ไปเที่ยวเชียงราย | หมู่บ้านลอบือ 101 (ตอนที่ 1)

highlights:

  • จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
  • วิธีการไป, สิ่งที่ต้องเตรียม, ข้อควรรู้
  • การเดินทางไปที่หมู่บ้าน

---------------------------------------------------------------------------------

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวใดใดในทริปนี้ก็คือ มาจากหน้าฟีต Facebook ของเราขึ้นมาว่ามีค่ายครูดอยอาสา ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระยะเวลาประมาณ 15 วัน ทำให้เรานึกถึงความฝันสมัยเรียนมหาลัยช่วงปี 1 ปี 2 ว่าอยากไปเป็นครูอาสาบนดอยสักครั้งในชีวิต แต่ก็ไม่เค๊ยยยยยไม่เคยจะกล้าไปสักที แต่พอได้ลองไปเที่ยวที่บ้านแม่แดดน้อย อ. กัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่ ที่ก็ลำบากประมาณนึง และนั่งรถนานมากกกกกกประมาณนึง ทำให้ความคิดที่จะไปเป็นครูอาสาก็กลับเข้ามาอีกครั้ง


แต่ถ้าจะไปครั้งแรกในที่ที่ลำบากมากๆ แล้วระยะเวลาตั้ง 15 วัน ได้ตายก่อนแน่นอน ก็เลยหาโครงการที่วันเวลากำลังดี ไม่สั้นเกินไปแล้วก็ไม่ยาวเกินไป หาไปหามาก็ไปเจอกับโครงการครูบ้านนอก ของมูลนิธิกระจกเงา ระยะเวลา 4 วัน 3 คืน ที่เชียงราย

เรื่องของเรื่องก็คือครั้งนี้เราอยากลองออกจาก Comfort zone ของตัวเราเอง โดยกะว่าจะไปคนเดียวไม่ชวนใครเลย มันเป็นความท้าทายทางจิตใจมากๆ อย่างหนึ่งเลยแหละ เพราะเราไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดคนเดียว (ไม่นับรวมกลับบ้านและเที่ยวกรุงเทพฯ) และไม่เคยไปเข้าร่วมกิจกรรมกับคนแปลกหน้าเยอะๆ ด้วย

ระหว่างที่คิดก็กดเข้าไปดูราคาตั๋วเครื่องบิน ตอนนั้นมันราคา 858฿ เราคิดว่าเป็นราคาที่พอรับได้ แต่ก็ยังไม่กดจองไป บอกกับตัวเองว่าถ้าวันรุ่งขึ้นตั๋วเครื่องบินมันไม่ขึ้นราคา จะกดจองไปเลย จะไม่คิดมากอะไรทั้งนั้นจองตั๋วให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน 55555555

ปรากฏว่าเวลา 00.01 น. ราคาตั๋วมันก็ยังเท่าเดิมอยู่ เราก็แบบ มันยังไม่ปรับราคาม้างงง เดี๋ยวขออ่านข้อมูลให้ระเอียดๆ อีกรอบก่อนค่อยกดจองก็ได้ (คือหาข้ออ้างให้ตัวเองอยู่ 5555) จนตีหนึ่งกว่าๆ ถึงกลั้นใจกดจองตั๋วไป และแล้วการเดินทางคนเดียวครั้งแรกกับการเที่ยวประเทศไทยครั้งที่ 2 ก็ได้เริ่มต้นขึ้นนนน....

