แล้วก็ถึงเวลาที่ผมจะใช้สิทธิ์ตามประเภทบัตรที่เจ้าหน้าที่เลือกให้ผม นั่นคือการเข้าชมทั้งภายในและภายนอกของเหล่าโบสถ์ในคริสต์ศาสนา นิกายออร์โธดอกซ์จำนวนมากที่ตั้งอยู่รอบ Cathedral square อันเป็นพื้นที่ใจกลางของพระราชวังเครมลิน เมื่อกวาดตามองแบบ 180 องศาจะพบยอดโบสถ์ที่สร้างเป็นโดมหัวหอมทั้งสีทองและสีฟ้าจำนวนมาก จากโบสถ์ 6 แห่ง ทำให้ Cathedral square แห่งนี้เป็นจัตุรัสที่มีโบสถ์จำนวนมากที่สุดในรัสเซีย

โบสถ์ที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นสถานที่ที่พระเจ้าซาร์เกือบทุกพระองค์ใช้เป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษกคือ โบสถ์อัสสัมชัญ (Assumption cathedral) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โบสถ์ดอร์มิชั่น (Dormition cathedral) โบสถ์หลังนี้สร้างขึ้นพร้อมๆกับการสร้างพระราชวังเครมลินในปีค.ศ.1475 สถาปัตยกรรมการก่อสร้างออกไปทางแนวสูงแบบสมมาตรด้วยโดมสีทองจำนวน 5 อัน โดยโดมบริวาร 4 อันตั้งอยู่ในตำแหน่งมุมทั้งสี่ ในขณะที่โดมประธานตั้งอยู่ในตำแหน่งจุดศูนย์กลางโบสถ์

ซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นทางเข้าหลักจาก Cathedral square มีภาพวาดขนาดใหญ่ของ Holy Virgin of Vladimir หรือภาพพระแม่มารีแห่งวลาดิมีร์ อยู่เหนือซุ้มประตู เป็นรูปวาดพระแม่มารีทรงอุ้มพระเยซูสมัยเป็นทารก วาดจากภาพต้นฉบับซึ่งวาดขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1514 ที่สายราชนิกุลวลาดิมีร์นำมายังมอสโกเมื่อครั้งก่อตั้งมอสโกเป็นเมืองหลวง ชาวรัสเซียเชื่อกันว่าเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันภาพนี้ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เทรทยาคอฟ ซึ่งไม่มีทัวร์ลูกเป็ดไหนไปกัน มีเฉพาะนักแสวงบุญตัวจริงเท่านั้นที่เดินทางไปชมภาพจริงด้วยตัวเอง

ภาพ Holy Virgin of Vladimir ว่างามแล้ว เมื่อเข้าสู่ภายในโบสถ์ยิ่งพบภาพที่งดงามมากกว่าของบรรดาเสาขนาดใหญ่ที่รอบเสามากไปด้วยภาพวาดของนักบวชเรียงต่อขึ้นไปจนเต็มพื้นที่ และแผงกั้นสำหรับบูชา ซึ่งเป็นศิลปะที่เก่าแก่มากที่สุดชิ้นหนึ่งของรัสเซีย

แม้โบสถ์อัสสัมชัญจะเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุด แต่สำหรับโบสถ์ที่มีขนาดสูงและใหญ่ที่สุดใน Cathedral square ต้องยกให้ โบสถ์โลนเลสทวิชนิค (Church of Ioann Lestvichnik) เพราะโบสถ์แห่งนี้มีหอระฆังอีแวนที่สูงใหญ่ถึง 81 เมตร จนทำให้คนทั่วไปรู้จักสถานที่แห่งนี้ว่า หอระฆังอีแวนเดอะเกรท (Ivan the Great) นับตั้งแต่สร้างเสร็จในช่วงต้นคริสตศตวรรษที่ 15 หอระฆังแห่งนี้ก็คงตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในรัสเซีย ในสงครามนโปเลียนมีความพยายามจะระเบิดหอระฆังแห่งนี้หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้หอระฆังอีแวนครองตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในรัสเซียมาอย่างยาวนานกว่า 400 ปี จนถูกโค่นตำแหน่งจากบรรดาตึกสูงระฟ้าในยุคสตาลิน

ปัจจุบันโบสถ์โลนเลสทวิชนิคกับหอระฆังอีแวนมีสีขาวสะอาดตา ยอดบนสุดเป็นโดมสีทองขนาดใหญ่ไม่ได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว โดยได้เปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติศาสตร์ของพระราชวังเครมลินผ่านสื่อมัลติมีเดียให้คนยุคปัจจุบันได้รับรู้

