พักร้อนนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนชิลล์บนแพหรูริมแม่น้ำแควน้อย อิงแอบธรรมชาติ ชมวิวแม่น้ำและขุนเขาที่สวยงาม จนแทบอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆ

จะบอกว่าที่นี่จะเป็น 1 ในรีสอร์ทของ SERENATA Hotels & Resorts Group เค้ามีบูทิครีสอร์ทในเครืออยู่หลายจังหวัดเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย หัวหิน กาญจนบุรี เกาะยาว ลำปาง สุโขทัย สมุย ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นและสไตล์ที่แตกต่างออกกันไป ใครสนใจก็ไปตามต่อกันได้ที่ www.serenatahotels.com

ไปนอนแพกัน!! แต่จะให้นอนแพธรรมดาๆ ไม่ได้นะจ๊ะ รวยๆอย่างเราต้องอยู่ให้สมฐานะค่ะคุณ ที่นี่จะเป็นแพวิวล่าหรูหราไฮโซ ลอยอยู่บนแม่น้ำแควน้อย บรรยากาศคือดีงามพระรามแปด ที่เราสามารถนอนชมวิวทิวทัศน์ได้จากบนเตียงเลยนะเทอ สองฝั่งของแม่น้ำมีป่าไม้และภูเขา เงียบสงบสุดสุด เหมาะกับการมาพักผ่อน พักกาย พักใจ พักสมอง คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการนอนฟังเสียงสายน้ำไหล เสียงนก เสียงไม้ สูดหายใจได้เต็มปอด สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของอากาศที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติ อยู่ที่นี่เราได้ใช้ชีวิตแบบช้าๆ เรื่อยเปื่อยได้ตามใจ

ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากนักประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เราสามารถมาได้ 2 ทางนะ ถ้าจะนั่งเรือไปจอดรถที่ “ท่าเรือพุตะเคียน” จะมีบริการเรือรับส่งฟรีของรีสอร์ท แต่เรือจะหมดแค่ 6 โมงเย็นนะ แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งเรือเชิญทางรถเลยจ้า ปักหมุดชื่อรีสอร์ทได้เลย “The Floathouse River Kwai” ทางอาจจะไกลกว่าไปท่าเรือนะ แต่ก็สะดวกกว่ายิ่งถ้าเรามีสัมภาระเยอะๆ หรือมีเด็กมาด้วย จะได้ไม่ต้องคอยระวังตอนขึ้นลงเรือ ถนนหนทางจัดว่าดีอยู่นะ มีขรุขระบ้างแถวๆถ้ำละว้า ทางเข้ารีสอร์ทจะอยู่เลยถ้ำมานิดหน่อย จอดรถเสร็จก็เดินลงบันไดมา ตรงนี้จะเป็น Lobby แบบ open-air ที่เปิดโล่งรับลมธรรมชาติ มีท่าเรือด้านหน้าสำหรับลูกค้าที่เข้ามาพักโดยการนั่งเรือ

มีระเบียงทางเดินยาวๆด้านหลัง เพื่อเดินไปยังแพห้องพักแต่ละห้อง

ห้องพักค่อนข้างกว้างมากนะสำหรับเรา เพราะส่วนใหญ่แพปกติมันก็จะมีแค่เตียงนอนอ่ะเนอะแต่นี่แบบมีเฟอร์ครบ และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างพร้อมสรรพแล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นทีวีแอร์ ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ส่วนเตียงนอนมีการตกแต่งด้วยมุ้งดูน่ารักฟรุ้งฟริ้งมาก เค้าตกแต่งเตียงฮันนีมูนให้ด้วยนะ พับผ้าเป็นรูปหงส์หัวใจ โรยด้วยกลีบดอกไม้น่ารักมากๆ


พื้นที่ด้านข้างเป็นโซฟาเบด ถ้ามา 3 คน เค้าจะจัดเป็นที่นอนเสริมให้ตรงนี้แหละ


มีจัดมินิบาร์เล็กๆในห้อง ที่ให้ฟรีจะมีน้ำเปล่าขวดแก้ว ชากาแฟ นอกนั้นต้องเสียเงินเพิ่มนะ แต่จะมีป้ายแจ้งอยู่นะว่าราคาเท่าไรบ้าง

เปิดประตูจากหน้าห้องนอนมาก็เจอระเบียงนั่งเล่นเลย มีความเป็นส่วนตัวมากนะห้องใครห้องมัน มีชิงช้าให้นั่งชมวิวแม่น้ำและขุนเขาได้แบบเต็มตา คือแบบเห็นวิวแม่น้ำแควน้อยได้แบบ 180 องศา ซึ่งห้องพักของที่นี่จะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด เราว่าดีนะเพราะไม่ว่าจะพักห้องไหนก็จะเห็นวิวเดียวกัน ห้องดูโล่งโปร่งสบายเพราะเค้าทำเพดานห้องสูง เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ หลังคามุงจาก มีการตกแต่งให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติมาก แต่ก็ออกแบบจัดวางมาได้อย่างสวยหรูนะ เอาเป็นว่าลงตัวสุดสุด


