สวัสดีครับทุกคน วันนี้เราก็จะพาทุกคนออกไปเดินเล่นเลียบถนนเก่ากลางกรุง ไปกิน ไปเที่ยวแบบง่ายๆกลางที่เกาะรัตนโกสินทร์นี้เองครับ โดยที่เรามีแผนจะเดินเล่น ไปหาอาหารไทย รวมถึงขนมหวาน รับประทานบริเวณถนนดินสอกันครับ

ถนนดินสอหน้าร้านครัวอัปษร

เป็นเช้าวันอังคารที่สดใส อากาศกำลังดีเราเดินทางมาถึงร้านอาหารช่วงค่อนบ่าย หลังเวลาเที่ยงมาแล้วครับ เลยทำให้บรรยากาศคนเริ่มไม่พรุ่กพร่านเท่าไรนัก ร้านอาหารมีชื่อว่า ร้านครัวอัปษรครับ เป็นร้านอาหารไทยแท้ที่เปิดมา 20 กว่าปีแล้ว

ข้างหน้าร้านครัวอัปษร

เมนูอาหารของครัวอัปษรเน้นอาหารไทยต้นตำรับ

เมนูของร้านครัวอัปษร
เมนูแนะนำของร้านครัวอัปษร

โดยวันนี้เราเลือกลองรับประทาน แกงเหลืองไหลบัวกุ้ง รสชาติจัดจ้าน โดยมีสัมผัสของไหลบัวที่กรอบรวมถึงกรวงข้างในทำให้เก็บกักน้ำแกงไว้เต็มคำ โดยเสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งตัวใหญ่จำนวน 2 ตัว 

แกงเหลืองไหลบัวกุ้ง ราคา 145 บาท

หลังจากเลือกเมนูเผ็ดร้อนมาแล้วนั้น เลยได้สั่ง ไข่ฟูปู มากินคู่กันกับแกงครับ เป็นไข่เจียวที่หนานุ่ม และข้างในเต็มไปด้วยชิ้นเนื้อปูเต็มปากเต็มคำ ปรุงรสมาได้พอดี ทานคู่กับแกงเหลืองไหลบัวกุ้งแล้วนั้น ลงตัวจริงๆครับ 

ไข่ฟูปู ราคา 100 บาท

เมนูถัดไปที่เราลองสั่งมาทานเป็น เมี่ยงคะน้า อาหารไทยที่เริ่มหาทานได้ยากแล้วครับ ส่วนผสมจะมี หอมแดง มะนาว ขิงอ่อน กุ้งแห้ง พริกขี้หนู ถั่วลิสงและกากหมูเจียว เสริฟพร้อมใบคะน้าที่เขียวสดและน้ำราดหวานนำ เปรี้ยว เค็ม ลงตัว ทานเพลินมากๆเลยครับ 

เมี่ยงคะน้า ราคา 120 บาท

ปิดท้ายด้วย ส้มตำไทย รสชาติกลมกล่อมทานง่าย ทานคู่กับปีกไก่ทอดของทางร้าน ที่ปรุงมารสชาติดีมาก และทอดออกมากำลังดี อร่อยโดยไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มเลยแหละครับ 

ส้มตำไทย ราคา 60 บาท

การเดินทางมาร้านครัวอัปษรนั้น ปัจจุบันสะดวกมากๆเลยครับ มีรถไฟฟ้า MRT ถึงบริเวณนี้แล้ว โดยสถานีจะเป็น สถานีรถไฟฟ้าสามยอดครับ และเดินต่อมาเพียงแค่ประมาณ 1 ก.ม. เท่านั้นครับ ร้านครัวอัปษรนั้นจะเป็นลักษณะตึกแถวออกแบบตกแต่งเรียบง่ายและหาไม่ยากเลยครับ หากท่านใด สนใจรับประทานอาหารไทยแท้ รสชาติดี ราคาสมเหตุสมผลแล้วละก็ ครัวอัปษรถือว่าเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจเลยนะครับ

