“เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สับปะรด สวยสด หาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ”

นี่คือคำขวัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทางผ่านสำหรับผู้เดินทางลงสู่ภาคใต้ ที่มีระยะทางยาวเป็นร้อยกิโล คนขับรถคงจะเบื่อ แต่สำหรับนักท่องเที่ยว จังหวัดนี้มีที่เที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงทะเลที่ทอดยาวตั้งแต่ อ.หัวหิน ยาวจนถึง อ.บางสะพาน และคราวนี้เราจะพาไปพัก บางสะพานกัน


     เมืองทองเนื้อเก้า ตามคำขวัญขึ้นต้นของเมืองประจวบ ก็จะอยู่ที่ อ.บางสะพานนี่แหละ เพราะเมื่อก่อนจะมีการร่อนทอง ซึ่งที่นี่มีแร่ทองคำบริสุทธิ์อยู่มาก สามารถขุดหาร่อนทองกลายเป็นอาชีพกันได้ แต่ปัจจุบันก็น้อยลงไปตามธรรมชาติ แต่ยังพอลงเหลือให้ได้สัมผัสกับการร่อนทองตามวิถีชาวบ้านได้ที่ ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน หากใครมาพักก็ลองติดต่อที่พักดูได้นะครับ 

เอาล่ะ ที่จริงวันนี้เราไม่ได้มาร่อนทองอะไรหรอก เราแค่อยากมาฟังเสียงคลื่น สูดไอทะเล และก็จิบ Lกฮ.เบาๆ ดูสิมันจะแตกต่าง กับชะอำ หัวหิน บ้างไหม แต่กว่าจะมาถึง อ.บางสะพาน ก็ค่ำไปหน่อย คืนนี้เราพักกันที่ ภูทะเล รีสอร์ท

ภูทะเล รีสอร์ท จะอยู่เลยตัวอำเภอบางสะพานมาอีกสักระยะ วิ่งตามทางหลวงชนบทที่ 3374 มาประมาณ 12 กิโล (เส้นนี้ก็ไปทะลุบางสะพานน้อย) เลี้ยวซ้ายลงทะเลก็จะพบกับ รีสอร์ทแห่งนี้ อยู่ทางเข้าเดียวกับอุ่นไอทะเลรีสอร์ท ติดต่อรับกุญแจห้องแล้วก็ไปดูห้องกัน

ห้องจะมีสองแบบ คือ แบบ 2 ท่าน 1000 บาท และ สำหรับ 4 ท่าน 1500 บาท ตู้เย็น น้ำดื่ม ทีวี ผ้าเช็ดตัว มี 

เราไปสามคน รวมอาหารเช้า เขาก็ให้ห้องสี่คน คิดราคาแค่ 1200  บาท 

แต่เรามานั่งริมทะเลดีกว่า....

  เงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นที่ยังคงทำงานประสานกับลม และเจ้าสี่ตาที่เห่าเป็นบางจังหวะ เวลามันสงสัยอะไรในที่มืด!!  เรานั่งกันไปสักพักก็รับรู้ได้ว่า  หนาวชิบ!!!

   ตัดภาพมาตอนเช้าดีกว่า ใครประสงค์จะนอนรอรับแสงแรกยามเช้า ตรงนี้จะเหมาะมาก...


อันนี้รอรับแสงสาย...  มันจ้าซะเหลือเกิน....

เราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า 

มุมอาหารเช้า... จำนวนห้องไม่ได้เยอะ มีทั้งหมดแค่แปดห้อง อาหารจึงไม่ได้มีเยอะหลากหลาย แต่ไม่มีหมดแน่นอน...

  ก็จะมีขนมปัง ไมโลโอวัลติน กาแฟ ข้าวต้ม ไส้กรอก ไข่ดาว 

อิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นชายหาดสักแปป 

ช่วงนี้เป็นช่วงที่คลื่นลมแรง ทะเลอาจจะไม่สวยสมบูรณ์เท่าไหร่ ให้รู้ไว้เลยว่า ถ้าฤดูหนาวนะ ถ้าภาคเหนือเย็นเมื่อไหร่ภาคใต้จะมีมรสุม ยิ่งภาคเหนือหนาวมากเท่าไหร่ ภาคใต้ก็จะมีฝนมากขึ้นเช่นกัน 

   พอให้ได้เปียก เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง!! คนอื่นได้แต่ยืนดู ก็ลมมันเย็น... 

