เฮ้ย !!  ทริปนี้สงสัยไปไม่ได้อ่ะ เพราะเชียงราย-เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลักลอบเข้าเมืองมา สงสัยบริษัทฯ จะไม่ให้ไป T_T

เซ็งสิ ทริปนี้เรากะเพื่อน ๆ 6 คนได้เตรียมตัวจองตั๋วจองที่พัก เรียบร้อยแล้ว แต่ดันมีข่าวคนติดโควิด จังหวัดที่เราจะไปพอดี แถมสำนักข่าว ก็รายงานข่าวทุกวัน จนคิดว่าไม่ได้ไปแน่นอน แต่ก็แอบลุ้น ๆ อยู่นะ ถ้าภายใน 14 วันไม่มีคนติดเพิ่ม อาจมีลุ้น 

และโชคก็เข้าข้างเรา ก่อนไป จ.เชียงรายประกาศ ปราศจากผู้ป่วย 100%  แถมเจ้าหน้าที่ก็ตรวจเข้มเรื่องคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองอย่างกวดขัน เลยสบายใจเรียกความมั่นใจกลับมา และได้สอบถามกับ HR แล้วไม่มีห้ามไป จ.เชียงราย  ทริปนี้จึงบังเกิด 555  แต่ก็มีผู้กล้าเหลือแค่ 4  ลุยเลย ทริปสุดท้ายของปี 2020

เที่ยวครั้งนี้ สนองนโยบายของรัฐเสียหน่อย จองที่พักที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ประหยัดไป 40% แถมได้คูปองส่วนลดอาหารอีก 600 บาทต่อวัน เคลมค่าตั๋วเครื่องบิน (รอผล) โอ้ว.. ประหยัดไปได้เยอะจริง  ขอบคุณนโยบายดี ๆ (แต่ก็มีคนโกงชาติเยอะเลย ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวยาว)

เชียงรายไปบ่อยแล้ว แต่ไปยังไง ไม่ให้มีคน ก็นี่ไง ไปช่วงที่คนเค้าไม่ไปกัน 55 เราก็ป้องกันตัวเองดี ๆ คาดแมส ล้างมือตลอด ๆ ก็จะช่วยป้องกันได้เอง 

ทริปหนีโควิด เลยแพลนเที่ยวแค่ในเมือง และใกล้ ๆ 3 วัน 2 คืน เราจะไปไหนบ้าง มาดูกันเลยจ้า 

ถึงสนามบิน รถตู้มารอรับ ไปที่พักฝากกระเป๋าแล้วเช็คอินเอาคูปองอาหาร เพื่อใช้ตอน 17.00 น. ไปกันเลย

ที่พักของเราเป็นโฮสเทล เราเหมาห้อง 8 เตียงไว้ 1 ห้อง เพื่อจะได้ไม่ต้องนอนรวมกับใคร 

ที่พักสะอาดมาก เพราะเพิ่งเปิดหลังจากปิดโควิดได้ 3 เดือน ปกติเดือนนี้นักท่องเที่ยวจะเต็มหมด แต่วันที่ไป มีแค่เรา 4 คน กะอีก 2 คนเอง น่าสงสาร 

ห้องน้ำเยอะมาก แถมสะอาดด้วยสิ มีสบู่ ยาสระผม ไดร์เป่าผม สำลีก้าน ทิชชู่ไว้บริการ  ส่วนผ้าขนหนู ต้องนำมาเอง หรือไม่ก็เช่าผืนละ 30 บาทค่ะ

มีสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส

เล่นมั่ว ๆ  ไป 1 เกมส์ หัวเราะแทบตาย 55 

พอแระ ที่นี่ไม่มีอาหารเช้าให้ มีแต่ ชา กาแฟ โอวัลติน ผลไม้ ขนมปัง ให้ทานฟรี จ้า 

พนักงานบริการดี ให้ 9.5/10  ตัดไป .5 เนื่องจากเดินเข้าซอยลึกไปนิด 55

หลังจากเช็คอิน ก็ไปทานอาหารเหนือกันสักหน่อย เดี๋ยวมาไม่ถึง ใกล้ ๆ ที่พักเรา

วันนี้เราจะเที่ยวแถว ๆ ในตัวเมืองนะ ที่แรกก็วัดห้วยปลากั้ง

เป็นวัดสวยงามวันหนึ่ง ของ จ.เชียงราย ถ้ามาช่วงเย็น ๆ - ค่ำ วัดจะเปิดไฟสวยงามไปอีกแบบ (แต่ถ้ามาเย็นไปรถรางจะหมดนะ)

