ดีนะ ---

ที่นี่ก็ดีนะ 5365

 วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.38 น.

ความคิดเห็น