แกงเหลืองไหลบัวกุ้ง เมี่ยงคะน้า ไข่ฟูปู ส้มตำไทย
บรรยากาศเรียบง่ายภานในร้าน

โดยทางร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ ในเวลา 10.30 น. - 20.00 น. และปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์ครับ

หลังจากรับประทานอาหารกันแล้วนั้น เราเลยมาเดินย่อยอาหารบริเวณ เกาะรัตนโกสินทร์รอบๆครับ ได้ผ่านไปทาง ศาลากลางจังหวัด เจอเสาชิงช้าสีแดงสดอยู่ที่เกาะกลางถนน

เสาชิงช้า

เดินเล่นต่อไปอีกหน่อยก็ได้ถึงบริเวณศาลเจ้าพ่อเสือแล้วครับ ได้ทำการแวะเข้าไปไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลสักเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากมากนักนะครับเพราะว่าทางศาลนั้น ห้ามถ่ายรูปครับ และได้ลองเสี่ยงเซียมซี ถามปัญหาชีวิตไว้ด้วย ได้เซียมซีออกมาเป็นเบอร์ 28 ค่อนช้างดีพอใช้ ได้ความว่าถ้าอยากได้อะไรต้องทำเอง ชีวิตเรามันก็ต้องเป็นอย่างนั้นใช่ไหมครับ ต้องลงมือทำ ถึงจะได้สิ่งที่หวังมา

เซี่ยมซีที่ศาลเจ้าพ่อเสือ

เดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อหาของหวานรับประทานกันครับ มีร้านของหวานที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคย เช็งซิมอี้ครับ เติมน้ำตาล เพิ่มพลังกันหน่อย ราคาถ้วยละ 30 บาทเท่านั้นครับ

ร้านขนมหวานเช็งซิมอี้
โบ๊กเกี่ย ราคา 30 บาท

ปิดท้ายก่อนกลับบ้านวันนี้ด้วยของหวานครับ เป็นร้านมนต์นมสด ที่เสาชิงช้า คนเยอะเหมือนเคย ไม่ว่าเราจะมาเวลาไหนเลยครับ ทางหน้าร้านมีตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน เพราะว่าคนค่อนข้างหนาแน่น แต่เราไม่ได้นั่งรับประทานในร้านนะครับ เพราะมีที่นั่งไม่เพียงพอ เป็นการซื้อนมและขนมปังสำหรับกลับบ้านครับ บริการรวดเร็วเหมือนเคย ไม่ได้ใช้เวลานานอย่างที่คิดตอนแรกนะครับ ในส่วนของรถชาตินั้นก็อร่อยเหมือนเคย เมนูประจำของผมจะเป็น นมชมพู และเค้กคัสตาร์ดครับ แต่ไม่ลืมที่จะซื้อนมจืดหวานน้อยขวดใหญ่กลับบ้านอย่างที่ต้องทำเป็นประจำถ้าผ่านมาทางเสาชิงช้าครับ

บรรยากาศร้านมนต์นมสด
รายการนมขวดสำหรับซื้อกลับบ้าน

จบวันแล้วนะครับสำหรับทริปสั้นๆ 1 วันรอบเกาะรัตนโกสินทร์ สำหรับผม บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์นั้นไปทีไรก็ไม่เบื่อเลยครับ เพราะเป็นบริเวณที่มี ความหลากหลายให้เลือกมาก ไม่ว่าจะเป็น วัดวาอาราม ร้านอาหาร ร้านขนมของหวาน คาเฟ่ หรือไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ มากมายให้ได้ไปเยี่ยมชมกันครับ การเดินทางก็ทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากรถประจำทางหลายสายแล้วนั้นยังมี รถไฟฟ้าMRT รวมถึงเรือโดยสารคลองแสนแสบ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกันครับ

นิทรรศรัตนโกสินทร์
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

วันนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าว่าจะพาไปชิมร้านอร่อยร้านไหนในย่านไหนดีอีก สำหรับทริปนี้สวัสดีครับ Have a wonderfulday นะครับทุกคน

Golf Peera

 วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 21.54 น.

ความคิดเห็น