จากนั้นก็ไปต่อ วัดร่องเสือเต้น ไม่ไกลกัน

ทริปนี้เน้นวัดสิ้นปีแล้วสะสมบุญกันหน่อย แล้วไปกันต่อที่  ไร่เชิญตะวัน ก่อตั้งโดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ท่านว.วชิรเมธี)

ยังคง ร่มรื่น และสวยงามเหมือนเดิม

มาครั้งนี้ เปลี่ยนจากอุโมงค์โคม เป็นอุโมงค์ดอกไม้สีม่วง สวยงามมาก ๆ 

มีร้านกาแฟ ให้นั่งดื่ม 

กลิ่นไอ เมืองเหนือ ชื่นใจ 

หามุมถ่ายรูป สักนิด

อุ๊ยตาย บ่ายกว่าแล้ว ไปทานอาหารที่ร้านปากหม้อรสเจ็บ แถววัดร่องขุ่น ว่าจะเจ็บสมคำร่ำรือไหม ? 

สรุปว่าเจ็บจริง ๆ เพราะไปถึง   .....      ร้านปิด T_T

เลยต้องทานร้านอาหารหน้าวัดแทนก็ได้ ถูกและสะอาดดีเหมือนกัน ทานเสร็จก็ข้ามฝั่งเข้าวัดได้เลย 

มากี่ครั้งก็ยังคงสวยงาม ราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์

แถมครั้งนี้ ไม่ติดคนด้วย สวยงาม สุด ๆ 

ที่วัดร่องขุ่น นั่งนานไปหน่อย  ตามแพลนเราจะไปไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค ช่วงเย็น ๆ เพื่อนั่งรถรางเที่ยว ไปถึงได้รอบ 16.00 น. (สุดท้าย) เกือบไม่ทัน  ค่ารถรางคนละ 150 บาท 

จุดแรก มาให้อาหารปลา มาดูห่าน (เสียเงิน)

เทอาหารใส่ในรูนี้ ปลาก็จะว่ายมากิน

และรถจะขับผ่านไร่ชา และจอดทุ่งดอกไม้ ถูกใจสาว ๆ แน่นอน (ฟรี ให้เวลา 20 นาที)

แปลงนี้สีไม่ค่อยม่วงเท่าไหร่

เลยมาอีกแปลง

สวยดี แต่ให้เวลาน้อยไปหน่อยนะ  มีนักท่องเที่ยว 2 คนอยากถ่ายภาพต่อ แต่รถจะออกคนขับแจ้ง เดินไกลนะ 7 หรือ 9  กิโลเนี่ยแหละ แต่เค้าก็ยอม ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้ากลับยังไงนะ 

จากสวนดอกไม้ ก็มาที่ฟาร์มยีราฟ ม้าลาย ม้าแคระ ให้อาหาร (เสียเงิน)

ที่สุดท้ายก็บ้านแดง

ให้เวลาตรงนี้นานหน่อย ถามว่าคุ้มไหม 150 บาท เราว่าแพงนะ เหมือนขับรถลงไปรีบ ๆ ถ่ายรูป แล้วกลับขึ้นรถ แต่ทำไงได้เนอะมาแล้วนิ 55

และรถรางก็ขับมาส่งที่เดิม แวะถ่ายรูปกับสิงห์เสียหน่อย ก่อนกลับ

ให้รถตู้ที่เช่ามา ไปส่งที่พักแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยมารับไปเที่ยวอีกวัน 

และค่ำ ๆ ออกมาทานอะไรที่ถนนคนเดิน มาถึงหอนาฬิกาเวลา 19.00 น. เลยได้ทันดูไฟเปลี่ยนสี และฟังเพลงสุดท้ายพอดี

ถ้าใครพลาดรอบนี้ ก็ไม่ต้องกลัวนะ เพราะไฟและเพลงจะเปิดทุกวัน  ในเวลา 19.00, 20.00, 21.00 น. ของทุกวันจ้า (มีกี่สีไม่รู้นะถ่ายมาได้เท่านี้)

คูปองอาหาร เริ่มใช้ได้แล้ว ลดตั้ง 40% มองหาร้านอาหารไม่ค่อยมี เจอแต่ร้านผัดไทยหอนาฬิกา จึงฝากท้องกับที่นี่ มัน 3 มื้อเลย อร่อย และประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะ

อาหารอย่างอื่นก็มีนะ เพื่อนสั่งทาน แต่เรากินผัดไทย 3 มื้อเลย อร่อยจริง ไม่ต้องปรุง 

ท้องอิ่ม เดินเที่ยวถนนคนเดินเชียงราย หรือกาดเจียงฮายรำลึก (จะมีทุกวันเสาร์) 