เราอาบน้ำเก็บของและเคลื่อนย้าย ออกจากที่นี่ ไปยังที่หมายต่อไป  

ลืมบอกใครอยากดำน้ำเกาะทะลุ ติดต่อได้ที่นี่เลยเช่นกัน คนละ 400 บาท 

มีอุปกรณ์ให้และอาหารน้ำดื่มหนึ่งมื้อ


  เราแวะที่นี่กันก่อนเลยตามคำบอกกล่าวของชาวบ้านเจ้าของพื้นที่ว่าที่วัดแห่งนี้ หลวงพ่อท้วม เป็นที่เคารพนับถือกันมานาน  "หลวงพ่อท้วม แห่งวัดเขาโบสถ์"  อีกทั้ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร( ร.๙) ทรงเคยมายกช่อฟ้าพระอุโบสถ วัดเขาโบสถ์ พระอารามหลวง ในวันจันทร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๒๐ แต่เราไม่ได้เดินขึ้นไปยังโบสถ์ด้านบนนะ

(ภาพจากเพจ พระครูศีลวิมล ท้วม วัดเขาโบสถ์ พระอารามหลวง)


ต่อจากนั้น เราก็ไปกันต่อที่ บ่อทองหลาง ห่างจากวัดเขาโบสถ์มาประมาณ 10 กิโล

  ที่นี่มีลักษณะเป็นอ่าวที่มีเขาน้อยๆ ขนาบอยู่สองฝั่ง ในช่วงหน้าร้อนที่นี่ลมสงบ น้ำใส เป็นที่ท่องเที่ยวพักผ่อนขึ้นชื่ออีกที่หนึ่ง ของ อ.บางสะพาน มีร้านอาหาร ริมชายหาด มีวัดบ่อทองหลาง ให้ได้กราบไหว้


   และระหว่างทางกลับบ้าน ด้านซ้ายฝั่งขาขึ้น กทม.ของถนนเพชรเกษม มีป้ายบอกน้ำตกห้วยยาง เราจึงแวะเข้าไปดูกัน

น้ำตกห้วยยาง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มีค่าบริการเข้าอุทยาน คนละ20บาท ยานพาหนะ รถยนต์ 30 บาท ถือว่าถูกที่สุดของค่าเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วมั้ง ปกติต้อง 40 กับ 100 บาท

  ที่นี่ เป็นทางเดินขึ้นสู่ "ยอดเขาหลวง" ประจวบด้วย  หากมีโอกาสจองได้และได้ไป จะมาเล่าให้ฟังใหม่ เพราะที่นี่ จองยาก พอกับเขาช้างเผือกและโมโกจูเลยล่ะ  แต่คราวนี้แวะเข้ามาดูพื้นที่น้ำตกก่อน มีลานกางเตนท์และบ้านพักด้วยนะ

บ้านพักก็มีหลายหลังให้ได้เลือกพักเช่นกัน

เราจะเริ่มเดินกันเข้าไปละ เจ้าหน้าที่บอก ประมาณ 400 เมตรจะถึงน้ำตกชั้นแรก 

แต่ช่วงนี้ห้ามลงเล่นน้ำตกนะ!!

มิน่าห้ามเล่นน้ำ ก็มันไม่มีน้ำ!!!  นึกว่าห้ามเล่นน้ำช่วงโควิด ที่ไหนได้ น้ำตื้นเชียว555

ปกติตรงนี้ลึกประมาณสองเมตรเลยล่ะ 

ตรงนี้คือน้ำตกชั้นที่4 เราเห็นว่าน้ำมันไม่ค่อยจะมีแล้ว และหิวข้าวแล้วด้วย เลยไม่ไปต่อดีกว่า ซึ่งปกติ นักท่องเที่ยวจะสามารถขึ้นมาเล่นได้ถึงแค่ชั้นที่ 5 นะ  ส่วนใครที่ไปแคมป์ยอดเขาหลวงกับเจ้าหน้าที่ จะเดินเลยน้ำตกชั้นที่5 นี้เข้าไปอีก

ความพยายามของธรรมชาติที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน...


และเราก็ยังคงแวะทะเลอีกหนึ่งที่ก่อนจะปิดกล้องทริปนี้

ชายทะเลประจวบ มองไปยังเขาล้อมหมวก

   ความสมดุลทางธรรมชาติ ที่เราอาจจะทำอะไรบางอย่างไปกระทบกระเทือนมัน ธรรมชาติจะปรับตัวเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว เหมือนกับจิตใจคน ที่บางครั้งมีอะไรมาสะกิดก็กระทบกระเทือนจิตใจเสมอ....แต่เดี๋ยวก็ปรับตัวได้ เกี่ยวกันมั้ยวะ..555

   มาชายทะเลประจวบครั้งนี้ ได้เห็นว่ารีสอร์ทที่พักต่างๆ ริมชายหาด ล้มหายตายจากกันไปมาก เพราะเศรษฐกิจ เพราะโควิด หรืออะไรก็แล้วแต่ ใครยังอยู่รอดก็ขอให้สู้กันต่อไป ใครล้มไปก็ขอให้ลุกขึ้นมาขยับเดินได้ในเร็ววัน..  ประเทศเราเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยว รอวันฟื้นคืนมาใหม่ แล้วฟ้าจะสดใสเหมือนเดิม...


ภูทะเลรีสอร์ท

GPS: https://g.page/hotel-7621?shar...

FB : https://www.facebook.com/%E0%B...
 ติดต่อ : 061 669 1424



++++ เผื่อมีอะไรไถ่ถาม ฝากติดตามเพจด้วยนะคุณที่รัก ++++

https://www.facebook.com/travel1night2days



Sikhorn Palanan

 วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.03 น.

ความคิดเห็น