Day 1 https://th.readme.me/p/35119

Day 2 https://th.readme.me/p/35332

อรุณสวัสดิ วันสุดท้ายที่เชียงใหม่  ยามเช้าที่น่าจะสดชื่น แต่เราไม่ค่อยจะสดชื่นสักเท่าไหร่ เพราะก่อนนอนเมื่อคืนปวดหัวมาก เนื่องจากเมารถเมื่อวาน เลยทำให้นอนไม่ค่อยหลับ แต่ก็รู้สึกนะว่าฝนตกตลอดคืน มีลุ้น ๆ

ที่นอนเสริม จะปู ข้าง ๆ เตียง ติดผนัง อาจทำให้อึดอัด แถมพักผ่อนน้อย ก่อนนอนคิดถึงผีใต้เตียง เลยทำให้ผีอำทั้งคืนเลย T_T แถมผียังพูดกับเราเป็นภาษา อะไรไม่รู้ 4 พยางค์ เรารีบลุกมากดคำแปลที่ google  แปลไม่ออก >>> แต่พอหวย งวด 1/11/63 ออก 40 04 ทั้งบนและล่าง แม่เราดันแปลได้ซะงั้น 555

ลุกจากที่นอน รีบเปิดหน้าต่างดู ปรากฏว่าเฮ้ย !! ไม่มีหมอกเลย .... จะเห็นได้ไงเพราะว่ามันยังมึดอยู่ แค่ตี 5 เอง อิ ๆ

รอฟ้าสว่าง ก็ได้กระจ่างเต็มตา โอ้แม่เจ้า ช่างสวยงามอะไรจะขนาดนี้

ยังไม่สว่างดี ไฟยังคงเปิดอยู่

ใครมานอนที่นี่ก็อย่าตื่นสายหล่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้เห็นของแถมจากธรรมชาติไม่รู้ด้วยนะ

สิ่งที่คิด กับสิ่งที่เห็น มันตรงปกมาก เราสอบผ่านแล้ว ไม่ต้องมาซ่อม ♥

ฝนยังคงตกเรื่อย ๆ พอซา ๆ หมอกก็จะปลิวมา

คนอื่น ๆ ยังใส่ชุดนอนมาถ่ายรูป หันกลับมา อุ๊ย คุณหลานสาว นางชุดพร้อมมาก 55 

และวันนี้ทั้งวัน จัดให้นางเลยก็แล้วกัน ทั้งทริป 

ใครชื่นชอบการถ่ายรูป หรือชอบให้ถ่าย ที่นี่เลย เหมาะมาก 

ไม่ว่าจะอยู่มุมไหน ก็สวยทุกมุม 

แอบถ่ายว่าที่ บ่าว-สาว มา pre-wedding ขอให้รักซื่อตรง ยืนยาวเหมือนดั่งต้นสนนะคะ ♥

สักพักแดดออกหมอกจะหายไป เลยไปทานข้าวที่ร้านอาหาร (หัวละ 100 บาท) จะมีข้าวต้ม ไข่ลวก ขนมปัง กาแฟ โอวัลติน ผลไม้ น้ำผลไม้ หน้าตาก็จะประมาณนี้ 

ขณะทานฝนก็ตกอีก รอฝนหยุด ก็เดินไปตามหา ที่พักส่วนของโรงแรม ทีเราจองไว้ ตอนแรก ว่าจะเป็นอย่างไร

ที่พักส่วนโรงแรม 2 ชั้น (ต้องขับรถมา) ไกลจากร้านอาหาร และจุดที่ถ่ายรูปพอสมควรเลย โชคดีของเราที่เปลี่ยนห้องได้ ไม่งั้น มีบ่นหูชาแน่ ๆ 55

และกลับเข้าที่พัก เก็บกระเป๋า เตรียมเช็คเอ้าท์ แต่ ๆ หมอกก็ยังมาอีก เลยต้องจัดไปอีกชุดใหญ่

ตอนหลังได้ร่มคันขาวจากเจ้าของรถตู้ที่เช่า และดอกไฮเดรนเยีย ที่คู่บ่าว-สาว เลยได้ภาพ ๆ มาเพิ่มอีก เอาเข้าไป