ของชอบ เจอที่ไรต้องไม่พลาด

และไปออกสเต็ป กันนิดหน่อย เรียกเหงื่อ 55

เหมือนเค้าจะแบ่งเป็นชมรมนะ แล้วแต่ใครสนใจจะเข้าชมรมไหน  ส่วนนักเต้นขาจร ก็มาแจมได้เลยค่ะ ไม่ว่ากัน จะมีพี่ ๆ ป้า ๆ น้า ๆ  คอยสอนท่าให้

จากนั้นก็กลับที่พักนอนพักผ่อน พรุ่งนี้นัดรถตู้มารับ 7 โมงเช้า ZZzzz

วันนี้อากาศจะเย็นลงกว่าเมื่อวานหน่อย อยากหนาว เช้านี้ที่แรกที่เราจะไปคือดอยตุง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงถึง นั่งมองวิวเพลิน ๆ ไป

ช่วงที่ไปโชคดีมีเทศกาลจัดงาน สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 7 พอดี รถต้องจอดด้านล่าง และต่อรถรับ-ส่ง ฟรี

4 คนออกไม่ต้องรอใคร รอบนี้พี่เหมา 55 

คัดกรอง วัดอุณหภูมิกันก่อนเข้า

เรามาเร็วไปใช่ไหม 

คนเลยยังไม่ค่อยมี 

แวะซื้อบัตรเข้าสถานที่ก่อน พระตำหนักดอยตุง กับหอแรงบันดาลใจเคยเข้าแล้ว เลยซื้อแค่ค่าเข้าสวนแม่ฟ้าหลวง 90 บาทพอ 

ทางเข้าสวน

อากาศเย็นสบาย 

นอกจากเราต้องการจะเดินชมสวนแล้ว วัตถุประสงค์ เรายังต้องการมาที่นี่ด้วย

TREE TOP WALK & ZIPLINE  (เรามาแก้ตัวเพราะครั้งที่แล้วมาไม่มีเล่น zipline)

ค่าตั๋วเท่าเดิม 150 บาท เพิ่มเติมคือคือมี zipline

เจ้า HOOK ตัวนี้จะตามเราไปทุกแห่ง

แรก ๆ ไม้สะพานจะแผ่นใหญ่ เดินสบาย ๆ

มีปีนป่ายบ้าง พอให้หวาดเสียว (จะตกบันได 55)

เดิน ๆ ไปไม้กระดานจะเล็กลง เพราะระยะทางไกลขึ้น มีแกว่ง นิด ๆ เวลาเดิน

มาหน้าฝน ก็จะเห็นหมอกสวยงาม หน้านี้ก็จะอากาศดี เย็นสบาย 

ถึงทางแยกว่าจะเลือกเดินสบายออก หรือจะเล่น zipline มาแล้ว ก็ต้องเล่นสิ 

ช่วงแรกเสียวนิด ๆ  (เพราะครั้งแรก) แต่ช่วง 2 สบาย ๆ  ไม่ได้น่ากลัวกว่าที่คิด (อาจเพราะไม่ไกลด้วย)

รอบหลัง ๆ ติดใจ อยากเล่นอีก 150 บาท ได้เดินสะพาน ได้เล่น zipline ถือว่าคุ้มราคา

พอจบจาก tree top walk ก็เดินถ่ายรูปกันต่อ 

นักท่องเที่ยวไม่มีเลย

จำได้ว่ามา ที่ตรงนี้หลายรอบ ทุกรอบคนจะเยอะมาก ๆ ถ่ายตรงไหนก็ติดคน แต่ดูวันนี้สิ

และเดินหาของกินก่อนกลับ

มาไม่ทันเด็ก ๆ ทำการแสดงไปแล้ว

บ๊ายบาย ดอยตุง เจอกันใหม่ถ้ามีโอกาส 

จากนั้นก็ขากลับ แวะไร่ชาฉุยฟง ใช้คูปองส่วนลดค่าอาหารกันเสียหน่อย รัฐเค้าช่วยออกให้

อย่าสั่งเยอะ เดี๋ยวมันจะเหลือนะ

และไปดอยแม่สลองต่อ แต่ ๆ หิวแล้ว เลยต้องแวะเติมพลังกันที่ ไร่ชา 101 ก่อน

เมื่อเดือนสิงหาคม มานอนที่นี่แล้วได้ทานหมูกะทะ ติดใจเลยต้องมาซ้ำ

รอบนี้จัดหนัก ทั้งหมูกะทะ ทั้งกับ ทั้งข้าวราดคนละจาน เหลือสิ 55 

ใครที่ไม่ได้พักสามารถแวะมาทานข้าว ชิมชา แวะถ่ายรูปได้นะ

ท้องอิ่มก็ไปต่อขับขึ้นบนจุดสูงสุดของดอยแม่สลองกันคือ พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทร์สถิตมหาสันติคีรี