เป็นเรื่องปกติที่ภายในพระราชวังย่อมมีสุสานหลวง พระราชวังเครมลินก็เช่นกัน โบสถ์อัครเทวดา (Archangel’s cathedral) หนึ่งในกลุ่มโบสถ์แห่ง Cathedral square คือสถานที่ที่ถูกสร้างเพื่อวัตถุประสงค์นั้น แม้มองจากภายนอกจะมีลักษณะสวยงามไม่ต่างจากโบสถ์หลังอื่นๆ แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ภายใน ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือความวังเวงจากเหล่าโลงศพหินของบรรดาซาร์ เจ้าชาย และเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงผู้ปกครองประเทศ ตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 14 – 18 รวมแล้วมากถึง 46 โลง แน่นอนว่าภายในนี้มีโลงศพหินของพระเจ้าอีแวน ซาร์คนแรกของรัสเซียอยู่ในนี้ด้วย แต่จะเป็นโลงไหนผมคงไม่คิดจะเดินตามหา เพราะไม่อยากข่มสติข่มใจไม่ให้ขนลุกมากไปกว่านี้

เวลานี้ผมเริ่มงงและเกือบจับทิศจับทางไม่ถูกแล้วว่าเข้าโบสถ์ไหน ออกโบสถ์ไหนบ้าง ขืนหลับหูหลับตาเดินเข้าโบสถ์อันดับต่อไป คงได้ความจำสับสน จึงขอเดินออกมาตั้งหลักพร้อมกวาดตามองเหล่าโบสถ์ที่รายล้อม Cathedral square อีกครั้ง จึงพบว่านอกจากโบสถ์ขนาดใหญ่ทั้ง 3 แห่งที่ผมเข้าไปชมภายในแล้ว ยังมีโบสถ์ขนาดเล็กอีก 3 แห่ง ที่หน้าตาละม้ายคลายคลึงกันมาก เพราะล้วนมีโดมตั้งอยู่บนนั้น จะต่างก็เพียงจำนวนและสี ที่บ้างก็เป็นสีทอง บ้างก็เป็นสีฟ้าเท่านั้น

หากยืนอยู่ตรงกลาง Cathedral square แล้วกวาดตามองแบบ 360 องศา จะได้เห็นยอดโดมเกือบครึ่งร้อยที่ส่งประกายระยิบระยับ โดยเฉพาะ Annunciation cathedral นั้นเป็นโบสถ์ขนาดเล็กพริกขี้หนู เพราะโบสถ์นี้มียอดโดมมากสุดถึง 9 โดม

ทางเดินกำหนดให้ผมเดินเลียบไปตามแนวพระบรมมหาราชวัง (Grand Kremlin palace) เป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดในพระราชวังเครมลิน โดยเป็นกลุ่มอาคารเชื่อมต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีความสูง 3 ชั้น สีเหลือง ผมใช้เวลาเดินอยู่นานกว่าจะถึงอีกด้านหนึ่งของอาคาร สุดแนวกำแพงของพระราชวังเป็นที่ตั้งของอาคาร Armoury chamber ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพระบรมมหาราชวัง แต่อาคารนี้ได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงทรัพย์สมบัติของพระเจ้าซาร์ ซึ่งผมมีสิทธิ์ชมความงามนี้ได้เพียงภายนอกเท่านั้น เพราะต้องซื้อบัตรเข้าชมซึ่งแยกขายเฉพาะ อีกทั้งไม่มีขายที่หน้างาน อยากซื้อต้องเดินกลับไปซื้อที่ทางเข้า ในเวลานั้นรู้สึกเสียดาย แต่หลังจากที่พบกับน้องเน ผมกลับรู้สึกดีที่ไม่ได้ซื้อบัตรดังกล่าว

ประตูทางออกจากพระราชวังเครมลินที่หอคอย Borovitskaya อยู่ใกล้กับ hostel ที่ผมพักชนิดที่สามารถเดินถึง ด้วยระยะทางพอๆกับที่ผมต้องเดินกลับไปจุดนัดพบกับน้องเนที่ห้างกุม แต่หลังจากที่เดินเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร และรอคอยนานเกินเวลาที่นัดไว้ น้องเนก็ยังไม่มา ในใจได้แต่คิดว่าน้องเนคงไม่เทผมแล้วหนีไปเที่ยวรัสเซียต่อคนเดียว จึงตัดสินใจเดินเข้าห้างกุมเพื่อไปยืนต่อแถวที่แสนยาวในการซื้อไอศครีมที่แสนอร่อย ระหว่างที่ยืนกินไอศครีมจึงได้พบน้องเนที่กำลังเดินจ้ำอ้าวมา พร้อมกับบอกว่าที่เธอมาช้ากว่าเวลาที่นัดไว้เนื่องจากตัดสินใจซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Armoury chamber ซึ่งเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ โดยใช้เวลารอนานมาก...ก ว่าแล้วเธอก็เดินไปต่อแถวซื้อไอศครีมเป็นการส่งท้ายก่อนที่จะบอกลากรุงมอสโก

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.25 น.

ความคิดเห็น