หมู่บ้านที่เราจะไปชื่อว่า "หมู่บ้านลอบือ" อยู่ในตำบลแม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย หมู่บ้านนี้ขึ้นอยู่ในอำเภอเมืองก็จริงงงงง แต่ แต่ แต่ อย่าเพิ่งดีใจไปปป 55555 

ในป้ายประกาศระบุตัวโตๆ ว่า "หมู่บ้านนี้ไม่มีไฟฟ้า" ไม่มีไฟฟ้า แปลความได้ว่า ไม่มีไฟ ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ มีแต่แผงโซล่าเซลล์ จ้าาาาาาาาาาาาาาาาาา นี่มันเป็นอำเภอเมืองแบไหนกั๊นนนนนนน

---------------------

ซึ่งวิธีการไปหมู่บ้านนี้เราสามารถไปได้ 2 วิธีหลักๆ ก็คือ 

1. ไปกับมูลนิธิกระจกเงา วันเวลาตามประกาศ 

2. ไปเองโดยติดต่อผ่านครูชัย ซึ่งเป็นครูที่สอนหนังสือประจำอยู่ในหมู่บ้าน 

[นายสิทธิชัย ปะบือ 

323 หมู่ 13 บ้านลอบือ ตำบล แม่ยาว อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงราย 57100

โทร 0979273904 

ติดต่อได้ทั้งที่พักและการบริจาคสิ่งของต่างๆ ให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน]

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ใจ ใจ ใจ ใจ ใจ 

2. power bank เตรียมไปสัก 2 อัน

3. แผ่นแปะแก้ปวดเยอะๆ

4. กินง่าย อยู่ง่าย

5. เงินสดแบงค์ย่อย 

ข้อควรรู้

1. หมู่บ้านนี้นับถือศาสนาพุทธ บวกกับผีบรรพบุรุษ และมีผู้นำทางจิตวิญญาณที่เรียกว่า "โตโบ"

2. ประชากรในหมู่บ้านเป็นชาวไทยภูเขา กลุ่มชาติพันธุ์ "ลาหู่"

3. อาชีพก็คือ การทำไร่ และมีรายได้มาจากการขาย ข้าวโพด ข้าวกล่ำ และข้าวดอย

4. ผู้ใหญ่ที่อายุมากๆ กับเด็กเล็กๆ จะพูดภาษาไทยไม่ได้

5. เป็นหมู่บ้านที่ google street view เข้าไปไม่ถึง และไม่มีรถโดยสารผ่าน 

6. ถนนที่เข้าไปในหมู่บ้านยังเป็นดินแดง ไม่ควรไปช่วงฤดูฝน

7. เป็นหมู่บ้านที่มีเสาไฟฟ้า แต่เปิดใช้ไฟไม่ได้ มาบ้างดับบ้างเป็นปกติ บ้านไหนมีไฟใช้ตลอดเวลาคือบ้านนั้นรวยมากกกก

8. เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างจะลำบากมากๆ ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็เหมือนกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย ถ้าจะไปในเมืองจะต้องจ้างบ้านที่มีรถ ราคามอเตอร์ไซด์ ไป-กลับ 500฿ ส่วนรถยนต์จะ 1,000฿ ในขณะที่ไปรับจ้างไปเงินมาแค่วันละ 100฿ TT^TT

9. ไก่ที่นี่จะขันพร้อมกันทั้งหมู่บ้านตอนตีสี่!!!!! ใครอยากเปิดประสบการณ์คอนเสิร์ตไก่เชิญได้จ้าาา 5555555

ข้อมูลคร่าวๆ ก็น่าจะประมาณนี้ ถ้าเตรียมใจพร้อมแล้วก็ไปกันได้เล๊ยยยยย 

---------------------

ซึ่งตามกำหนดการณ์จะต้องไปเจอกันที่ บขส.เชียงรายแห่งใหม่ แต่ด้วยความที่เรามานอนเชียงรายก่อนคืนนึง พี่ต้นซุงที่เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิเลยบอกให้เราไปเจอกันที่บ้านพอดีดิน (เป็นหนึ่งในกิจการของมูลนิธิ) ก่อน 08.00

พอไปถึง ด้วยความที่เราไปคนเดียวไม่รู้จักใครเลยก็แอบกลัวนิดนึงว่าเราจะยังไงดี ที่ไหนได้ยังไม่ทันจ่ายเงินวินมอเตอร์ไซด์เสร็จเลย ก็มีเสียงนึงที่ออกมาจากในบ้านพอดีดินทักมาดังม๊ากกกกว่า "ใช่คุณจิตติรึเปล่าคะ" แอบตกใจอยู่เหมือนกัน 555555 