ช่วงที่ไปแดดไม่มี มีแต่หมอกขาว ปกคลุม หนาว และสวยดีค่ะ

มุงไรกัน

อ่อ ดอกซากุระ ดอกแรกของต้นนี้

ก่อนกลับเจอหนุ่ม ๆ แอบถ่ายมานิด แก้หนาว 55

แวะซื้อของฝากสักนิด  ร้านค้าเงียบมาก

ถ้าปกติช่วงนี้คนเดินกันขวักไขว่แล้ว

จะบอกว่า ความจริงของฝากพวกนี้ สั่งทางออนไลน์ถูกกว่าด้วย 55 แต่มาแล้ว เราต้องช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกันเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ชาวบ้านอยู่ได้ ประเทศไทยเจริญ

ลงจากดอยก็เข้าที่พัก ปิดทริปการเที่ยวเชียงราย ด้วยการเช่ารถตู้ ส่วนพรุ่งนี้เรากลับไฟล์ทเที่ยงเลยไม่ได้เช่าต่อ 

วันนี้วันอาทิตย์เราจะไปเดินถนนคนเดินวันอาทิตย์ หรือถนนคนม่วนอยู่เส้นสันโค้ง กันอีกคืนก่อนกลับ 

แต่...วันนี้ถนนปิด ไม่ได้จัด เลยต้องหาอะไรกิน ที่ไนท์บาซ่าร์แทน อยู่แถวสถานีขนส่ง(เก่า)

ป้าอ้วน บัวลอยมือถือ ตำนานแห่งเชียงรายไนท์บาซ่าร์ ปกติจะต้องต่อแถวกันซื้อ ช้าอด 

จากนั้นก็หาอะไรทาน ทานไปฟังเพลงไป เพลินดี  แต่อากาศคืนนี้หนาวมาก นั่งได้ไม่นานก็กลับที่พัก

พรุ่งนี้ไม่มีไปไหน นอนดึกได้ ยาวไป 

สวัสดียามเช้า วันสุดท้ายที่เชียงราย 

เช็คเอาท์จากที่พัก เดินหาร้านอาหารทาน อ่านในรีวิวดีมาก ไม่ไกลจากที่พัก

หาไม่เจอ จึงโทร.ไปถาม สรุปร้านปิดกิจการ เพราะไร้นักท่องเที่ยว T_T

จึงต้องไปตายรังที่ ร้านผัดไทยหน้าหอนาฬิกา ตามเดิม และเดินไป บขส (เก่า)

รอรถ CR BUS เพื่อไปสนามบิน (จริง ๆ ก็มีสองแถวมาชวนไป คนละ 20 บาทเท่ากันแต่เวลาเหลือเลยอยากนั่งรถเล่น จึงปฏิเสธไป)

ตารางเดินรถ สามารถเข้าไปเช็คเวลาของแต่ละเดือนก่อนเดินทางนะ  https://www.facebook.com/CRCIT...

ค่าใช้จ่ายเดินทาง

 ถึงสนามบิน กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ แต่หลังจากกลับมาก็คอยสังเกตุอาการตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติไหม เพราะช่วงที่ไป 19-21/12/63 เป็นช่วงที่ตรวจพบชาวต่างด้าวที่ จ.สมุทรสาครติดโควิดกันพันกว่าคน แม่เจ้า หรือเฟส 2 จะกำลังเริ่มขึ้นแล้ว 

ส่วนตัวเราหลังกลับมาดันป่วย จึงไป รพ.ตรวจคัดกรองแล้วว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เลยได้ตรวจ covid-19 และถูกกักตัว 1 คืน โอ้ ! เป็นการนอนที่ รพ.ครั้งแรกในชีวิต แถมนอนคนเดียวในห้อง มันช่างหลอนเสียเหลือเกิน และผลตรวจออกมาเป็นลบ  ตรูไม่ติดเว้ย ดีใจ 

แล้วเจอกันใหม่ ไม่รู้ว่าเดือนไหน  ณ วันนี้ 1/1/64 ยังไม่มีทีท่าว่าจะสยบเจ้าไว้ร้ายตัวนี้ได้ ในไทยยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  รอประกาศจากรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือการ์ดอย่าตก คาดแมส ล้างมือให้เป็นนิสัย COVID-19 ก็แค่หวัดกระจอก ๆ นะแหละ มีบุคคลท่านหนึ่งเค้าว่าไว้ หุ หุ  ... บาย แล้วเจอกัน 

แตงโมเนื้อทราย

 วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.22 น.

ความคิดเห็น