ภายในห้องน้ำจะแยกเป็นสัดส่วนมีห้องสุขา อ่างล้างหน้า ส่วนห้องอาบน้ำเป็นแบบกึ่งๆ open-air เปิดม่านอาบน้ำแบบโล่งๆก็หวิวๆดี มียาสระผม ครีมนวมผม สบู่อาบน้ำ ผ้าขนหนู ไดร์เป่าผมให้ครบแล้วนะ ดีตรงที่เราไม่ต้องเอามาเองให้หนักกระเป๋า


กิจกรรมที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นทางน้ำแนวชิลล์ๆชมธรรมชาติ ไม่ได้แอดเวนเจอร์อะไร ที่เค้าฮิตกันตอนนี้ต้อง Sup Board เลยจ้า เราสามารถซื้อกิจกรรมได้ที่ Lobby เจ้าหน้าที่จะพาเราขึ้นเรือหางยาวขึ้นไปที่จุด Start ตรงแพริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟ (เป็นเครือรีสอร์ทเดียวกัน) แล้วก็ปล่อย Sup Board ให้เราพายมาตามน้ำ


แต่ถ้าไม่ได้ซื้อกิจกรรมอะไร ก็กระโดดน้ำหน้าแพห้องพักได้เลยน้ำใสและเย็นมาก ตัวเราก็จะลอยไปตามน้ำจนสุดแพจะมีสะพานเป็นทางขึ้นฝั่ง



มีบริการจักรยานฟรีด้วยนะ ถ้าไม่ชอบเล่นน้ำก็ไปขี่จักรยานชมวิวสองข้างทาง หรือไปเที่ยวใกล้ๆรีสอร์ทจะมีถ้ำละว้า ซึ่งมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ถ้าใครใจกล้าจะเข้าไปเองก็ได้ หรือให้เจ้าหน้าที่อุทยานนำทางก็ได้นะ มีค่าเข้าอุทยานจ่ายตรงทางเข้าได้เลย


สำหรับอาหารเย็นที่นี่มีทั้งแบบสั่งอาหารตามเมนู และแบบเป็นเซต เราเลือกแบบเซตนะเค้าจะจัดอาหารคาวมา 5 อย่าง ของหวานหรือผลไม้ 1 อย่าง แต่ไม่รวมเครื่องดื่ม ต้องซื้อเครื่องดื่มเพิ่มเอง


อาหารเช้าที่นี่จัดเป็นบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกเยอะมากนะ ไม่ว่าจะเป็นแฮม ไส้กรอก แพนเค้ก ครัวซอง ข้าวต้ม สปาเกตตี้ ข้าวผัด กินอาหารอร่อยๆพร้อมชมวิวแม่น้ำไปด้วยแค่นี้ก็ฟินล่ะ เจริญอาหารสุดๆ


อิ่มแล้วก็เก็บกระเป๋ากลับจ้า เช็คเอาท์เสร็จก็เดินขึ้นบันไดเช่นเดิม เค้าจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปให้เราที่รถ


ระหว่างทางกลับขอแวะคาเฟ่ “Mulberry Mello” ที่ตัวเมืองกาญสักหน่อย ส่วนใหญ่เมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ต้องมีมัลเบอร์รี่เป็นส่วนประกอบหลักนะ ที่นี่จะเป็นคาเฟ่ที่กว้างมากให้อารมณ์เหมือนนั่งปิคนิคในสวนริมน้ำ มีต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นและมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะด้วยนะ


จบทริปนอนแพเป็นที่เรียบร้อย เราว่าที่นี่ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากนอนแพริมน้ำ แต่กลัวว่าจะเมาแพ กลัวอยู่ลำบาก ไม่ค่อยสะดวกสบาย เพราะว่าที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนเรามานอนโรงแรมเลย แม้ว่าราคาจะแอบแรงไปนิด แต่บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่ามากนะถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ วิวทิวทัศน์ ความเงียบสงบ รวมถึงการบริการอย่างดีจากพนักงานทุกคน เรียกได้ว่าถ้ามีโอกาสมาเที่ยวที่กาญอีก ที่นี่จะเป็นตัวเลือกต้นๆสำหรับเรา

เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท (The FloatHouse River Kwai)

เว็บไซต์: https://www.thefloathouseriverkwai.com/th

Facebook: https://www.facebook.com/TheFloatHouse

เบอร์ติดต่อ: 084 725 8686GPS: 14.281035, 99.000796

Direct Booking link: https://bit.ly/38TLFQO

Up-to-Elle

 วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 11.27 น.

ความคิดเห็น