โกเล็งถามเราว่าไม่เหนื่อยกันบ้างหรือ เที่ยววัดเป็นสิบวัดภายในครึ่งวัน แถมยังปีนขึ้นปีนลงชมทะเลเจดีย์อีก ไปพักโดยการนั่งเรือชมแม่น้ำอิรวดีบ้างดีไหม ว่าแล้วก็ควบซันดากลับเข้าเขตเมืองเก่า โดยไปหยุดที่ริมแม่น้ำอิรวดี ที่บริเวณนี้มีเจดีย์สีทองนามว่า บูพยา (Bupaya) ซึ่งหากใครล่องเรือมาพุกามทางแม่น้ำอิรวดี จะเห็นบูพยา เจดีย์ทรงน้ำเต้านี้ตั้งโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ริมสายน้ำ

แม่น้ำอิรวดีช่วงที่ไหลผ่านเมืองเก่าพุกามนี้แผ่ตัวกว้าง สายน้ำสงบนิ่ง และสะท้อนเงาจากท้องฟ้าเบื้องบนจนกลมกลืนเป็นสีเดียวกัน เห็นความงดงามปรากฏต่อหน้าเช่นนี้ เราจึงคิดว่าการได้นั่งเรือชมทิวทัศน์ของแม่น้ำอิรวดีเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แค่บริเวณเมืองเก่าพุกามก็ดีเหมือนกัน เพราะไหนๆก็พลาดโอกาสนั่งเรือล่องแม่น้ำอิรวดีจากพุกามสู่มัณฑะเลย์แล้ว แต่เราก็ถึงกับชะงัก เมื่อได้ยินราคาที่คนเรือบอกเรา เพราะค่าล่องเรือแค่ 1 ชั่วโมงนี้แพงถึง 20 เหรียญสหรัฐ โดยเรือที่จะพาเราล่องนั้นเป็นเรือลำใหญ่ที่จุคนได้ถึง 20 คน แต่นี่เรามากันแค่ 2 คน ต่อเหลือแค่คนละ 2 เหรียญสหรัฐได้ไหม คนเรือปฏิเสธ เราจึงได้แต่ยืนมองแม่น้ำอิรวดีไหลผ่านเราไป แต่อย่างไรเสีย 3 วันหลังจากนี้ เราก็ได้ล่องแม่น้ำอิรวดีสมใจอยาก

โกเล็งคงคิดว่าจะได้พักสักชั่วโมงระหว่างที่เราล่องเรือ แต่เพราะความเสียดายเงิน เราจึงเดินกลับมาขึ้นรถม้า โกเล็งถามเราว่าจะให้พาไปไหนต่อ จำได้ว่าเมื่อเช้าโกเล็งบอกว่าในพุกามมีจุดชมวิวบนเจดีย์อยู่ 5 จุด เราไปมาแล้ว 3 จึงบอกให้โกเล็งพาไปจุดชมวิวอีก 1 จุด โกเล็งจึงพาออกนอกกำแพงเมืองทางทิศเหนือ เพื่อไปยังมีเนียงโกง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในพุกาม และที่สำคัญ เจดีย์นี้ไม่ปรากฏอยู่บนแผนที่ การมากับรถม้าจึงมีข้อดีกว่าการมาเที่ยวเองโดยการปั่นจักรยานตรงนี้แหละ

หลังจากที่เราเข้าไปนมัสการพระพุทธรูปปูนที่ห่มจีวรสีแดงสดภายในมีเนียงโกงแล้ว สิ่งที่เราต้องเผชิญคือบันไดถึง 78 ขั้น เพราะแม้มีเนียงโกงจะไม่ใช่เจดีย์ที่สูงที่สุด แต่เป็นเจดีย์ที่มีจุดชมวิวที่สูงที่สุด เราจึงต้องไต่ไปตามขั้นบันได ที่ทั้งแคบและชัน ซึ่งมีทั้งแบบมืดๆภายในองค์เจดีย์ และแบบที่ไต่ภายนอก โดยลัดเลาะไปตามฐานเจดีย์ขั้นต่างๆ จนถึงยอดสูงสุดที่ประชิดกับองค์เจดีย์

ด้วยความสูงขนาดนี้ จุดชมวิวบนมีเนียงโกง จึงสามารถมองเห็นทะเลเจดีย์ได้ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยเท่าที่ความสามารถของสายตาจะมองเห็น ก็มากเกินกว่าที่จะนับได้ ในเวลานี้เราจึงถูกห้อมล้อมไปด้วยเจดีย์ ทั้งที่อยู่ใกล้ ทั้งที่อยู่ไกลจนสุดแนวเขา และสุดสายตาที่จะหยั่งถึง จึงสมควรแล้วที่นักประวัติศาสตร์จะกล่าวว่า ก่อนที่จะมีอาณาจักรสุโขทัยและอยุธยา ดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้มีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เพียง 2 อาณาจักร คืออาณาจักรขอม กับอาณาจักรพุกาม

อาณาจักรขอมยิ่งใหญ่ด้วยมหาปราสาทที่กษัตริย์เกณฑ์แรงงานประชาชนมาสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ฮินดู ในขณะที่อาณาจักรพุกาม มากไปด้วยเจดีย์นับพันนับหมื่นองค์ จนเต็มพื้นที่อาณาจักร ซึ่งแม้เจดีย์เหล่านั้นจะไม่มีองค์ใดใหญ่โตพอที่จะเทียบกับมหาปราสาทนครวัดได้ แต่เจดีย์เหล่านั้นก็ล้วนสร้างมาจากแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชนทุกระดับ ตั้งแต่พระราชา ยันสามัญชน

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.31 น.

ความคิดเห็น