แล้วพอเดินเข้าไปทุกคนที่นั่งอยู่ก่อนต่างก็มาคนเดียวเหมือนกัน ก็เลยได้คุยกับคนแปลกหน้ากลุ่มแรกที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้อย่างสนิทใจ คือเหมือนทุกคนมาเพื่อเปิดต่อกันและกัน มันเลยไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดไว้ตั้งแต่แรก >///<

คุยกันไปได้สักพักเวลา 08.00 เป๊ะๆ ก็มีรถสองแถวสีฟ้ามาจอดรอ ตรงเวลาม๊ากกกก

แล้วก็ทยอยเอากระเป๋าสัมภาระต่างๆ ของทุกคนขึ้นรถ

จุดแรกที่เราจะไปก็คือ มูลนิธิกระจกเงาศูนย์เชียงราย ที่อยู่ห่างออกไปนอกเมืองประมาณ 17 กิโล


ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที มาถึงปุ๊ป สัญณาณโทรศัพท์ของเราก็ได้หายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่ใช้ได้อยู่

ช่วยๆ กันลำเลียงสัมภาระลงจากรถ

เอามาวางรวมๆ กันไว้

จากนั้นก็ไปลงทะเบียนกับครูเบญ ณ จุดลงทะเบียน ซึ่งตรงจุดนี้เราจะได้ป้ายห้อยคอ 1 อัน และของที่ระลึกอีก 1 อัน เป็นนกหวีดฝีมือของคนชนเผ่าต่างๆ ที่มาทำงานให้กับมูลนิธิ

ตรงป้ายชื่อทุกๆ คนจะต้องเขียนคำว่า "ครู" นำหน้าชื่อของตัวเอง

หลังลงทะเบียนเสร็จ ก็มารวมตัวปฐมนิเทศน์ แนะนำตัวเอง แนะนำมูลนิธินู้นนี่ 

รวมไปถึงกิจกรรมละลายพฤติกรรมของครูอาสาด้วยกันเอง

มีการบรรยายถึงสิ่งที่ควรรู้ต่างๆ ข้อควรระวัง เรื่อง sensitive และวัฒนธรรมชนเผ่า เพื่อให้เราเข้าใจชุมชนที่เราจะไปมากยิ่งขึ้น 

มีการเล่นบัดดี้ บัดเดอร์ด๊วยย *0*

จากนั้นก็จะมีการแนะนำเส้นทางที่พวกเราจะต้องเดินเข้าหมู่บ้าน แบ่งทีม แบ่งหัวหน้ากลุ่ม ยิ่งดูเส้นทางแล้วแบบ ฉันจะรอดไหมมมม 5555555

และนี่คืออาหารกลางวันที่ทางมูลนิธิเตรียมไว้ให้ เราควรกินเข้าไปให้หมดอะนะ หรือถ้าไม่หมดจริงๆ ก็ต้องห่อเก็บไว้เป็นเสบียง เพราะอย่าลืมว่าเราต้องเดินเท้าเข้าหมู่บ้าน เดี๋ยวไม่มีแรง

จากที่คุยๆ กันไว้ก็คือ รถสองแถวจะมาส่งเราถึงแค่ที่หมู่บ้านสุดท้าย

และตรงนี้แหละคือจุด START ของครูอาสาาาา

ส่วนทางเข้าจะวายป่วงแค่ไหน โปรดติดตามตอน [ไปเที่ยวเชียงราย | หมู่บ้านลอบือ 101 (ตอนที่ 2)] และสามารถติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ [https://th.readme.me/id/JKtrytotry] หรือพูดคุยกันได้ในเพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน

Try to try ก็แค่ออกไปลอง

 วันพฤหัสที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 14.05 น.

ความคิดเห็น