11 โมงได้เวลาก็ต้องจากลา ถ้าถามว่าสวยไหม ตอบเลยว่าสวยมาก ๆ แต่ให้มาอีกไหม ตอบเลยว่าไม่ เพราะว่าเราได้ 10/10 แล้วไง เลยไม่ต้องมาซ่อม และหลีกให้คนอื่นได้มาเห็นได้มาถ่ายรูปบ้างก็น่าจะดีกว่า

จาก สวนป่าดอยบ่อหลวง วันนี้เราจะไปถ่ายรูปกับดอกไม้ ที่ไม่ต้องไปไกลถึงเวียดนาม นั่นคือ ดอกไฮเดรนเยีย นั่นเอง (ก่อนไป เมื่อวานรู้แระว่าเมารถ วันนี้กินยากันก่อนเลย ให้ใครกินไม่ยอมกิน เดี๋ยวรู้เรื่อง)

จากสวนป่าดอยบ่อหลวง สัก 5 กิโลจะผ่าน สวนสนบ่อแก้ว แต่เราไม่ได้แวะ เพราะเคยมากันแล้ว จึงขับผ่านไป ยิงยาว ๆ ไป อ.จอมทอง ระยะทางประมาณ 70 กิโล แต่หนทางขึ้นเขาโค้งชัน ดังนั้นใครเมารถ อย่าลืมทานยาแก้เมารถก่อนหล่ะ

ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง พี่สาวบ่นตลอดทาง ต่อไปใครชวนมาไอ้ทุ่งอะไรเนี่ย อย่าชวนมานะ นั่งนาน ปวดหัว 555

และก็ถึง จุดที่ต้องต่อรถ

ทางเข้าไปชมทุ่งดอกไม้ของโครงการหลวง ทางจะไม่ค่อยดี รถตู้ หรือรถไม่แรง ไม่ควรขึ้นไป เพราะสงสารรถมาก เหมาชาวบ้านไปดีกว่าค่ะ คันละ 500 บาท ไป-กลับ นั่งได้ 8 คน คุ้มกว่า

เมื่อวานฝนตก วันนี้ทางเลยเละอย่างที่เห็น

มาดูคลิปเส้นทางว่าโหดแค่ไหน 500 บาท คุ้มไหม ที่จะเอารถไปเสี่ยง 

และก็ถึงแล้ว ไร่ดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ เริ่มดำเนินงานเมื่อปี พ.ศ. 2527 ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการส่งเสริมปลูกพืชเขตหนาวทดแทนการทำไร่เลื่อนลอย และเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้เกิดการพึ่งพาตนเอง ตลอดจนพื้นฟูและอนุรักษ์สภาพแวดล้อมให้มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากทางโครงการจะปลูกข้าว พืช ผลไม้เมืองหนาว และยังได้ปลูกดอกไฮเดรนเยียเพื่อส่ง โครงการหลวง ซึ่ง 1 ปี จะมีเปิดให้ชมเพียงครั้งเดียว คือช่วงตั้งแต่ เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ใครจะมาให้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนมานะคะ (เพราะเดือนที่เรามา ดอกยังบานไม่เต็มที่ ถ้าบาน 100% จะสวยขนาดไหน)

จ่ายค่าเข้าชม คนละ 30 บาท และมีตะกร้าใส่ดอกไม้ ไว้ให้เช่า ตะกร้าละ 30 บาท จัดเลยสาวน้อย

กรี๊ดสิ ลืมที่บ่นเมื่อกี้ไปเลย เมื่อได้เห็นดงดอกไม้ หลากสี

แดดไม่มี  มีแต่ละอองฝน ภาพอาจไม่แจ่ม แต่ที่แน่ ๆ มันสุดยอดมาก ๆ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว เลยส่วนตัวสุด ๆ 

ไอ้เจ้าดอกไฮเดรนเยียเนี่ย ดูใกล้ ๆ ใบอาจบอบบาง และช้ำ ๆ แต่มันเป็นดอกไม้ที่ขึ้นกล้องสุด ๆ เพราะจะถ่ายมุมไหน ก็สวยไปหมด

ก่อนมา ควรศึกษา วัน เวลา ว่าดอกไม้จะบานช่วงไหน และถ้ามาวันธรรมดา คิดว่าจะสวยสุด เพราะไม่ต้องแย่งถ่ายกับใคร

เลือกชุดให้พร้อม คิดว่าเดรสสีขาว  กับหมวกปีกกว้างสักใบ น่าจะดูดีที่สุด

ก่อนจะถึงโครงการหลวงขุนแปะ จะมีแปลงดอกไม้ ของชาวบ้าน แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปนะ ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร 

เคยดูรีวิว ของบางคน แปลงดอกไฮเดรนเยีย บางที่ ต้นจะเตี้ย ๆ ต้องนั่งถ่าย หรือแทบจะนอนถ่าย เราว่า ที่นี่ ต้นสูงดี และก็สวยมากด้วย 

วันนี้ก็เลยเป็นทริปของเจ้าหลานสาว เพราะอายุ และเสื้อผ้าได้ เลยเก็บภาพไว้ให้นางดูยามแก่  ต่อไป 

ถ้ามาตอนอายุเยอะ ๆ  เวลาจะขอให้ถ่ายภาพบ้าง อะไรบ้าง อาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ 55

นางแบบไปไหน เหลือแต่แม่นางแบบ กด ๆ ไปงั้น ๆ แหละ อยากหลับตานิ  (ขำ ๆ นะไว้อ่านตอนหลังกลับ 55)

หนูอยู่นี่

ที่แปลงดอกไม้ จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวขาย แต่เสียดายวันที่เราไป เจ้าของลงมาทำธุระข้างล่าง เลยอดทานเลย 

เราใช้เวลาอยู่บนนี้ 1 ชั่วโมง ได้ภาพสวย ๆ มาเยอะเลย ถามว่าคุ้มไหม กับการเดินทาง บอกเลยว่าคุ้มมาก ถ้าอายุยังน้อย ๆ อยากมีภาพสวย ๆ ก็จงมา แต่ถ้ารอให้อายุเยอะ ๆ แล้วมา ก็จะได้แค่มองเค้าถ่าย 555

ออกจาก โครงการหลวงขุนแปะ แวะทานข้าวกันที่ สวนอาหารปลาสาละวิน อยู่ ตำบล ท่าวังพร้าว อำเภอสันป่าตอง ร้านนี้จะขายอาหารเกี่ยวกับปลาที่จับได้จากแม่น้ำสาละวิน ชื่อแปลก ๆ ทั้งนั้นเลย และที่สำคัญ มื้อนี้เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของพวกเรา (เนื่องจากผิดหวังจากหมูกระทะ ที่น้ำจิ้มหวาน หยดย้อย ทั้ง 2 มื้อ)  

เมื่อท้องอิ่มก็จะไปเที่ยวงานเทศกาล “โคมแสนดวงที่เมืองลำพูน” ที่วัดพระะธาตุหริภุญชัย 

เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน เป็นส่วนหนึ่งของงานประเพณีลอยกระทง หรือ ประเพณียี่เป็ง ที่ปฏิบัติสืบทอดมายาวนาน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระธาตุหริภุญชัย และถวายสักการะพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน

*ขอขอบคุณภาพจากเพจ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.ลำพูน

แต่ ๆ มี ส.ว. 2 ท่านเมารถสิ (ตรูบอกแล้วให้กินยาแก้เมารถก่อนไปทุ่งดอกไม้ งอแง จะไม่ไป) จึงต้องตัดทิ้ง ตรงดิ่งไปสนามบินแทน 

การเดินทางท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องเก็บสถานให้ได้มากที่สุด ถ้าสถานที่นั้นสามารถหยุดให้เราอยู่นิ่ง ๆ ได้โดยไม่อยากไปที่ไหนอีก นั่นแหละคือสุดยอดของการได้มาเที่ยวแล้ว ^_^

ค่าใช้จ่าย ตกคนละ 4200 บาท ถูกโครต ๆ  ถ้าวางแผนดี สมาชิกเยอะ ทุกอย่างจะดีหมดว่าไหม

ทริปหน้าเจอกันอีกนะ เชียงใหม่ จองนานข้ามปี แถมเที่ยวฟรี อีกต่างหาก เพราะรัฐบาลออกที่พักให้ ไว้เจอกันจ้า แม่กำปอง 0 บาทกับโครงการ ชิมช้อปใช้ และค่าอาหารคนละครึ่ง บ๊าย บาย 

แตงโมเนื้อทราย

 วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 19.02 น.

ความคิดเห็น